บทธรรมดา ร้านตัดผม

10.0

เขียนโดย นายน่าเบื่อ

วันที่ 22 ตุลาคม พ.ศ. 2557 เวลา 16.53 น.

  1 ตอน
  7 วิจารณ์
  3,979 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 22 ตุลาคม พ.ศ. 2557 16.59 น. โดย เจ้าของเรื่องสั้น

แชร์เรื่องสั้น Share Share Share

 

1) ร้านตัดผม

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก
ร้านตัดผม
          เด็กแก้มยุ้ยกำลังร้องไห้งอแงในอ้อมกอดของแม่ ผมมองเด็กน้อยก่อนจะรีบพูดปลอบ   และลงมือลังแกเส้นผมของเจ้าหนูขี้กลัวต่อไป   อาจจะไม่ชินเท่าไหร่กับการตัดผมเด็ก   แต่ก็มีมาบ่อยจนรู้สึกแปลกไปในตัวเอง   ที่นี้คือที่สำหรับเปลี่ยนแปลงครับ   ผมคือคนรับทำหน้าที่เปลี่ยนแปลง   ออกมาดูดี หรือดูเรียบร้อย ออกมาแนวตามสมัยบ้าง เชยตามอายุบ้าง   ผมก็ต้องเป็นผู้มอบการเปลี่ยนแปลงให้พวกเขา   ที่นี้ร้านตัดผมครับ
 
            เจ้าเด็กขี้กลัวกอดแม่กลมหลังจากตัดเสร็จ เหมือนมนต์วิเศษ หรือสวิตซ์ปิดเปิดกันแน่   ทำไมน้ำตาของเด็กน้อยถึงได้หยุดง่ายดายเมื่อผมวางปัตตาเลี่ยนลง ความรู้สึกเป็นยักษ์เป็นมารมันคงแบบนี้เอง สายตาตัดพอของเด็กน้อยแทงลงไปบนหัวใจอันเงียบเหงา ผมเสมองไปทางอื่นก่อนถอนหายใจเหนื่อยอ่อน   ตัดกันเป็นชั่วโมงเลยนะ เด็กมักเป็นแบบนี้ อยู่ไม่เป็นสุข แต่พอตัดเสร็จกลับนิ่งน่ารัก   แต่ผมยังคงมองว่าตัวเองเกลียดเด็ก
 
           แหงนมองท้องฟ้าเริ่มลาแสง   เบื้องขอบฟ้าทิศตะวันตกแปลงจากสีครามเป็นส้มแดงด้วยความปกติ อาทิตย์ลาลงอีกแล้วสินะ คงเป็นอีกวันที่สองตาของผมได้มองดูมันตกหายไป   เหมือนช่วงชีวิตที่เวียนวน ไม่มีสิ่งใดจะมาสิ้นสุดและเริ่มต้นได้นานเท่านาน   เมฆย้อมแสงสีแดงกำลังลอยกลับไปยังความว่างเปล่า   หรือมันอาจจะรอรวมตัวบนฟ้าอีกหน รอเวลาล่วงหล่นเป็นสายน้ำ และจะกลับไปรวมตัวกันบนฟ้า
 
            กลิ่นดอกไม้อ่อนจากบ้านหลังข้าง ๆ ลอยมาเตะจมูก ผมสงสัยมาหลายวันแล้วว่ามันคือดอกอะไร แต่สุดท้ายคำถามมันก็หายไปอีกแบบเดิมเมื่อเริ่มความคิดใหม่ มองกิ่งของขนุนที่กำลังแห้งตาย   เสียงในใจบอกถึงความหดหู่ ไม่นานชีวิตต้องกลับไปเหี่ยวแห้งตามเวลา กลิ่นดอกไม้ห้อมมากและมันก็กำลังกัดจมูกจนเริ่มเหม็น   ผมคงรับกลิ่นหอมมากเกินไปจนลืมว่าตัวเองแพ้อากาศ ละความสนใจจากมันเสียกลิ่นหอม
 
            จับไม้กวาดเริ่มทำความสะอาด มองพื้นเสื่อน้ำมันเก่าของร้านด้วยความหวนหา   หวนไห้ใจหายทุกครั้งที่เริ่มนึกถึงวันเก่าเดิมเคย   กี่ปีแล้วนะที่ทำงานตัดผมมา 9 หรือ 10 น่าจะสิบแล้ว นึกย้อนไปถึงลูกค้าเก่า ๆ ที่ผมเริ่มสะสมมาแต่นาน   บางคนก็หายไปตัดร้านแอร์สมัยใหม่ บางคนก็ย้ายไปแล้ว   เมื่อไม่นานมานี้ก็พึ่งเสียเพื่อนไป   ลูกค้าคนสำคัญประจำโต๊ะหมากรุก ภาพรอยยิ้มของอาแปะยังสะท้อนในตา ภาพงานศพก็เช่นกัน มองกลิ่นเก่าของอดีตด้วยความเศร้า บอกตัวเองซ้ำ ๆ เรายังหนุ่มก็ทำต่อไป
 
            มาอีกแล้วความว่างมาเยือนอีกแล้ว   ในมุมเดิมของร้าน มีเก้าอี้ปรับเอนข้างตู้หนังสือเล็ก ๆ เป็นที่นั่งประจำยามว่าง ผมมักจมกับหนังสือหลากหลายแบบในเวลาที่ไม่มีลูกค้า ที่ตรงนี้สามารถมองเห็นหน้าร้านได้ชัด ในบางวันผมก็มักจะวางหนังสือ แล้วนั่งเหม่อมองออกไปยังถนน มองผู้คน มองร้านตัดผมฝั่งตรงข้าม   มีครั้งหนึ่งที่ยังจำได้รางเลือน เคยได้ยินเจ้าของร้านฝั่งตรงข้ามพูดถึงร้านเก่าโทรมของผม  เขาบอกว่าร้านเก่า ๆ โทรม ๆ แบบนี้ไม่ใช่คู่แข่งที่สมน้ำสมเนื้อกับร้านของเขา   แม้น้ำเสียงที่ผมได้ยินจากเขาในครั้งนั้น   มันเป็นเสียงของคนหยามเหยียดดูถูกคน ผมกลับรู้สึกดีในเวลาที่ไตร่ตรองดูถึงถ้อยคำของเขา   อย่างน้อยร้านเก่าแก่โทรม ๆ ของผมก็ไม่ได้เป็นคู่แข่งกับใคร เพียงเท่านี้ผมก็มีรอยยิ้มแล้ว
 
            พูดถึงความแก่ มักนึกย้อนมองตัวเองทุกครั้ง อายุใกล้สามสิบแล้ว ผมยังไม่ถือว่าตัวเองไม่แก่ซะทีเดียว แม้กลิ่นร้านตัดผมที่สืบทอดมามันจะเกินรุ่นทวดแล้ว   กลิ่นอายแก่ ๆ สร้างความทรงจำมาแล้วมากกว่าร้านแอร์ใหม่ ๆ ผมไม่เคยมีความคิดว่าจะปรับเปลี่ยนร้านให้มีความทันสมัย เพราะผมชอบความเป็นไปในแบบควรจะเป็น ชอบการคงอยู่ของยุคสมัยที่น่าโหยหา ร้านตัดผมเป็นอีกที่หนึ่งที่เก็บความทรงจำมากมายไว้ให้ผม   บางทีเคยมีเพื่อนแนะนำให้ผมปรับปรุงร้านบ้าง นั้นเป็นความคิดที่ดีทีเดียวที่จะปรับปรุงมัน   ร้านอันเป็นที่รัก หากแต่ผมไม่ชอบการเจริญตามยุคจนหลงลืมลากเหง้า ผมจึงลงมือปรับปรุงร้านในแบบตัวเอง จนมันไม่เกิดการเปลี่ยนแปลงใด ๆ ผมไม่รู้ว่ายังเรียกว่าปรับปรุงไหม แต่สำหรับผมมันคือการปรับปรุงความรู้สึกในร้าน   บรรยากาศที่เหมือนเดิมทุกครั้งเมื่อกลับมาเยือน ผมชอบอารมณ์คิดถึงแบบนี้ พัดลม กระจกเงา ชั้นวางอุปกรณ์   ทุกอย่างยังคงเดิม
 
            ยิ่งว่างยิ่งล่องลอย ยิ่งขยับนิดน้อยยิ่งเพ้อไปในความคิด แม้ผมจะมองเห็นข้างนอกร้านภาพในหัวก็ยังชัดกว่าข้างนอกนั้น คิดถึงตัวเองครั้งแลกที่ได้ลงมือทำร้านตัดผมต่อจากพ่อ วันนั้นพ่อไม่อยู่แล้ว ผู้เป็นที่รักคนสุดท้ายของผมจากไปในร้านแห่งนี้อย่างสงบ มันเป็นเรื่องเศร้าที่น่ายินดีหรือเปล่า ผมไม่อาจรู้หรอกว่าชีวิตพ่อเป็นแบบไหน ผมรู้แค่เพียงพ่อสอนให้ผมเป็นช่างตัดผมในอายุสิบห้า   หลังจากที่ย้ายมาอยู่ด้วยกันเพราะคุณแม่เสียชีวิต   พ่อและแม่แยกกันอยู่ตั่งแต่ผมจำความได้   พวกท่านทั้งสองไม่ได้ทะเลาะกัน แม่บอกผมแบบนี้เสมอ แม่มักจะบอกว่าแค่แยกกันเท่านั้น
 
            ผมรู้สึกลอยล่อง ภาพเก่าหวนไห้ใจหาย วันนั้นเป็นบ่ายวันศุกร์ที่ลูกค้าควรเต็มร้าน หากแต่วันนั้นร้านผมต้องปิดลง ผมมาหาพ่อที่ร้านในตอนบ่ายวันนั้น และพบร่างที่นอนหลับสงบนิ่ง ใบหน้าของเขายิ้มน้อยเหมือนกำลังฝันดี เหมือนความสุขของเขาพึ่งเริ่มต้น แม้ไม่หายใจอีกแล้ว ผมไม่ได้ตกใจที่พ่อจากไปไม่บอกกล่าว เราพ่อลูกไม่สนิทกันมาก แต่เราคล้ายกันมาก พ่อจากตอนผมอายุ18 ย่าง 19   และในเวลานั้น ผมเหลือเพียงร้านตัดผมเท่านั้นที่คอยมองและให้กลิ่นอายแบบเดิม เหมือนเมื่อตอนที่พ่อยังอยู่
 
            ผมตื่นจากภวังค์ของตัวเองจากการปลุกของประตูหน้าร้าน ผู้มาใหม่เดินเข้ามาด้วยใบหน้ายิ้มเหงา เขาเดินเข้ามามองรอบ ๆ ร้านเก่าของผมด้วยแววตาโหยหา ลูกค่าคนใหม่หรือเปล่า อาจไม่ใช่คนแถวนี้ ผมมองเสี่ยงหน้าเกรี่ยงเกลาแบบผู้ดีที่มีเงินตัดร้านหรูได้สบาย หรือเขาอาจเข้าร้านผิด กลิ่นโคโลนราคาแพงลอยมากระทบจมูกเรียกสติผมกลับมา สายตาจับจดอยู่บนใบหน้าของผู้มาเยือน ไม่รู้ตัวเลยว่าเขาก็ยืนจ้องผมไม่วางตา ผมรีบลุกขึ้นจากเก้าอี้ เดินออกมาเล็กน้อยเพื่อจะเอ่ยถามหากแต่ก็ต้องหยุดลง
 
            “ร้านน่าคิดถึงดีนะครับ ไปดื่มกาแฟกันมั้ยครับ คุณช่างตัดผม”
 
แต่ก็ต้องหยุดลง เมื่อเสียงทุ่มเอ่ยออกมาด้วยประโยคที่ไม่คิดว่าจะได้ยิน ผมมองนาฬิกาที่แขวนบนผนัง แม้จะมีความแปลกใจมากแค่ไหน แต่คำพูดแรกของเขามันสะกดในตัวของผม เหมือนสิ่งที่พยายามทำมาให้คงเดิมกำลังเป็นผล โดยผมหวังไวว่ามันจะยังคืนความจำให้ใครอีกบ้าง ร้านเก่า ๆ ของผม
 
            “ที่นี้ร้านตัดผมครับ ผมมีแต่ขวดนี้เท่านั้น”
          ผมพูดบอกก่อนจะยกขวดเหล้าให้ดู เขานั่งลงตรงเก้าอี้นั่งรอ ผมเดินไปหาแก้วให้ด้วยความพอใจในตัวเอง โดยหลงลืมไปแล้วว่า ผู้มาใหม่เป็นคนแปลกหน้า ที่เรายังไม่รู้จักกันเลยแม้แต่นิด ไม่รู้ว่าไอ้ร้านเก่า ๆ ของผมไปเชิญชวนอะไรให้เขามา แต่ก็สร้างสีสันให้กับวันว่างของผมไม่น้อย   เป็นครั้งแรกที่มีคนชวนกินกาแฟ เป็นครั้งแรกในรอบหลายปีที่มีคนเขามาแล้วพูดคุยแบบหวนหาเวลาแห่งอดีต เพราะมันทำให้ผมเริ่มคิดถึงความหลงลืมของตัวเอง   นี้ผมหลงลืมอะไรบางอย่างหรือเปล่า นะ ในเวลาที่นั่งคุยยามแสงจากลากับคนแปลกหน้าแสนประหลาด
------------------------------------------------------------------------
ผมคิดนะ ว่าในเรื่องแก่นมันอยู่ตรงไหน  ผมเป็นคนเขียนเองผมก้ไม่ทราบเหมือนกัน ขอบคุณที่เข้ามาอ่านครับ  ขอบคุณมากเลย
เหมือนเดิม คำผิดยังคงมีนะครับ
 

 

คำยืนยันของเจ้าของเรื่องสั้น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
10 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา