คำพ่อสอน(จบบริบูณร์)

9.3

เขียนโดย ตะแบก

วันที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557 เวลา 21.36 น.

  1 ตอน
  1 วิจารณ์
  5,516 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557 07.16 น. โดย เจ้าของเรื่องสั้น

แชร์เรื่องสั้น Share Share Share

 

1) (ตอนเดียวจบ)

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก
"ฟลั๊บ...."
เสียงของไม้เรียวที่ทำจากก้านหวาย ส่งเสียงดังลั่น เมื่อกระทบเข้ากับเนื้อนิ่มที่มีกางเกงนักเรียนรองรับอยู่ จากนั้นก็มีเสียงร้องของเด็กชายคนนึงดังตามหลังมา
"โอ้ย...."
เด็กชาย...อายุ10ขวบ เอามือลูบไปที่ก้นของเขาอย่างเบาๆด้วยความเจ็บปวด
"รู้ไหม ว่าทำไมถึงต้องโดนตี"
ชายหนุ่มอายุประมาณสามสิบย่างสี่สิบ ผมสีดำมีหงอกขึ้นบ้างประปลาย แต่งกายด้วยเสื้อยืดสีขาวปล่อยชายลงทับกางเกงขาก๊วยสีดำขายาว สวมรองเท้าแตะหูหนีบสีขาว ในมือข้างขวาถือไม้เรียวก้านยาวอันหนึ่ง เขาถามเด็กชายที่ยืนตรงหน้าขึ้น ด้วยเสียงแกลมดุ
เด็กชายก้มหน้าและตอบออกมาด้วยเสียงอันเบาที่สั่นเครือ พร้อมกับยกหลังมือขึ้นปาดน้ำตาหยดเล็กๆบนแก้มใสๆที่ไหลรินลงมาจากขอบตา
"รู้ครับ"
"อืม....ดี ไหนลองนึกทบทวนดูสิ ว่าความผิดของเรามันสมควรที่พ่อต้องทำโทษไหม"
เด็กชายยืนครุ่นคิด ถึงเหตุการณ์ก่อนหน้าที่ทำให้เขาต้องโดนพ่อทำโทษในวันนี้
 
 นับถอยหลังไปเมื่อสิบเอ็ดชั่วโมงที่แล้ว
บุญมีปั่นจักรยานมาหยุดอยู่หน้าโรงเรียนแห่งหนึ่งซึ่งห่างไม่ไกลจากบ้านนัก แดงที่นั่งซ้อนท้ายมาด้วย ค่อยๆลงจากเบาะหลังของจักรยานอย่างระมัดระวัง บุญมีหยิบกระเป๋านักเรียนพร้อมกับกล่องข้าวและเงินสิบบาทส่งให้ลูกชาย
"ตั้งใจเรียนนะลูก เดี๋ยวตอนเย็นพ่อจะมารับ"
แดงรับของที่บุญมียื่นมาให้ วางลงกับพื้นข้างๆตัว แล้วยกมือขึ้นไหว้อย่างนอบน้อม ก่อนที่จะเดินเข้าโรงเรียนไป
"ขอบคุณครับพ่อ"
บุญมียืนมองลูกชายของเขาจนลับสายตา เมื่อเห็นว่าแดงเข้าไปในโรงเรียนเรียบร้อยแล้ว จึงปั่นจักรยานต่อไปยังที่ทำงาน
   แดงเดินมาถึงหน้าอาคารเรียนชั้นหนึ่งที่เป็นตึกเรียนประจำ เขากำลังจะก้าวขึ้นบรรได อยู่ๆก็มีมือข้างหนึ่งเอื้อมมากอดคอแล้วดึงให้เดินไปตรงสนามเด็กเล่น 
"เฮ้ย! ไอ้ดำเอ็งจะดึงข้ามาทำไมว่ะ"
แดงโวยขึ้นเมื่อเห็นว่าเป็นใคร
"แหม ก็ข้ามีอะไรจะบอกเองนี่หว่า"
ดำบอกกับแดงอย่างตื่นเต้น
"เรื่องอะไรว่ะ"
แดงทำหน้าสงสัย
ดำจึงยกมือขึ้นป้องปากกระซิบไปที่หูของเขา เมื่อแดงได้ฟังถึงกับยิ้มออกมา แล้วรีบพูดทันที
"ไปดิๆ"
แดงรีบตอบรับทันทีโดยไม่คิด
"งั้น ตอนเที่ยงเองกินข้าวเสร็จแล้ว มาเจอข้าที่เดิมนะ"
เด็กชายทั้งสองคนเมื่อนัดแนะกันเสร็จเรียบร้อย จึงรีบแยกย้ายกันเข้าห้องเรียน เด็กชายดำ เดินเข้าไปอีกห้องหนึ่งทางซ้ายมือ เขียนไว้ว่า ชั้นประถมศึกษาปีที่.4/3 ส่วนเด็กชายแดงเดินถือกระเป๋ามีถุงใส่กล่องข้าวผูกติดกับหูจับ ที่ไว้สำหรับหิ้วกระเป๋าเดินเข้าไปทางด้านขวามือ ที่เขียนไว้ว่า ชั้นประถมศึกษาปี่ที่.4/1
 
 
 
เสียงกริ่งบอกเวลาพักกวางวันดังขึ้น
ทุกคนหยิบอาหารกลางวันที่เตรียมมาจากบ้านขึ้นมา รวมถึงแดงด้วย เขารีบแกะกล่องข้าวที่เตรียมมา วันนี้พ่อทำหมูทอดกับผัดผักรวมไว้ให้ แดงจัดการอาหารตรงหน้าอย่างรวดเร็วจนหมดเกลี้ยง หลังจากจัดการทำความสะอาดกล่องข้าวเรียบร้อย เขาจึงเดินไปยังจุดนัดหมาย ก็พบว่าดำได้มานั่งรอเขาที่กำแพงหลังโรงเรียนอยู่ก่อนแล้ว
"ไอ้แดง เองนะมาช้าอยู่เรื่อยเลย"
 
ดำบ่นขึ้น แล้วหันซ้ายหันขวา เมื่อเห็นว่าไม่มีใคร จึงรีบมุดไปตรงกำแพงที่มีช่องว่างเป็นโพลงมีไม้เลื้อยขึ้นปกคลุมอยู่บางๆ โดยมีแดงมุดคลานตามหลังมาติดๆเมื่อทั้งสองออกมาถึงกำแพงอีกฝั่งนึงได้แล้ว ก็เดินลัดเลาะไปตามทุ่งนาที่มีรวงข้าวสีเขียวกำลังออกรวงชูช่อเขียวขจีอยู่เต็มท้องนา มองออกไปไกลๆก็เห็นผู้ใหญ่สองสามคนกำลังเดินปักเบ็ดอยู่กลางทุ่ง บ้างก็กำลังเก็บหอยเชอรี่และจับตั๊กแตนที่เป็นตัวทำลายข้าวในนาเด็กชายทั้งสองเดินมาจนถึงต้นไม้ใหญ่ต้นหนึ่งที่มีกิ่งหนายื่นแตกออกมาพอที่จะให้เด็กชายทั้งสองได้ปีนป่าย ส่วนข้างใต้ยังมีลานกว้างไว้ให้สำหรับวิ่งเล่นและนอนพักผ่อนอีกด้วย เด็กชายทั้งสองต่างวิ่งเล่นไล่จับกันอย่างสนุกสนานกันสักพักใหญ่ เมื่อเหนื่อยก็มานั่งพักตากลมที่ใต้ต้นไม้ใหญ่อย่างสบายอารมณ์
"หิวว่ะ มีอะไรกินมั่งว่ะไอ้ดำ"
แดงพูดขึ้นพลางเอามือลูบท้องของตัวเองไปมา ดำมองหน้าเพื่อนแล้วล้วงมือลงไปหยิบถุงขนมออกจากกระเป๋ากางเกงขึ้นมาชูเหนือหัวแล้วยิ้ม
"แท่น แทน แท้นนนน"
แดงเมื่อเห็นว่าถุงในมือที่ดำชูอยู่เป็นอะไรก็ทำตาโต ยิ้มกว้างดีใจอย่างคนไม่เคยพบเคยเห็น
"โหไอ้ดำ ทองหยอด หนมชั้น เปียกปูน เอ็งไปเอามาจากไหนเนี๊ยะ น่ากินทั้งนั้นเลย"
"หลวงตาให้มาว่ะ เมื่อเช้าโยมเขามาทำบุญที่วัด"
 
ดำบอก พร้อมกับหยิบขนมชั้นเข้าปากอย่างเอร็ดอร่อย ทั้งสองนั่งกินขนมกันไปคุยกันไปอย่างเพลิดเพลิน จนกระทั่งเด็กชายทั้งสองหลับไปอย่างไม่รู้ตัวและลืมเวลากลับบ้านไปสนิท
แดงรู้สึกตัวเมื่อได้ยินเสียงมีคนมาเรียกให้ตื่น พอลืมตาขึ้นก็เห็นลุงหาปลาคนนึงยืนถือคันเบ็ดและตะข้องใส่ปลายืนมองเขาอยู่ "ไอ้หนู กลับบ้านไป๊ จะมืดค่ำแล้ว เดี๋ยวงูเงี้ยวเขี้ยวขอก็กัดเอาหรอก" แดงตกใจรีบปลุกดำที่หลับอยู่ข้างๆกันให้ตื่น
"ไอ้ดำๆ ตื่นโว้ย"
ดำที่ถูกปลุกให้ลุกขึ้นเอามือขยี้ตาไปมาอย่างคนกำลังงัวเงีย
"อะไรของเอ็งว่ะ ข้ากำลังหลับสบาย ปลุกทำไมว่ะเนี๊ยะ"
 
แดงเอามือตบไปที่หัวดำหนึ่งที ทำเอาดำหายมึน
 
"แหกตาดูสิว่ะ นี่มันจะมืดแล้ว รีบกลับกันเถอะ ข้าต้องโดนพ่อตีแน่ๆ"
 
แดงบ่นพรึมพรำๆ พร้อมหยิบกระเป๋าขึ้นมาถือ ทั้งสองรีบวิ่งกลับบ้านไปอย่างรวดเร็ว
แดงเมื่อมาถึงบ้าน ก็เห็นพ่อนั่งรออยู่บนแคร่หน้าบ้าน ข้างกันก็มีไม้เรียวก้านยาววางอยู่หนึ่งอัน เขาเดินเข้าไปหาพ่ออย่างช้าๆ พร้อมกับวางกระเป๋าลง บุญมีเมื่อเห็นแดงก็ลุกขึ้นยืน พร้อมกับทำสีหน้าเคร่งขรึม
"ไปไหนมา พ่อไปรอรับที่โรงเรียนก็ไม่เจอ ไปถามครู ครูบอกว่าคาบบ่ายแดงไม่เข้าเรียน"
 
แดงตัวเริ่มสั่นน้อยๆ เขาก้มหน้าไม่กล้าที่จะสบตากับบุญมี
"ไปในทุ่งหลังโรงเรียนมา คะ...ครับ"
เด็กชายตอบออกมาอย่างเบาๆ"แดง พ่อเคยสอนไว้ว่าคนที่ไม่ตั้งใจเรียนหนังสือจะเป็นยังไง ยังจำได้ไหม"
บุญมีถามเด็กชายถึงเรื่องที่เขาเคยสอนไว้เป็นประจำ เด็กชายพยัคหน้าก่อนที่จะตอบออกมา
"พ่อเคยสอนว่า คนที่ไม่ตั้งใจเรียนจะกลายเป็นคนโง่ และจะถูกเอารัดเอาเปรียบจากคนที่ฉลาดกว่า คะ ครับ"
บุญมีมองลูกชายแล้วยิ้มที่มุมปาก และถามต่อไปอีก
"แล้วการที่ลูกโดดเรียน พลาดสิ่งที่ครูสอนเพื่อนๆในวันนี้ ลูกคิดว่าลูกจะกลายเป็นคนอย่างไร"
แดงยืนคิดคำตอบอยู่สักพักหนึ่ง แล้วจึงตอบบุญมีออกไป
"กะ กลายเป็นคนโง่ครับ"
"เพราะอะไร ลูกจึงคิดว่าจะกลายเป็นคนโง่ล่ะ ไหนลองบอกให้พ่อฟังสิ"
"เพราะผมไม่รู้ในสิ่งที่เพื่อนคนอื่นๆรู้กันหมดครับ "
บุญมีมองลูกชายคนเดียวอย่างรักใคร่เอ็นดู
"อืม แล้วแดงอยากเป็นแบบไหนล่ะ คนโง่หรือคนฉลาด"
เขาถาม
"อยากเป็นคนฉลาดครับ"
"ถ้างั้น ลูกก็ต้องตั้งใจเรียนหนังสือ จะได้เรียนตามเพื่อนๆทัน และอย่าโดดเรียนเหมือนเช่นวันนี้อีก เข้าใจที่พ่อพูดแล้วใช่ไหม"
แดงพยัคหน้าให้กับบุญมีพร้อมกับตอบรับว่าเข้าใจในสิ่งที่พ่อพูดเป็นอย่างดีแล้ว
"เอาล่ะ เขยิบเข้ามาใกล้ๆพ่อ แล้วเอามือกอดอกไว้"
 
บุญมีบอกลูกชาย แล้วตนเองก็ก้มลงไปหยิบไม้เรียวประจำบ้านที่วางเตรียมไว้บนแคร่ เขาถอนหายใจออกมาอย่างแรงหนึ่งครั้ง แล้วฟาดไม้เรียวลงไปบนก้นของลูกชายอย่างแรง
"โกรธพ่อไหม ที่พ่อตีลูก"
 
หลังจากนั้นเขาก็ถามลูกชายขึ้น
"ไม่โกรธครับ เพราะผมทำผิด สมควรที่จะโดนทำโทษครับ"
เด็กชายพูดออกมาด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยน้ำตา เขาไม่โกรธที่ถูก
ทำโทษ เพราะเขารู้ตัวว่าผิด เด็กชายค่อยๆเดินเข้าไปยกมือไหว้บุญมีและเข้าไปกอดเอวเขา
"ผมขอโทษครับพ่อ"
บุญมียกมือขึ้นลูบหัวลูกชายเบาๆ และกอดเขาไว้อย่างรักใคร่เอ็นดู ทุกครั้งที่เขาทำโทษลูก บุญมีจะมีเหตุผลมาอธิบาย และจะให้ลูกคิดทบทวนเสมอว่าสิ่งที่เขาทำลงไปถูกหรือผิด ควรหรือไม่ควร นี่คือคำที่พ่ออย่างเขาได้พึงสอนให้ลูกชาย........
 
 
.......จบบริบูณร์.......
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 

 

คำยืนยันของเจ้าของเรื่องสั้น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

อ่านเรื่องสั้นเรื่องอื่น

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา