ท้า
เขียนโดย หนอนตัวกลม
วันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2557 เวลา 01.47 น.
แก้ไขเมื่อ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2557 01.56 น. โดย เจ้าของเรื่องสั้น
2) ท้า (2)
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ“เฮ้อ… มอเงียบอย่างกับปิดเทอม นี่จะไม่มีใครสักคนมาให้กูสัมภาษณ์จริงหรอว่ะเนี่ย” เต้ช่างกล้องบ่นพร้อมกับหนวดไหล่ตัวเองไปด้วย
ทั้ง 4 คนเดินผ่านตึกต่างๆนานาที่เงียบสงัดราวกับเป็นตึกร้าง มีเพียงเสียงนกกับลมที่พัดใบไม้ให้ครูดไปกับพื้นทางเดิน
“มึงเห็นลิฟต์ที่ตึกนั้นป่ะ” ตั้มพูดพร้อมกับชี้นิ้วไปที่ลิฟต์ของตึกๆหนึ่งซึ่งค่อนข้างเก่า ทั้ง 3 มองหน้าตั้มพร้อมกับพยักหน้า “กูรู้จักรุ่นพี่คนนึงที่เขาจบคณะเนี่ย เขาเล่าให้ฟังว่า เมื่อก่อนอ่ะ ลิฟต์ตัวนี้เคยตกลงมาจากชั้น 9 เว้ย แล้วก็มีคนตายด้วย”
“เห้ย!” ฝ่ามือหนาๆพุ่งเข้ามาแตะที่ไหล่ของตั้ม ทั้ง 4 คนสะดุ้งเฮือก หลับตาปี๊
“อย่ามาหลอก มาหลอนผมเลยคร้าบบบ ผมสัญญาว่าเดี๋ยวผมจะทำบุญไปให้” ตั้มพูดด้วยเสียงสั่นกลัว พร้อมกับพนมมือไหว้
“เห้ยๆๆ กูยังไม่ตาย ไม่ต้องมาทำบงทำบุญให้กู” เสียงหนาทุ้มพูดขึ้น
ทั้ง 4 คนค่อยๆลืมตา
“โธ่ ลุงยาม ตกใจหมดลุง”
“พวกเอ็งมาทำไรกัน กลับบ้านกลับหอไปได้แล้ว”
ทั้ง 4 คนมองหน้ากันเลิกลัก ครั้งที่แล้วที่ไปถ่ายอีกที่หนึ่ง พอเขารู้ว่ามาถ่ายรายการผี โดนยามด่าซะตั้งนาน แถมคราวนั้นก็ต้องยกกองไปอีก
“เอ่อ… คือ…”
“คือผมลืมโทรศัพท์ไว้ที่ตึกวิศวะเคมีอ่ะครับ”
ยามร่างใหญ่มองหน้าพร้อมขมวดคิ้วราวกับไม่ค่อยอยากจะเชื่อคำพูดของเต้สักเท่าไหร่
“จริงๆนะครับ ถ้าลุงไม่เชื่อไปเอาโทรศัพท์กับผมก็ได้นะ”
“เอ่อ… เอ็งว่าตึกภาคอะไรนะ”
“เอ่อ… วิศวะเคมีครับ”
“ห๊ะ… อือ… ระระรีบไปเอาแล้วก็รีบกลับก็แล้วกัน ละละละลุงต้องไปเฝ้าที่ป้อมต่อแล้ว” ลุงยามพูดด้วยน้ำเสียงสั่นเทา เหมือนจะกลัวที่ได้ยินชื่อตึกนั่น พูดจบลุงยามก็เดินกลับไป
“ไอ้เชี้ย เกือบแล้วมึงงง”
ทั้ง 4 คนถอนหายใจกันเฮือกใหญ่
“ติ๊ด” ทั้ง 4 มองไปที่ลิฟต์ ที่จู่ๆก็มีสัญญาณไฟเหมือนมีคนเรียก ลิฟต์ค่อยๆแสดงเลขชั้นที่ขึ้นไปเรื่อยๆจนไปหยุดที่ชั้น 9 จากนั้นก็ค่อยๆเลื่อนลง 8 7 6 5 4 3 2 แล้วประตูก็ค่อยๆเปิดออก สาวผมแดงหอบหนังสือหนาหลายเล่มพร้อมกับเดินออกมาจากลิฟต์และถอนหายใจเฮือกใหญ่ เขาดูเหมือนโล่งอกที่ลงจากลิฟต์โดยไม่เจออะไร
“ตึก ตึก ตึก ตึก ตึก เฮ้อ เฮ้อ…” เสียงวิ่งสุดกำลังปนเสียงหอบของเจมส์ที่วิ่งโดยไม่คิดชีวิต
“เชี้ยเจมส์ มึงหยุดเลยๆ วิ่งทำเชี้ยไรเนี่ย”
“ผีเปล่าว่ะพี่”
“ผีพ่อมึงดิ คนเขาก็มาทำงานดึกๆเงี้ยแหละ โปรจงโปรเจค มึงเนี่ยกลัวผีแล้วยังมาทำรายการผีอีกนะมึง”
“ก็พี่นั่นแหละบังคับผม ไอ้พี่ตั้ม”
ตั้มมองหน้านิคกับเต้พร้อมยิ้มแหยะๆ
“อ้าวหรอ”
“เออครับ!” เจมส์ตอบ
“กูว่าเรามาเปลี่ยนเรื่องคุยกันดีกว่าเนอะ” ตั้มมองหน้านิคและเต้เหมือนจะหาผู้ช่วย ทั้ง 2 ยิ้มเล็กน้อย
“เอ่อ… แล้วที่เราจะมาถ่ายนี่เรื่องมันเป็นยังไงนะ” ตั้มถามพร้อมมองหน้าไปที่นิค
หน้าที่ของนิคคือการค้นหาเรื่องเล่าจากอินเทอร์เน็ต และคอยดูแลทุกๆคนในกลุ่ม
“ก็… มันมีผู้หญิงคนนึง เรียนอยู่ภาควิศวะเคมีเนี่ยแหละ แล้วทีนี้เหมือนแบบ ได้เกรดน้อยไรเงี้ย ก็เลยฆ่าตัวตายโดยการแขวนคอตรงกลางสะพานเชื่อมตึกวิศวะเคมี”
“โหดสาดดดด” ตั้มลากเสียงยาว
“เออ… นั่นแหละ แล้วคือกูก็ไม่รู้หรอกว่าแม่งเรื่องจริงป่าว แต่เขาบอกว่า ทุกคนที่เรียนที่เนี่ย ไม่มีใครไม่รู้จักเรื่องนี้ กูเลยอยากหาคนมาสัมภาษณ์แบบมายืนยันไง แต่แม่งไม่มีสักคน”
“มึงเลยไอ้เจมส์ ถ้ามึงไม่วิ่งมา คนที่ลงมาอาจจะเป็นนักศึกษาก็ได้ มึงเนี่ยแม่ง” เต้ตวาด
“เออ! ผมขอโทษ”
“นั่นไง สะพานเชื่อมตึก” นิคชี้นิ้วไปที่สะพานเชื่อมเล็กๆที่เชื่อมระหว่างตึก 2 ตึก ที่อยู่ด้านบนหัวของทั้ง 4 ไม่มากนัก
มันเป็นสะพานเหล็กเล็กๆที่เชื่อมระหว่างตึกครุศาสตร์กับตึกของภาควิศวะเคมี ซึ่งอยู่สูงไม่มากนักเพราะเป็นการเชื่อมที่ชั้น2 เอง ดูเผินๆ สะพานเชื่อมนี้ก็เหมือนสะพานเชื่อมทั่วไป ดูไม่น่ากลัวเลยสักนิด
“เห้ย! ตรงนั้นมีเซเว่นด้วยว่ะ ลองไปถามพนักงานเขาดูมะ”
“เออ… เอาดิๆ ผมอยากกินไอติมพอดี” เจมส์พูด ทั้ง 3 มองหน้าเจมส์อย่างเอือมระอา เจมส์ยิ้มแหยะๆ
“ตี๊ดีด” เสียงประตูเซเว่นถูกเปิดออก พนักงานสะดุ้งเล็กน้อยก่อนจะถอนหายใจและยิ้มเบาๆ
“ยินดีต้อนรับค่า”
ทั้ง 4 เดินไปเลือกซื้อขนมกันคนละอย่าง ก่อนจะนำมาวางให้พนักงานคิดตังค์ พนักงานยิ้มแหยะๆ เต้สะกิดให้ตั้มช่วยพูดเปิดทางให้
“เอ่อ… คือว่า… พวกผมมาถ่ายรายการกันอ่ะครับ แล้วที่นี้เลยอยากสัมภาษณ์พี่หน่อยได้มั้ยครับ”
“สัมภาษณ์ลงช่องไหนเอ่ย ได้จ๊ะได้” พนักงานเซเว่นตอบด้วยเสียงที่ดูสดใสปนขี้เล่นนิดๆ
“อ้อ ลง Youtube ธรรมดาเนี่ยแหละครับ”
“อ้อ ได้จ๊ะๆ ว่าแต่สัมภาษณ์เรื่องไรอ่ะ”
เต้หยิบกล้องเปิดออกพร้อมกับกดอัด “โอเค”
“เอาล่ะครับทุกคน ตอนนี้เราก็มาอยู่กันที่เซเว่นที่อยู่ใกล้กับสะพานเชื่อมที่ว่านั่นแล้วครับ”
“ตุ๊บ!” กล่องที่อยู่ในมือของพนักงานเซเว่นคนนี้ได้ตกลง ใบหน้าซีดเผือกที่แสดงถึงความกลัวอย่างสุดขีด เม็ดเหงื่อที่ไหลออกมาอย่างมากมายทำให้ตั้มหยุดพูดในทันที
“พวกเอ็งอ่ะ” เสียงชายปริศนาพูดขึ้นพร้อมกับประตูหลังร้านถูกเปิดออก “ถ้าจะมาสัมภาษณ์เรื่องนั้นก็ออกไปเลยไป คนตายทั้งคนอย่ามาทำเป็นเรื่องเล่นๆสิ”
“เอ่อ… ถ้างั้น… เรื่องที่มีคนผูกคอตายก็เป็นเรื่องจริ…”
“เออ! จริง! พอใจมึงยัง ถ้าพอใจก็ออกไปได้แล้ว”
“ตี๊ดีด” ประตูถูกปิดลง
“ไอ้เชี้ย ถามแค่นี้ไม่เห็นต้องด่ากันขนาดนั้นเลยเปล่าว่ะ”
“ตี๊ดีด” ประตูถูกเปิดอีกครั้ง พนักงานสาวคนนั้นเดินออกมา
“เอ่อ… นี่ตังค์ถอนคะ คือ… ต้องขอโทษพี่ๆด้วยนะค่ะ ที่ลุงเชิดแกโมโหเพราะว่าคนที่ผูกคอตายเป็นลูกของแกอ่ะคะ หนูบอกได้แค่นี้จริงๆ แล้วก็ถ้าพี่จะมาถ่ายอะไรกันอ่ะ กลับไปเถอะนะ ถือว่าหนูเตือนด้วยความหวังดีและกัน” พูดจบเธอก็เดินกลับเข้าร้านไปดังเดิม ทุกๆคนพอรู้เรื่องก็เหมือนจะลดอาการความโกรธลง เว้นก็แต่เต้ ไอ้เต้มันเป็นคนแบบนี้แหละครับ โกรธใครแล้วโกรธจริงจัง อารมณ์ร้อนด้วย
“เห้ย! เขาถอนตังค์เกินเปล่าว่ะ เดี๋ยวกูเอาไปคืนเขาก่อน”
“ไม่ต้องเลยมึงไอ้เชี้ยตั้ม ดี! ด่ากูก่อนเองช่วยไม่ได้ ให้แม่งเจ๊งไปเลย อีกอย่างนะ ตอนมึงถามปะกี้กูอัดไว้หมดและ หึ!”
ทั้ง 3 คนมองหน้าแบบรู้จักนิสัยเพื่อนตัวเองดี เงียบไว้แหละดีแล้ว...
คำยืนยันของเจ้าของเรื่องสั้น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ