writedreamonpaperเขียนฝันลงแผ่นกระดาษสู่อนาคต เก่า
7.6
เขียนโดย sakuhap
วันที่ 11 พฤษภาคม พ.ศ. 2558 เวลา 22.17 น.
6 หน้าที่
50 วิจารณ์
11.52K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 21 ธันวาคม พ.ศ. 2559 16.59 น. โดย เจ้าของเรื่องสั้น
1) ความฝันที่เป็นไปไม่ได้แต่เป็นไปได้
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความสวัสดีครับ ผมชื่อ อรุณ ครับผมอายุ 15 ครับผมเป็นนักเขียนเยาชนผลงานของผมมีมากมายมากพอ
ที่จะสร้างเป็นบ้านหลังเบ้อเริ้มเลยนะครับฮ่าๆ ล้อเล่นน่ะครับ ความจริงผมก็เป็นแค่เด็กผู้ชายธรรมดา
เป็นเด็กกำพร้า จนๆ คนนึงนั่นแหละครับ แต่ตอนนี้ ผมมีเงินมากมายที่พอจะให้ผมซื้อ มาม่า เยอะๆ
ได้เลยทีเดียวเชียว 55 พอดีกว่าเนอะ เข้าเรื่องเถอะ เรื่องมันเริ่มตั้งแต่ผมอายุ 12
ย้อนไป 3 ปี
"นี่ๆ พี่สาวครับ นั่นคืออะไร?"ตอนนั้นเป็นตอนที่ผมคุยกับเด็กสาวคนนึงเธอเป็นเพื่อนของผมและ
ทางบ้านของเธอก็เป็นคนใจบุญ มักจะหาข้าวมาให้ผมกินเสมอเลย
"มันคือ เรื่องสั้น จ้ะ^^"เธอก็ตอบผมแล้วยื่นให้ผมดู มันเป็นหนังสือเรื่อง companion4สหาย
ผจญโลกต่างมิติ (อันนี้ขออนุญาตโปรโมทนะคะ แหะๆ อาจจะเป็นนิยายของคนอื่นด้วย ขออภัยค่ะ)
มันเป็นเล่มแรกที่ผมอ่าน ตอนแรกก็อ่านไม่รู้เรื่องหรอก งงมากกก งงสุดๆแต่พี่สาวก็สอนผมให้อ่าน
น่ะนะ จนในที่สุดผมก็อ่านจนจบ มันก็สนุกดี ผมจึงเริ่มอ่านไปหลายๆเรื่องๆ บางทีก็เป็น นิยายบ้าง
แนวหวานแหววบ้าง แนวระทึกขวัญบ้าง แฟนตาซีบ้าง แต่ถึงจะแนวไหนผมก็ติดทุกเรื่องงอมแงม
เลยล่ะครับ55 ก็มันสนุกเกินห้ามใจนี่ครับ บางทีก็ลุ้นเอามาก ทำให้ผมไปห้องสมุดที่บ้านพี่สาว
บ่อยขึ้น เรา2คนก็นั่งอ่านกันที่นั่นแหละ เรื่องไหนที่มีเล่มต่อผมก็จะถามพี่สาวตลอดว่ามารึยังๆ
พี่สาวผมก็ตอบรับทุกครั้ง บางทีพี่สาวก็แนะนำเรื่องอื่นด้วยซ้ำ วันนึงผมก็เลยลองแต่งเองสักเรื่อง
นั่นก็คือ.....(**ถ้าชื่อตรงกับของใครก็ขออภัยด้วยค่ะ) 'ชีวิตของอรุณและพี่สาว' ผมลองแต่งเอง
ถึงลายมือจะไม่ค่อยสวย แต่พี่สาวก็พยายามอ่านจนจบ ผลที่ได้คือ............. พี่สาวชมผมด้วยล่ะ
ว่า
"เขียนเก่งอย่างนี้ ไปเป็นนักเขียนเลยดีกว่านะอรุณ"พี่สาวชมผม ตอนนั้นผมยังไม่รู้ว่านักเขียนคือ
อะไร ผมก็เลยถามพี่สาวคำตอบที่ได้คือ
"นักเขียนก็คือ คนที่แต่งเรื่องต่างให้ได้อ่านไงจ้ะ บางทีก็ดังจนมีเล่มต่อออกมาหลายต่อหลายเล่ม
ถ้าเขียนดีแต่ถ้าเขียนไม่ดีคนอาจจะไม่ติดตาม ทุนหายกำไรหด ชื่อเสียงก็ไม่มี"นั่นแหละครับ
คำตอบ ผมก็ไม่ได้ใส่ใจอะไรมาก แต่ผมก็เขียนเล่นๆไปให้คนในบ้านพี่สาวได้อ่าน แต่ไปๆมาๆ
ผมก็แต่งจริงจังแบบสุดๆขึ้นมา 1 เรื่อง คือ หุบเวหาสู่สาวชาวเมือง เป็นเรื่องที่ผมเขียนเป็นเรื่อง
แนวรักครับ คือ จากหนุ่มชาวป่าเขาแต่กลับหลงรักสาวชาวเมือง ซึ่งความต่างทั้งชื่อเสียง เงินทอง
นั้นเป็นอุปสรรคของความรักซึ่งทางฝ่ายบ้านของหญิงสาวไม่ชอบที่ลูกของตนไปหลงรักชาวป่าเขา
จนๆ ไม่มีชื่อเสียง หน้าตาก็ไม่ผ่านมาตรฐานบ้านของหญิงสาว แต่ตัวนางเองกลับเทใจให้เขาไป
หมดเลย ผมเอาเรื่องนี้ไปให้พี่สาว พ่อแม่ของพี่สาวอ่าน ทั้ง3บอกเป็นเสียงเดียวเลยว่า
"อินสุดๆ"เพราะงั้นความฝันของผมจึงถือกำเนิดขึ้น!!! คำว่า นักเขียน ไม่ได้เป็นคำไม่มีค่าสำหรับ
ผมอีกต่อไปแล้วแต่มันเป็นทุกสิ่งที่อยากทำ ผมไปเดินตามบอร์ดประกาศประจำเมืองของผม
รอบนึงมีประกาศ 'รับสมัคร! นักเขียนวัยเยาว์หน้าใหม่'สิ่งนั้นมันทำให้ผมรู้สึกตื่นเต้นที่จะทำมัน
แต่ทุกอย่างกลับมอดลงดั่งกระดาษที่ถุกเผาเป็นขี้เถ้า นั่นคือ'ค่าสมัคร 15,000บาท'พอผมดูอีกที
ก็พบว่า ทางบ้านบุญธรรมเองก็ ธุรกิจเริ่มไม่ดีการเงินไม่คงที่ และเงินในกระเป๋าของผมเองก็เหลือ
ไม่ถึง20บาทเลย ทำให้ผมอดไป ทำให้ผมเริ่มคิดที่จะเก็บออม และสะสมไว้จนกว่าจะถึงการสมัคร
ครั้งหน้าในอีก2ปีให้หลัง ซึ่งมันอาจจะทันการของผมก็ได้ วันนึงผมไปเดินเล่นที่สวนประจำเมือง
ของผม ผมไปตีสนิทกับพวกเด็กเรื่องความฝันของผมกลับโดนล้อว่า "นายน่ะทั้งจน
พึ่งแต่คนรวย อยากจะหาเงินมาสมัครเป็นนักเขียนน่ะมันไกลเกินเอื้อมของนายไปรึป่าว นายน่ะ
มันคงเป็นได้แค่คนทำงานโรงงานหาเงินเรื่อยเปื่อยไปวันๆแหละน่า"เด็กพวกนั้นเป็นลูกคนรวยมี
นิสัยส่วนใหญ่ในกลุ่มนิสัยไม่ดี แต่คนดีๆก็มีแต่เพราะนิสัยส่วนใหญ่เป็นผู้นำน่ะสิ คำพูดพวกนั้น
มันทำให้ผมขึ้น แต่ผมระงับอารมณ์ไว้ได้ แล้วผมก็กลับมาพิจารณาอีกที ก็คิดว่า น่าจะเป็นอย่าง
นั้นจริงๆ เพราะเราทั้งจน ชื่อเสียงโด่งดังอะไรก็ไม่มี ผมนั่งร่ำไห้กับตนอยู่นาน พี่สาวก็เข้ามาปลอบ
"นี่อรุณ..นายน่ะถ้าจริงจังนายก็ทำได้ คิดสิว่า ความเป็นไปไม่ได้จะมีส่วนนึงที่เป็นไปได้อยู่นะ"
"หมายความว่า ยะ ยังไงครับ ฮึก"
"หมายความว่าถ้านายพยายามคำว่านักเขียนนายก็จะเป็นจริง แม้จะไม่ได้โด่งดังอะไรก็ตาม^^"
นั่นเป็นคำปลอบที่ดีที่สุด ผมเริ่มต้นวันใหม่ด้วยการ..........
ที่จะสร้างเป็นบ้านหลังเบ้อเริ้มเลยนะครับฮ่าๆ ล้อเล่นน่ะครับ ความจริงผมก็เป็นแค่เด็กผู้ชายธรรมดา
เป็นเด็กกำพร้า จนๆ คนนึงนั่นแหละครับ แต่ตอนนี้ ผมมีเงินมากมายที่พอจะให้ผมซื้อ มาม่า เยอะๆ
ได้เลยทีเดียวเชียว 55 พอดีกว่าเนอะ เข้าเรื่องเถอะ เรื่องมันเริ่มตั้งแต่ผมอายุ 12
ย้อนไป 3 ปี
"นี่ๆ พี่สาวครับ นั่นคืออะไร?"ตอนนั้นเป็นตอนที่ผมคุยกับเด็กสาวคนนึงเธอเป็นเพื่อนของผมและ
ทางบ้านของเธอก็เป็นคนใจบุญ มักจะหาข้าวมาให้ผมกินเสมอเลย
"มันคือ เรื่องสั้น จ้ะ^^"เธอก็ตอบผมแล้วยื่นให้ผมดู มันเป็นหนังสือเรื่อง companion4สหาย
ผจญโลกต่างมิติ (อันนี้ขออนุญาตโปรโมทนะคะ แหะๆ อาจจะเป็นนิยายของคนอื่นด้วย ขออภัยค่ะ)
มันเป็นเล่มแรกที่ผมอ่าน ตอนแรกก็อ่านไม่รู้เรื่องหรอก งงมากกก งงสุดๆแต่พี่สาวก็สอนผมให้อ่าน
น่ะนะ จนในที่สุดผมก็อ่านจนจบ มันก็สนุกดี ผมจึงเริ่มอ่านไปหลายๆเรื่องๆ บางทีก็เป็น นิยายบ้าง
แนวหวานแหววบ้าง แนวระทึกขวัญบ้าง แฟนตาซีบ้าง แต่ถึงจะแนวไหนผมก็ติดทุกเรื่องงอมแงม
เลยล่ะครับ55 ก็มันสนุกเกินห้ามใจนี่ครับ บางทีก็ลุ้นเอามาก ทำให้ผมไปห้องสมุดที่บ้านพี่สาว
บ่อยขึ้น เรา2คนก็นั่งอ่านกันที่นั่นแหละ เรื่องไหนที่มีเล่มต่อผมก็จะถามพี่สาวตลอดว่ามารึยังๆ
พี่สาวผมก็ตอบรับทุกครั้ง บางทีพี่สาวก็แนะนำเรื่องอื่นด้วยซ้ำ วันนึงผมก็เลยลองแต่งเองสักเรื่อง
นั่นก็คือ.....(**ถ้าชื่อตรงกับของใครก็ขออภัยด้วยค่ะ) 'ชีวิตของอรุณและพี่สาว' ผมลองแต่งเอง
ถึงลายมือจะไม่ค่อยสวย แต่พี่สาวก็พยายามอ่านจนจบ ผลที่ได้คือ............. พี่สาวชมผมด้วยล่ะ
ว่า
"เขียนเก่งอย่างนี้ ไปเป็นนักเขียนเลยดีกว่านะอรุณ"พี่สาวชมผม ตอนนั้นผมยังไม่รู้ว่านักเขียนคือ
อะไร ผมก็เลยถามพี่สาวคำตอบที่ได้คือ
"นักเขียนก็คือ คนที่แต่งเรื่องต่างให้ได้อ่านไงจ้ะ บางทีก็ดังจนมีเล่มต่อออกมาหลายต่อหลายเล่ม
ถ้าเขียนดีแต่ถ้าเขียนไม่ดีคนอาจจะไม่ติดตาม ทุนหายกำไรหด ชื่อเสียงก็ไม่มี"นั่นแหละครับ
คำตอบ ผมก็ไม่ได้ใส่ใจอะไรมาก แต่ผมก็เขียนเล่นๆไปให้คนในบ้านพี่สาวได้อ่าน แต่ไปๆมาๆ
ผมก็แต่งจริงจังแบบสุดๆขึ้นมา 1 เรื่อง คือ หุบเวหาสู่สาวชาวเมือง เป็นเรื่องที่ผมเขียนเป็นเรื่อง
แนวรักครับ คือ จากหนุ่มชาวป่าเขาแต่กลับหลงรักสาวชาวเมือง ซึ่งความต่างทั้งชื่อเสียง เงินทอง
นั้นเป็นอุปสรรคของความรักซึ่งทางฝ่ายบ้านของหญิงสาวไม่ชอบที่ลูกของตนไปหลงรักชาวป่าเขา
จนๆ ไม่มีชื่อเสียง หน้าตาก็ไม่ผ่านมาตรฐานบ้านของหญิงสาว แต่ตัวนางเองกลับเทใจให้เขาไป
หมดเลย ผมเอาเรื่องนี้ไปให้พี่สาว พ่อแม่ของพี่สาวอ่าน ทั้ง3บอกเป็นเสียงเดียวเลยว่า
"อินสุดๆ"เพราะงั้นความฝันของผมจึงถือกำเนิดขึ้น!!! คำว่า นักเขียน ไม่ได้เป็นคำไม่มีค่าสำหรับ
ผมอีกต่อไปแล้วแต่มันเป็นทุกสิ่งที่อยากทำ ผมไปเดินตามบอร์ดประกาศประจำเมืองของผม
รอบนึงมีประกาศ 'รับสมัคร! นักเขียนวัยเยาว์หน้าใหม่'สิ่งนั้นมันทำให้ผมรู้สึกตื่นเต้นที่จะทำมัน
แต่ทุกอย่างกลับมอดลงดั่งกระดาษที่ถุกเผาเป็นขี้เถ้า นั่นคือ'ค่าสมัคร 15,000บาท'พอผมดูอีกที
ก็พบว่า ทางบ้านบุญธรรมเองก็ ธุรกิจเริ่มไม่ดีการเงินไม่คงที่ และเงินในกระเป๋าของผมเองก็เหลือ
ไม่ถึง20บาทเลย ทำให้ผมอดไป ทำให้ผมเริ่มคิดที่จะเก็บออม และสะสมไว้จนกว่าจะถึงการสมัคร
ครั้งหน้าในอีก2ปีให้หลัง ซึ่งมันอาจจะทันการของผมก็ได้ วันนึงผมไปเดินเล่นที่สวนประจำเมือง
ของผม ผมไปตีสนิทกับพวกเด็กเรื่องความฝันของผมกลับโดนล้อว่า "นายน่ะทั้งจน
พึ่งแต่คนรวย อยากจะหาเงินมาสมัครเป็นนักเขียนน่ะมันไกลเกินเอื้อมของนายไปรึป่าว นายน่ะ
มันคงเป็นได้แค่คนทำงานโรงงานหาเงินเรื่อยเปื่อยไปวันๆแหละน่า"เด็กพวกนั้นเป็นลูกคนรวยมี
นิสัยส่วนใหญ่ในกลุ่มนิสัยไม่ดี แต่คนดีๆก็มีแต่เพราะนิสัยส่วนใหญ่เป็นผู้นำน่ะสิ คำพูดพวกนั้น
มันทำให้ผมขึ้น แต่ผมระงับอารมณ์ไว้ได้ แล้วผมก็กลับมาพิจารณาอีกที ก็คิดว่า น่าจะเป็นอย่าง
นั้นจริงๆ เพราะเราทั้งจน ชื่อเสียงโด่งดังอะไรก็ไม่มี ผมนั่งร่ำไห้กับตนอยู่นาน พี่สาวก็เข้ามาปลอบ
"นี่อรุณ..นายน่ะถ้าจริงจังนายก็ทำได้ คิดสิว่า ความเป็นไปไม่ได้จะมีส่วนนึงที่เป็นไปได้อยู่นะ"
"หมายความว่า ยะ ยังไงครับ ฮึก"
"หมายความว่าถ้านายพยายามคำว่านักเขียนนายก็จะเป็นจริง แม้จะไม่ได้โด่งดังอะไรก็ตาม^^"
นั่นเป็นคำปลอบที่ดีที่สุด ผมเริ่มต้นวันใหม่ด้วยการ..........
คำยืนยันของเจ้าของเรื่องสั้น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8.1 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
6.8 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
7.9 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ