เพื่อนผมเป็นหุ่นยนต์

9.0

เขียนโดย อชิรญาฯ

วันที่ 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557 เวลา 20.33 น.

  4 คาบเรียนที่
  4 วิจารณ์
  7,395 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557 21.39 น. โดย เจ้าของเรื่องสั้น

แชร์เรื่องสั้น Share Share Share

 

1) หุ่นยนต์คนนี้ชื่อมะลิ

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก
ดวงตาสีชาของเด็กหนุ่มอายุวัยสิบหกเบิกกว้างแทบจะถลนออกมาจากเบ้าตา เมื่อเด็กสาววัยไล่เลี่ยกันกับเขายืนยิ้มอ่อนๆให้อยู่ตรงหน้า แม้ใบหน้าแสนสวยรูปไข่ ผิวขาวอมชมพูได้รูป ริมฝีปากสีชมพูบางเรือน่าสัมผัสแค่ไหน แต่ความจริงที่ว่าเธอเป็นหุ่นยนต์รับใช้ราคาหลายสิบล้านมันกระตุกให้เบ้าหน้าเขาเกร็งขึ้นมากับความคิดอันแสนวิปลาสของพ่อแม่ตัวเอง
"อะ... อะไรกันเนี่ย! พ่อครับ แม่ครับ ไปพาตัวอะไรเข้าบ้านมาอีกเนี่ย!?"
เด็กหนุ่มบ่นเสียงดังพลางจ้องมองเด็กสาวที่กำลังฉีกยิ้มจนปากบานเกือบถึงรูหู พ่อแม่ของเขาไม่ทำอะไร คนพ่อเพียงแค่ยักไหล่ไม่แคร์
"ก็เพื่อนไหมลูกไง มะลิ พ่อเห็นว่าลูกไปไหนมาไหนคนเดียวไม่มีเพื่อนเลยสักคน พ่อเลยพาเพื่อนไหมมาแนะนำ เป็นไงน่ารักมั้ยล่ะ"
ผู้เป็นพ่อกระตุกยิ้มใส่ลูกเหมือนจะบอกว่า 'เอ็งไม่ทางขัดคำสั่งของข้าได้หรอก' ก่อนะจะสะกิดเด็กสาวให้เดินเข้ามาหาลูกชายตน
"สวัสดีค่ะเจ้านาย เราชื่อมะลิ จะมาเป็นเพื่อนเจ้านายค่ะ"
เสียงหวานเอ่ยเอื้อนเบาบาง ทว่าในน้ำเสียงนั้นไพเราะจนต้องเงียหูฟัง ด้วยการแต่งตัวที่ดูน่ารักน่าชัง อีกทั้งใบหน้าผิวพรรณที่ดูยังไงๆก็เหมือนตุ๊กตายางเอาไว้ป้าบๆ ทำให้เด็กหนุ่มอดอมยิ้มน้อยๆสักครู่ไม่ได้
แต่เขาจะไม่ยอมหลงกลพ่อจองเจ้าเล่ห์ของตัวเองแน่นอน สาวสวยเหมือนดาราAVญี่ปุ่นขนาดนี้จะมาเป็นเพื่อนไหมของเขาเรอะ ไม่มีทางซะหรอก ยังไงๆมันก็ต้องมีที่มาที่ไป
ไม่ใช่ว่าเขาไม่มีเพื่อนหรอกนะ ที่จริงเพื่อนเขาน่ะเยอะมากๆเลยแหละ เสียอย่างเดียวคือเพื่อนๆเหล่านั้นส่วนมากเป็นพวกนักเลงที่เอาแต่ต่อยตีโรงเรียนคู่อริไปวันๆ ดังนั้นพ่อของเขาจึงไม่นับเพื่อนเหล่านั้นเป็นเพื่อน โอ้...เวรกรรม
"ไปไกลๆเลย" เขาดันร่างของมะลิเพื่อนใหม่ออกห่างก่อนยืนกอดอกคุยกับพ่อคล้ายกำลังยื่นคำขาด "ผมไม่ต้องการเพื่อนคนนี้ เอาผู้หญิงคนนี้ไปเก็บเลยไป๊"
"ไม่มีทาง" ชายวัยกลางคนอมยิ้ม "ยังไงๆลูกก็ต้องเป็นเพื่อนกับเด็กคนนี้ ไม่อย่างนั้นก็อย่าหวังว่าพ่อจะให้เงินค่าขนมลูกอีก"
"โอ้...ช่างร้ายแรงนัก แม่ว่าลูกทำตามที่พ่อเขาบอกเถอะ"
แม่คนใหม่พยายามสปอยด้วยใบหน้ายิ้มแย้มเหมือนไม่แคร์สื่อใดๆ 
อันที่จริงแม่แท้ๆของเขาเสียชีวิตไปเมื่อต้นปี แม่ของเขามีดวงอาภัพนัก ตั้งแต่เกิดมาหมอดูได้ทายทักว่าหากมีชีวิตอยู่พ้นยี่สิบไปจะเจอแต่ความซวย และมันก็จริงอย่างหมอดูว่าเหมือนมีตา พอพ้นยี่สิบไปกี่ปีแม่ก็ถูกรถชนจนกระดูกเข่าแตกเดินไม่ได้ พอมีเขาได้เพียงสองเดือนก็โดนลูกหลงพวกโจรยิงตัดเอ็นแขนขวาจนใช้การไม่ได้ ล่าสุดท่านได้จากไปอย่างสงบด้วยก้างปลาที่ทิ้มเหงือกตัดเส้นประสาท แม่คงหมดเคราะห์กรรมแล้วจริงๆ
แต่สาเหตุของแม่คนใหม่วัยกระเตาะที่เข้ามาแทนที่เพราะพ่อดันไปวิ่งชนนางเอากลางแยกทำให้ท้องป่องรอคลอดถึงแปดเดือน แม้ปัจจุบันเขาจะแอบทำให้แม่ใหม่แท้งด้วยการเตะบอลอัดป่องแต่พ่อก็ให้ความรักความเคารพแม่ใหม่คนนี้อยู่
ยังดีที่แม่ใหม่ก็รักเขาเหมือนลูก ไม่งั้นคงอยู่ไม่สุขกันทั้งคู่แน่
"พ่อไม่ต้องให้เงินหรอกครับ ผมมีร้านขนมอยู่หลายที่ ปัจจุบันก็ไม่ได้ใช่เงินพ่อสักบาทจำไม่ได้เหรอครับ" 
เด็กหนุ่มตอบหน้ายิ้ม บิดาวัยสี่สิบก็ใจเย็นพอที่จะเสกรอยยิ้มสั่งได้บนใบหน้า
"บัตรเอทีเอ็มลูกพ่อรู้รหัสพอจะอายัดได้นะจ๊ะ"
"โอ้...เชิญครับ ผมมีหลายใบพ่อไม่ต้องห่วง"
"หนังสือโป๊ในห้องลูกพ่อทำลายทิ้งเลยละกันนะ"
"ได้อยู่แล้วครับ หวังว่าผมเข้าไปในห้องพ่อคงไม่เห็นหนังสือโป๊ผมในห้องพ่ออีกนะครับ"
"อ้อ...เหรอลูก กีต้าร์ตัวโปรดที่พังไปลูกคงไม่คิดว่ามันเป็นอุบัติเหตุหรอกใช่มั้ย"
"ไม่อยู่แล้วครับ เพราะสร้อยคอพ่อในโรงรับจำนำแท้ๆผมถึงได้กีต้าร์ตัวใหม่ ขอบคุณนะครับ"
"ขนาดสร้อยคอพ่อยังหายเลยลูก อีกไม่กี่ปีเมียใหม่พ่อคงเรียบร้อยด้วยใช่มั้ย"
"ถ้าถึงตอนนั้นนมไม่ยานก็ได้หมดแหละครับ"
เด็กหนุ่มพูดตัดบท ต่างคนต่างรู้ว่าพ่อลูกคู่นี้หลังจากแม่ที่แท้จริง มารดาแต่ง เสียชีวิตอย่างเป็นทางการแล้วก็เริ่มเปิดสงครามเย็มกันขนาดย่อม
เรื่องฝีปากสองพ่อลูกคนนี้นับว่าไม่เคยเป็นสองรองใคร แม้ว่าเพื่อนบ้านหลายคนพยายามห้ามปรามก็ยังเอาไม่อยู่ อย่างนี้ละมั้งจึงทำให้ลูกชายบ้านนี้เขากันได้ดีกับพวกติ่งนักเลงทั้งหลาย
"สรุปว่ายังไงๆลูกก็ไม่ยอมรับมะลิเป็นเพื่อนใช่มั้ย"
"ถูกต้องครับ เพราะผมมีเพื่อนมากพอแล้ว ผู้หญิงคนนี้เชิญพ่อพาเธอกลับไปส่งบ้านตามสบายเลยครับ ...เฮ้ นี่เธอจะไม่พูดอะไรเลยรึไงมะลิ คนเขากำลังพูดถึงเรื่องเธออยู่นะ"
เด็กหนุ่มหันมามองเด็กสาวที่กำลังเข้าคลอเคลียแม่ใหม่ด้วยความสนิทสนมอย่างหมั่นไส้
"จะให้เราพูดว่าอะไรเหรอคะเจ้านาย?" มะลิหันมาทำหน้างงใส่ก่อนไปนอนให้แม่ใหม่ลูบหัวเล่น
"จะตัดพ่อตัดลูกดีมั้ยน๊าาาาา ว่าไง จะรับหรือไม่รับ"
"ไม่ล่ะครับเชิญพ่อจัดการแม่มะลินั้นเลยละกัน ...อาาา นี่มันเริ่มคาบไปแล้วนี่นา เพราะพ่อทำให้ผมเสียเวลาแท้ๆเลย"
เด็กหนุ่มมองนาฬิกาอย่างหงุดหงิดก่อนวิ่งคว้ารองเท้าผ้าใบออกนอกบ้านอย่างเร่งรีบ 
พริบตาเดียว รางสูงของผู้เป็นลูกชายก็หายวับไปพร้อมกับรถยนต์ที่จอดนิ่งสนิทอยู่หน้าบ้าน
ผู้เป็นพ่อถอนหายใจอย่างเหนื่อยอ่อนพร้อมมองดูมะลิกับภรรยาใหม่ด้วยรอยยิ้มเหยเก
"อย่ากลังวลไปเลยค่ะคุณ แกยังเด็กอยู่คงไม่เข้าใจว่าสิ่งที่เราทำไปทั้งหมดน่ะ มันดีกับเขาจริงๆ" ภรรยาเอ่ยบอกเสียงหวาน
"ฉันก็ขอให้เป็นแบบนั้นแหล่ะ สงสารก็แต่หนูมะลิของเรา อุส่าห์ซื้อมาตั้งหลายสิบล้าน แถมยังคัดเลือกหน้าตาดีเป็นพิเศษแล้วก็ยังไม่สนใจ เห้อ...หวังว่าลูกชายของฉันจะไม่ใช่พวกชอบเพศเดียวกันหรอกนะ"
 
 
หุ่นยนต์รับใช้นั้น แต่เดิมเป็นเพียงหุ่นยนต์ธรรมดาที่มีเพียงเครื่องกลและปัญญาประดิษฎ์สำหรับมันเท่านั้น การใช้งานหุ่นยนต์แทนแรงงานมนุษย์นั้นนับว่าได้รับความนิยมมากในทั่วโลก เพราะไม่เพียงง่ายต่อการทำงาน แต่ยังประหยัดเวลาและการดูแลอีกด้วย แม้ราคาจะค่อนข้างแพงเอาการแต่ความสามารถของมันก็ไม่ทำให้ผิดหวังได้เลยทีเดียว
ปัจจุบันการพัฒนาการในระบบเครื่องยนต์ของคน เรียกว่าก้าวหน้าไปจนเกินคำบรรยายแล้วก็ว่าได้ ไม่เพียงจะทำให้หั่นยนต์รับใช้มีระบบปฏิบัติการที่เหมือนกับคนแล้ว ยังสามารถคุยโต้ตอบกับคนได้
ถึงจะพัฒนาการไปมากเพียงใด แต่สิ่งที่น่าเสียดายสำหรับวงการเครื่องจักรกลนั้นคือ เม็ดเงินที่จะนำมาใช้ในการลงทุนเกี่ยวกับการค้นคว้าและการวิจัยเครื่องจักรสมองกล
จากอดีตถึงปัจจุบัน การทำงานของยักวิทยาศาตรส์ที่ไม่ยอมหยุดพัก เพื่อที่จะให้หุ่นยนต์ก้าวไปในระดับที่เหนือขั้นเริ่มมีผลสำเร็จ หุ่นยนต์รับใช้ที่ใกล้เคียงมนุษย์ถูกขายขึ้นเป็นตัวแรกทันทีหลังจากที่วิจัยสำเร็จ
เชื่อได้ว่านอกจากหน้าตาน้ำเสียงที่เหมือนกับมนุษย์มากจนแยกไม่ออกแล้ว ท่าทางอากัปกิริยายังแลดูเป็นธรรมชาติเกินกว่าที่ใครจะคาดคิดว่าคนตรงหน้าที่เห็นเป็นเพียงหุ่นยนต์ธรรมดา
น่าเสียดายที่แม้การวิจัยจะสำเร็จจนสามารถสร้างหุ่นยนต์ที่เหมือนกับมนุษย์ออกมาได้ในปัจจุบัน แต่ราคาการซื้อขายของหุ่นยนต์เหล่านี้ก็แพงไปตามขั้นราคาความสามารถของมันด้วย หากเป็นเพียงหุ่นยนต์ธรามดาอาจอยู่ที่หลักพัน หากเป็นหนุ่มยนต์รับใช้หน้าตามนุษย์ก็หลังแสน แต่ถ้าเป็นถึงหุ่นยนต์มนุษย์รับใช้สมองกล คงจะมีสิบล้านเป็นอย่างต่ำ
โรงเรียนเอกชนแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯกลางกรุง เด็กหนุ่มผิวขาวหน้าตาดีคนหนึ่งกำลังวิวาทกับเพื่อนโดยทำการชกต่อยกันอย่างรุนแรง แม้ว่าจะเป็นการรุมถึงห้าต่อหนึ่ง แต่เด็กหนุ่มผิวขาวก็สามารถหลบหมัดของคนทั้งห้าที่ปลอยออกมามั่วซั่วได้
เรวินปล่อยหมัดเข้ากระแทกกลางใบหน้าของนักเรียนตัวใหญ่ไปพร้อมๆกับกระโดดขึ้นหลังของมันอย่างรวดเร็วโดยใช้ท่าล็อคคอของทหารอเมริกัน
"เห้ยไอ้วิน! เอ็งทำอย่างนั้นเดียวมันก็ตายเอาหรอก"
 บรรดาเพื่อนๆที่มุงดูการต่อสู้ของเขาต่างร้องบอกอย่างหวาดเสียว เรวินทำเพียงแค่เร่งคลายล็อคเพราะสี่คนที่เหลือได้วิ่งเข้ามารุมเขาเหมือนหมา
เด็กหนุ่มปัดป่ายการโจมตีของคนทั้งสามได้อย่างช่ำชอง แม้ดูเหมือนเป็นการวิวาทธรรมดาที่ใช้วิธีการหมาหมู่ แต่ผู้ถูกรุมอย่างเรวินที่เป็นถึงนักยูโดมวยจีนสายดำกลับต่อสู้กับทั้งห้าคนได้คล้ายกับว่าพวกเด็กทั้งห้าคนมากกว่าที่ดูเป็นฝ่ายถูกรุม
เวลาผ่านไปเพียงไม่กี่อึดใจ กำปันหนาๆของเด็กหนุ่มก็หวดเข้าใส่ปลายคางของคู่อริเสียงดังจนล้มแน่นิ่งชักลงไปกองกับพื้น เป็นชั่วเวลาเดียวกันที่อีกสองคนสลบเหมือดไปกลางอากาศด้วยลูกเตะควงสว่าน สำหรับคนสุดท้ายค่อนข้างหน้าสงสารหน่อย เพราะเพียงแค่คิดจะหนีกลับถูกกระชากคอเสื้อเข้ามาหาศอกคมกริบของเรวินอย่างหนัก
เสียงคล้ายลูกมะพร้าวตกพื้นก็ไม่ปาน เลือดกลางหน้าผากของคู่วิวาทคนสุดท้ายพุ่งออกมาหลังจากโดนศอกจามหน้าไปฉาดใหญ่
การวิวาทของหนึ่งต่อห้าจบลงอย่างสวยงามโดยที่เรวินแห่งชั้นมัธถยมศึกษาปีสี่ไม่เป็นอะไรเลยแม้แต่รอยช้ำ
 เด็กหนุ่มแสยะยิ้มให้เด็กทั้งสี่ที่นอนแผ่หลาหมดสภาพอยู่กลางลานกีฬาอย่างสะใจ ถึงแม้ว่าคนพวกนี้จะเป็นถึงรุ่นพี่ก็ตาม แต่การที่จะเอาความเป็นผู้ใหญ่มาข่มเหงรังแกเอาคนที่เด็กกว่าย่อมไม่ใช่เรื่อง หากปล่อยให้เป็นอย่างนี้ต่อไปรั้งที่จะได้ใจ สู้สั่งสอนให้สำนึกซะก่อนดีกว่าปล่อยให้ลุกลาม
เรวินเดินกลับเข้ากลุ่มมิคาเอลแก๊งค์ด้วยสีหน้ายิ้มแย้มเหมือนไม่เคยเกิดเหตุการณ์อะไรมาก่อน
กลุ่มมิคาเอลแก๊งค์เป็นกลุ่มกิจกรรมเล็กของเด็กมัธถยมที่สอนให้ฝึกวิชาการต่อสู้การป้องกันตัว โดยมีลริลเป็นประธานชมรม แม้ปัจจุบันเรวินจะรั้งตำแหน่งรองประธาน แต่ก็ไม่ต่างอะไรกับประธานสักเท่าไหร่เพราะตั้งแต่ก่อตั้งชมรมมิคาเอลแก๊งค์มา นานๆที่ลริลจะเข้ามาสอดส่องดูแลความเป็นไปในชมรม
แม้ตอนนี้สมาชิกมีแค่สิบกว่าคน แต่ทุกคนก็ฝึกฝนวิชาการต่อสู้แบบยูโดมาอย่างหนัก อนึ่งไม่ใช่เพื่อป้องกันตัวเองเพียงอย่างเดียว แต่เพื่อสร้างชื่อเสียงให้โรงเรียนอีกทางหนึ่งด้วย เพราะงั้นนี่ล่ะ เวลาที่เกิดเรื่องชกต่อยกันหากเป็นเด็กในชมรมมิคาเอลแก๊งค์เหล่าอาจารย์จะเาหูไปนาเอาตาไปไร่อย่างพร้อมเพรียงแทบจะทันที
หลังจากที่แยกออกมาจากกลุ่มชมรมได้ เรวินก็เดินขึ้นห้องอย่างอารมณ์ดี เด็กม.4 อนาคตไกลอย่างเขาใช้ชีวิตอย่างโลดโผนมาโดยตลอด เนื่องด้วยส่วนหนึ่งเป็นเพราะการรู้จักหาเงินของเขา อีกส่วนหนึ่งก็คงเป็นเพราะบารมีพ่อเขากระมังที่แผ่ไปทั่วถึงหลายๆที่
เด็กหนุ่มเดินล้วงกระเป๋ามาถึงห้อง ก่อนจะหยุดอยู่แค่หน้าห้องเพราะมีเพื่อนนักเรียนคนนึงกระโดดพรวดพราดเข้ามาหาเข้าอย่างตื่นเต้น
"ไอ้วินเฮ้ย! มีสาวมาหาว่ะเฮ้ย สวยชิบหายบอกว่าเป็นเพื่อนเอ็งว่ะ" เด็กหนุ่มทำหน้าเหม่อลอยพอพูดจบ
"วันนี้ใครมาอีกล่ะ"
 เรวินยักไหล่ก่อนเดินเข้าไปในห้อง ปกติเรื่องพวกนี้มักจะเกิดกับเขาอยู่ตลอดทึกวัน ด้วยหน้าตาเข้าขั้นไอดอลทีนวัยรุ่น อีกทั้งความสามารถในด้านต่างๆยังมีสูง ทำให้สาวๆหลายคนไม่ว่าจะเป็นในโรงเรียนหรือนอกโรงเรียนต่างเทคะแนนความฮอตให้กับเด็กหนุ่มคนนี้ จึงไม่แปลกที่ทุกวันจะมีสาวๆมาแอบอ้างว่าเป็นเพื่อนกับเขาเพื่อมาขอตีสนิทอยู่แบบนี้
อาาาาา....นี่เขาหล่อโคตรเลยใช่มั้ยสาวๆแถวนี้จึงอดใจเอาไว้ไม่อยู่
"จะเป็นใครที่ไหนข้าไม่รู้ แต่ที่แน่ๆแม่มสวยกว่าน้องแจนกิ๊กข้าอีกนะเว้ย ขานี่ย๊าวยาว ผิวข๊าวขาว เห็นแล้วเอ็งจะละลายแน่เพื่อน ฮ่าๆ"
เบลัวส์พูดอย่างมั่นใจ เขาเป็นหนึ่งในนักเรียนห้องเดียวกับเรวิน ซึ่งเป็นนักเรียนห้อง ม.4/5 แต่ไม่ค่อยจะสนิทกับเรวินสักเท่าไหร่ เพราะความที่เป็นหนุ่มเจ้าชู้จึงขัดกับเรวินที่ไม่ค่อยเอาอ่าวกับเรื่องพวกนี้
"ขอให้จริงอย่างที่เอ็งพูดเหอะว่ะ เห็นคนอื่นมาเอ็งก็เป็นแต่แบบนี่ สรุปว่าทุกคนถ้าไม่ใช่เอเลี่ยนก็โหงพรายตายซากกันหมด"
เรวินบ่นกระปอดกระแปดพลางผลักแขนของเบลัวส์ที่กอดคอเขาเเน่นอย่างรำคาญ
"สิบปากว่าไม่เท่าตาเห็นเว้ย.."
เพื่อนหนุ่มหัวเราะก่อนจะเดินผละจากไปอย่างอารมณ์ดี
เรวินเดินเข้ามาภายในห้องก่อนนจะมุ่งไปหลังห้องที่ประจำเหมือนอย่างเคย แต่ทันทีที่ได้เห็นส่วนเกินอีกคนหนึ่งโผล่มา เด็กหนุ่มก็อ้าปากค้างเติ่งจนลมแทบจะจับ
เด็กสาววัยไล่เลี่ยกับเขากำลังนั่งยิ้มแป้นหน้าบานให้กับเขาทั้งชุดนักเรียนหญิง ผมสีดำราวเส้นไหมปล่อยยาวสลวยไว้ถึงบั้นเอว ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนสุกใส่หยีเล็กน้อยให้กับเรวิน ริมฝีปากบางแม้รอยยิ้มตอนดัดฟันจะดูขัดตาบ้างเล็กน้อยแต่ก็เหมือนกับว่าความขัดกันจะเป็นความลงตัวอันไม่มีที่ติสำหรับเธอ
ใบหน้าคุ้นตาที่ทำให้เรวินเริ่มจำได้ บวกกับกลิ่นหองของดอกไม้ไทย สุดท้ายเด็กสาวคนนี้คือ ...มะลิ!
 

 

คำยืนยันของเจ้าของเรื่องสั้น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา