ไม่ต้องอาย
8.2
เขียนโดย บัทเตอร์
วันที่ 31 ตุลาคม พ.ศ. 2557 เวลา 18.43 น.
1 ตอน
10 วิจารณ์
3,948 อ่าน
แก้ไขเมื่อ 31 ตุลาคม พ.ศ. 2557 18.46 น. โดย เจ้าของเรื่องสั้น
1)
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ เวลาของวันนี้จะจบลงแล้ว แต่ผมรู้ว่าวันพรุ่งนี้ต่อมาแน่ๆ ไม่อาจจะหลีบเวลาวันต่อไปพ้น ผมคิดแบบนั้น เฮ้อ...วันนี้ผมเหนื่อยจริงๆ อยากจะหยุดเวลาไว้ตรงนี้จัง ไม่อาจให้มันเดินต่อไปเลย ‘ไอ้เจ้าเวลาเอ่ย...เจ้าไม่เหนื่อยบ้างเหรอ หยุดพักก่อนก็ได้นะ’
คงจะหมดหวัง...เสมือนไปห้ามพระอาทิตย์ไม่ให้มันลับลาจากไป แต่ผมรู้ว่าทำยังไงก็ทำไม่ได้อยู่ดี ใครจะไปห้ามพระอาทิตย์ไม่ได้ตกขอบฟ้าไปได้กันหละ สุดท้ายวันพรุ่งนี้ก็มาอยู่ดี...และผมคงเหนื่อยต่อไปเรื่อยๆ ในวันที่แสนจะวุ่นวายในชีวิตเฉกเช่นวันนี้ ‘เอาล่ะ...ผมขอตัวไปนอนก่อน’
วันต่อมา... เวลา ๘ นาฬิกาตรง ผมกดเปิดโทรทัศน์เพื่อจะฟังข่าวสารบ้านเมือง...
ปิ้ง!! (เสียงเปิดโทรทัศน์)
[...ธงชาติและเพลงชาติไทย เป็นสัญลักษณ์ของความเป็นไทย เราจงร่วมใจยืนตรงเคารพธงชาติ ด้วยความภาคภูมิใจในเอกราช และความเสียสละของบรรพบุรุษไทย...]
ตึบ...!
น้องสาวของผมเดินเข้ามาปิดโทรทัศน์ด้วยความโมโห ผมรู้สึกได้ทันทีเลยว่าน้องของผม...มันจะพูดอะไร
“ไอ้พี่เน่า...ไปทำงานได้แล้ว”
ผมรีบลุกออกมาจากหน้าจอโทรทัศน์ทันทีที่ผมได้ยินเสียงอันไม่น่าพิสมัยของน้องสาวตัวเอง
“จร้าๆ ไปทำงานที่ห้องสมุดก็ได้ครับคุณอีน้องสาว”
ผมเดินไปยังรถจักรยานคันสุดที่รักสีขาวดำที่จอดอยู่ตรงหน้าบ้าน...ขับขี่รถคันโปรดมุ่งตรงไปยังห้องสมุดเหมือนทุกๆ วัน และในระหว่างทางก็เจอไอ้บอส...เพื่อนตัวดีที่ชอบกระโดดถีบกลางหลังของผมเหมือนเช่นเคย...ที่มันเคยทำ แต่ในที่สุดผมก็มาถึงห้องสมุดของกระผมจนได้
พอมาถึงห้องสมุด...ผมไม่คิดอะไรเลย เพราะตอนนี้ผมหิวมากๆ ‘นี้ผม...ทานข้าวเช้าหรือยัง...?’
เวลาของวันนี้ก็ยังคงเดินมุ่งหน้าต่อไปเรื่อยๆ ด้วยความหิว และตอนนี้ก็จวนจะ ๑๘ นาฬิกาตรงแล้ว ผมรู้สึกหิวมากๆ เลยบอกเพื่อนที่เฝ้าดูแลห้องสมุดด้วยกันว่า...
“ชั้นกลับบ้านก่อนนะเว้ยเฮ้ย...ชั้นหิวข้าวโคตรๆ เลยวะ”
ตอนนั้นผมจำได้ว่ามีตังค์อยู่ในกระเป๋าไม่ถึง ๕๐ บาทได้ ผมจึงคิดมุ่งตรงดิ่งไปยังร้านขายก๋วยเตี๋ยวที่กำลังจะเปิดร้านยามค่ำคืน
“ป้านุ่ม... (เจ้าของร้านชื่อป้านุ่ม) ผมเอาก๋วยเตี๋ยวเส้นเล็กผสมเส้นใหญ่ไม่ต้องใส่ถั่วงอกพิเศษ ๔๐ บาทแบบด่วนๆ”
พอสั่งได้ไม่ถึง ๕ นาที...ป้านุ่มก็ยกชามมา ผมถึงกับเงิบ...กับชามก๋วยเตี๋ยวของป้านุ่มแก นี้ป้านุ่มแกเล่นใส่ถั่วงอกแม่งเต็มชาม เหอะๆ
“ป้าเนี้ยอะไร...ผมบอกว่าไม่ต้องใส่ถั่วงอก”
“เอ่ะ เมื่อกี้ป้าได้ยินว่าใส่ถั่วแบบพิเศษ”
“โห...ไปทำมาใหม่เลยป้า ป้าก็รู้ว่าผมแพ้ถั่วงอก”
ในร้านก๋วยเตี๋ยวมีโทรทัศน์เก่าๆ ของป้าอยู่เครื่อง เด็กสาวนั่งแลดูโทรทัศน์เครื่องนั้นด้วยความน่ารักกับแม่ของตัวเอง... ตอนนี้ผมได้แต่นั่งหิวโหยเท่านั้นในเพลานี้...
เวลา ๑๘ นาฬิกาตรง...!!
[...ธงชาติและเพลงชาติไทย เป็นสัญลักษณ์ของความเป็นไทย เราจงร่วมใจยืนตรงเคารพธงชาติ ด้วยความภาคภูมิใจในเอกราช และความเสียสละของบรรพบุรุษไทย...]
สาวน้อยวัยชนยืนขึ้นตัวตรงกลางร้าน...ร้องเพลงชาติไทยเสียงดังท่วมร้านขายก๋วยเตี๋ยวของป้าด้วยความน่ารักจนจบเพลง ถ้าจะถามผมในตอนนั้น...ผมทำอะไรอยู่กันแน่
.....
[...ธงชาติและเพลงชาติไทย เป็นสัญลักษณ์ของความเป็นไทย เราจงร่วมใจยืนตรงเคารพธงชาติ ด้วยความภาคภูมิใจในเอกราช และความเสียสละของบรรพบุรุษไทย...]
เด็กสาวยืนตรงทำความเคารพธงชาติและเพลงชาติไทย ผมหันมองไปรอบตัว...แล้วพินิจคิดในใจไปว่า หนูน้อยคนนี้เธอก็เป็นคนไทย ผมก็เป็นคนไทย แล้วผมจะอายทำไมในการทำความเคารพความเป็นไทยของเรา ในเมื่อเด็กสาวคนนี้ยังแสดงความรักที่มีต่อชาติได้ ผมก็เอาด้วยสิ
และแล้วเสียงเพลงชาติไทยในโทรทัศน์ดังขึ้น... ผมกับเด็กสาวคนนั้นต่างก็ร้องเพลงชาติไทยจนจบเพลง แม้ว่าตอนนั้นผมจะหิวจนตาลายแล้วก็ตาม หรือแม้ว่าลุงที่นั่งอยู่โต๊ะข้างๆ ผม...แกจะรู้สึกรำคาญเล็กน้อยถึงปานกลางก็ตามแต่... และลุงแกยังคงนั่งมองกระผมกับเด็กน้อยด้วยความขำก็แล้วแต่เลยยยย.....
ใครต่อใครอาจบอกว่าเป็นเรื่องเล็กน้อย และส่วนมากผมก็ไม่เห็นใครทำยืนตรงทำความเคารพธงชาติเลยสักนิด เมื่อได้ยินเสียงเพลงชาติไทยอยู่ทุกๆ วันแบบนี้ว่า
[...ธงชาติและเพลงชาติไทย เป็นสัญลักษณ์ของความเป็นไทย เราจงร่วมใจยืนตรงเคารพธงชาติ ด้วยความภาคภูมิใจในเอกราช และความเสียสละของบรรพบุรุษไทย...]
มายืนตรงเคารพธงชาติกับผมไหม...เมื่อได้ยินเสียงทุกๆ ๘ นาฬิกาและ ๑๘ นาฬิกา แต่ไม่ว่าคุณจะคิดยังไงก็ช่าง ต่อไปผมจะทำทุกวัน...ทำความเคารพธงชาติไทยและร้องเพลงชาติไทย...แบบนี้
คงจะหมดหวัง...เสมือนไปห้ามพระอาทิตย์ไม่ให้มันลับลาจากไป แต่ผมรู้ว่าทำยังไงก็ทำไม่ได้อยู่ดี ใครจะไปห้ามพระอาทิตย์ไม่ได้ตกขอบฟ้าไปได้กันหละ สุดท้ายวันพรุ่งนี้ก็มาอยู่ดี...และผมคงเหนื่อยต่อไปเรื่อยๆ ในวันที่แสนจะวุ่นวายในชีวิตเฉกเช่นวันนี้ ‘เอาล่ะ...ผมขอตัวไปนอนก่อน’
วันต่อมา... เวลา ๘ นาฬิกาตรง ผมกดเปิดโทรทัศน์เพื่อจะฟังข่าวสารบ้านเมือง...
ปิ้ง!! (เสียงเปิดโทรทัศน์)
[...ธงชาติและเพลงชาติไทย เป็นสัญลักษณ์ของความเป็นไทย เราจงร่วมใจยืนตรงเคารพธงชาติ ด้วยความภาคภูมิใจในเอกราช และความเสียสละของบรรพบุรุษไทย...]
ตึบ...!
น้องสาวของผมเดินเข้ามาปิดโทรทัศน์ด้วยความโมโห ผมรู้สึกได้ทันทีเลยว่าน้องของผม...มันจะพูดอะไร
“ไอ้พี่เน่า...ไปทำงานได้แล้ว”
ผมรีบลุกออกมาจากหน้าจอโทรทัศน์ทันทีที่ผมได้ยินเสียงอันไม่น่าพิสมัยของน้องสาวตัวเอง
“จร้าๆ ไปทำงานที่ห้องสมุดก็ได้ครับคุณอีน้องสาว”
ผมเดินไปยังรถจักรยานคันสุดที่รักสีขาวดำที่จอดอยู่ตรงหน้าบ้าน...ขับขี่รถคันโปรดมุ่งตรงไปยังห้องสมุดเหมือนทุกๆ วัน และในระหว่างทางก็เจอไอ้บอส...เพื่อนตัวดีที่ชอบกระโดดถีบกลางหลังของผมเหมือนเช่นเคย...ที่มันเคยทำ แต่ในที่สุดผมก็มาถึงห้องสมุดของกระผมจนได้
พอมาถึงห้องสมุด...ผมไม่คิดอะไรเลย เพราะตอนนี้ผมหิวมากๆ ‘นี้ผม...ทานข้าวเช้าหรือยัง...?’
เวลาของวันนี้ก็ยังคงเดินมุ่งหน้าต่อไปเรื่อยๆ ด้วยความหิว และตอนนี้ก็จวนจะ ๑๘ นาฬิกาตรงแล้ว ผมรู้สึกหิวมากๆ เลยบอกเพื่อนที่เฝ้าดูแลห้องสมุดด้วยกันว่า...
“ชั้นกลับบ้านก่อนนะเว้ยเฮ้ย...ชั้นหิวข้าวโคตรๆ เลยวะ”
ตอนนั้นผมจำได้ว่ามีตังค์อยู่ในกระเป๋าไม่ถึง ๕๐ บาทได้ ผมจึงคิดมุ่งตรงดิ่งไปยังร้านขายก๋วยเตี๋ยวที่กำลังจะเปิดร้านยามค่ำคืน
“ป้านุ่ม... (เจ้าของร้านชื่อป้านุ่ม) ผมเอาก๋วยเตี๋ยวเส้นเล็กผสมเส้นใหญ่ไม่ต้องใส่ถั่วงอกพิเศษ ๔๐ บาทแบบด่วนๆ”
พอสั่งได้ไม่ถึง ๕ นาที...ป้านุ่มก็ยกชามมา ผมถึงกับเงิบ...กับชามก๋วยเตี๋ยวของป้านุ่มแก นี้ป้านุ่มแกเล่นใส่ถั่วงอกแม่งเต็มชาม เหอะๆ
“ป้าเนี้ยอะไร...ผมบอกว่าไม่ต้องใส่ถั่วงอก”
“เอ่ะ เมื่อกี้ป้าได้ยินว่าใส่ถั่วแบบพิเศษ”
“โห...ไปทำมาใหม่เลยป้า ป้าก็รู้ว่าผมแพ้ถั่วงอก”
ในร้านก๋วยเตี๋ยวมีโทรทัศน์เก่าๆ ของป้าอยู่เครื่อง เด็กสาวนั่งแลดูโทรทัศน์เครื่องนั้นด้วยความน่ารักกับแม่ของตัวเอง... ตอนนี้ผมได้แต่นั่งหิวโหยเท่านั้นในเพลานี้...
เวลา ๑๘ นาฬิกาตรง...!!
[...ธงชาติและเพลงชาติไทย เป็นสัญลักษณ์ของความเป็นไทย เราจงร่วมใจยืนตรงเคารพธงชาติ ด้วยความภาคภูมิใจในเอกราช และความเสียสละของบรรพบุรุษไทย...]
สาวน้อยวัยชนยืนขึ้นตัวตรงกลางร้าน...ร้องเพลงชาติไทยเสียงดังท่วมร้านขายก๋วยเตี๋ยวของป้าด้วยความน่ารักจนจบเพลง ถ้าจะถามผมในตอนนั้น...ผมทำอะไรอยู่กันแน่
.....
[...ธงชาติและเพลงชาติไทย เป็นสัญลักษณ์ของความเป็นไทย เราจงร่วมใจยืนตรงเคารพธงชาติ ด้วยความภาคภูมิใจในเอกราช และความเสียสละของบรรพบุรุษไทย...]
เด็กสาวยืนตรงทำความเคารพธงชาติและเพลงชาติไทย ผมหันมองไปรอบตัว...แล้วพินิจคิดในใจไปว่า หนูน้อยคนนี้เธอก็เป็นคนไทย ผมก็เป็นคนไทย แล้วผมจะอายทำไมในการทำความเคารพความเป็นไทยของเรา ในเมื่อเด็กสาวคนนี้ยังแสดงความรักที่มีต่อชาติได้ ผมก็เอาด้วยสิ
และแล้วเสียงเพลงชาติไทยในโทรทัศน์ดังขึ้น... ผมกับเด็กสาวคนนั้นต่างก็ร้องเพลงชาติไทยจนจบเพลง แม้ว่าตอนนั้นผมจะหิวจนตาลายแล้วก็ตาม หรือแม้ว่าลุงที่นั่งอยู่โต๊ะข้างๆ ผม...แกจะรู้สึกรำคาญเล็กน้อยถึงปานกลางก็ตามแต่... และลุงแกยังคงนั่งมองกระผมกับเด็กน้อยด้วยความขำก็แล้วแต่เลยยยย.....
ใครต่อใครอาจบอกว่าเป็นเรื่องเล็กน้อย และส่วนมากผมก็ไม่เห็นใครทำยืนตรงทำความเคารพธงชาติเลยสักนิด เมื่อได้ยินเสียงเพลงชาติไทยอยู่ทุกๆ วันแบบนี้ว่า
[...ธงชาติและเพลงชาติไทย เป็นสัญลักษณ์ของความเป็นไทย เราจงร่วมใจยืนตรงเคารพธงชาติ ด้วยความภาคภูมิใจในเอกราช และความเสียสละของบรรพบุรุษไทย...]
มายืนตรงเคารพธงชาติกับผมไหม...เมื่อได้ยินเสียงทุกๆ ๘ นาฬิกาและ ๑๘ นาฬิกา แต่ไม่ว่าคุณจะคิดยังไงก็ช่าง ต่อไปผมจะทำทุกวัน...ทำความเคารพธงชาติไทยและร้องเพลงชาติไทย...แบบนี้
คำยืนยันของเจ้าของเรื่องสั้น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8.4 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8.2 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ