อย่างน้อยก็เหลือหัวใจ...ที่มันยังคงเต้นอยู่
10.0
เขียนโดย Frozen_B1B2
วันที่ 22 มิถุนายน พ.ศ. 2557 เวลา 15.10 น.
1 chapter
1 วิจารณ์
4,705 อ่าน
แก้ไขเมื่อ 22 มิถุนายน พ.ศ. 2557 15.49 น. โดย เจ้าของเรื่องสั้น
1) อย่างน้อยก็เหลือหัวใจ...ที่มันยังคงเต้นอยู่
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความเคยไหมค่ะ...ฝันถึงอะไรสักอย่างแล้วมันกลับ "พังไปต่อหน้าต่อตา"
เราเป็นเด็กนักเรียนอายุ 17 ปี กำลังศึกษาอยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อในการเข้ามหาวิทยาลัย ชีวิตของเรามีทั้งขาวและดำตามประสาเด็กวัยรุ่นคนหนึ่งค่ะ เราใช้ชีวิตมาเรื่อยๆ สุขบ้าง ทุกข์บ้าง สลับกันไป เครียดบ้าง ท้อบ้าง ขี้เกียจบ้าง ขยันบ้าง แต่ชีวิตของเราก็มีคนรอบข้างคอยให้กำลังใจอยู่เสมอค่ะ อยู่บ้านเรามีทั้ง พ่อ แม่ น้องสาวคนหนึ่ง อยู่โรงเรียนเราก็มีเพื่อนสนิทที่สนิทมากจนพูดได้ทุกเรื่อง ชีวิตเราเหมือนอยู่คนปกติ และเราก็มีความฝันเหมือนเด็กทั่วไป คือติดมหาวิทยาลัยดีๆ จบมาได้ทำงานดีๆ มีเงินเลี้ยงดูพ่อแม่ มีบ้านสักหลังอาศัยอยู่กับพ่อแม่และน้อง พาพ่อกับแม่ไปฉลองครบรอบแต่งงานด้วยกัน ไปเที่ยวต่างประเทศด้วยกัน ไปเที่ยวทะเลด้วยกัน อยู่ด้วยกันจนกระทั่งวันสุดท้าย มีลูกสักคนในพ่อกับแม่ได้อุ้ม พาไปดูตะวันตกดินด้วยกัน ตา ยาย หลาน น้าสาว และเรา
จนกระทั่ง....วันนั้นได้เดินทางมาถึง
เช้าวันนั้นเป็นวันที่อากาศหนาวเหมือนกับว่าฝนได้ตกอีกครั้ง เรากำลังหลับตาฝันอย่างมีความสุข นอนเป็นเตียงนุ่มๆที่เป็นเตียงนอนศูนย์รวมของครอบครัว ยิ้มพริ้มให้กับเช้าวันใหม่วันนี้ เรากะว่าจะนอนต่อสักหน่อย และคงมีอะไรมาขัดความสุขสุดๆในเช้าวันนี้ของเราไม่ได้ จนเจ้าน้องสาวตัวดีตะโกนจากชั้นล่างขึ้นมาว่า
"ตื่นได้แล้ว" เสียงดังเสียจนน่ารำคาญ 'จะปลุกทำไมเนี่ย คนกำลังนอนหลับสบาย' เลยตะโกนบอกน้องไปว่า
"หลับอยู่...อย่าปลุกน่ะ" แต่นอนก็ไม่หยุดเพียงเท่านั้น รีบวิ่งขึ้นมาบนบ้านยังกลับไฟไหม้ เสียงเท้าน้องกระทบกับบรรไดดังลั่นบ้าน
"ตื่นก่อน แม่จะคุยด้วย" แม่จะคุยทำไมน่ะ ในใจก็คิดแบบนั้น 'คงจะบอกให้ดูแลน้อง ปิดบ้าน เหมือนกับทุกครั้งที่แม่ออกไปทำงานนะสิ เฮ้อ' คิดแบบนั้นก็เลยเลือกจะหลับตอน จนกระทั่งน้องมาเขย่าตัวแล้วดันเราขึ้นมา เราสะลึมสะลือ กำลังจะเปิดปากเพื่อด่าน้องที่มารบกวนเวลาน้อง ปากกำลังจะขยับ สายตาก็กลับจับจ้องโฟกัสอยู่ที่จุดหนึ่ง 'แม่ร้องไห้...' เรารีบวิ่งถลาไปหาแม่
"แม่เป็นอะไร ร้องไห้ทำไม เกิดอะไรขึ้น เจ็บตรงไหนรึเปล่า" แม่ไม่ตอบอะไรและก้มหน้าร้องไห้หนักกว่าเดิม น้องวิ่งไปกอดแม่แน่นจนเราตกใจ เกิดเรื่องบ้าอะไรขึ้นว่ะเนี่ย !! แม่เดิมตรงมาหาเราและพูดว่า
"แม่รักหนูนะ...พ่อไปแล้ว พ่อไปอยู่กับผู้หญิงคนอื่นแล้ว"
เราอึ้งและงงมาก พ่อไปกับใคร พ่อเนี่ยนะมีผู้หญิง แม่ล้อเล่นป่าวเนี่ย สาระแนมาแกล้งเราป่าว แบบตลก 6 ฉากไรงี้หรือป่าว
"แม่ล้อเล่นป่าว ตลกแล้ว เมื่อวานแนนยังเห็นพ่อทำตัวปกติอยู่เลย"
แม่ส่ายหน้าแล้วบอกว่า
"เขาไปแล้ว เขาเลือกไปกับคนอื่นแล้ว เขาทิ้งพวกเราไปแล้ว พ่อฝากให้แม่บอกพวกหนูว่าพ่อเขารักพวกหนูมาก หนูไม่ต้องห่วงนะ แม่จะอยู่ข้างหนู"
เสียงของแม่ที่พร่ำออกมา ไม่ได้ทำให้เรารู้สึกดีขึ้นเลย เรากลับคิดว่า เราฝันอยู่ เราต้องตื่น ตื่นเดี๋ยวนี้ แต่สุดท้ายแล้ว....มันไม่ใช่ฝัน มันคือเรื่องจริง แม่รีบเข้ามาเขย่าตัวเรา กอดเ้รากับน้องแน่นมาก
"แม่อยู่ตรงนี้ แม่จะเป็นทุกอย่างแทนพ่อให้หนูนะลูก หนูตั้งใจเรียน สอบให้ติดคณะที่หนูหวังนะลูก แม่รักหนูทั้งสองคน แม่สัญญา แม่จะทำให้ดีที่สุด"
น้ำตาไหล ไหล ไหล เหมือนสายน้ำที่ไม่ย้อนกลับ เราอึ้ง และทำอะไรไม่ถูก แม่ออกจากบ้านเพื่อไปทำงานแล้ว น้องลงไปทำการบ้าน แต่เรายังนิ่งและแอบร้องไห้ในห้องนอนคนเดียว
คำถามมากมายเกิดขึ้นในหัว "พ่อทำแบบนี้ทำไม พ่อทำลงได้ยังไง" เหมือนทุกสิ่งที่เราฝัน พังลงกับตา เราไม่มีคำพูดใดๆนอกไปจากเสียใจ ร้องไห้เงียบๆคนเดียวทั้งวัน ไม่คิดจะออกไปไหน ไม่คิดจะอ่านหนังสือ โลกนี้โหดร้ายเกิดไปแล้ว ...... จนกระทั่งน้องเราเด็กอายุ 11 ปี เดินเข้ามาในห้องของเรา นั่งตรงหน้าเราแล้วพูดว่า
"หนูอยู่กับพี่เสมอ หนูรักพี่น่ะ เราต้องผ่านจุดนี้ไปด้วยกัน พี่ต้องเป็นผู้นำแทนพ่อนะ พี่อย่าอ่อนแอ เพราะพี่ต้องพยุงแม่ หนูคิดว่าถ้าแม่เห็นพี่เป็นแบบนี้แม่จะยิ่งเครียด เพราะฉะนั้นพี่ต้องกลับมาร่าเริง สอบติดมหาวิทยาลัย ตั้งใจเรียน จบออกมามีงานดีๆทำ เลี้ยงแม่ เลี้ยงหนู เพื่อให้หนูได้เรียนจบและทำหน้าที่เหล่านั้นแทนพี่"
ฉันนิ่งไปสักพักแล้วก็กอดน้องแน่ พลางคิดว่า ขนาดน้องอายุน้อยกว่าเรา น้องยังคิดได้เลย แล้วเราทำไมจะคิดไม่ได้ .......... ไม่มีใครในโลกนี้ไม่เคยผ่านความทุกข์ แต่ถ้าเรามัวแต่จมปรักแล้วคนข้างหลังเราล่ะ จะเป็นยังไง เพราะฉะนั้นใครที่เจอปัญหาแบบเราอยู่ ก็ให้สู้ๆนะคะ ลุกขึ้นมา เราไม่เหลือใคร แต่เราก็ยังเหลือหัวใจอยู่ อย่ายอมแพ้ให้กับปัญหาใดใด .... สู้ๆ
เราเป็นเด็กนักเรียนอายุ 17 ปี กำลังศึกษาอยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อในการเข้ามหาวิทยาลัย ชีวิตของเรามีทั้งขาวและดำตามประสาเด็กวัยรุ่นคนหนึ่งค่ะ เราใช้ชีวิตมาเรื่อยๆ สุขบ้าง ทุกข์บ้าง สลับกันไป เครียดบ้าง ท้อบ้าง ขี้เกียจบ้าง ขยันบ้าง แต่ชีวิตของเราก็มีคนรอบข้างคอยให้กำลังใจอยู่เสมอค่ะ อยู่บ้านเรามีทั้ง พ่อ แม่ น้องสาวคนหนึ่ง อยู่โรงเรียนเราก็มีเพื่อนสนิทที่สนิทมากจนพูดได้ทุกเรื่อง ชีวิตเราเหมือนอยู่คนปกติ และเราก็มีความฝันเหมือนเด็กทั่วไป คือติดมหาวิทยาลัยดีๆ จบมาได้ทำงานดีๆ มีเงินเลี้ยงดูพ่อแม่ มีบ้านสักหลังอาศัยอยู่กับพ่อแม่และน้อง พาพ่อกับแม่ไปฉลองครบรอบแต่งงานด้วยกัน ไปเที่ยวต่างประเทศด้วยกัน ไปเที่ยวทะเลด้วยกัน อยู่ด้วยกันจนกระทั่งวันสุดท้าย มีลูกสักคนในพ่อกับแม่ได้อุ้ม พาไปดูตะวันตกดินด้วยกัน ตา ยาย หลาน น้าสาว และเรา
จนกระทั่ง....วันนั้นได้เดินทางมาถึง
เช้าวันนั้นเป็นวันที่อากาศหนาวเหมือนกับว่าฝนได้ตกอีกครั้ง เรากำลังหลับตาฝันอย่างมีความสุข นอนเป็นเตียงนุ่มๆที่เป็นเตียงนอนศูนย์รวมของครอบครัว ยิ้มพริ้มให้กับเช้าวันใหม่วันนี้ เรากะว่าจะนอนต่อสักหน่อย และคงมีอะไรมาขัดความสุขสุดๆในเช้าวันนี้ของเราไม่ได้ จนเจ้าน้องสาวตัวดีตะโกนจากชั้นล่างขึ้นมาว่า
"ตื่นได้แล้ว" เสียงดังเสียจนน่ารำคาญ 'จะปลุกทำไมเนี่ย คนกำลังนอนหลับสบาย' เลยตะโกนบอกน้องไปว่า
"หลับอยู่...อย่าปลุกน่ะ" แต่นอนก็ไม่หยุดเพียงเท่านั้น รีบวิ่งขึ้นมาบนบ้านยังกลับไฟไหม้ เสียงเท้าน้องกระทบกับบรรไดดังลั่นบ้าน
"ตื่นก่อน แม่จะคุยด้วย" แม่จะคุยทำไมน่ะ ในใจก็คิดแบบนั้น 'คงจะบอกให้ดูแลน้อง ปิดบ้าน เหมือนกับทุกครั้งที่แม่ออกไปทำงานนะสิ เฮ้อ' คิดแบบนั้นก็เลยเลือกจะหลับตอน จนกระทั่งน้องมาเขย่าตัวแล้วดันเราขึ้นมา เราสะลึมสะลือ กำลังจะเปิดปากเพื่อด่าน้องที่มารบกวนเวลาน้อง ปากกำลังจะขยับ สายตาก็กลับจับจ้องโฟกัสอยู่ที่จุดหนึ่ง 'แม่ร้องไห้...' เรารีบวิ่งถลาไปหาแม่
"แม่เป็นอะไร ร้องไห้ทำไม เกิดอะไรขึ้น เจ็บตรงไหนรึเปล่า" แม่ไม่ตอบอะไรและก้มหน้าร้องไห้หนักกว่าเดิม น้องวิ่งไปกอดแม่แน่นจนเราตกใจ เกิดเรื่องบ้าอะไรขึ้นว่ะเนี่ย !! แม่เดิมตรงมาหาเราและพูดว่า
"แม่รักหนูนะ...พ่อไปแล้ว พ่อไปอยู่กับผู้หญิงคนอื่นแล้ว"
เราอึ้งและงงมาก พ่อไปกับใคร พ่อเนี่ยนะมีผู้หญิง แม่ล้อเล่นป่าวเนี่ย สาระแนมาแกล้งเราป่าว แบบตลก 6 ฉากไรงี้หรือป่าว
"แม่ล้อเล่นป่าว ตลกแล้ว เมื่อวานแนนยังเห็นพ่อทำตัวปกติอยู่เลย"
แม่ส่ายหน้าแล้วบอกว่า
"เขาไปแล้ว เขาเลือกไปกับคนอื่นแล้ว เขาทิ้งพวกเราไปแล้ว พ่อฝากให้แม่บอกพวกหนูว่าพ่อเขารักพวกหนูมาก หนูไม่ต้องห่วงนะ แม่จะอยู่ข้างหนู"
เสียงของแม่ที่พร่ำออกมา ไม่ได้ทำให้เรารู้สึกดีขึ้นเลย เรากลับคิดว่า เราฝันอยู่ เราต้องตื่น ตื่นเดี๋ยวนี้ แต่สุดท้ายแล้ว....มันไม่ใช่ฝัน มันคือเรื่องจริง แม่รีบเข้ามาเขย่าตัวเรา กอดเ้รากับน้องแน่นมาก
"แม่อยู่ตรงนี้ แม่จะเป็นทุกอย่างแทนพ่อให้หนูนะลูก หนูตั้งใจเรียน สอบให้ติดคณะที่หนูหวังนะลูก แม่รักหนูทั้งสองคน แม่สัญญา แม่จะทำให้ดีที่สุด"
น้ำตาไหล ไหล ไหล เหมือนสายน้ำที่ไม่ย้อนกลับ เราอึ้ง และทำอะไรไม่ถูก แม่ออกจากบ้านเพื่อไปทำงานแล้ว น้องลงไปทำการบ้าน แต่เรายังนิ่งและแอบร้องไห้ในห้องนอนคนเดียว
คำถามมากมายเกิดขึ้นในหัว "พ่อทำแบบนี้ทำไม พ่อทำลงได้ยังไง" เหมือนทุกสิ่งที่เราฝัน พังลงกับตา เราไม่มีคำพูดใดๆนอกไปจากเสียใจ ร้องไห้เงียบๆคนเดียวทั้งวัน ไม่คิดจะออกไปไหน ไม่คิดจะอ่านหนังสือ โลกนี้โหดร้ายเกิดไปแล้ว ...... จนกระทั่งน้องเราเด็กอายุ 11 ปี เดินเข้ามาในห้องของเรา นั่งตรงหน้าเราแล้วพูดว่า
"หนูอยู่กับพี่เสมอ หนูรักพี่น่ะ เราต้องผ่านจุดนี้ไปด้วยกัน พี่ต้องเป็นผู้นำแทนพ่อนะ พี่อย่าอ่อนแอ เพราะพี่ต้องพยุงแม่ หนูคิดว่าถ้าแม่เห็นพี่เป็นแบบนี้แม่จะยิ่งเครียด เพราะฉะนั้นพี่ต้องกลับมาร่าเริง สอบติดมหาวิทยาลัย ตั้งใจเรียน จบออกมามีงานดีๆทำ เลี้ยงแม่ เลี้ยงหนู เพื่อให้หนูได้เรียนจบและทำหน้าที่เหล่านั้นแทนพี่"
ฉันนิ่งไปสักพักแล้วก็กอดน้องแน่ พลางคิดว่า ขนาดน้องอายุน้อยกว่าเรา น้องยังคิดได้เลย แล้วเราทำไมจะคิดไม่ได้ .......... ไม่มีใครในโลกนี้ไม่เคยผ่านความทุกข์ แต่ถ้าเรามัวแต่จมปรักแล้วคนข้างหลังเราล่ะ จะเป็นยังไง เพราะฉะนั้นใครที่เจอปัญหาแบบเราอยู่ ก็ให้สู้ๆนะคะ ลุกขึ้นมา เราไม่เหลือใคร แต่เราก็ยังเหลือหัวใจอยู่ อย่ายอมแพ้ให้กับปัญหาใดใด .... สู้ๆ
คำยืนยันของเจ้าของเรื่องสั้น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
10 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ