ท้า

5.0

เขียนโดย หนอนตัวกลม

วันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2557 เวลา 01.47 น.

  6 ตอน
  3 วิจารณ์
  9,230 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2557 01.56 น. โดย เจ้าของเรื่องสั้น

แชร์เรื่องสั้น Share Share Share

 

2) ท้า (2)

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก

“เฮ้อ… มอเงียบอย่างกับปิดเทอม นี่จะไม่มีใครสักคนมาให้กูสัมภาษณ์จริงหรอว่ะเนี่ย” เต้ช่างกล้องบ่นพร้อมกับหนวดไหล่ตัวเองไปด้วย ทั้ง 4 คนเดินผ่านตึกต่างๆนานาที่เงียบสงัดราวกับเป็นตึกร้าง มีเพียงเสียงนกกับลมที่พัดใบไม้ให้ครูดไปกับพื้นทางเดิน “มึงเห็นลิฟต์ที่ตึกนั้นป่ะ” ตั้มพูดพร้อมกับชี้นิ้วไปที่ลิฟต์ของตึกๆหนึ่งซึ่งค่อนข้างเก่า ทั้ง 3 มองหน้าตั้มพร้อมกับพยักหน้า “กูรู้จักรุ่นพี่คนนึงที่เขาจบคณะเนี่ย เขาเล่าให้ฟังว่า เมื่อก่อนอ่ะ ลิฟต์ตัวนี้เคยตกลงมาจากชั้น 9 เว้ย แล้วก็มีคนตายด้วย”“เห้ย!” ฝ่ามือหนาๆพุ่งเข้ามาแตะที่ไหล่ของตั้ม ทั้ง 4 คนสะดุ้งเฮือก หลับตาปี๊ “อย่ามาหลอก มาหลอนผมเลยคร้าบบบ ผมสัญญาว่าเดี๋ยวผมจะทำบุญไปให้” ตั้มพูดด้วยเสียงสั่นกลัว พร้อมกับพนมมือไหว้“เห้ยๆๆ กูยังไม่ตาย ไม่ต้องมาทำบงทำบุญให้กู” เสียงหนาทุ้มพูดขึ้นทั้ง 4 คนค่อยๆลืมตา “โธ่ ลุงยาม ตกใจหมดลุง”“พวกเอ็งมาทำไรกัน กลับบ้านกลับหอไปได้แล้ว”ทั้ง 4 คนมองหน้ากันเลิกลัก ครั้งที่แล้วที่ไปถ่ายอีกที่หนึ่ง พอเขารู้ว่ามาถ่ายรายการผี โดนยามด่าซะตั้งนาน แถมคราวนั้นก็ต้องยกกองไปอีก “เอ่อ… คือ…”“คือผมลืมโทรศัพท์ไว้ที่ตึกวิศวะเคมีอ่ะครับ” ยามร่างใหญ่มองหน้าพร้อมขมวดคิ้วราวกับไม่ค่อยอยากจะเชื่อคำพูดของเต้สักเท่าไหร่“จริงๆนะครับ ถ้าลุงไม่เชื่อไปเอาโทรศัพท์กับผมก็ได้นะ”“เอ่อ… เอ็งว่าตึกภาคอะไรนะ”“เอ่อ… วิศวะเคมีครับ”“ห๊ะ… อือ… ระระรีบไปเอาแล้วก็รีบกลับก็แล้วกัน ละละละลุงต้องไปเฝ้าที่ป้อมต่อแล้ว” ลุงยามพูดด้วยน้ำเสียงสั่นเทา เหมือนจะกลัวที่ได้ยินชื่อตึกนั่น พูดจบลุงยามก็เดินกลับไป“ไอ้เชี้ย เกือบแล้วมึงงง” ทั้ง 4 คนถอนหายใจกันเฮือกใหญ่“ติ๊ด” ทั้ง 4 มองไปที่ลิฟต์ ที่จู่ๆก็มีสัญญาณไฟเหมือนมีคนเรียก ลิฟต์ค่อยๆแสดงเลขชั้นที่ขึ้นไปเรื่อยๆจนไปหยุดที่ชั้น 9 จากนั้นก็ค่อยๆเลื่อนลง 8 7 6 5 4 3 2 แล้วประตูก็ค่อยๆเปิดออก สาวผมแดงหอบหนังสือหนาหลายเล่มพร้อมกับเดินออกมาจากลิฟต์และถอนหายใจเฮือกใหญ่ เขาดูเหมือนโล่งอกที่ลงจากลิฟต์โดยไม่เจออะไร
“ตึก ตึก ตึก ตึก ตึก เฮ้อ เฮ้อ…” เสียงวิ่งสุดกำลังปนเสียงหอบของเจมส์ที่วิ่งโดยไม่คิดชีวิต “เชี้ยเจมส์ มึงหยุดเลยๆ วิ่งทำเชี้ยไรเนี่ย”“ผีเปล่าว่ะพี่”“ผีพ่อมึงดิ คนเขาก็มาทำงานดึกๆเงี้ยแหละ โปรจงโปรเจค มึงเนี่ยกลัวผีแล้วยังมาทำรายการผีอีกนะมึง”“ก็พี่นั่นแหละบังคับผม ไอ้พี่ตั้ม”ตั้มมองหน้านิคกับเต้พร้อมยิ้มแหยะๆ“อ้าวหรอ” “เออครับ!” เจมส์ตอบ“กูว่าเรามาเปลี่ยนเรื่องคุยกันดีกว่าเนอะ” ตั้มมองหน้านิคและเต้เหมือนจะหาผู้ช่วย ทั้ง 2 ยิ้มเล็กน้อย “เอ่อ… แล้วที่เราจะมาถ่ายนี่เรื่องมันเป็นยังไงนะ” ตั้มถามพร้อมมองหน้าไปที่นิค หน้าที่ของนิคคือการค้นหาเรื่องเล่าจากอินเทอร์เน็ต และคอยดูแลทุกๆคนในกลุ่ม“ก็… มันมีผู้หญิงคนนึง เรียนอยู่ภาควิศวะเคมีเนี่ยแหละ แล้วทีนี้เหมือนแบบ ได้เกรดน้อยไรเงี้ย ก็เลยฆ่าตัวตายโดยการแขวนคอตรงกลางสะพานเชื่อมตึกวิศวะเคมี”“โหดสาดดดด” ตั้มลากเสียงยาว“เออ… นั่นแหละ แล้วคือกูก็ไม่รู้หรอกว่าแม่งเรื่องจริงป่าว แต่เขาบอกว่า ทุกคนที่เรียนที่เนี่ย ไม่มีใครไม่รู้จักเรื่องนี้ กูเลยอยากหาคนมาสัมภาษณ์แบบมายืนยันไง แต่แม่งไม่มีสักคน”“มึงเลยไอ้เจมส์ ถ้ามึงไม่วิ่งมา คนที่ลงมาอาจจะเป็นนักศึกษาก็ได้ มึงเนี่ยแม่ง” เต้ตวาด“เออ! ผมขอโทษ”“นั่นไง สะพานเชื่อมตึก” นิคชี้นิ้วไปที่สะพานเชื่อมเล็กๆที่เชื่อมระหว่างตึก 2 ตึก ที่อยู่ด้านบนหัวของทั้ง 4 ไม่มากนัก มันเป็นสะพานเหล็กเล็กๆที่เชื่อมระหว่างตึกครุศาสตร์กับตึกของภาควิศวะเคมี ซึ่งอยู่สูงไม่มากนักเพราะเป็นการเชื่อมที่ชั้น2 เอง ดูเผินๆ สะพานเชื่อมนี้ก็เหมือนสะพานเชื่อมทั่วไป ดูไม่น่ากลัวเลยสักนิด“เห้ย! ตรงนั้นมีเซเว่นด้วยว่ะ ลองไปถามพนักงานเขาดูมะ”“เออ… เอาดิๆ ผมอยากกินไอติมพอดี” เจมส์พูด ทั้ง 3 มองหน้าเจมส์อย่างเอือมระอา เจมส์ยิ้มแหยะๆ
“ตี๊ดีด” เสียงประตูเซเว่นถูกเปิดออก พนักงานสะดุ้งเล็กน้อยก่อนจะถอนหายใจและยิ้มเบาๆ “ยินดีต้อนรับค่า”ทั้ง 4 เดินไปเลือกซื้อขนมกันคนละอย่าง ก่อนจะนำมาวางให้พนักงานคิดตังค์ พนักงานยิ้มแหยะๆ เต้สะกิดให้ตั้มช่วยพูดเปิดทางให้“เอ่อ… คือว่า… พวกผมมาถ่ายรายการกันอ่ะครับ แล้วที่นี้เลยอยากสัมภาษณ์พี่หน่อยได้มั้ยครับ”“สัมภาษณ์ลงช่องไหนเอ่ย ได้จ๊ะได้” พนักงานเซเว่นตอบด้วยเสียงที่ดูสดใสปนขี้เล่นนิดๆ“อ้อ ลง Youtube ธรรมดาเนี่ยแหละครับ”“อ้อ ได้จ๊ะๆ ว่าแต่สัมภาษณ์เรื่องไรอ่ะ”เต้หยิบกล้องเปิดออกพร้อมกับกดอัด “โอเค”“เอาล่ะครับทุกคน ตอนนี้เราก็มาอยู่กันที่เซเว่นที่อยู่ใกล้กับสะพานเชื่อมที่ว่านั่นแล้วครับ”“ตุ๊บ!” กล่องที่อยู่ในมือของพนักงานเซเว่นคนนี้ได้ตกลง ใบหน้าซีดเผือกที่แสดงถึงความกลัวอย่างสุดขีด เม็ดเหงื่อที่ไหลออกมาอย่างมากมายทำให้ตั้มหยุดพูดในทันที “พวกเอ็งอ่ะ” เสียงชายปริศนาพูดขึ้นพร้อมกับประตูหลังร้านถูกเปิดออก “ถ้าจะมาสัมภาษณ์เรื่องนั้นก็ออกไปเลยไป คนตายทั้งคนอย่ามาทำเป็นเรื่องเล่นๆสิ” “เอ่อ… ถ้างั้น… เรื่องที่มีคนผูกคอตายก็เป็นเรื่องจริ…”“เออ! จริง! พอใจมึงยัง ถ้าพอใจก็ออกไปได้แล้ว”
 
“ตี๊ดีด” ประตูถูกปิดลง“ไอ้เชี้ย ถามแค่นี้ไม่เห็นต้องด่ากันขนาดนั้นเลยเปล่าว่ะ”“ตี๊ดีด” ประตูถูกเปิดอีกครั้ง พนักงานสาวคนนั้นเดินออกมา“เอ่อ… นี่ตังค์ถอนคะ คือ… ต้องขอโทษพี่ๆด้วยนะค่ะ ที่ลุงเชิดแกโมโหเพราะว่าคนที่ผูกคอตายเป็นลูกของแกอ่ะคะ หนูบอกได้แค่นี้จริงๆ แล้วก็ถ้าพี่จะมาถ่ายอะไรกันอ่ะ กลับไปเถอะนะ ถือว่าหนูเตือนด้วยความหวังดีและกัน” พูดจบเธอก็เดินกลับเข้าร้านไปดังเดิม ทุกๆคนพอรู้เรื่องก็เหมือนจะลดอาการความโกรธลง เว้นก็แต่เต้ ไอ้เต้มันเป็นคนแบบนี้แหละครับ โกรธใครแล้วโกรธจริงจัง อารมณ์ร้อนด้วย“เห้ย! เขาถอนตังค์เกินเปล่าว่ะ เดี๋ยวกูเอาไปคืนเขาก่อน”“ไม่ต้องเลยมึงไอ้เชี้ยตั้ม ดี! ด่ากูก่อนเองช่วยไม่ได้ ให้แม่งเจ๊งไปเลย อีกอย่างนะ ตอนมึงถามปะกี้กูอัดไว้หมดและ หึ!”ทั้ง 3 คนมองหน้าแบบรู้จักนิสัยเพื่อนตัวเองดี เงียบไว้แหละดีแล้ว...
 

 

คำยืนยันของเจ้าของเรื่องสั้น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
5 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
5 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
5 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา