ท้า
เขียนโดย หนอนตัวกลม
วันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2557 เวลา 01.47 น.
แก้ไขเมื่อ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2557 01.56 น. โดย เจ้าของเรื่องสั้น
6) ท้า (ตอนจบ)
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ“ฟุ่บ!!!” เงาดำทะมึนกระโดดลงมาจากสะพานพุ่งมาที่เจมส์ที่กำลังนอนอยู่ เจมส์ลุกขึ้นพร้อมตวัดมือไปมาอย่างรวดเร็ว
“โอ๊ยยยยยยย!!!” ทั้ง 3 คนผงะเล็กน้อย
“มึงเป็นเหี้ยอะไรอีกว่ะ!!!” เต้ตะโกนขึ้น
“พี่ไม่เห็นหรอ!!!” เจมส์พูดอย่างหื่นกระหอบพร้อมกับมองไปรอบตัว ซึ่งก็ไม่เห็นเงาสีดำนั้นแล้ว
“มึงเห็นไรว่ะเจมส์…” ตั้มพูด เจมส์มองทุกคนด้วยสีหน้าที่ไม่สู้ดีนัก นิคสบตากับเจมส์พร้อมกับส่ายหัวเล็กน้อยด้วยใบหน้าที่ไม่สู้ดีเช่นกัน ถึงนิคจะไม่เห็นอะไร แต่ดูเหมือนเธอจะเชื่อว่าเจมส์เห็นร้อยเปอร์เซ็นต์
“พวกมึงจะมุขหรือจะเหี้ยอะไรกูไม่รู้! แต่กูอยากรีบถ่ายให้เสร็จ! กูจะได้กลับไปนอนสักที!” เต้พูด
ทั้ง 3 มองหน้ากัน ตอนนี้ดูเหมือนตั้มจะเชื่อนิคและเจมส์ขึ้นมาแล้ว
“และถ้ามึงยังเล่นกันแบบนี้เมื่อไหร่งานจะเสร็จ!”
“คือผม…” เจมส์ไม่รู้จะอธิบายยังไง เพราะเรื่องที่เขาพูดเป็นความจริงทั้งหมด
“งั้นเอางี้!” เต้หันหน้าไปพูดกับสะพานที่ตอนนี้ปกคลุมไปด้วยความมืด ทั้งๆที่ตอนแรกมันก็ดูเหมือนสะพานทั่วๆไป แต่ตอนนี้มันกลับดูน่าขนลุก
“ถ้ามึงมีอยู่จริง! เดี๋ยวกูเนี่ย! จะก้มมองลอดใต้หว่างขา... และถ้ามึงมีจริงๆนะ! มึงออกมาเลย! แล้วไม่ต้องไปโผล่ไกลๆนะ! มึงมาใกล้ๆกูเลย! กูอยากเห็น!” หลายครั้งที่ผมรู้สึกว่าเต้พูดแรงและดูใจร้อนไปหน่อย แต่ครั้งนี้เขาดูใจร้อนมากที่สุด… เต้กดอัดกล้อง และก้มลงทันที
“เห็นมะ! กูไม่เห็นจะเห็นอะไรเล…”
“ตุบ!” เงาดำร่างคนตกมาจากสะพานเชื่อมอย่างรวดเร็ว เต้ลุกขึ้นและหันหลังไปมองทันที… ร่างนั้นค่อยๆลุกขึ้น จังหวะการเคลื่อนไหวของร่างกายของร่างนั้นแลดูเจ็บปวด
“กูอยู่ของกู… กูก็ทรมานมากพออยู่แล้ว…”
ภาพข้างหน้าที่อยู่ห่างจากเราไม่เกิน 3-4 เมตร ค่อยๆยืดตัวขึ้น และแน่นอน... ทั้ง 4 คนเห็นภาพนั้นอย่างชัดเจน
“แต่มึงยัง… มึงยัง…”
ร่างนั้นวิ่งพุ่งเข้าใส่ทั้ง 4 อย่างรวดเร็ว ทั้ง 4 คนวิ่งอย่างไม่คิดชีวิต พวกเขาเคยไปถ่ายรายการมาก็หลายที่… เสียงหรือเหตุการณ์แปลกๆอะไรก็ไม่เคยเจอ แต่ครั้งนี้มันชัดเจน…
“เฮ้อๆๆ” เสียงหอบของทั้ง 4 ที่แสดงถึงความเหนื่อยล้ากับการวิ่ง ณ ตอนนี้ทั้ง 4 ได้ออกจากมหาวิทยาลัยมาแล้ว ซึ่งมันแสดงให้เห็นภาพความแตกต่างเล็กน้อย... ข้างนอกนี่พวกเขาเริ่มเห็นผู้คนเดินไปมา ซึ่งมันก็ช่วยบรรเทาอาการกลัวได้เล็กน้อย ทั้ง 4 มานั่งพักที่ป้ายรถเมล์
“ปะกี้มันตัวไรว่ะ” เต้พูดขึ้น
“ไอ้เต้!” ตั้มไม่พูดสิ่งใดมากไปกว่านั้น
“เห้ยพี่… รถเมล์มาแล้ว” เจมส์ชี้ไปที่รถเมล์ที่กำลังมาถึง ตั้มลุกขึ้นไปโบก
ทั้ง 4 ขึ้นมาบนรถ เขาเลือกที่จะนั่งในโซนเบาะคู่ โดยที่ตั้มนั่งกับเต้ ส่วนนิคนั่งกับเจมส์… ไม่มีบทสนทนาใดๆเกิดขึ้นสักพักใหญ่ ตั้มสะกิดเต้ให้เป็นทำนองว่ามึงควรขอโทษนิคและเจมส์ที่นั่งอยู่ข้างหลัง
“เห้ย! นั่นน้องที่เป็นพนักงานเซเว่นหนิ” ตั้มพูดพร้อมกับชี้ไปที่เบาะที่อยู่ถัดไปพอสมควร
“เดี๋ยวกูเอาตังค์ไปคืนเขาก่อนแล้วกัน” ตั้มลุกออกจากที่นั่ง แต่ก่อนจะไปตั้มก็ก้มลงกระซิบข้างหูเต้ “ยังไงคราวนี้มึงก็ผิดนะ…” เต้พยักหน้ารับเล็กน้อยก่อนที่ตั้มจะเดินออกไป
“เอ่อ… คือ…”
“เต้… กูกับเจมส์ตัดสินใจว่าจะไม่ทำรายการต่อแล้วนะ” เต้หันไปมองนิค ถ้าเป็นครั้งอื่นเขาคงจะถามว่าทำไม แต่ครั้งนี้มันไม่ใช่ เต้หันกลับมาพร้อมกับมองไปที่กล้องในมือ
“ที่กูมาทำรายการนี้กับมึง… เพราะกูอยากรู้ว่าผีมันมีจริง… และตอนนี้กูก็รู้แล้ว… เพราะฉะนั้น…”
“อืม… กูเข้าใจ… ยังไงกูก็ขอโทษพวกมึงด้วยและกัน”
“ตรู๊ด… ตรู๊ด…” เสียงโทรศัพท์ของเต้ดังขึ้น เขาขยับตัวเล็กน้อยเพื่อหยิบมันออกมาจากกระเป๋ากางเกง
“เอ่อ… น้องครับ” ตั้มพูดพร้อมสะกิดสาวร่างน้อยในชุดเซเว่น
“อ้าว… พี่คนปะกี้หนิ” พนักงานสาวพูดขึ้น “แล้วเพื่อนพี่อ่ะค่ะ”
“นั่งกันอยู่ข้างหลังนู่นอ่ะ” ตั้มชี้ไปที่จุดที่เขาเดินมา พนักงานเซเว่นมองผ่านตั้มไป พร้อมกับพยักหน้าเล็กน้อย
“อ่ะ… นี่… พี่เอาเงินมาคืน” พนักงานสาวทำหน้าสงสัยเล็กน้อย “คือปะกี้เหมือนน้องถอนตังค์มาเกินอ่ะ”
“หืมม… หนูว่าไม่น่าเกินนะพี่”
“…ก็พี่ให้แบงค์ร้อยไป”
“อ่าหะ...”
“พี่ซื้อขนมห่อใหญ่ 3 ถุง กับไอติมอีก 1 อัน ก็น่าจะประมาณ 80 แต่น้องถอนมาให้พี่มาตั้ง 60 แหนะ” พนักงานสาวทำหน้างงเล็กน้อย
“นั่นใช่คุณเต้รึเปล่าค่ะ” เสียงจากปลายสายเป็นเสียงของผู้หญิงที่ดูมีอายุ
“อ้อ ครับ”
“ค่ะ คือว่า… เบอร์นี้เป็นเบอร์ล่าสุดที่น้องเขาโทรออกอ่ะคะ แล้วฉันหาแล้วไม่เจอเบอร์พ่อหรือแม่ของน้องเขาเลย คุณใช่ญาติของ นายอดิสรณ์ มงคลวาณิช รึเปล่าค่ะ”
“อ้อ ครับ… เป็นเพื่อนกันครับ” ถ้าจำไม่ผิดนั่นมันชื่อจริงของไอ้เจมส์นี่หว่า
“จะบ้าหรอพี่ พี่ซื้อขนมไปแค่ 2 ถุงเองนะ ไม่มีไอติมสักหน่อย” ตั้มขมวดคิ้ว
“บ้า… พี่มากัน 4 คน… พี่จำได้ว่าพวกพี่ซื้อกันไปคนละอย่างนะ”
“ห๊ะ… พี่มากันแค่ 2 คนไม่ใช่หรอค่ะ”
“จะบ้าหรอน้อง ก็นั่นไง เพื่อนพี่…” ตั้มหันไปชี้ให้พนักงานสาวดู แต่สิ่งที่เขาเห็นมีเพียงเต้ที่นั่งคุยโทรศัพท์อยู่แค่คนเดียว
“ค่ะ คือว่าต้องขอแสดงความเสียใจด้วยนะค่ะ… คือน้องเขาประสบอุบัติเหตุรถเมล์พลิกค่ำ… และตอนนี้ก็เสียชีวิตแล้วคะ”
“จะบ้าหรอพี่ พี่เล่นอะไร… ก็เพื่อนผม…” เต้หันไปทางด้านหลัง
ภาพที่เต้เห็นต่างออกไปจากที่ควรเป็น นิคที่นั่งกำลังนั่งก้มหัวพร้อมกับกะโหลกที่ยุบลงไปอย่างเห็นได้ชัด และใบหน้าของเจมส์ที่เปื้อนเลือดพร้อมกับกระพุ้งแก้มที่ฉีกขาด
“ผมบอกพี่แล้วใช่มั้ย… ว่าผีมีอยู่จริง…”
คำยืนยันของเจ้าของเรื่องสั้น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ