คำพ่อสอน(จบบริบูณร์)
เขียนโดย ตะแบก
วันที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557 เวลา 21.36 น.
แก้ไขเมื่อ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557 07.16 น. โดย เจ้าของเรื่องสั้น
1) (ตอนเดียวจบ)
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ"ฟลั๊บ...."
เสียงของไม้เรียวที่ทำจากก้านหวาย ส่งเสียงดังลั่น เมื่อกระทบเข้ากับเนื้อนิ่มที่มีกางเกงนักเรียนรองรับอยู่ จากนั้นก็มีเสียงร้องของเด็กชายคนนึงดังตามหลังมา
"โอ้ย...."
เด็กชาย...อายุ10ขวบ เอามือลูบไปที่ก้นของเขาอย่างเบาๆด้วยความเจ็บปวด
"รู้ไหม ว่าทำไมถึงต้องโดนตี"
ชายหนุ่มอายุประมาณสามสิบย่างสี่สิบ ผมสีดำมีหงอกขึ้นบ้างประปลาย แต่งกายด้วยเสื้อยืดสีขาวปล่อยชายลงทับกางเกงขาก๊วยสีดำขายาว สวมรองเท้าแตะหูหนีบสีขาว ในมือข้างขวาถือไม้เรียวก้านยาวอันหนึ่ง เขาถามเด็กชายที่ยืนตรงหน้าขึ้น ด้วยเสียงแกลมดุ
เด็กชายก้มหน้าและตอบออกมาด้วยเสียงอันเบาที่สั่นเครือ พร้อมกับยกหลังมือขึ้นปาดน้ำตาหยดเล็กๆบนแก้มใสๆที่ไหลรินลงมาจากขอบตา
"รู้ครับ"
"อืม....ดี ไหนลองนึกทบทวนดูสิ ว่าความผิดของเรามันสมควรที่พ่อต้องทำโทษไหม"
เด็กชายยืนครุ่นคิด ถึงเหตุการณ์ก่อนหน้าที่ทำให้เขาต้องโดนพ่อทำโทษในวันนี้
นับถอยหลังไปเมื่อสิบเอ็ดชั่วโมงที่แล้ว
บุญมีปั่นจักรยานมาหยุดอยู่หน้าโรงเรียนแห่งหนึ่งซึ่งห่างไม่ไกลจากบ้านนัก แดงที่นั่งซ้อนท้ายมาด้วย ค่อยๆลงจากเบาะหลังของจักรยานอย่างระมัดระวัง บุญมีหยิบกระเป๋านักเรียนพร้อมกับกล่องข้าวและเงินสิบบาทส่งให้ลูกชาย
"ตั้งใจเรียนนะลูก เดี๋ยวตอนเย็นพ่อจะมารับ"
แดงรับของที่บุญมียื่นมาให้ วางลงกับพื้นข้างๆตัว แล้วยกมือขึ้นไหว้อย่างนอบน้อม ก่อนที่จะเดินเข้าโรงเรียนไป
"ขอบคุณครับพ่อ"
บุญมียืนมองลูกชายของเขาจนลับสายตา เมื่อเห็นว่าแดงเข้าไปในโรงเรียนเรียบร้อยแล้ว จึงปั่นจักรยานต่อไปยังที่ทำงาน
แดงเดินมาถึงหน้าอาคารเรียนชั้นหนึ่งที่เป็นตึกเรียนประจำ เขากำลังจะก้าวขึ้นบรรได อยู่ๆก็มีมือข้างหนึ่งเอื้อมมากอดคอแล้วดึงให้เดินไปตรงสนามเด็กเล่น
"เฮ้ย! ไอ้ดำเอ็งจะดึงข้ามาทำไมว่ะ"
แดงโวยขึ้นเมื่อเห็นว่าเป็นใคร
"แหม ก็ข้ามีอะไรจะบอกเองนี่หว่า"
ดำบอกกับแดงอย่างตื่นเต้น
"เรื่องอะไรว่ะ"
แดงทำหน้าสงสัย
ดำจึงยกมือขึ้นป้องปากกระซิบไปที่หูของเขา เมื่อแดงได้ฟังถึงกับยิ้มออกมา แล้วรีบพูดทันที
"ไปดิๆ"
แดงรีบตอบรับทันทีโดยไม่คิด
"งั้น ตอนเที่ยงเองกินข้าวเสร็จแล้ว มาเจอข้าที่เดิมนะ"
เด็กชายทั้งสองคนเมื่อนัดแนะกันเสร็จเรียบร้อย จึงรีบแยกย้ายกันเข้าห้องเรียน เด็กชายดำ เดินเข้าไปอีกห้องหนึ่งทางซ้ายมือ เขียนไว้ว่า ชั้นประถมศึกษาปีที่.4/3 ส่วนเด็กชายแดงเดินถือกระเป๋ามีถุงใส่กล่องข้าวผูกติดกับหูจับ ที่ไว้สำหรับหิ้วกระเป๋าเดินเข้าไปทางด้านขวามือ ที่เขียนไว้ว่า ชั้นประถมศึกษาปี่ที่.4/1
เสียงกริ่งบอกเวลาพักกวางวันดังขึ้น
ทุกคนหยิบอาหารกลางวันที่เตรียมมาจากบ้านขึ้นมา รวมถึงแดงด้วย เขารีบแกะกล่องข้าวที่เตรียมมา วันนี้พ่อทำหมูทอดกับผัดผักรวมไว้ให้ แดงจัดการอาหารตรงหน้าอย่างรวดเร็วจนหมดเกลี้ยง หลังจากจัดการทำความสะอาดกล่องข้าวเรียบร้อย เขาจึงเดินไปยังจุดนัดหมาย ก็พบว่าดำได้มานั่งรอเขาที่กำแพงหลังโรงเรียนอยู่ก่อนแล้ว
"ไอ้แดง เองนะมาช้าอยู่เรื่อยเลย"
ดำบ่นขึ้น แล้วหันซ้ายหันขวา เมื่อเห็นว่าไม่มีใคร จึงรีบมุดไปตรงกำแพงที่มีช่องว่างเป็นโพลงมีไม้เลื้อยขึ้นปกคลุมอยู่บางๆ โดยมีแดงมุดคลานตามหลังมาติดๆ
เมื่อทั้งสองออกมาถึงกำแพงอีกฝั่งนึงได้แล้ว ก็เดินลัดเลาะไปตามทุ่งนาที่มีรวงข้าวสีเขียวกำลังออกรวงชูช่อเขียวขจีอยู่เต็มท้องนา มองออกไปไกลๆก็เห็นผู้ใหญ่สองสามคนกำลังเดินปักเบ็ดอยู่กลางทุ่ง บ้างก็กำลังเก็บหอยเชอรี่และจับตั๊กแตนที่เป็นตัวทำลายข้าวในนา
เด็กชายทั้งสองเดินมาจนถึงต้นไม้ใหญ่ต้นหนึ่งที่มีกิ่งหนายื่นแตกออกมาพอที่จะให้เด็กชายทั้งสองได้ปีนป่าย ส่วนข้างใต้ยังมีลานกว้างไว้ให้สำหรับวิ่งเล่นและนอนพักผ่อนอีกด้วย เด็กชายทั้งสองต่างวิ่งเล่นไล่จับกันอย่างสนุกสนานกันสักพักใหญ่ เมื่อเหนื่อยก็มานั่งพักตากลมที่ใต้ต้นไม้ใหญ่อย่างสบายอารมณ์
"หิวว่ะ มีอะไรกินมั่งว่ะไอ้ดำ"
แดงพูดขึ้นพลางเอามือลูบท้องของตัวเองไปมา ดำมองหน้าเพื่อนแล้วล้วงมือลงไปหยิบถุงขนมออกจากกระเป๋ากางเกงขึ้นมาชูเหนือหัวแล้วยิ้ม
"แท่น แทน แท้นนนน"
แดงเมื่อเห็นว่าถุงในมือที่ดำชูอยู่เป็นอะไรก็ทำตาโต ยิ้มกว้างดีใจอย่างคนไม่เคยพบเคยเห็น
"โหไอ้ดำ ทองหยอด หนมชั้น เปียกปูน เอ็งไปเอามาจากไหนเนี๊ยะ น่ากินทั้งนั้นเลย"
"หลวงตาให้มาว่ะ เมื่อเช้าโยมเขามาทำบุญที่วัด"
ดำบอก พร้อมกับหยิบขนมชั้นเข้าปากอย่างเอร็ดอร่อย ทั้งสองนั่งกินขนมกันไปคุยกันไปอย่างเพลิดเพลิน จนกระทั่งเด็กชายทั้งสองหลับไปอย่างไม่รู้ตัวและลืมเวลากลับบ้านไปสนิท
แดงรู้สึกตัวเมื่อได้ยินเสียงมีคนมาเรียกให้ตื่น พอลืมตาขึ้นก็เห็นลุงหาปลาคนนึงยืนถือคันเบ็ดและตะข้องใส่ปลายืนมองเขาอยู่
"ไอ้หนู กลับบ้านไป๊ จะมืดค่ำแล้ว เดี๋ยวงูเงี้ยวเขี้ยวขอก็กัดเอาหรอก"
แดงตกใจรีบปลุกดำที่หลับอยู่ข้างๆกันให้ตื่น
"ไอ้ดำๆ ตื่นโว้ย"
ดำที่ถูกปลุกให้ลุกขึ้นเอามือขยี้ตาไปมาอย่างคนกำลังงัวเงีย
"อะไรของเอ็งว่ะ ข้ากำลังหลับสบาย ปลุกทำไมว่ะเนี๊ยะ"
แดงเอามือตบไปที่หัวดำหนึ่งที ทำเอาดำหายมึน
"แหกตาดูสิว่ะ นี่มันจะมืดแล้ว รีบกลับกันเถอะ ข้าต้องโดนพ่อตีแน่ๆ"
แดงบ่นพรึมพรำๆ พร้อมหยิบกระเป๋าขึ้นมาถือ ทั้งสองรีบวิ่งกลับบ้านไปอย่างรวดเร็ว
แดงเมื่อมาถึงบ้าน ก็เห็นพ่อนั่งรออยู่บนแคร่หน้าบ้าน ข้างกันก็มีไม้เรียวก้านยาววางอยู่หนึ่งอัน
เขาเดินเข้าไปหาพ่ออย่างช้าๆ พร้อมกับวางกระเป๋าลง บุญมีเมื่อเห็นแดงก็ลุกขึ้นยืน พร้อมกับทำสีหน้าเคร่งขรึม
"ไปไหนมา พ่อไปรอรับที่โรงเรียนก็ไม่เจอ ไปถามครู ครูบอกว่าคาบบ่ายแดงไม่เข้าเรียน"
แดงตัวเริ่มสั่นน้อยๆ เขาก้มหน้าไม่กล้าที่จะสบตากับบุญมี
"ไปในทุ่งหลังโรงเรียนมา คะ...ครับ"
เด็กชายตอบออกมาอย่างเบาๆ
"แดง พ่อเคยสอนไว้ว่าคนที่ไม่ตั้งใจเรียนหนังสือจะเป็นยังไง ยังจำได้ไหม"
บุญมีถามเด็กชายถึงเรื่องที่เขาเคยสอนไว้เป็นประจำ เด็กชายพยัคหน้าก่อนที่จะตอบออกมา
"พ่อเคยสอนว่า คนที่ไม่ตั้งใจเรียนจะกลายเป็นคนโง่ และจะถูกเอารัดเอาเปรียบจากคนที่ฉลาดกว่า คะ ครับ"
บุญมีมองลูกชายแล้วยิ้มที่มุมปาก และถามต่อไปอีก
"แล้วการที่ลูกโดดเรียน พลาดสิ่งที่ครูสอนเพื่อนๆในวันนี้ ลูกคิดว่าลูกจะกลายเป็นคนอย่างไร"
แดงยืนคิดคำตอบอยู่สักพักหนึ่ง แล้วจึงตอบบุญมีออกไป
"กะ กลายเป็นคนโง่ครับ"
"เพราะอะไร ลูกจึงคิดว่าจะกลายเป็นคนโง่ล่ะ ไหนลองบอกให้พ่อฟังสิ"
"เพราะผมไม่รู้ในสิ่งที่เพื่อนคนอื่นๆรู้กันหมดครับ "
บุญมีมองลูกชายคนเดียวอย่างรักใคร่เอ็นดู
"อืม แล้วแดงอยากเป็นแบบไหนล่ะ คนโง่หรือคนฉลาด"
เขาถาม
"อยากเป็นคนฉลาดครับ"
"ถ้างั้น ลูกก็ต้องตั้งใจเรียนหนังสือ จะได้เรียนตามเพื่อนๆทัน และอย่าโดดเรียนเหมือนเช่นวันนี้อีก เข้าใจที่พ่อพูดแล้วใช่ไหม"
แดงพยัคหน้าให้กับบุญมีพร้อมกับตอบรับว่าเข้าใจในสิ่งที่พ่อพูดเป็นอย่างดีแล้ว
"เอาล่ะ เขยิบเข้ามาใกล้ๆพ่อ แล้วเอามือกอดอกไว้"
บุญมีบอกลูกชาย แล้วตนเองก็ก้มลงไปหยิบไม้เรียวประจำบ้านที่วางเตรียมไว้บนแคร่ เขาถอนหายใจออกมาอย่างแรงหนึ่งครั้ง แล้วฟาดไม้เรียวลงไปบนก้นของลูกชายอย่างแรง
"โกรธพ่อไหม ที่พ่อตีลูก"
หลังจากนั้นเขาก็ถามลูกชายขึ้น
"ไม่โกรธครับ เพราะผมทำผิด สมควรที่จะโดนทำโทษครับ"
เด็กชายพูดออกมาด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยน้ำตา เขาไม่โกรธที่ถูก
ทำโทษ เพราะเขารู้ตัวว่าผิด เด็กชายค่อยๆเดินเข้าไปยกมือไหว้บุญมีและเข้าไปกอดเอวเขา
"ผมขอโทษครับพ่อ"
บุญมียกมือขึ้นลูบหัวลูกชายเบาๆ และกอดเขาไว้อย่างรักใคร่เอ็นดู ทุกครั้งที่เขาทำโทษลูก บุญมีจะมีเหตุผลมาอธิบาย และจะให้ลูกคิดทบทวนเสมอว่าสิ่งที่เขาทำลงไปถูกหรือผิด ควรหรือไม่ควร นี่คือคำที่พ่ออย่างเขาได้พึงสอนให้ลูกชาย........
.......จบบริบูณร์.......
คำยืนยันของเจ้าของเรื่องสั้น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ