ที่เดิม.....
10.0
เขียนโดย กวนมึนตึบ
วันที่ 3 เมษายน พ.ศ. 2558 เวลา 10.51 น.
1 ตอน
4 วิจารณ์
3,432 อ่าน
แก้ไขเมื่อ 3 เมษายน พ.ศ. 2558 12.20 น. โดย เจ้าของเรื่องสั้น
1) บ้าน
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความบ้าน
จะมีใครไหมนะที่หยุดเดินอยู่กับที่ จะมีใครไหมนะที่ทำอะไรอยู่ที่เดิมซ้ำๆ จะมีใครไหมนะที่ไม่มีความทรงจำที่น่าจดจำ และจะมีใครไหมนะที่ไม่มีความทรงจำที่แสนเลวร้าย
นิด เธอกำลังบันทึกข้อความนี้ลงในสมุดเล่มเล็ก เวลาบันทึกมันก็ช่วยทำให้ผ่อนคลายจากความคิดที่วุ่นวายในสมองเธอ และตอนนี้เธอกำลังเดินทางกลับไปยังบ้านเกิดของเธอ ที่ได้ทิ้งมันปิดตายเป็นเวลาเกือบหกปี และตอนนี้กำลังจะกลับไปพร้อมหน้าที่การงานที่ได้รับ เธอเป็นอาจารย์สอนเด็กปฐมวัย เด็กที่ก่อนเข้าเรียนประถมศึกษา ที่บ้านเกิดของเธอๆ เป็นอำเภอที่ห่างไกลตัวจังหวัด เป็นตำบลเล็กๆอยู่แบบสงบสุข ส่วนมากชาวบ้านในแถบนั้นจะประกอบอาชีพทำเกษตรกรรม
ความเจริญทางด้านเทคโนโลยีก็มีน้อย ทำให้ที่นั้นไม่ถูกลุกล้ำทางวัฒนธรรม ป่าไม้ยังเขียวขจี อากาศก็บริสุทธิ์ คนที่นั้นก็พึ่งพาซึ่งกันและกัน และยังเหลือเค้าโครงความเป็นมาในอดีตอย่างชัดเจน
"อ้าว นิดเอ้ย มาแล้วเหรอ ลูก " เสียงหญิงชรา ที่เอ่ยทักหลังจากที่เธอก้าวลงจากรถสองแถว ที่เธอนั่งต่อจากรถทัวร์ที่จอดอีกอำเภอที่ใกล้ตัวเมือง
"ป้าน้อย สวัสดีค่ะ "เธอพนมมือยกไหว้ หญิงชราข้างบ้านที่เหมือนเป็นญาติผู้ใหญ่ ที่เธอพอเหลืออยู่ในชีวิต
"ไหว้พระเถอะ ลูก " หญิงชรายกยิ้มที่มีฟันดำๆ เพราะการเคี้ยวหมากแล้วเดินมาจะมาช่วยหยิบของ
"ป้าน้อย เดี๋ยวนิดยกเข้าไปเองจ้ะ ป้าน้อยนั่งรอนิดก่อนนะจ้ะ เดี๋ยวนิดหาน้ำมาให้ "เธอมองไปที่บ้านสองชั้นข้างล้างเป็นปูนข้างบนเป็นไม้ที่ทาด้วยสีขาวทั้งหลังอย่างโหยหา แล้วเดินลากกระเป๋าเสื้อผ้าและพวกผักผลไม้ที่แวะซื้อที่ตลาดก่อนขึ้นรถสองแถว และของฝากที่เตรียมมาฝากพี่ๆน้อง ลุง ป้า น้า อา ข้างบ้าน
" ไม่ต้องหรอกลูก ป้ากินมาแล้ว ป้าให้ไอ้นัทมาช่วยทำความสะอาดแล้วหล่ะ " พอเธอเปิดประตูบ้านที่ไม่ได้ล็อคไว้ พอมองเข้าไปในตัวบ้าน ก็ดูมันสะอาดเหมือนมีคนมาทำความสะอาดอยู่เสมอ
"ป้าน้อยจ้ะ ขอบใจป้าน้อยกับเจ้านัทมานะจ้ะ ป่านนี้เจ้านัทคงเป็นหนุ่มหล่อแล้วล่ะสิ " หญิงชราส่ายหัว จะว่าไปเจ้านัทที่ว่า เป็นรุ่นน้องเธอประมาณเจ็ดปี คงเป็นหนุ่มเนื้อหอมไปแล้วหล่ะ
"เจ้านัทมันดื้อ มันฟังใครที่ไหน แต่มันเรียนเก่งนะ ว่าแต่นิดกลับมานี่เรียนจบอะไรมาล่ะ ลูก " หญิงชราเอ่ยด้วยสายตาเอ็นดู เธอก็เอ็นดูเด็กสาวมาแต่ไหนแต่ไร แถมเด็กสาวตรงหน้าก็ตัวคนเดียวอีกด้วย
"นิดได้งานเป็นครูสอนเด็กเล็กจ้ะป้า " เธอยังตื่นเต้นกับการที่จะได้สอนเด็กตัวเล็กที่ซนเหมือนลิงอยู่เลย แต่มันก็เป็นงานที่เธอรัก รักความบริสุทธิ์ของเด็กๆ ไร้เดียงสา และความดื้อดึงแบบใสๆไร้เล่ห์เหลี่ยม
"ดีแล้วลูก พักผ่อนนะ ป้ากลับล่ะ มีอะไรไปหาป้านะ อย่าเกรงใจป้า ป้ารักหนูเหมือนลูกเหมือนหลาน "หญิงชราเดินเข้ามาจับมือ เธอแทบน้ำตาซึมเก็บความซาบซึ้งใจไว้ไม่อยู่ นี้แหล่ะนะที่หาได้ยากในปัจจุบัน ความจริงใจและน้ำใจ
"ค่ะป้าน้อย นิดไม่รู้จะตอบแทนป้าน้อยยังไง " เธอมองไปที่คนสูงวัยกว่า ก็เห็นแต่แววตาเอ็นดูกลับมา
" ไม่ต้องหรอก ป้าไปล่ะ " เธอพนมมือยกไหว้อีกครั้ง หญิงชราเดินจากไป สายตาเธอก็เปลี่ยนไปมองสำรวจบ้านทันที เธอเดินไปหยุดที่แห่งความทรงจำของครอบครัวที่แรกที่ต้องเห็นทุกคนอยู่รวมกันเสมอ
"เก้าอี้หวายของพ่อ " เก้าอี้หวายตัวเก่าตั้งอยู่ที่มุมหนึ่งของทีวีเครื่องเก่า มีผ้าห่มผืนเล็กวางอยู่ มีหมอนที่พ่อชอบเอามาหนุนคอ ภาพเก่าๆมันเริ่มฉายออกมาอีกรอบ พ่อจะชอบนั่งดูทีวีแล้วยิ้มให้แม่ที่ทำกับข้าวไปบ่นไป น้องก็จะชอบเอาโน๊ตบุ๊คมาเล่นเกมแข่งกับเสียงทีวีของพ่อ
"หอมจัง "พอเปิดหน้าต่างออก ก็พบกับพุ่มของต้นมะลิ ที่ออกดอกส่งกลิ่นหอม ต้นแรกที่ปลูกคือเธอเอามาปลูก และกลายเป็นคนทั้งบ้านชอบกลิ่นของมัน และเธอก็นำมันมาร้อยมาลัยไหว้พระทุกวันพระอีกด้วย แต่ตอนนี้มันกลับมีเยอะขึ้นจากพุ่มเล็กเดี่ยวๆ กลับมีเพิ่มขึ้นอีกสี่พุ่มแหน่ะ เธอมองภาพตรงหน้าไปหวนคิดถึงบุคคลที่จากไปขึ้นมา สถานที่ยังเหมือนเดิม แต่ที่ไม่เหมือนเดิมคือทุกคนที่อยู่ตรงหน้า เหลือแค่ความรักและความคิดถึงได้แค่ในใจ
"เตาถ่าน เครื่องครัว ที่ขาดไปคงเป็นแม่ครัว งั้นพรุ่งนี้นิดจะทำกับข้าวไปวัดนะค่ะ พ่อ แม่ เจ้านะ " ใช่แล้วทุกคนในครอบครัวเธอจากไปด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์ เพราะในวันนั้นทั้งสามคนเดินทางไปสมัครเรียนในตัวเมืองของเจ้านะ แล้วโดนรถสิบล้อชนแล้วรถพังยับ และเสียชีวิตคาที่ คิดถึงเหตุการณ์เลวร้ายทีไร น้ำตาและความทรมานที่ทำอะไรไม่ได้มันถาโถมเข้ามาทุกที ทำไมต้องเกิดกับพวกเค้า ทำไมเราต้องเป็นคนเดียวที่สูญเสีย แล้วทำไมเราไม่ได้ไปกับพวกเค้า
"เจ้านะไม่อยู่ ไม่มีใครใช้เลยนะ คอมตั้งโต๊ะตัวนี้ " เปิดมาอีกห้องเป็นห้องนอนเล็กชั้นล่าง มีคอมตั้งโต๊ะที่มีผ้าคลุมไว้ และไม่มีการใช้งานเลย แต่เธอกลับมองเห็นเด็กชายตัวสูงใส่แว่นกรองแสงนั่งเล่นเกมร้องเพลงโหวกเหวก พอเธอเปิดประตูเด็กหนุ่มก็หันมายิ้มยิงฟันกวนๆให้
'เบาๆใช่ไหม เดี๋ยวตานี้ก่อน' แต่ก็ดังเหมือนเดิม แต่พอเห็นมันว่างเปล่าอย่างนี้ ใจมันก็รู้สึกเหงาสิ้นดี รู้สึกคิดถึงรู้สึกโหยหา รู้สึกว่าไม่เหลือใครแล้วจริงๆและอยากให้มันเป็นแค่ความฝัน ที่ตื่นมาแล้วหายไป
"แม่ค่ะ พ่อค่ะ นิดอยากรู้ว่าทุกคนเป็นยังไง นิดอยู่ทางนี้นิดจะอยู่เพื่อทุกคนนะค่ะ " ไม่มีวันไหนที่เธอจะไม่มีสายตาที่เศร้า และไม่มีวันไหนที่เธอจะลบลืมคำว่าเสียใจ ตั้งแต่ห้าปีก่อนที่เธอจากที่นี่ไป ไม่มีวันไหนที่เธอจะไม่คิดถึงที่ๆมีแต่ความทรงจำ และที่ๆทำให้เธอเจ็บปวด แต่เธอก็เลือกที่จะเก็บไว้ในความทรงจำที่แสนดี และความทรงจำที่แสนเลวร้าย ที่ๆมีอ้อมกอดของคนที่รักรออยู่ เสียงหัวเราะที่สดใสฟังแล้วมีความสุข และที่นั้นคือ บ้าน แต่ในตอนนี้คือบ้านที่ไม่เหลือใคร
"ถ้าพ่อแม่เจ้านะฟังอยู่ นิดอยู่ได้ ทุกคนไม่ต้องเป็นห่วง " เธอมองรูปภาพบนฝาผนังบ้าน แล้วกัดฟันพูดพร้อมน้ำตาที่เริ่มหยดลงที่หลังมือ ที่มือกำกางเกงที่สวมใส่แน่น เหมือนว่ามันจะช่วยให้สกัดกั้นอารมณ์ที่มันสั่นไหว ความรู้สึกคับแน่นที่อกมันส่งผลให้น้ำตาที่พยายามกดกลั้น รอยยิ้มที่กำลังฉาบบนใบหน้า มันยากเย็นเหลือเกิน ที่จะยิ้มไปพร้อมกับน้ำตาที่สกัดกั้นไว้ เธอจึงเช็ดน้ำตาและยิ้มออกไป
"นิดเปล่าขี้แยนะค่ะ นิดแค่บ่อน้ำตาตื้น ก็คนมันดีใจที่ได้กลับมาที่บ้านนี่หน่า งั้นนิดไปหาอะไรทานดีกว่า " เธอเดินตรงไปที่ครัว ครัวที่ตอนนี้ไม่มีผู้หญิงที่ขี้บ่นด้วยความรัก เธอทำอาหารอร่อยที่สุดในโลกและสักวันตัวนิดก็ฝันที่จะเป็นแบบเธอ
"แม่ค่ะ ทุกวันนี้นิดทำอาหารทานเองเป็นแล้วนะค่ะ อยากให้แม่เห็นจังค่ะ " สายตาเธอจ้องมองไปที่เครื่องครัวที่ครั้งหนึ่งเธอเคยคิดว่ามันทำอะไรก็อร่อย แต่ป่าวเลยที่มันอร่อยคือตอนที่แม่ทำมันและทำมันด้วยความรัก รอยยิ้มของแม่จะมีเสมอตอนที่ทุกคนทานมันด้วยสีหน้ามีความสุข
และวันนั้นเธอทำอาหารง่าย สามสี่อย่าง ผัดผักรวม ไข่เจียว และแกงจืด เธอก็ไม่ลืมที่จะแบ่งบางส่วนไปให้ป้าน้อย เธอตักแกงจืดใส่ชามใหญ่ เพราะดูแล้วน่าจะทานง่ายเหมาะกับป้าน้อยและเจ้านัทที่ไม่รู้ว่าชอบทานอะไร และก็ไม่ลืมหยิบพวกผลไม้ไปฝากพวกข้างๆบ้านอีกด้วย
"ป้าน้อยค่ะ ป้าน้อย นัท " เธอมาหยุดยืนอยู่หน้าบ้าน ถัดจากหลังบ้านเธอมา เป็นบ้านสองชั้นข้างล่างทำด้วยปูน ข้างบนทำด้วยไม้ หลังคากระเบื้องสีฟ้าสวย แล้วสักพักก็มีคนมาเปิดประตู เธอเหลือบมองแล้วเตรียมฉีกยิ้ม แต่แล้วคนที่เปิดประตูกลับเป็นคนที่เธอไม่คุ้นเลย จะว่าเป็นเจ้านัทก็ดูจะมีอายุกว่า
" มาหาใครอ่ะ " ใบหน้าของชายหนุ่มมีท่าทีสงสัยและมองสังเกต หญิงสาวก็ได้คำตอบว่าเค้าคงไม่ใช่เจ้านัทแน่นอน
" มาหาป้าน้อยจ้ะ เอาแกงจืดมาให้จ้ะ " ชายหนุ่มพยักหน้า และยื่นมือมารับแกงจืดในมือเธอ
"เดี๋ยวผมเอาเข้าไปให้ เข้ามาข้างในก่อนสิ " ชายหนุ่มเปิดประตูให้กว้าง แล้วเลี่ยงไปอีกทางให้เธอเดินเข้าไป เธอเดินตามเข้าไป เขาจึงปิดประตูตามหลังเบาๆ แล้วเดินตามเข้ามาอีกที
"อ้าว นิด พอดีเลยว่าจะให้ เจ้านนท์ไปตามมากินข้าวพร้อมป้าเลย ลูก " หญิงชราละมือจากการเตรียมสำรับ เดินเข้ามาจูงมือเธอเบาๆให้ไปร่วมโต๊ะที่มีสำรับอาหารวางอยู่บนโต๊ะสีขาวเก้าอี้สีขาว
"คือ ป้าน้อยค่ะนิดแวะเอาแกงจืดมาให้ค่ะ แล้วนิดว่าไม่รบกวนดีกว่าค่ะ " เธอมองไปที่ชายหนุ่มที่ถือชามแกงจืดเข้ามาวางไว้ที่โต๊ะ
"ป้าครับ นี่ครับแกงจืด "ชายหนุ่มนั่งลงบนเก้าอี้ แล้วมองมาที่เธอ
"อ้อ นี่เจ้านนท์นะ หนูคงจำกันไม่ได้หรอกเคยเล่นด้วยกันสมัยเด็กๆนู้นล่ะ ลูก " เธอพยักหน้ายิ้มๆ ให้ป้าน้อย
"นี่ผลไม้ค่ะ ฝากให้ลุงๆป้าๆบ้านข้างหน่อยนะค่ะ หนูเอาไปให้เองคงไม่สะดวก ขอบคุณนะค่ะ หนูขอตัวกลับเลยล่ะค่ะ " ไม่ใช่เธอไม่อยากทานข้าวกับป้าน้อย แต่เพราะนานแล้วที่เธอไม่ได้กินข้าวพร้อมหน้าครอบครัว ถึงแม้จะเหลือแค่เธอคนเดียวบนโต๊ะอาหาร แต่มันก็ทำให้อบอุ่นเมื่อทานอยู่ในบ้านของตัวเอง
"จ้า ป้าเข้าใจ งั้นให้เจ้านนท์เดินไปส่งนะ มืดค่ำแล้วด้วย นนท์ไปส่งนิดเค้าหน่อยนะลูก "เธอพนมมือไหว้ แล้วหันเลยมองไปยังชายหนุ่ม ชายหนุ่มก็พยักหน้าแล้วเดินนำหน้าเธอออกไป
"บ้านคุณอยู่ข้างหน้านั่นใช่ไหม " ชายหนุ่มเอ่ยถามขณะที่เดินเคียงข้างกันไป
"อือจ้ะ หลังนั้นแหล่ะ " ชายหนุ่มเหลือบมองก็เห็นแววตาเศร้าสร้อยของหญิงสาว
"บ้านหลังนั้น ผมคิดว่ามันน่าอยู่มาก มันมีกลิ่นไอของความอบอุ่น และความรัก อย่างน้อยมันก็มาจากตัวคุณ " เธอชะงักหันไปมองชายหนุ่มที่ชะงักรอเธอเช่นกัน
"ใช่จ้ะ บ้านหลังนี้นิดรักมันมาก มันเป็นความทรงจำสุดท้ายที่นิดมี " พูดจบก็เดินมาถึงหน้าบ้านพอดี ชายหนุ่มจึงหยุดยืนรอให้หญิงสาวเข้าไปในบ้าน
"ไม่ต้องชวนผมหรอก เข้าบ้านเถอะเดี๋ยวมันจะดูไม่ดี " เธอเปิดประตูแล้วหันหน้าไปยิ้มให้เค้านิดๆ เค้าหันหลังเตรียมเดินกลับ
"ขอบคุณจ้ะ ที่มาส่ง " ชายหนุ่มพยักหน้าแล้วเดินจากไป แล้วเธอก็เดินไปยังครัวแล้วนำสำรับอาหารที่จัดไว้มานั่งที่เก้าอี้หวายตัวประจำของพ่อ แล้วเอาโต๊ะเล็กมาตั้งไว้ เพื่อวางสำรับอาหาร แล้วเดินไปเปิดทีวีเครื่องเก่าและเครื่องสุดท้ายที่เราใช้ร่วมกัน ตักข้าวเข้าปากไปน้ำตาก็หยดไป
"รู้ไหมค่ะ ว่านิดพึ่งรู้ว่าอาหารมันอร่อยวันนี้วันแรก นิดพึ่งรู้ว่าการดูทีวีมันมีความสุขวันนี้วันแรก หลังจากวันนั้นมา รู้ไหมค่ะนิดพึ่งรู้สึกว่านิดอุ่นใจเมื่อมาอยู่ที่นี่ ทุกอย่างยังคงเหมือนเดิม แม้แต่นิดก็ยังไม่เปลี่ยนไป " สายตาเธอเริ่มพล่าเบลอ เพราะม่านน้ำตาที่เอ่อล้น มันพึ่งรู้สึกมีความสุขกับการได้จดจำ และมันพึ่งรู้สึกทรมานเมื่อมันไม่มีอยู่จริง
ทำไมมันดราม่าทั้งที่ตอนคิดนี้แบบเป็นแนวรักหวานชื่น (ไว้ใจไม่ได้จริงๆ ) ขอบคุณทุกท่านที่มาอ่านนะค่ะ ระหว่างรอก็ซดมาม่าไปก่อน 5555 (เกี่ยว)แล้วพบกันใหม่ตอนหน้าค่ะ
คำยืนยันของเจ้าของเรื่องสั้น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
10 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ