สาวเท้าไฟ
10.0
เขียนโดย katzee
วันที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2558 เวลา 11.57 น.
1 chapter
0 วิจารณ์
3,431 อ่าน
แก้ไขเมื่อ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2558 12.13 น. โดย เจ้าของเรื่องสั้น
1) ชีวิตของนักเรียนม.ปลาย (สายภาษา)
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ“สาวเท้าไฟ”
สวัสดีไดอารี่ที่รัก ฉันมีชื่อว่า ปุ๊กกี้ กำลังจะได้ขึ้นม.5 แล้ว เรื่องราวต่างๆเกี่ยวกับตัวฉันมันมีมากมายจนหาคำอธิบายไม่ได้ เมื่อฉันมีใจรักในเสียงเพลงและรักการเต้นเป็นชีวิตจิตใจ ถึงแม้ผู้คนในสังคมจะเมินว่ามันเป็นความสามารถที่ไร้สาระ และเพ้อฝัน แต่การเต้นนั้น ทำให้ฉันมีชีวิตที่แปลกใหม่และสนุกไปกับมันทุกครั้ง ดังนั้นฉันจะถ่ายทอดเรื่องราวของฉันให้พวกคุณได้รู้จัก “ตัวตนของฉัน”
“ยัยปุ๊ก สายแล้วนะ จะไปเรียนตอนบ่ายเหรอไง…..ยัยปุ๊ก!!!” เสียงทุบประตูห้องดังอึกทึกส่งผลให้เด็กสาวที่กำลังนอนฝันหวานถึงชายหนุ่มรูปงามในจินตนาการอย่างเข้าด้ายเข้าเข็มต้องสะดุ้งตื่นตกใจด้วยสภาพผมเผ้าที่ยุ่งเหยิงและรีบหยิบนาฬิกาข้อมือที่วางไว้บนหัวเตียงขึ้นมาดูก่อนจะปรากฏสีหน้าตกใจ นี่มันเก้าโมงกว่าแล้ว!!!
“จ้าแม่ แป๊ปๆ” เด็กสาวรีบเดินย่ำผ้าห่มกระโดดลงเตียงด้วยความเร่งรีบ พลางรีบคว้าชุดนักเรียนพร้อมผ้าขนหนูเข้าไปในห้องน้ำพร้อมกัน
เอี๊ยด บานประตูค่อยๆแง้มออกหน้าตาของเด็กสาวโผล่พ้นมาเพื่อมองดูลาดเลากันไว้เผื่อโดนระเบิดลงค่อยๆย่องเท้าออกจากห้อง และหันตัวมาปิดประตูอย่างเบาเสียงที่สุด
“นี่แก จะมามัวยืนรออะไรอยู่ รีบๆไปโรงเรียนเร็วๆหน่อย อาทิตย์นี้แกโดนกักบริเวณแน่” เสียงแหลมปรี๊ดของผู้ที่เป็นมารดาบวกกับเป็นโทรโข่งส่งเสียงในทุกเช้าเอ่ยอวยพรที่ดีมากให้เธอ
เด็กสาวรีบวิ่งลงบันไดด้วยไม่ฟังเสียงของมารดาอีกต่อไปก่อนจะรีบคว้าขนมปังที่วางไว้อยู่บนจานตรงโต๊ะอาหารมาสองสามแผ่นพลางรีบใส่รองเท้าและใส่เกียร์คว้าจักรยานคู่ใจปั่นออกไปราวกับกำลังหนีโจรที่กำลังตามมาไล่ฆ่า
“แฮ่กๆๆ ตายแน่ๆชีวิตฉัน อุตสาห์กำลังเต้นรำกับเจ้าชายในฝัน ”
เธอบ่นอุบอิบเมื่อปั่นจักรยายมาถึงหน้าโรงเรียนได้สำเร็จภายในเวลาไม่ถึงห้านาที เพราะโรงเรียนอยู่ห่างแค่ซอยถัดไปนี่เอง ใกล้ยิ่งกว่าใกล้ซะอีก -_-
และแล้วหายนะก็ได้เริ่มขึ้นเมื่อได้เห็นคุณครูสุดที่รักจอมคุ้นเคยกันดีซึ่งอ้วนพุงพลุ้ยเดินเช็ครายชื่อพวกเด็กที่มาโรงเรียนสายพลางชี้นิ้วสั่งด้วยใบหน้าเหี้ยมเกรียมเพื่อให้ไป…..กระโดดกบ
“ยัยปุ๊ก!! ทางนี้ๆ” เสียงเพื่อนสาวราวๆห้าหกคนยืนออกันอยู่หน้ารั่วโรงเรียน และมันต้องทำอีกครั้งหนึ่งเด็กที่กำลังอ่านอยู่ในขณะนี้ที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะโปรดอย่าเอาอย่าง เพราะมันเป็นสิ่งที่ไม่ดีเอาซะเลย
กึกๆๆ
“โอ้ย ระวัง เดี๋ยวตกลงมาขาหักจะทำยังไงเนี่ย”
เสียงทักท้วงของเพื่อนสาวดังขึ้นอย่างตื่นเต้น เมื่อเธอดันก้าวเท้าผิดและเกือบลื่นตกลงมาแต่ดีหน่อยที่อาศัยความที่เป็นมือตุ๊กแกอยู่ทุนเดิมอยู่แล้ว ใช้มันให้เป็นประโยชน์โดยค้างอยู่ในท่าโหนคล้ายกับลิงอุรังอุตังก็ไม่ปาน
“อ้ายยย ระวังนะๆ” หนึ่งในเพื่อนสาวร้องอย่างตกใจเมื่อเห็นเพื่อนของเธอกำลังทำเรื่องอุจาดตาเมื่อกระโปรงของเธอดันไปเกี่ยวกับเหล็กที่ยื่นขึ้นมาแหลมปรี๊ด
ตุบ การลงมายังพื้นดินไม่ได้เป็นไปอย่างที่คาดแต่ก็ดีกว่าอยู่บนนั้นแยะเลย
“ลุกขึ้นๆ” เพื่อนๆรีบดึงตัวเธอลุกขึ้นยืนเมื่อเห็นรถยนต์ของอาจารย์ท่านหนึ่งแวะเข้ามาจอด หญิงสาวทั้งกลุ่มต่างเดินออกมาจากบริเวณนั้นให้เร็วที่สุด แม้ว่าเธอจะประพฤติยังไงเพื่อนของเธอยังคอยช่วยเหลือเธอเสมอ
เพราะเราคือเพื่อนกันถ้าหากขาดเพื่อนที่จริงใจต่อกันอย่างนี้ไป มีหวังชีวิตที่เธอแทบจะไม่แน่ใจหรือไม่มั่นใจในตัวเองจะไม่ปรากฏภาพความใฝ่ฝันที่ชัดขึ้นว่าสิ่งที่เธอเป็นคืออะไร
คาบแรกของวันนี้ก็ได้เรียนซะแล้ว เพราะระยะเวลาในการเรียนมัธยมมันช่างสั้นในการเตรียมที่จะเลือกสอบในระดับอุดมศึกษาต่อไป พวกเราก็คงจะรู้ดีอยู่แก่ใจว่าประเทศของเรานั้นมันประเทศที่เรียนหนักที่สุดและการบ้านเยอะที่สุด
และสิ่งที่พิเศษที่สุดในการที่จะมาโรงเรียนทุกวันอย่างสดชื่นแจ่มใสก็คงไม่พ้นเรื่องรุ่นน้องแอบชอบรุ่นพี่หรืออาจจะสลับกัน เพราะวัยรุ่นในช่วงนี้ยังคงแสวงหาความแปลกใหม่อยู่เสมอ
แม้คนในสังคมจะมองว่าวัยรุ่นส่วนใหญ่นั้น ช่างบ้าบิ่น และแสดงอะไรต่อมิอะไรที่ชัดเจน ชอบชีวิตที่มีความตื่นเต้น และมองโลกในมุมที่สดใสไร้ความเชื่อที่ว่าเกิดมาเราก็ไม่มีสิทธ์มีเสียงต่อสังคม ทุกคนผ่านวัยนี้มาทั้งนั้นและรู้ดีว่าการที่ถูกมองว่าไร้สาระนั้นเป็นเช่นไร
จะมีหรือที่คนอย่างเธอจะยี่หระต่อคนอื่นที่ไม่รู้ว่าตัวของเธอ ข้างในของเธอคือใคร รวมถึงทุกคนไม่มีสิทธ์ที่จะมาตัดสินว่าเธอควรเป็นอะไร เพราะวัยรุ่นก็สามารถใช้ชีวิตด้วยตัวเองโดยศึกษาไปเรื่อยๆไม่มีสิ้นสุดของการค้นหา
วันนี้เธอได้เรียนวิชาภาษาอังกฤษเป็นคาบแรกการสอนของครูนั้นเป็นไปอย่างน่าเบื่อ เพราะถึงแม้เป็นวิชาที่สำคัญแต่เธอก็พร้อมที่จะตั้งใจฟังและศึกษามันไปแม้อาจจะเป็นวิชาที่ไม่ค่อยถนัดก็ตาม
เนื่องด้วยเธอเป็นมนุษย์ติ่งเกาหลีคนหนึ่งที่ชื่นชอบวง EXO เป็นพิเศษและทุกวันเธอก็ยังฝึกซ้อมเต้นคัฟเวอร์อยู่เป็นประจำ และมีสิ่งหนึ่งที่เธอมั่นใจมากเลยก็คือ การเต้น การร้องเพลง มันเป็นข้อพิสูจน์อย่างหนึ่งที่เธอเชื่อมั่นว่าเธอเกิดมาเพื่อสิ่งนั้น
มือเรียวของเธอเคาะนิ้วลงบนโต๊ะเป็นจังหวะ ขณะเม้มริมฝีปากประกอบไปด้วยเมื่อเห็นรุ่นพี่คนหนึ่งเดินผ่านห้องไปโดยเอี้ยวหันไปทางขวามองผ่านบานประตูที่เปิดอ้าไว้ เขาเป็นผู้ชายคนหนึ่งที่ค่อนข้างมีผิวสีแทนแต่ดูสุขภาพดี ร่างสูงโปร่งที่ไม่เกิน 180ของเขาสะดุดตาเธอเป็นที่สุด
เวลามันเหมือนค่อยชะลอช้าลงเป็นภาพสโลว์เมื่อเห็นร่างของเขาที่เดินผ่านค่อยๆเดินจากไปก่อนเธอจะนึกถึงอดีตที่ผ่านมานานมากระหว่างเขากับเธอ
สวัสดีไดอารี่ที่รัก ฉันมีชื่อว่า ปุ๊กกี้ กำลังจะได้ขึ้นม.5 แล้ว เรื่องราวต่างๆเกี่ยวกับตัวฉันมันมีมากมายจนหาคำอธิบายไม่ได้ เมื่อฉันมีใจรักในเสียงเพลงและรักการเต้นเป็นชีวิตจิตใจ ถึงแม้ผู้คนในสังคมจะเมินว่ามันเป็นความสามารถที่ไร้สาระ และเพ้อฝัน แต่การเต้นนั้น ทำให้ฉันมีชีวิตที่แปลกใหม่และสนุกไปกับมันทุกครั้ง ดังนั้นฉันจะถ่ายทอดเรื่องราวของฉันให้พวกคุณได้รู้จัก “ตัวตนของฉัน”
“ยัยปุ๊ก สายแล้วนะ จะไปเรียนตอนบ่ายเหรอไง…..ยัยปุ๊ก!!!” เสียงทุบประตูห้องดังอึกทึกส่งผลให้เด็กสาวที่กำลังนอนฝันหวานถึงชายหนุ่มรูปงามในจินตนาการอย่างเข้าด้ายเข้าเข็มต้องสะดุ้งตื่นตกใจด้วยสภาพผมเผ้าที่ยุ่งเหยิงและรีบหยิบนาฬิกาข้อมือที่วางไว้บนหัวเตียงขึ้นมาดูก่อนจะปรากฏสีหน้าตกใจ นี่มันเก้าโมงกว่าแล้ว!!!
“จ้าแม่ แป๊ปๆ” เด็กสาวรีบเดินย่ำผ้าห่มกระโดดลงเตียงด้วยความเร่งรีบ พลางรีบคว้าชุดนักเรียนพร้อมผ้าขนหนูเข้าไปในห้องน้ำพร้อมกัน
เอี๊ยด บานประตูค่อยๆแง้มออกหน้าตาของเด็กสาวโผล่พ้นมาเพื่อมองดูลาดเลากันไว้เผื่อโดนระเบิดลงค่อยๆย่องเท้าออกจากห้อง และหันตัวมาปิดประตูอย่างเบาเสียงที่สุด
“นี่แก จะมามัวยืนรออะไรอยู่ รีบๆไปโรงเรียนเร็วๆหน่อย อาทิตย์นี้แกโดนกักบริเวณแน่” เสียงแหลมปรี๊ดของผู้ที่เป็นมารดาบวกกับเป็นโทรโข่งส่งเสียงในทุกเช้าเอ่ยอวยพรที่ดีมากให้เธอ
เด็กสาวรีบวิ่งลงบันไดด้วยไม่ฟังเสียงของมารดาอีกต่อไปก่อนจะรีบคว้าขนมปังที่วางไว้อยู่บนจานตรงโต๊ะอาหารมาสองสามแผ่นพลางรีบใส่รองเท้าและใส่เกียร์คว้าจักรยานคู่ใจปั่นออกไปราวกับกำลังหนีโจรที่กำลังตามมาไล่ฆ่า
“แฮ่กๆๆ ตายแน่ๆชีวิตฉัน อุตสาห์กำลังเต้นรำกับเจ้าชายในฝัน ”
เธอบ่นอุบอิบเมื่อปั่นจักรยายมาถึงหน้าโรงเรียนได้สำเร็จภายในเวลาไม่ถึงห้านาที เพราะโรงเรียนอยู่ห่างแค่ซอยถัดไปนี่เอง ใกล้ยิ่งกว่าใกล้ซะอีก -_-
และแล้วหายนะก็ได้เริ่มขึ้นเมื่อได้เห็นคุณครูสุดที่รักจอมคุ้นเคยกันดีซึ่งอ้วนพุงพลุ้ยเดินเช็ครายชื่อพวกเด็กที่มาโรงเรียนสายพลางชี้นิ้วสั่งด้วยใบหน้าเหี้ยมเกรียมเพื่อให้ไป…..กระโดดกบ
“ยัยปุ๊ก!! ทางนี้ๆ” เสียงเพื่อนสาวราวๆห้าหกคนยืนออกันอยู่หน้ารั่วโรงเรียน และมันต้องทำอีกครั้งหนึ่งเด็กที่กำลังอ่านอยู่ในขณะนี้ที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะโปรดอย่าเอาอย่าง เพราะมันเป็นสิ่งที่ไม่ดีเอาซะเลย
กึกๆๆ
“โอ้ย ระวัง เดี๋ยวตกลงมาขาหักจะทำยังไงเนี่ย”
เสียงทักท้วงของเพื่อนสาวดังขึ้นอย่างตื่นเต้น เมื่อเธอดันก้าวเท้าผิดและเกือบลื่นตกลงมาแต่ดีหน่อยที่อาศัยความที่เป็นมือตุ๊กแกอยู่ทุนเดิมอยู่แล้ว ใช้มันให้เป็นประโยชน์โดยค้างอยู่ในท่าโหนคล้ายกับลิงอุรังอุตังก็ไม่ปาน
“อ้ายยย ระวังนะๆ” หนึ่งในเพื่อนสาวร้องอย่างตกใจเมื่อเห็นเพื่อนของเธอกำลังทำเรื่องอุจาดตาเมื่อกระโปรงของเธอดันไปเกี่ยวกับเหล็กที่ยื่นขึ้นมาแหลมปรี๊ด
ตุบ การลงมายังพื้นดินไม่ได้เป็นไปอย่างที่คาดแต่ก็ดีกว่าอยู่บนนั้นแยะเลย
“ลุกขึ้นๆ” เพื่อนๆรีบดึงตัวเธอลุกขึ้นยืนเมื่อเห็นรถยนต์ของอาจารย์ท่านหนึ่งแวะเข้ามาจอด หญิงสาวทั้งกลุ่มต่างเดินออกมาจากบริเวณนั้นให้เร็วที่สุด แม้ว่าเธอจะประพฤติยังไงเพื่อนของเธอยังคอยช่วยเหลือเธอเสมอ
เพราะเราคือเพื่อนกันถ้าหากขาดเพื่อนที่จริงใจต่อกันอย่างนี้ไป มีหวังชีวิตที่เธอแทบจะไม่แน่ใจหรือไม่มั่นใจในตัวเองจะไม่ปรากฏภาพความใฝ่ฝันที่ชัดขึ้นว่าสิ่งที่เธอเป็นคืออะไร
คาบแรกของวันนี้ก็ได้เรียนซะแล้ว เพราะระยะเวลาในการเรียนมัธยมมันช่างสั้นในการเตรียมที่จะเลือกสอบในระดับอุดมศึกษาต่อไป พวกเราก็คงจะรู้ดีอยู่แก่ใจว่าประเทศของเรานั้นมันประเทศที่เรียนหนักที่สุดและการบ้านเยอะที่สุด
และสิ่งที่พิเศษที่สุดในการที่จะมาโรงเรียนทุกวันอย่างสดชื่นแจ่มใสก็คงไม่พ้นเรื่องรุ่นน้องแอบชอบรุ่นพี่หรืออาจจะสลับกัน เพราะวัยรุ่นในช่วงนี้ยังคงแสวงหาความแปลกใหม่อยู่เสมอ
แม้คนในสังคมจะมองว่าวัยรุ่นส่วนใหญ่นั้น ช่างบ้าบิ่น และแสดงอะไรต่อมิอะไรที่ชัดเจน ชอบชีวิตที่มีความตื่นเต้น และมองโลกในมุมที่สดใสไร้ความเชื่อที่ว่าเกิดมาเราก็ไม่มีสิทธ์มีเสียงต่อสังคม ทุกคนผ่านวัยนี้มาทั้งนั้นและรู้ดีว่าการที่ถูกมองว่าไร้สาระนั้นเป็นเช่นไร
จะมีหรือที่คนอย่างเธอจะยี่หระต่อคนอื่นที่ไม่รู้ว่าตัวของเธอ ข้างในของเธอคือใคร รวมถึงทุกคนไม่มีสิทธ์ที่จะมาตัดสินว่าเธอควรเป็นอะไร เพราะวัยรุ่นก็สามารถใช้ชีวิตด้วยตัวเองโดยศึกษาไปเรื่อยๆไม่มีสิ้นสุดของการค้นหา
วันนี้เธอได้เรียนวิชาภาษาอังกฤษเป็นคาบแรกการสอนของครูนั้นเป็นไปอย่างน่าเบื่อ เพราะถึงแม้เป็นวิชาที่สำคัญแต่เธอก็พร้อมที่จะตั้งใจฟังและศึกษามันไปแม้อาจจะเป็นวิชาที่ไม่ค่อยถนัดก็ตาม
เนื่องด้วยเธอเป็นมนุษย์ติ่งเกาหลีคนหนึ่งที่ชื่นชอบวง EXO เป็นพิเศษและทุกวันเธอก็ยังฝึกซ้อมเต้นคัฟเวอร์อยู่เป็นประจำ และมีสิ่งหนึ่งที่เธอมั่นใจมากเลยก็คือ การเต้น การร้องเพลง มันเป็นข้อพิสูจน์อย่างหนึ่งที่เธอเชื่อมั่นว่าเธอเกิดมาเพื่อสิ่งนั้น
มือเรียวของเธอเคาะนิ้วลงบนโต๊ะเป็นจังหวะ ขณะเม้มริมฝีปากประกอบไปด้วยเมื่อเห็นรุ่นพี่คนหนึ่งเดินผ่านห้องไปโดยเอี้ยวหันไปทางขวามองผ่านบานประตูที่เปิดอ้าไว้ เขาเป็นผู้ชายคนหนึ่งที่ค่อนข้างมีผิวสีแทนแต่ดูสุขภาพดี ร่างสูงโปร่งที่ไม่เกิน 180ของเขาสะดุดตาเธอเป็นที่สุด
เวลามันเหมือนค่อยชะลอช้าลงเป็นภาพสโลว์เมื่อเห็นร่างของเขาที่เดินผ่านค่อยๆเดินจากไปก่อนเธอจะนึกถึงอดีตที่ผ่านมานานมากระหว่างเขากับเธอ
คำยืนยันของเจ้าของเรื่องสั้น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
10 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ