เรื่องเล่าของแม่มด
8.0
เขียนโดย Melisa
วันที่ 16 มิถุนายน พ.ศ. 2557 เวลา 19.43 น.
1 ตอน
1 วิจารณ์
3,717 อ่าน
แก้ไขเมื่อ 16 มิถุนายน พ.ศ. 2557 19.59 น. โดย เจ้าของเรื่องสั้น
1)
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความเรื่องเล่าของแม่มด
บางคนไม่ได้กลายเป็นแม่มดเพราะอยากเป็นหรือหลงใหลศาสตร์มืดแต่อย่างใด เหตุผลที่แม่มดไม่ยอมหลั่งน้ำตามันไม่ใช่เพราะกลัวเวทมนตร์เสื่อม แม่มดที่ฉันรู้จักได้เล่าอดีตของตัวเองให้ฉันได้ฟัง
แม่มด... สตรีผู้รับใช้และยอมมอบวิญญาณให้แก่ปิศาจ สตรีผู้น่ารังเกียจ ตลอดเวลาที่ผ่านมาพวกนางเข่นฆ่าผู้คนไปมากมายเพื่อเป็นเครื่องสังเวยแก่ปิศาจ พวกนางเชี่ยวชาญด้านคาถาอาคม มนตร์ดำและศาสตร์มืดต่างๆ บุคคลที่ได้เจอนางจะตกอยู่ภายใต้มนตร์สะกด เป็นทาสของนาง ก่อนจะเป็นเครื่องสังเวยให้ปิศาจ ทุกๆคนในยุคนั้นต่างหวาดกลัวแม่มด แต่เมื่อเวลาผ่านไปเรื่อยๆบางคนได้ลุกขึ้นสู้ หาวิธีต่อกรกับพวกนาง และวิธีที่ดีที่สุดคือการจุดไฟเผาทั้งเป็น!
แฮกๆๆ..เสียงหอบอย่างหนักและความเงียบรอบด้านเป็นเครื่องบ่งบอกให้รู้ว่า เธอ.. หญิงสาวที่ได้รับขนานนามว่าเป็น “แม่มด” วิ่งหนีออกมาได้ไกลพอแล้ว เธอจึงหยุดพักนั่งพิงต้นไม้ใหญ่ใกล้ๆ เธอหลับตาลงนึกถึงเหตุการณ์ที่ทำให้เธอต้องหลบหนีหัวซุกหัวซุนอยู่อย่างนี้ เหตุการณ์ในวันนั้น..
เธอยังเป็นเพียงหญิงสาวอายุ17ธรรมดาๆ ใช้ชีวิตอย่างคนปกติในหมู่บ้านเล็กๆแห่งหนึ่ง วันนั้นตอนออกไปหาซื้อของใช้เข้าบ้าน เธอได้พบกับหญิงชราคนหนึ่งนั่งตัวสั่นเพราะความหนาว เธอเห็นดังนั้นก็รู้สึกสงสารปลดผ้าคลุมของเธอแล้วยื่นให้ หญิงชราคนนั้นยิ้มออกมาอย่างดีใจและกล่าวขอบคุณเธอ ก่อนนางจะกระชากแขนเธออย่างแรงพร้อมกับพึมพำอะไรบางอย่าง ความรู้สึกแสบร้อนแล่นไปทั่งร่างของเธอ จากนั้นหญิงชราคนนั้นก็หายไป
หลังจากที่เธอรู้สึกดีขึ้นเธอก็ไปเดินซื้อของตามปกติ แต่เธอสังเกตว่าคนรอบๆมองเธอด้วยสายตาที่แปลกไปรวมทั้งยังซุบซิบอะไรบางอย่างไปด้วย เธอสังเกตเห็นแต่แสร้งทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นและเดินต่อไป กระทั่งเธอเดินผ่านร้านขายกระจก ภาพเธอที่สะท้อนอยู่บนกระจกหน้าร้าน ทำให้เธอแทบเป็นลม ใบหน้าของเธอมีลวดลายหนามกุหลาบคาดผ่านจากแก้มขึ้นไป จนวนรอบตาขวา พอเธอหงายมือขึ้นมาดูก็พบว่าบนมือทั้งสองข้างปรากฏรูปขนนกกับหัวกะโหลก อันเป็นสัญลักษณ์ของสตรีที่ทำพันธะสัญญากับปิศาจประเภทดูดกลืนวิญญาณ เธอกรีดร้องออกมาอย่างบ้าคลั่งก่อนที่ทุกอย่างในหัวจะดับมืดลงไป
เธอตื่นขึ้นมาอีกทีในโบสถ์หลังหมู่บ้าน ซิสเตอร์ได้บอกว่ามีสตรีไม่มากที่โดนผู้ทำสัญญาส่งมอบพลังให้โดยการบังคับ ซึ่งในกรณีของเธอเป็นอย่างนั้น ส่วนรอยสักผ่านไปมันจะหายไปเอง ซิสเตอร์บอกให้เธอไม่ต้องกังวลและทำความดีให้มากๆไม่ว่าผู้คนจะมองเธออย่างไรก็ตาม แรกๆมันเป็นไปอย่างยากลำบาก ผู้คนต่างพากันรังเกียจและกลัวเธอ แต่ก็ยังดีที่เธอได้พ่อแม่และซิสเตอร์คอยให้กำลังใจ เธอจึงสามารถใช้ชีวิตอยู่ได้และคนในหมู่บ้านก็เริ่มยอมรับเธอมากขึ้น ตลอดเวลาที่ถูกสาปเธอจะไม่ยอมใช้พลังเลยแม้แต่นิด เพราะการใช้พลังของปิศาจเท่ากับต้องแลกด้วยชีวิตคนหนึ่งคน
ทว่าเรื่องราวเลวร้ายได้เกิดขึ้นหลังจากนั้นไม่นาน ที่โบสถ์จัดงานวันขอบคุณพระเจ้าซึ่งเธอก็ได้ไปร่วมด้วย หลังจากงานเลิกได้ไม่นานเธอก็กลับบ้าน แต่พอออกจากโบสถ์มาได้ไม่ไกลก็นึกได้ว่าลืมของ เมื่อวิ่งกลับไปที่โบสถ์อีกครั้ง เธอก็ตกใจแทบล้มพับ ภาพของซิสเตอร์ที่เธอเคารพกำลังยืนถือมีด ชุดซิสเตอร์สีขาวถูกยอมเป็นสีแดง เด็กในโบสถ์ทุกคนล้วนอยู่ในวงเวทประหลาด มันไม่แปลกที่เธอเข้าใจภาษาที่ใช้เขียนวงเวทนั้น เด็กเหล่านั้นกำลังจะกลายเป็นเครื่องสังเวยให้แก่ปิศาจ โดยแม่มดในคราบของซิสเตอร์สาวแสนดี
‘สวยดีใช่ไหมล่ะ สีเลือดน่ะ’ เป็นคำพูดสุดท้ายของซิสเตอร์ที่เธอเคารพ ก่อนที่เธอจะโดนกล่าวหาว่าเป็น แม่มด ชั่วร้ายที่ฆ่าเด็กในโบสถ์....
เธอไม่ต้องการให้เรื่องมันเป็นแบบนี้ แต่ก็ไม่รู้จะทำอย่างไร เพียงเพราะคำพูดของเธอไม่เพียงพอที่จะทำให้คนทั้งหมู่บ้านเชื่อได้ เรื่องแบบนี้มันออกจะมากไปสำหรับเด็กอย่างเธอด้วยซ้ำ เธอลุกขึ้นหลังจากหายเหนื่อยและออกวิ่งต่อไป วิ่งไปให้ไกลที่สุด ไกลกว่านี้
สวบๆ! เสียงแหวกพุ่มไม้ดังมาจากตรงหน้าเธอ เธอหยุดชะงัก เบื้องหน้าตอนนี้ชาวบ้านกลุ่มหนึ่งที่อ้อมมาดักหน้า ยืนถืออาวุธจ้องมองมาที่เธออย่างโกรธแค้น ชิงชัง
“อย่าคิดหนีเลยนางแม่มด เธอและพ่อแม่ของเธอจะถูกลงโทษ”
ไม่นานเธอถูกจับตรึงเข้ากับไม้กางเขนอันใหญ่ พ่อแม่ของเธอถูกจับแขวนคอต่อหน้าเธอแม้ว่าเธอจะพยายามอ้อนวอนขนาดไหน ชาวบ้านพวกนั้นก็ไม่ยอมฟัง หนำยังช่วยกันเชียร์ให้เผาเธอตามไปเร็วๆเสียอีก เธอกรีดร้องออกมาสุดเสียง น้ำตาหลั่งรินออกมามากมายไม่หยุด
ความแสบร้อนที่มือแผ่ซ่านไปทั่ว พร้อมปีกสีดำที่สยายออกมาจากกลางหลัง เชือกที่พันธนาการเธออยู่ขาดออกเป็นชิ้นๆ ดวงตาของเธอแดงก่ำอย่างตาของปิศาจ
“ถ้าพวกแกอยากให้ฉันเป็นแม่มดนัก ฉันก็จะเป็นให้อย่างที่แกหวัง!!”
จากนั้นหมู่บ้านที่เคยมีอยู่กับกลายเป็นหมู่บ้านร้างไปเพียงเวลาไม่กี่ชั่วโมง ตอนนี้เธอคงเป็นแม่มดจริงๆแล้ว เธอสังเวยชีวิตของคนทั้งหมู่บ้านให้แก่ปิศาจอย่างบ้าคลั่ง แต่มันกับสนุกอย่างน่าประหลาด...
เหตุผลที่เธอไม่ร้องไห้อีกเลยนับแต่นั้นเป็นเพราะเธอไม่มีคนที่ต้องร้องไห้ให้อีกต่อไปแล้วหรืออาจเป็นเพราะเธอร้องไห้มามากกว่าคนทั่วไปแล้ว
Happy end.
เล่าเรื่อง : Melisa.
บางคนไม่ได้กลายเป็นแม่มดเพราะอยากเป็นหรือหลงใหลศาสตร์มืดแต่อย่างใด เหตุผลที่แม่มดไม่ยอมหลั่งน้ำตามันไม่ใช่เพราะกลัวเวทมนตร์เสื่อม แม่มดที่ฉันรู้จักได้เล่าอดีตของตัวเองให้ฉันได้ฟัง
แม่มด... สตรีผู้รับใช้และยอมมอบวิญญาณให้แก่ปิศาจ สตรีผู้น่ารังเกียจ ตลอดเวลาที่ผ่านมาพวกนางเข่นฆ่าผู้คนไปมากมายเพื่อเป็นเครื่องสังเวยแก่ปิศาจ พวกนางเชี่ยวชาญด้านคาถาอาคม มนตร์ดำและศาสตร์มืดต่างๆ บุคคลที่ได้เจอนางจะตกอยู่ภายใต้มนตร์สะกด เป็นทาสของนาง ก่อนจะเป็นเครื่องสังเวยให้ปิศาจ ทุกๆคนในยุคนั้นต่างหวาดกลัวแม่มด แต่เมื่อเวลาผ่านไปเรื่อยๆบางคนได้ลุกขึ้นสู้ หาวิธีต่อกรกับพวกนาง และวิธีที่ดีที่สุดคือการจุดไฟเผาทั้งเป็น!
แฮกๆๆ..เสียงหอบอย่างหนักและความเงียบรอบด้านเป็นเครื่องบ่งบอกให้รู้ว่า เธอ.. หญิงสาวที่ได้รับขนานนามว่าเป็น “แม่มด” วิ่งหนีออกมาได้ไกลพอแล้ว เธอจึงหยุดพักนั่งพิงต้นไม้ใหญ่ใกล้ๆ เธอหลับตาลงนึกถึงเหตุการณ์ที่ทำให้เธอต้องหลบหนีหัวซุกหัวซุนอยู่อย่างนี้ เหตุการณ์ในวันนั้น..
เธอยังเป็นเพียงหญิงสาวอายุ17ธรรมดาๆ ใช้ชีวิตอย่างคนปกติในหมู่บ้านเล็กๆแห่งหนึ่ง วันนั้นตอนออกไปหาซื้อของใช้เข้าบ้าน เธอได้พบกับหญิงชราคนหนึ่งนั่งตัวสั่นเพราะความหนาว เธอเห็นดังนั้นก็รู้สึกสงสารปลดผ้าคลุมของเธอแล้วยื่นให้ หญิงชราคนนั้นยิ้มออกมาอย่างดีใจและกล่าวขอบคุณเธอ ก่อนนางจะกระชากแขนเธออย่างแรงพร้อมกับพึมพำอะไรบางอย่าง ความรู้สึกแสบร้อนแล่นไปทั่งร่างของเธอ จากนั้นหญิงชราคนนั้นก็หายไป
หลังจากที่เธอรู้สึกดีขึ้นเธอก็ไปเดินซื้อของตามปกติ แต่เธอสังเกตว่าคนรอบๆมองเธอด้วยสายตาที่แปลกไปรวมทั้งยังซุบซิบอะไรบางอย่างไปด้วย เธอสังเกตเห็นแต่แสร้งทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นและเดินต่อไป กระทั่งเธอเดินผ่านร้านขายกระจก ภาพเธอที่สะท้อนอยู่บนกระจกหน้าร้าน ทำให้เธอแทบเป็นลม ใบหน้าของเธอมีลวดลายหนามกุหลาบคาดผ่านจากแก้มขึ้นไป จนวนรอบตาขวา พอเธอหงายมือขึ้นมาดูก็พบว่าบนมือทั้งสองข้างปรากฏรูปขนนกกับหัวกะโหลก อันเป็นสัญลักษณ์ของสตรีที่ทำพันธะสัญญากับปิศาจประเภทดูดกลืนวิญญาณ เธอกรีดร้องออกมาอย่างบ้าคลั่งก่อนที่ทุกอย่างในหัวจะดับมืดลงไป
เธอตื่นขึ้นมาอีกทีในโบสถ์หลังหมู่บ้าน ซิสเตอร์ได้บอกว่ามีสตรีไม่มากที่โดนผู้ทำสัญญาส่งมอบพลังให้โดยการบังคับ ซึ่งในกรณีของเธอเป็นอย่างนั้น ส่วนรอยสักผ่านไปมันจะหายไปเอง ซิสเตอร์บอกให้เธอไม่ต้องกังวลและทำความดีให้มากๆไม่ว่าผู้คนจะมองเธออย่างไรก็ตาม แรกๆมันเป็นไปอย่างยากลำบาก ผู้คนต่างพากันรังเกียจและกลัวเธอ แต่ก็ยังดีที่เธอได้พ่อแม่และซิสเตอร์คอยให้กำลังใจ เธอจึงสามารถใช้ชีวิตอยู่ได้และคนในหมู่บ้านก็เริ่มยอมรับเธอมากขึ้น ตลอดเวลาที่ถูกสาปเธอจะไม่ยอมใช้พลังเลยแม้แต่นิด เพราะการใช้พลังของปิศาจเท่ากับต้องแลกด้วยชีวิตคนหนึ่งคน
ทว่าเรื่องราวเลวร้ายได้เกิดขึ้นหลังจากนั้นไม่นาน ที่โบสถ์จัดงานวันขอบคุณพระเจ้าซึ่งเธอก็ได้ไปร่วมด้วย หลังจากงานเลิกได้ไม่นานเธอก็กลับบ้าน แต่พอออกจากโบสถ์มาได้ไม่ไกลก็นึกได้ว่าลืมของ เมื่อวิ่งกลับไปที่โบสถ์อีกครั้ง เธอก็ตกใจแทบล้มพับ ภาพของซิสเตอร์ที่เธอเคารพกำลังยืนถือมีด ชุดซิสเตอร์สีขาวถูกยอมเป็นสีแดง เด็กในโบสถ์ทุกคนล้วนอยู่ในวงเวทประหลาด มันไม่แปลกที่เธอเข้าใจภาษาที่ใช้เขียนวงเวทนั้น เด็กเหล่านั้นกำลังจะกลายเป็นเครื่องสังเวยให้แก่ปิศาจ โดยแม่มดในคราบของซิสเตอร์สาวแสนดี
‘สวยดีใช่ไหมล่ะ สีเลือดน่ะ’ เป็นคำพูดสุดท้ายของซิสเตอร์ที่เธอเคารพ ก่อนที่เธอจะโดนกล่าวหาว่าเป็น แม่มด ชั่วร้ายที่ฆ่าเด็กในโบสถ์....
เธอไม่ต้องการให้เรื่องมันเป็นแบบนี้ แต่ก็ไม่รู้จะทำอย่างไร เพียงเพราะคำพูดของเธอไม่เพียงพอที่จะทำให้คนทั้งหมู่บ้านเชื่อได้ เรื่องแบบนี้มันออกจะมากไปสำหรับเด็กอย่างเธอด้วยซ้ำ เธอลุกขึ้นหลังจากหายเหนื่อยและออกวิ่งต่อไป วิ่งไปให้ไกลที่สุด ไกลกว่านี้
สวบๆ! เสียงแหวกพุ่มไม้ดังมาจากตรงหน้าเธอ เธอหยุดชะงัก เบื้องหน้าตอนนี้ชาวบ้านกลุ่มหนึ่งที่อ้อมมาดักหน้า ยืนถืออาวุธจ้องมองมาที่เธออย่างโกรธแค้น ชิงชัง
“อย่าคิดหนีเลยนางแม่มด เธอและพ่อแม่ของเธอจะถูกลงโทษ”
ไม่นานเธอถูกจับตรึงเข้ากับไม้กางเขนอันใหญ่ พ่อแม่ของเธอถูกจับแขวนคอต่อหน้าเธอแม้ว่าเธอจะพยายามอ้อนวอนขนาดไหน ชาวบ้านพวกนั้นก็ไม่ยอมฟัง หนำยังช่วยกันเชียร์ให้เผาเธอตามไปเร็วๆเสียอีก เธอกรีดร้องออกมาสุดเสียง น้ำตาหลั่งรินออกมามากมายไม่หยุด
ความแสบร้อนที่มือแผ่ซ่านไปทั่ว พร้อมปีกสีดำที่สยายออกมาจากกลางหลัง เชือกที่พันธนาการเธออยู่ขาดออกเป็นชิ้นๆ ดวงตาของเธอแดงก่ำอย่างตาของปิศาจ
“ถ้าพวกแกอยากให้ฉันเป็นแม่มดนัก ฉันก็จะเป็นให้อย่างที่แกหวัง!!”
จากนั้นหมู่บ้านที่เคยมีอยู่กับกลายเป็นหมู่บ้านร้างไปเพียงเวลาไม่กี่ชั่วโมง ตอนนี้เธอคงเป็นแม่มดจริงๆแล้ว เธอสังเวยชีวิตของคนทั้งหมู่บ้านให้แก่ปิศาจอย่างบ้าคลั่ง แต่มันกับสนุกอย่างน่าประหลาด...
เหตุผลที่เธอไม่ร้องไห้อีกเลยนับแต่นั้นเป็นเพราะเธอไม่มีคนที่ต้องร้องไห้ให้อีกต่อไปแล้วหรืออาจเป็นเพราะเธอร้องไห้มามากกว่าคนทั่วไปแล้ว
Happy end.
เล่าเรื่อง : Melisa.
คำยืนยันของเจ้าของเรื่องสั้น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ