เรื่องไม่เป็นเรื่อง

10.0

เขียนโดย budsaracome

วันที่ 21 มีนาคม พ.ศ. 2558 เวลา 12.09 น.

  1 ตอน
  6 วิจารณ์
  3,500 อ่าน
แชร์เรื่องสั้น Share Share Share

 

1) ชาเมล่อนกับเงิน 40 บาท( เรื่องนี้ใครผิด ..?)

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

 

 ในวันที่อากาศร้อนระอุและเป็นวันที่เหน็ดเหนื่อยอย่างมากมายจากการทำงาน แค่นั้นยังไม่พอ ยังต้องฟ่าฟัน

 

กับการจราจรในเมืองหลวงที่ต้องใช้สมาธิและความอดทนอย่างมากมาย ไม่ให้ตัวเองต้อง

 

สติแตกกับเพื่อนร่วมทางที่ดูเหมือนว่าจะรีบร้อนไม่แพ้กันถึงได้ต้องแซงไป แซงมา

 

ปาดไป ปาดมา โดยที่ไม่ยอมเปิดไฟเลี้ยวบอกกันล่วงหน้าสักหน่อย ให้ทำใจแตะเบรคได้ทัน

 

"   เฮ้ย!!!!  ไอ้......฿&%"'฿'#"'':;-;/:'  " 

 

ชายหนุ่มสบถออกมาสารพัดยกมาทั้งสวนสัตว์ เพื่อระบายอารมณ์ ไม่อย่างนั้นคงจะได้จอดรถฉะ

 

กันให้มันรู้แล้วรู้รอดไปเลย   สงครามประสาทก็ยังคงดำเนินต่อไปอีกเกือบๆชั่วโมง จนชาหนุ่ม

 

ชักจะเริ่มหงุดหงิด เวียนหัวและรู้สึกว่าของเสียในรูปแบบน้ำของเขามันจะเกินลิมิตที่เขาจะทนได้แล้วเขาจึงตัดสินใจ เลี้ยวรถเข้าไปในห้างสรรพสินค้าชื่อดังแห่งหนึ่ง และรีบ

 

วนไปตามลานจอดรถเพื่อตามหาที่จอดรถที่ช่างหายากไม่ต่างจากเงินเลย ช่องทุกช่องถูก จอไป

 

ด้วยรถหลากหลายสี หลากหลายยี่ห้อ มีบางคันก็สวยซะจนสะดุดตา แต่บางคันนี่ก็น่าจะเอาไป

 

ปลูกผักชีน่าจะดีกว่า แต่ก็นะในยุคสมัยที่เศรษฐกิจฝืดเคือง น้ำมันก็แพง เช่นนี้มีรถอะไรที่มัน

 

เหยียบแล้วมันวิ่งได้ก็ใช้ๆไปเหอะ

 

และแล้วก็เหมือนพระเจ้าจะเห็นใจเขา จึงได้ประทานที่จอรถ

 

ที่อยู่ติดกับประตูทางเข้าห้างให้เข้าพอดิบพอดี เมื่อชายหนุ่มเห็นดังนั้น จึงเปิดไฟกระพิบ

 

และถอยรถออกห่างจากรถที่กำลังจะออก เพื่อเป็นสัญญาณว่า ' ผมจะจอดที่คุณนะ '  ชายหนุ่ม

 

ตั้งหน้าตั้งตาที่จะเหยียบคันเร่งเพื่อเข้าจอด แต่ดูเหมือนว่ารถที่ทำท่าจะออกมะกี้จะยังไม่เสร็จ

 

ธุระสักที คนในรถที่น่าจะเป็นผู้หญิงยังคงก้มๆเงยๆอยู่ในรถ ซึ่งชายหนุ่มก็พยายามใจเย็นที่จะรอ

 

เพราะที่ตรงนี้ดูเหมือนจะเพอร์เฟคที่สุดแล้ว และแล้วก็ผ่านไปหลายนาทีกว่าที่คุณเธอจะ

 

เยื้องย่างออกไปจากช่องจอดได้ทำเอาชายหนุ่มชักจะอารมณ์เสียในความลีลา ของคุณเธอ

 

แต่เพราะเห็นว่าเป็นผู้หญิง หรอกนะ ปล่อยไปก็ได้

 

หลังจากที่เขาถอยรถเข้าไปในช่องจอดแล้ว เขาจึงรีบพุ่งตัวออกจากรถแล้วรีบวิ่ง

 

อย่างรวดเร็วเพื่อไปเข้าห้องน้ำทำภารกิจกำจัดของเสียที่เขาเก็บสะสมมานาน จนตอนนี้

 

มันเหมือนว่าขึ้นมาสูงถึงคอเขาเสียแล้วมั้งเนี่ย

 

หลังจากที่ทำธุระส่วนตัวเสร็จเรียบร้อยชายหนุ่มก็เดินยิ้มหน้าบานออกมาจากห้องน้ำเพราะรู้สึก

 

สบายอกสบายใจ อย่างบอกไม่ถูก และตอนนี้เขาก็พร้อมที่จะไปเผชิญสงครามบนท้องถนนได้

 

แล้ว แต่เนี่องจากที่เขาสูญเสียน้ำไปมาก ทำให้เขารู้กระหายน้ำขึ้นมา เขาจึงตัดสินเดินขึ้น

 

บันไดเลี่อนเพื่อจะไปยังฟู๊ดคอร์ด เพื่อหาน้ำกินสักหน่อย  พอขึ้นมาถึงชั้นหกที่เป็นฟู๊ดคอร์ด

 

ของที่นี่เขาจึงเดินทอดน่องไปตามทางเดินเพื่อตามหาร้านขายน้ำที่ใช้เงินสดซื้อได้โดยไม่ต้อง

 

แลกคูปองให้มันยุ่งยากวุ่นวาย เพราะเขาจะรีบกลับบ้าน และเดินมาสักพักเขาก็ไปสะดุดตากับ

 

ร้านๆนึงที่ห่างออกจากบริเวณฟู๊ดคอร์ดเล็กน้อย เป็นร้านที่ขายน้ำขวดและชายี่ห้อต่างๆมากมาย

 

และมีคุณป้าวัยน่าจะห้าสิบหน่อยๆนั่งอยู่หน้าตู้แช่ ชายหนุ่มจึงรีบกึ่งเดินกึ่งวิ่งเข้าไปหา

 

" ป้าครับ ร้านนี้ใช้เงินสดได้ไหมครับ "

 

พอชายหนุ่มเดินมาถึงจึงถามคุณป้าคนขายอย่างสุภาพสุดๆ

 

" ไม่ต้องหรอกจ๊ะ "

 

คุณป้าตอบกลับมาอย่างเป็นมิตร

 

" งั้นป้ามีชาเมล่อนไหมครับ "

 

ชายหนุ่มถามถึงชาที่เขาชอบและกินอยู่เป็นประจำ

 

" ชาเมล่อนไม่มีหรอกลูก เหนื่ิอยๆมาแบบนี้เอาเย็นๆไปกินละกันนะ "

 

พอคุณป้าพูดจบก็หันไปเปิดตู้แช่ด้านหลังแล้วหยิบเย็นๆที่แกบอกส่งมาให้ชายหนุ่ม

 

" ขวดนี้ไม่ค่อยเย็นเลยครับ มีเย็นกว่านี้มั้ย "

 

พอชายหนุ่มรับมาถือปรากฏว่ามันไม่ค่อยเย็นเท่าไหร่จะส่งคืนไปให้คุณป้าเพื่อขอเปลี่ยนที่มันเย็นกว่า

 

" มี๊ !!!! "

 

คุณป้าตอบกลับด้วยเสียงสูงปรี๊ดแล้วหันกลับไปเปลี่ยนอีกอีกขวดที่มันเย็นกว่ามาส่งให้ชายหนุ่ม

 

" เท่าไหร่ครับป้า "

 

พอชายหนุ่มรับมาแล้วถือแล้วรู้สึกได้ถึงความเย็นแล้ว จึงถามราคาคุณป้าพร้อมกับมือทึ่ล้วงลงไปในกระเป๋ากางเกงเพื่อเตรียมหยิบเงิน

 

" ยี่ ห้าบาท ลูก "

 

พอรู้ราคาแล้วชายหนุ่มจึงดึงเศษเงินจากกระเป๋าแต่ในกระเป๋าเขาตอนนี้มีแต่แบงค์ยี่สิบอยู่

 

สามใบไม่มีเหรียญ เขาจึงวางแบงค์ยี่สิบสองใบไว้บนโต๊ะ

 

พอคุณป้าคนขายเห็นแบงค์ยี่สิบสองใบนั้นเธอก็ทำหน้างงๆแล้วหยิบกระเป๋าใส่เหรียญของตัว

 

เองมาเปิดแล้วเทมันลงบนโต๊ะ แล้วหยิบเหรียญขึ้นมานับไปนับมา เหมือนทอนไม่ถูก

 

ทำให้ชายหนุ่มที่ยืนมองอยู่รู้สึกแปลกใจ และคิดว่าคงมีอะไรผิดปรกติ

 

" ป้าครับตกลง ชาขวดนี้มันเท่าไหร่ "

 

ชายหนุ่มตัดสินใจถามราคาอีกรอบเพื่อจะได้ช่วยแกคิดว่าควรจะทอนเท่าไหร่ดี

 

" สิบเจ็ด "

 

ป้าแกตอบด้วยน้ำเสียงที่บ่งบอกว่าไม่สบอารมณ์เท่าไหร่

 

" อ้าวว !! สิบเจ็ดเหรอครับ "

 

พอชายหนุ่มได้ฟังราคาที่แท้จริง เขาจึงดึงแบงค์ยี่สิบที่วางอยู่บนโต๊ะกลับมาใบนึง เพราะรู้แล้วว่าป้าแก งง อะไร และพอคุณป้าเห็นว่าเขาดึงเงินกลับเธอยิ่งทวีความงงเข้าไปใหญ่ คิ้วของคุณป้าเริ่มผูกโบว์แล้วมองหน้าชายหนุ่มแบบงงๆ

 

" ตกลงเธอให้เงินมาเท่าไหร่กันแน่ " 

 

คุณป้าริ่มขึ้นเสียงใส่ชายหนุ่ม ทำให้คนที่ถูกตวาดใส่เริ่มอารมณ์ไม่ดีขึ้นมามั่ง

 

" ก็เมื่อกี้ผมฟังเป็นยี่สิบห้าบาท ผมเลยให้แบงค์ยี่สิบไปสองใบไงครับ "

 

ชายหนุ่มชักอารมณ์ขึ้นมั่งถึงเขาจะฟังผิดจริงๆมันก็ไม่น่าจะทอนยากอะไรนี่นาก็แค่ทอนเขากลับมายี่สิบสามก็หมดเรื่อง

 

" มีเศษสองบาทมั้ย "

 

คำถามถามของคุณป้ายิ่งเพิ่มความงงให้กับชายหนุ่มอีกหลายเท่าเพราะเค้าไม่เข้าใจว่าทำไม

 

ป้าแกต้องมาขออีสองบาททั้งๆที่เขาก็ให้เกินไปแล้วนี่นา ส่วนคุณป้ามองเห็นเครื่องหมายหมายคำถามขึ้นอยู่บนหน้าชายหนุ่ม ยิ่งทำให้หงุดหงิดเพิ่มอีกหลายเท่าเพราะเธอก็คิดว่าเธอจะทอนให้ห้าบาทเลยถามว่ามีสองบาทมั้ย

 

ต่างคนก็ต่างไม่เข้าใจเหตุผลของอีกฝ่าย

 

" แล้วตกลงต้องทอนเท่าไหร่ .?"

 

คุณป้าถามอย่างหมดความอดทน

 

" ก็ให้สี่สิบก็ต้องทอนยี่สิบสามสิ "

 

ชายหนุ่มตอบกลับไปอย่างรำคาญเพราะคิดว่าคุณป้าถามว่าถ้าให้สี่สิบต้องทอนเท่าไหร่

 

แต่คุณป้ากลับคิดว่าชายหนุ่มคิดจะโกงเธอเลยโมโหใหญ่ 

 

" ต้องทอนสามบาทต่างหากหล่ะ "

 

คุณป้าหยิบเงินสามบาทแล้วปาลงบนโต๊ะอย่างแรง

 

" แปะ!!! "

 

ชายหนุ่มเห็นป้าทำแบบนี้เลยชักไม่พอใจคว้าเงินสามบาทแล้วเดินออกไปทันที

 

 

 

(    ตกลงเรื่องนี้ใครผิด....????   )

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

คำยืนยันของเจ้าของเรื่องสั้น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
10 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา