เฉียดตาย
10.0
เขียนโดย Gurudit
วันที่ 28 เมษายน พ.ศ. 2558 เวลา 01.38 น.
1
5 วิจารณ์
3,546 อ่าน
แก้ไขเมื่อ 29 เมษายน พ.ศ. 2558 02.00 น. โดย เจ้าของเรื่องสั้น
1) เฉียดตาย
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ ก่อนที่จะเริ่มเรื่องต่อไปนี้ ผมต้องขออภัยบุคคลที่เอ่ยนามทั้งหมดด้วย เพราะอาจมีการพาดพิงด้านลบ ต่อบุคคลเหล่านั้น เริ่มเรื่องราวกันเลยดีกว่า เหตุการณ์มันผ่านมาเกือบยี่สิบปีได้ล่ะมั้ง ช่วงนั้นผมศึกษาอยู่ชั้น ป.วช.3 รอบบ่าย วิทยาลัยแห่งหนึ่งในสมุทรปราการ ยุคที่คาเฟ่ ยังมีกระแสนิยมอย่างมาก เกือบทุกๆวันหลังเลิกเรียน ผมจะต้องไปหมกตัวที่คาเฟ่เล็กๆ แถวบ้าน(แต่งกายนอกเครื่องแบบนะครับ) เนื่องจากไอ้โก เพื่อนผมเองมันติดนักร้อง ชื่ออะไรจำไม่ค่อยได้ ณ คาเฟ่นั้นที่ไหนเลยผมจะยอมน้อยหน้า ผมก็คบกับนักร้องอีกคนชื่อตุ๊กตา คืนหนึ่งเมามาก วันรุ่งขึ้นมีสอบ ผมลืมหนังสือไว้ในคาเฟ่ครับ ตอนเช้าผมจึงรีบโทรไปถามไอ้โก “เฮ้ย ! โก ได้เก็บหนังสือไว้ให้กูหรือเปล่า ?” ผมถามด้วยความกระวนกระวายใจ “ตุ๊กตาเก็บเอาไว้ให้แล้ว” ไอ้โกตอบน้ำเสียงเรียบ “อย่างนั้นมึงมารับกูด้วย แล้วพาไปเอาหนังสือคืนจากตุ๊กตาที่ห้องหน่อย” ผมขอร้องแกมบังคับไอ้โก เนื่องจากไม่มีหนังสือ ที่จะอ่านก่อนสอบ แต่ในใจผมคิดอีกอย่าง เหอะๆๆๆ อย่างที่ทุกคนคิดนั่นแหละครับ พอถึงห้อง ผมคุยกับตุ๊กตาสักพักแล้วก็บอกไอ้โกให้รอข้างล่าง เป็นอันเข้าใจกัน ตุ๊กตามีแฟนอยู่แล้ว เธอบอกว่าแฟนดุมาก ติดยาบ้าด้วย แต่ผมไม่สนใจ ด้วยความหน้ามืดตามัว และคะนอง เริ่มออกอาการปลาหมึก เรียกได้ว่าจะให้ไคล์แมกซ์ก็คงไม่ยาก แต่เนื่องด้วยผมยังกังวล อยู่หลายๆอย่าง ทั้งโรคติดต่อทางเพศ การผูกมัด นานาประการมาในหัวผม จึงตัดสินใจไม่เผด็จศึกเลิกทำกิจนั้นโดยสิ้นเชิง ไม่รู้ว่าตุ๊กตาจะคิดยังไงกับผม แต่ช่างมัน ผมชวนเธอลงไปข้างล่าง กินข้าว เอาหนังสือคืน แล้วชวนไอ้โกเดินทางไปสอบ บนรถกระบะคันเก่งของไอ้โก มันชวนคุยถึงรื่อง ที่ผมอยู่กันสองคนกับตุ๊กตาในห้องผมก็เล่าไปตลอดทาง ไอ้โกมันมีนิสัยชอบขับรถเร็ว ถนนเล็กๆก็ยังเสือกขับเร็ว แต่ผมก็รู้สึกเฉยๆ เพราะนั่งรถมันบ่อย “ได้เวลาดูดบุหรี่แล้วว่ะไอ้โก จะเอาด้วยมั้ย กูจะต่อ” ผมถามไอ้โก “สักมวนก็ดีนะ” ไอ้โกตอบเสียงคล้ายคนเสี้ยนยา ผมเปิดกระจกหน้าต่าง เพื่อเตรียมระบายอากาศภายในรถ แล้วเอื้อมมือคว้าบุหรี่จากช่องวางของ ที่คอนโซน หน้ารถ มาโบโร่ เขียว ไอ้โกมันนิยมเพียงยี่ห้อนี้เท่านั้น ผมจึงจำใจดูด(ของฟรี) จุดก่อนตัวหนึ่งแล้วยื่นให้มัน จากนั้น ก็ค่อยต่อของตัวเองเรียบร้อย พอเงยหน้าขึ้นมาเท่านั้นแหละครับ สิ่งที่ผมคิดถึงอย่างแรกคือ แม่ครับ ตามมาด้วย อะไรต่อมิอะไรอีกแสนแปด ในชั่วเวลาแค่วินาทีนั้นเอง “คุณพระช่วย ! “ เสียงกรี๊ดจากแม่ค้าข้างทาง ซึ่งคิดว่าคนในรถที่นั่งข้างคนขับ นั่นก็คือผม ได้ตายคาที่ไปแล้ว แต่ปาฏิหารย์ครับผมตะกายออกมาจากรถด้วยบาดแผลเพียงเศษกระจกบาดมือแค่ครึ่งเซ็นติเมตร กับอาการเคล็ดขัดยอกจากการกระแทก เพราะท้ายรถคันหน้านั้นมันคือ6ล้อ ซึ่งไม่ใช่เล่นๆ มันทำให้หน้ารถของไอ้โกด้านที่ผมนั่งยุบลงมาจนถึงเบาะ กระจกแตกยับ สร้างความตกใจและงุนงง กับเหตุการณ์มาก มันสั่นอย่างบอกไม่ถูก เมื่อลำดับเหตุการณ์แล้วก็ถึงบางอ้อ ถ้าวันนั้นผมคาดเบลท์ไว้ คงไม่สามารถเอี้ยวตัวหลบมาข้างคนขับได้ ผมคงต้องกลายเป็นศพ อย่างที่แม่ค้าข้างทางคิดไว้แน่ทีเดียว สถานะการณ์ตอนนี้เริ่มดีขึ้น ไอ้โกรีบโทรเรียกประกันทันที แล้วมันก็โทรตามเพื่อนอีกคนมา เนื่องจากมัน ไร้ซึ่งใบขับขี่ มันตามไอ้เอมา เพื่อโกหกประกันว่าตัวมันไม่ได้ขับ เป็นไอ้เอที่ขับมา ถ้าหากท่านพี่ประกันในวั้นนั้นได้เห็นบทความนี้ ผมก็ต้องขอโทษแทนเพื่อนด้วย นะครับ พอเรื่องเรียบร้อยก็เอารถเข้าศูนย์ สรุปวันนั้นโทรไปบอกเพื่อนว่ารถชน ไปสอบไม่ได้ ขอให้อาจารย์เลื่อนสอบ อาจารย์ก็ตกลงเพราะพวกผมจะเอาหลักฐานไปให้ดู ถ้าหากทำการสอบในวันนี้ ผมคงต้องตายแน่นอน เพราะไม่ได้อ่านหนังสือเลยสักแอะ เรื่องราวทั้งหมด จึงถือเป็นการเฉียดตาย ครั้งยิ่งใหญ่ของผม และผมขอจบเหตุการณ์เฉียดตาย ด้วยประการ ฉะนี้
คำยืนยันของเจ้าของเรื่องสั้น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
10 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ