My Diary about Dad
-
เขียนโดย โออี้
วันที่ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2557 เวลา 20.12 น.
3 บท
0 วิจารณ์
5,834 อ่าน
แก้ไขเมื่อ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2557 19.16 น. โดย เจ้าของเรื่องสั้น
3) I love you
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความคำว่า "หนูรักพ่อ" เป็นสิ่งที่ฉันพูดอยู่ทุกวัน
ไม่เคยคิดเลย..ว่ามันจะมีวันนี้
วันที่ฉันจะได้บอกรักพ่อ..เป็นครั้งสุดท้าย
อย่างที่โบราณเขากล่าวเอาไว้ว่างานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกลา..การพบเจอก็ต้องมีการลาจาก แต่ฉันไม่เคยคิดเลยว่ามันจะเร็วขนาดนี้ ช่วงเวลาที่มีคุณพ่ออยู่ข้างกายสวยงามจนฉันไม่ทันนึก ไม่ทันได้คิด..ว่าสักวันท่านก็ต้องจากไป
บัดนี้ฉันยืนอยู่หน้าเมรุในวัดแห่งหนึ่ง ข้างกายฉันเป็นชายหนุ่มในวัย 18 ปี ลูกชายของฉันเอง..ลูกชายที่ได้ถือกำเนิดเพราะคำของคุณพ่อ ฉันจับมือเขาแน่นมองดูควันที่พวยพุ่งขึ้นไปสู่ฝากฟ้า น้ำตาที่เคยเหือดแห้งไปแล้วกลับไหลรินออกมาอีกครั้ง หัวใจของฉันราวกับกำลังจะแตกเป็นเสี่ยงๆ
"ไม่เป็นอะไรนะครับคุณแม่" ลูกชายของฉันกล่าวบอก
ไม่มีแล้วคืนวันที่สวยงาม
"คุณพ่อคะ หนูน่ารักมั้ย" เด็กน้อยวัย 5 ขวบในชุดเจ้าหญิงแสนสวยถามพลางหมุนตัวไปรอบๆ คุณพ่อมองนางฟ้าตัวน้อยด้วยความภูมิใจ
"ลูกพ่อน่ารักเสมอ" เขาหอมแก้มเด็กน้อยฟอดใหญ่
"ฮือๆ หนูเจ็บจังเลยค่ะ" เด็กน้อยวัย 10 ขวบร้องไห้เสียงดังนั่งชันเข่าอยู่ที่พื้น เลือดสีสดไหลออกจากบาดแผลจากการลื่นล้ม ผู้เป็นพ่อเข้ามาดูอาการด้วยความตกใจ
"โอ๋ๆ ไม่เป็นอะไรนะเอย เพี้ยง พ่อเป่าแล้วเดี๋ยวก็หาย"
"พ่อคะ หนูสอบติดแล้ว" เอยยื่นผลการสอบเข้ามัธยมหนึ่งในโรงเรียนที่เธอใฝ่ฝันให้คนเป็นพ่อดู เขามองด้วยความภาคภูมิใจและเต็มไปด้วยความรัก
"ลูกพ่อเก่งจังเลย นี่รางวัลสำหรับคนเก่ง" คุณพ่อจุ๊บไปที่แก้มเนียนของลูกสาว
"พ่อคะ หนูท้อง หนูขอโทษ"..ในวันที่เลวร้ายที่สุดในชีวิต วันที่เหตุการณ์ร้ายๆเกิดขึ้นแต่พ่อก็ไม่เคยปล่อยมือลูกสาวของตัวเอง
"ไม่เป็นอะไรนะลูก พ่อให้อภัยเอยเสมอ เรามาหาทางแก้ไขไปด้วยกันนะ"
พ่อไม่เคยทิ้งให้ลูกต้องเดินตามลำพัง
เหตุการณ์ต่างๆทั้งร้ายและดี ทั้งมีความสุขและทุกข์ประดังเข้ามาในสมอง ความรู้สึกที่ไม่สามารถบรรยายออกมาเป็นคำพูดได้ ทุกสิ่งทุกอย่างที่ฉันและพ่อผ่านมันมาด้วยกัน ทุกครั้งที่ฉันเจ็บพ่อมักจะเป็นคนเป่าให้หาย พ่อมักจะดูแลฉันเป็นอย่างดี แต่ในวันที่พ่อต้องเจ็บฉันกลับไม่สามารถช่วยอะไรท่านได้เลย
ฉันจะไม่มีทางรู้..ว่าพ่อเป็นอะไร ถ้าวันนั้นฉันไม่กลับบ้านเร็วและเจอพ่อนอนหมดสติอยู่ในครัว
ฉันกลับบ้านหลังจากไปทำงานเร็วกว่าปกติสองสามชั่วโมง เพราะงานช่วงกลางเดือนไม่มีอะไรมาก ฉันก้าวเข้าบ้านพลางร้องทักพ่อ
"พ่อคะ หนูกลับมาแล้วค่ะ" ฉันถอดร้องเท้าและเดินเข้าไปในบ้าน "นิวกลับมาหรือยังคะ"
ฉันขมวดคิ้วด้วยความสงสัยว่าทำไมพ่อถึงไม่ตอบฉัน เลยลองตะโกนเรียกอีกครั้ง "พ่อคะ พ่อคะ พ่ออยู่ไหน"
ฉันเดินหาพ่อไปทั่วบ้านจนในที่สุดก็เจอพ่อนอนหมดสติอยู่ในห้องครัว
"พ่อคะ!" ฉันตกใจรีบเข้าหาพ่อ เขย่าเรียกอยู่นานแต่พ่อก็ไม่มีทีท่าว่าจะตื่น จึงเรียกรถพยาบาล
ฉันนั่งอยู่หน้าห้องไอซียู มองดูประตูที่ปิดสนิทอย่างไม่มีทีท่าว่าจะเปิดออก น้ำตาของฉันไหลออกมาเป็นสาย หัวใจบีบรัดแน่น..ทั้งสับสน ตกใจและกลัว กลัวว่าพ่อจะเป็นอะไร ทางเดินนั้นเงียบสงบมีเพียงแสงไฟที่ส่องสว่างอยู่เป็นเพื่อน
"แม่ครับ คุณตาเป็นอะไรมากมั้ยครับ" นิวลูกชายฉันวิ่งหน้าตาตื่น ฉันหันไปมองแต่ไม่ตอบ เพราะไม่สามารถจะบอกได้ว่าคุณพ่อเป็นอะไรมากน้อยแค่ไหน "แต่ผมเชื่อว่าคุณตาจะไม่เป็นอะไรนะครับ"
เรารอกันอยู่เกือบห้าชั่วโมงกว่าประตูห้องไอซียูจะเปิดออก คุณหมอในชุดกาวน์สีขาวเดินออกมาพร้อมกับนางพยาบาล ฉันรีบเข้าไปถามด้วยความอยากรู้ในอาการของพ่อ
"พ่อฉันเป็นอย่างไรบ้างคะคุณพ่อ"
คุณหมอทำหน้าไม่ค่อยมีเท่าไหร่นัก "ผมขอให้คุณเตรียมใจไว้หน่อยนะครับ ผู้ป่วยเป็นโรคมะเร็งในสมองระยะสุดท้าย อาจมีชีวิตอยู่ได้ไม่ถึงสามวัน"
ฉันนิ่งช็อกกับสิ่งที่ได้ยิน..ราวกับหัวใจสลาย เหมือนมันหยุดเต้นไปชั่วขณะ
"ไม่จริงใช่มั้ยคะ คุณพ่อฉันไม่ได้เป็นอะไรใช่มั้ยคะ" ฉันถามคุณหมอพลางเขย่ามือของเขาอย่างบ้าคลั่ง สติฉันไม่อยู่กับตัวแล้วตอนนี้
"มันเป็นความจริงครับ และคนไข้ก็ขอพบคุณด้วย เขาอยากจะคุยกับคุณ"
ฉันเดินเข้าไปในห้องไอซียู มีเครื่องมือทางการแพทย์วางอยู่เต็มไปหมด และมีเตียงหนึ่งวางอยู่ คุณพ่อของฉันนอนอยู่บนนั้น มีสายอะไรระโยงระยางเต็มไปหมด ฉันกัดริมฝีปากเพื่อไม่ให้มีเสียง เดินเข้าไปใกล้เตียงเรื่อยๆ จนในที่สุดก็ได้เห็นร่างคุณพ่อ
ท่านดูอิดโรยและเจ็บปวดเป็นที่สุด แต่ดวงตาของท่านกลับเต็มไปด้วยประกายของความดีใจเมื่อเห็นหน้าฉัน ฉันร้องไห้ เอามือไปจับมือคุณพ่อ
"คุณพ่อคะ" ฉันเอ่ยเรียกคุณพ่อเสียงสั่น
"เอย" เสียงของคุณพ่อแหบจนฟังแทบไม่รู้เรื่อง "เอยลูกรัก" คุณพ่อยิ้ม
"คุณพ่ออย่าเพิ่งพูดอะไรเลยนะคะ" ฉันบอก เพราะคุณพ่อเริ่มหายใจไม่ปกติแล้ว
"ห..ให้พ่อได้พูดกับลูกเถอะ" คุณพ่อยังดึงดัน "ลูกรู้มั้ย..ว่าลูก...คือของขวัญที่ล้ำค้าที่สุดที่พ่อเคยได้รับ เอยเหมือนแสงสว่าง..ที่ได้......นำทางให้พ่อไปสู่จุดหมาย พ่อมีความสุขที่ได้อยู่กับเอย ดูลูกสาวตัวน้อยๆของพ่อสิ..........ลูกโตมาขนาดนี้ได้ยังไงกันนะ"
"เพราะพ่อนั่นแหละค่ะ ฮึกๆ" ฉันสะอื้น
"อย่าร้องไห้เลย....พ่อเจ็บปวดทุกครั้ง........ที่เห็นน้ำตาของเอย" เสียงของพ่อเริ่มขาดห้วงไปเรื่อยๆ "กอดพ่อหน่อย"
ฉันทำตามคำขอของพ่อ ฉันกอดคุณพ่อทั้งที่ยังร้องไห้ "พ่อจะต้องหายดี อยู่กับหนูไปนานๆกว่านี้สิคะ"
"การตายเป็นมันเป็นของธรรมดา..ทุก.....คน......ต้องพบเจอ อย่าเสียไปเลย..อย่าร้อง.............ไห้"
"คุณพ่อ ฮึกๆๆ"
"พ่อรักลูกนะเอย"
"หนูก็รักพ่อค่ะ"
แล้วเสียงของเครื่องวัดจังหวะการเต้นก็หัวใจก็ส่งเสียงดังตืดยาวๆ เส้นกราฟกลายเป็นแนวนอนไม่มีขึ้นๆลงๆอย่างที่มันควรจะเป็น
"คุณพ่อ! ไม่นะคะ หมอ พยาบาล ใครก็ได้มาช่วยคุณพ่อด้วย ฮือๆๆๆ"
หลังจากกลับจากงานศพฉันก็เดินเข้าไปในห้องของพ่อ ความรู้สึกเก่าๆในวันที่คุณพ่อยังอยู่ยังคงมีเหมือนเดิม ความอบอุ่นจากฝ่ามือและความรักที่ส่องประกายจากดวงตาของพ่อ ฉันมองดูรูปหัวเตียงของคุณพ่อ มันเป็นตอนที่คุณพ่อยังหนุ่มกำลังอุ้มเด็กน้อยตัวเล็กๆอยู่ ฉันยิ้มอย่างคิดถึง
คุณพ่อคือทุกอย่างในชีวิตของฉัน
ฉันเห็นหนังสือเล่มหนึ่งวางอยู่ใกล้ๆรูปและเห็นปลายของกระดาษอะไรสักอย่างแลบออกมา ฉันจึงหยิบมันขึ้นมาดู มันเป็นกระดาษที่เต็มไปด้วยลายมือขยุกขยัก ฉันยกมือขึ้นปิดปากกลั้นสะอื้น มันเป็นจดหมายที่คุณพ่อเขียนให้ฉัน
ถึงเอยลูกรัก
ถ้าลูกได้เห็นจดหมายฉบับนี้แสดงว่าพ่อคงไม่มีชีวิตอยู่แล้ว พ่อขอโทษนะลูกที่ไม่ได้บอกให้ลูกรู้ว่าพ่อเป็นอะไร นั่นก็เพราะว่าพ่อไม่อยากให้ลูกต้องลำบากและเสียใจ สิ่งใดที่มันจะทำให้ลูกสาวของพ่อไม่มีความสุข พ่อขอเก็บมันไว้กับตัวเองดีกว่า ลูกคงให้อภัยพ่อคนนี้นะ ชีวิตพ่อไม่เคยราบเรียบและมีความสุขเลย ต้องดิ้นรนลำบากและสู้กับอะไรมามากมาย แต่พอวันที่พ่อเห็นอย ลูกสาวตัวเล็กๆของพ่อ พ่อก็รู้เลยว่าลูกเป็นของขวัญที่พระเจ้าประทานมาให้พ่อ เพื่อทำให้พ่อมีกำลังใจที่จะมีชีวิตต่อสู้ไปกับสิ่งต่างๆ พ่อดูแลและถนุถนอมลูกดังไข่ในหิน แต่ก็ดูแลลูกได้ไม่ดีพอจนเกิดเรื่องเลวร้ายกับลูก ตอนนั้นพ่อเจ็บปวดใจมากที่ไม่สามารถช่วยเหลืออะไรลูกได้เลย ถ้าเป็นไปได้พ่อก็อยากจะเป็นแทน พ่อขอโทษนะ อ่า พ่อรู้ว่าเวลาใกล้จะหมดแล้ว พ่ออยากจะบอกว่าลูกคือทุกสิ่งทุกอย่างสำหรับ เป็นสิ่งเดียวในชีวิตที่พ่อยอมตายแทนได้ พ่อรักลูกนะเอย รักมากกว่าอะไรทั้งหมด ไม่มีพ่อแล้วก็ดูแลตัวเองให้ดีๆ และก็ดูแลเจ้านิวให้ดีเหมือนที่พ่อทำ มีความสุขกับปัจจุบัน และอย่ามัวแต่จมกับอดีตลูกรัก
ด้วยรัก
จาก พ่อ
คุณจะรู้ว่าบางสิ่งที่ค่ามากแค่ไหน..ก็ตอนที่คุณรู้ว่ากำลังจะสูญเสียสิ่งนั้นไป
คุณพ่อเป็นสิ่งมีค่าเดียวในชีวิตของฉัน แต่ฉันก็ไม่สามารถรักษาท่านไว้กับฉันได้ไปตลอดชีวิต และจนกว่าฉันจะรู้ว่าท่านเป็นอะไร มันก็สายไปเสียแล้ว ไม่ทันได้มีเวลาเตรียมใจ มันกระทันหันเกินไปจนตั้งตัวไม่ทัน ฉันแทบไม่เป็นอันทำอะไรตอนที่คุณพ่อจากไปแรกๆ เอาแต่จมอยู่กับความคิดถึงท่าน นึกถึงเสียงของท่าน ความอบอุ่นอ่อนโยน และความรักที่หาจากไหนไม่ได้
แต่เมื่อนึกถึงคำของคุณพ่อที่ว่า "มีความสุขกับปัจจุบัน และอย่ามันแต่จมอยู่กับอดีต" ก็ทำให้ฉันตั้งตัวได้อีกครั้ง ฉันจึงใช้ชีวิตที่เหลือกับนิวลูกชายสุดที่รักให้ดีที่สุดเพื่อคุณพ่อ
ฉันอยากจะฝากอะไรไว้สักหน่อย..ขอให้คุณทำดีกับคนที่คุณรักและคนที่รักคุณไว้ให้มากๆ ทำทุกช่วงเวลาให้ดีที่สุดเหมือนเป็นวันสุดท้ายที่จะอยู่ด้วยกัน เพราะเราไม่รู้ว่าเขาจะจากเราไปตอนไหน หรือเราจะจากเขาไปตอนไหนเช่นกัน
สุดท้ายนี้..ฉันก็อยากจะบอกกับคุณพ่อผู้ที่อยู่บนฟ้าว่า
ลูกสาวตัวน้อยของพ่อคนนี้ได้มีชีวิตที่ดีอย่างที่คุณพ่อต้องการแล้ว ขอโทษสำหรับบางอย่างที่หนูเคยทำไม่ดีกับพ่อหรือทำให้พ่อเสียใจ และก็อยากจะขอขอบคุณคุณพ่อสำหรับทุกสิ่งทุกอย่างที่คุณพ่อทำให้หนู ขอบคุณมากๆนะคะ
หนูรักพ่อค่ะ
คำยืนยันของเจ้าของเรื่องสั้น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ