Love and Friendship Lost Between Us...

-

เขียนโดย waenprin

วันที่ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2557 เวลา 20.40 น.

  2 session
  0 วิจารณ์
  5,380 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2557 21.46 น. โดย เจ้าของเรื่องสั้น

แชร์เรื่องสั้น Share Share Share

 

2) Love and Friendship Lost Between Us....

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ


@SCHOOL
"นาย นาย"
เสียงเรียกของใครบางคนดังขึ้นทันทีเมื่อออดเลิกเรียนจบลง เขากึ่งวิ่งกึ่งเดินเพื่อที่จะตามผมให้ทัน พร้อมกับหนังสือที่หอบเอาไว้อีกปึกหนึ่ง (คงหนักน่าดูนะ =[]=) ผมหยุดยืนรอเขาอยู่หน้าล็อคเกอร์ (ตอนแรกก็ตั้งใจจะวิ่งหนีอ่านะ -0-) ส่งยิ้มบางๆให้ และเขาก็ตอบกลับมาด้วยคำชวน "กลับบ้านกับฉันมั้ย"
ตามปกติแล้วผมก็จะกลับบ้านกับ ณเดชน์นะ เพราะบ้านเราใกล้กันน่ะ ทว่าวันนี้คนที่ชวนผมกลับบ้านกลับเป็นคนอีกคน...'นายบอย'... บ้านเขาไกลจากบ้านผมมาก แล้ววันนี้นึกไงชวนผมกลับบ้านนะ เออ จริงสิ วันนี้ณเดชน์ไม่ได้มาโรงเรียนนี่นา เป็นอะไรไปอีกนะ ตานี่ -..- ไปหาที่บ้านหน่อยดีมั้ยเนี่ย ตอนมาก็ไม่ได้มาด้วยกันนะ เพราะผมตื่นสายตลอดเลย -0- ฟังดูขี้เกียจดีจริง เฮอะ
"ว่าจะไปหาแบร์ที่บ้านน่ะ"
"ไอ้เวรนั่นน่ะเหรอ" บอยกระตุกยิ้มเหยียดๆที่มุมปาก
"เขาเป็นเพื่อนนายนะ!" ผมตะคอกใส่
"เพื่อนแล้วไง?"
"..."
"แต่ตอนนี้มันคือศัตรูของฉัน!"
ผมไม่เข้าใจบอยจริงๆ แค่ผมกับณเดชน์ดูแลเอาใจใส่กันมากกว่าเพื่อนก็เท่านั้นเอง ยังไม่ได้ใช้คำว่าแฟนเสียหน่อย -/- แต่ในเวลาเดียวกันนั้น ผมก็รู้สึกกับเขาไม่ได้มากน้อยไปกว่ากันเลย...ในฐานะ 'เพื่อน' คนหนึ่ง เป็นสิ่งที่บอยไม่รู้ และคิดไปว่าผมมีใจให้เขา....และเพราะเหตุนี้ไง จากที่เคยเป็นเพื่อนกันมานาน ต้องกลายเป็นศัตรูกัน บอยเขาตั้งตนก่อนนะ ผมไม่เกี่ยว -_-^ แต่ผมคิดว่าเป็นเพราะผมนะ ㅠ ㅠ
"ไม่มีใครอยากเป็นศัตรูกับนายหรอกนะ"
"..."
"นายตั้งตนเองต่างหาก"
"...!!!!"
เขาเงียบ แต่ถึงเขาจะเงียบ ผมก็รู้สึกได้ว่าเขา
กำลังไม่พอใจ เขากำลังโกรธ...
"เพื่อนกันน่ะ ยังไงก็เป็นได้แค่เพื่อนนะ"
"..."
เขายังคงเงียบอยู่เหมือนเดิม ผมคิดว่าไม่ควรจะพูดอะไรที่มันทำให้เจ็บทรวงในอีก เพราะไม่งั้นเขาระเบิดขึ้นมาแน่ๆ และถ้าเขาระเบิดเขาสามารถทำอะไรรุนแรงได้มากเทียว เพื่อระงับความโกรธ อย่างเช่นต่อยกำแพงจนข้อมือส้น หรือแม้กระทั่งทำตัวเป็นนักเลงก้าวร้าว ทำ...ในสิ่งที่ไม่ใช่เขา และเขาจะไม่หยุด ถ้าหากว่ายังไม่ได้สิ่งที่อยากได้ ...อย่างตอนนั้น...
ผมตัดสินใจบอกลาและเดินผ่านเขาที่ยืนนิ่ง แข็งทื่อ เป็นรูปปั้น สีหน้าเขาโกรธมาก แต่ไม่สามารถทำอะไรได้ คงเพราะว่าผมอยู่ตรงหน้าเขาด้วยล่ะมั้งเลยไม่กล้า เขาเกรงใจผมล่ะ (ภูมิใจมาก) และเขาก็คงไม่อยากให้คนอื่นๆรู้เรืี่องนี้ เพราะแค่นีิ้มันก็มากพอแล้ว...
---------------------------------------
"โธ่เว้ย!!!"
เขาสบถออกมาทันทีที่หมากเดินไปแล้ว นึกโทษ โกรธตัวเอง อยากทำร้ายตัวเองที่ไม่สามารถคว้าโอกาสนั้นที่หมากเคยให้มาได้ ทำไมครั้งนั้นเขาปฏิเสธล่ะ ทั้งๆที่ในใจแทบบ้าคลั่ง? อีกครั้งเดียวเท่านั้น เขาอยากขอให้หมากให้โอกาสเขาอีกครั้ง เขาเคยขอเอาเมื่อตอนสายเกินแล้ว มาตอนนี้เขาได้แต่โกรธตัวเองเท่านั้นแหละ ความคิดร้ายๆผุดขึ้นมาในสมองเพียงชั่ววูบ เขานิ่ง...เอาศรีษะชนกำแพง เหงื่อไหลโชก คิดให้แน่ใจว่าควรจะทำสิ่งนั้นดีหรือไม่?
"พวกแก....!!!!!"
---------------------------------------
ผมเดินมาถึงบ้านณเดชน์แล้ว ไม่กล้ากดออดเพราะกลัวจะรบกวน -_-^ เผื่อว่าเขาจะไม่สบาย ผมว่าเหมือนผมจะรู้นะว่าเพราะอะไรเขาถึงไม่ไปโรงเรียนน่ะ แต่...เขามีความอดทนพอที่จะฟังเสียงกลุ่มคนนินทาได้นะ (อ้อ ลืมบอกไป ว่าวันนี้ตั้งแต่เช้าจนเลิกเรียนมีเสียงซุบซิบนินทาเรื่องของเราสามคนด้วยล่ะ คงเพราะเห็นเราไม่เหมือนเดิมละมั้ง -/- ) บอยนะบอย นายไม่น่าบ้าเลือดไปป่าวประกาศเรื่องของเราเลย ความคิดชั่ววูบของนายมันส่งผลต่อความฮอตของเราสามคนในโรงเรียนนะ .__. แต่มากไปกว่านั้นคือ...'ไม่เหมือนเดิม'...
ตริ๊ง !
...I don't know what happened between us...I'm "S O R R Y"...

ข้อความนั้น...ทำให้ต้องเผลอกำมือแน่นระงับความโกรธไว้ ไม่ต้องดูชื่อหรือเบอร์ก็รู้ว่าใครที่ส่งมา มีคนเดียวเท่านั้นที่ชอบส่งข้อความภาษาอังกฤษมา ไม่ว่าจะสถานการณ์ไหนก็ส่งมาเป็นภาษาอังกฤษ แต่ก็นะ ผมชินแล้วล่ะ ณเดชน์ !! นายอยู่ในบ้านสินะ แล้วก็ไม่ได้เป็นอะไรด้วย เขาคงรู้ว่าผมยืนอยู่หน้าบ้าน
'Can I go inside?'
ผมส่งข้อความนั้นกลับไป ไม่รู้ว่าจะส่งไปทำไม ในเมื่อข้อความที่เขาส่งมาก็บอกให้ผมเข้าไปข้างใน หรือผมคิดไปเอง? ผมไม่รอให้เขาส่งข้อความกลับมา (และไม่ขอกดออด) รีบจ้ำเท้าเข้าไปในบ้านทันที ในใจกระวนกระวายไปหมด ในสมองก็มีแต่เรื่องราวย้อนไปในอดีตของ 'เรา' ...มันผุดขึ้นมาเป็นร้อยเป็นพัน ผมคิดว่ามันควรจะจบไปตั้งนานแล้ว แต่ความจริงคือมันยังไม่จบ! แค่ไม่มีใครปริปากพูดอะไรออกมาก็เท่านั้น!!
ผมเดาไว้าว่ามันจะถูกรื้อฟื้นขึ้นมาอีกครั้ง ทั้งๆที่ไม่ใครต้องการ...
เมื่อผมเข้าไปในบ้านสิ่งแรกที่ผมเห็นคือ สภาพบ้านรกอย่างกับ...(?) กระดาษนับสิบแผ่นกระจัดกระจายไปทั่ว เขาต้องโมโหอะไรสักอย่างแน่ (เป็นแบบนี้ตลอดแหละน่า - -^ ) สองคือคนตัวสูงใหญ่นั่งๆนอนๆอยู่บนเตียงของเขา หน้าเขาแดงแจ๋เต็มไปด้วยทิฐิ คิ้วเข้มๆแทบจะขมวดมาชนกัน บนใบหน้าเปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อ เหงื่อที่ผมคิดว่าน่าจะมาจากการทุบต่อยหรือเตะกำแพง มือหนานุ่ม (จากที่เคยสัมผัส) กำแน่นจนเห็นเส้นเลือด หนำซ้ำยังมีคราบเลือดซิบอีกด้วย ไม่เข้าใจเลยว่าทำไมเขาจะต้องทำร้ายตัวเองด้วย บ้าเลือดดีจริงเชียว
ผมถลาเข้าไปหาเขา ไม่สนว่าเหยียบกระดาษหรือเอกสารสำคัญแค่ไหน สิ่งที่สำคัญที่สุดตอนนี้ผู้ชายตรงหน้า เขาสำคัญยิ่งกว่าสิ่งใด เขาเป็นอย่างนี้ทำให้ผมพลอยไม่สบายใจไปด้วย กลัวว่าเขาจะไปหาเรื่องกับบอยน่ะ
"ณเดชน์!!!"
"หมากพาแบร์ไปจากตรงนี้ที"
น้ำเสียงแหบอย่างเหนื่อยล้าที่เขาพูดมาทำให้ผมหยุดอึ้งไปนิด เขามองผมด้วยแววตาอาลัยอาวรณ์ ก่อนจะพูดต่อ "คนในโรงเรียนรู้เรื่องเราหมดแล้ว..."
"นายรู้...?"
เขาไม่ได้ไปโรงเรียนวันนี้ แล้วเขาจะรู้ได้ยังไง ต้องมีคนบอกแน่ๆ เพราะเรื่องมันก็แค่โรงเรียน คนนอกไม่รู้ (เว้นแต่จะเป็นโรงเรียนใกล้ๆกันเนี่ยแหละ)
"บอยมันทำอะไรนายหรือเปล่า"
"เปล่า"
ผมเลือกที่จะไม่พูดถึงเรื่องที่ผมกับบอยคุยกัน คำที่ผมคุยกับเขามันก็แค่ประโยคปฏิเสธธรรมดาเท่านั้น แต่บอยจะคิดร้ายหรืออะไรนี่ผมไม่รู้ พอผมเดินจากมาก็ได้ยินเสียงทุบกำแพงซึ่งคิดว่าต้องเป็นเขาแหงมๆ แล้วก็เสียงสบถอีกนิดหน่อย
"มันทำนาย!" กล้าขึ้นเสียงกับฉันเหรอห้ะ นายณเดชน์ - - ว่าแล้วว่าเขาต้องไม่เชื่อ แต่ก็นะ ไม่พูดดีที่สุด เพราะเดี๋ยวณเดชน์เปิดศึกกับบอยอีก กลัวสุดๆก็สิ่งนี้
"บอกว่าไม่!"
"ฉันจะไปฆ่ามัน"
"หยุดเดี๋ยวนี้นะ!!!"
เขาผุดลุกขึ้นอย่างเดือดดาล ผมรีบไปขวางเอาไว้ทันที ขออย่าให้มีเรื่องกันตอนนี้เลย แค่นี้ก็ไม่รู้ว่าจะเคลียร์กันจบมั้ย
"ไม่ต้องมาห้าม ใครที่มันทำร้ายคนของฉัน มันต้องตาย!!" เขาประกาศกร้าวพร้อมกระแทกเท้ากับพื้นแรงๆสองสามที
"พอได้แล้วนะ เลิกบ้าเลือดสักทีเถอะ แค่นี้ยังไม่พอหรือไง รู้มั้ยว่าตอนนี้เรื่องของเราสามคนมันกระจายไปทั่วโรงเรียนแล้ว! บอยประกาศไปแล้วเรื่องระหว่างเรามันไม่มีทางเป็นแฮปปี้ เอนดิ้ง ทั้งหมดไม่ใช่ความผิดของใคร ทุกคนมีส่วนผิดกับเรื่องนี้ทั้งนั้น ถ้านายไม่มาบอกคำนั้นกับฉันก่อน บอยเองก็ผิดที่เก็บฟีลลิ่งมานาน และฉันเองก็ผิดที่เลือกใครคนหนึ่ง และทำให้อีกคนหนึ่งกลายเป็นศัตรู! และถ้านายมีเรื่องกับบอยอีกครั้ง งานนี้จบไม่สวยแน่ นายก็รู้ไม่ใช่เหรอว่าบอยเป็นคนยังไง พูดจริงทำจริงและจะทำยิ่งกว่าที่พูดด้วย ถ้านายไม่อยากให้เรื่องมันบานปลายไปยิ่งกว่านี้ก็นั่งลงซะ ส่วนบอยน่ะ ฉันจะไปคุยกับเขาเองวันพรุ่งนี้"
"..." เขานิ่งไปกับคำตอบโต้แกมตะคอกของผม ประโยคพวกนี้น่าจะทำให้เขาคิดได้บ้างแหละน่า และถ้าจะให้ดีกว่านี้ผมอยากให้บอยได้ฟังด้วย...เขาคงจะเงิบไปพักหนึ่งเลยละ จริงๆแล้วผมก็พูดไปงั้นแหละ ตอนนี้จับต้นชนปลายไม่ถูกแล้ว ที่บอกว่าจะไปคุยกับบอยน่ะ ผมยังคิดไม่ออกเลยว่าควรจะเริ่มจากตรงไหน ผมแค่พูดเพื่อที่จะทำให้ณเดชน์สบายใจขึ้นไม่มากก็น้อย
"นั่งลง...คอนโทรลความโกรธของนายให้ได้นะ แล้วอย่าทำร้ายตัวเองเพราะเรื่องพรรค์นี้อีก เข้าใจมั้ย?" ผมจบประโยคด้วยเสียงอ่อนโยนที่พอจะทำให้เขาเย็นลงได้ และเขาก็เย็นลงจริงๆ นั่นแค่ภายนอก ภายในเขาคงจะร้อนเป็นไฟ เดี๋ยวเขาก็เย็นลงเอง ผมพยายามคิดอย่างนั้น...
'คนของฉัน' คำนี้มันดังก้องอยู่ในหัวสมอง ผมใจจดใจจ่อกับการทำแผลที่มือให้ณเดชน์เพื่อจะลบคำๆนั้น แต่มันก็ยากมาก เพราะไม่ว่าจะกลบเกลื่อนด้วยการกระทำใดมันก็ต้องแวบเข้ามาเสมอ ผมเป็นคนของเขาแล้วสินะ >///< (ผมนี่แรดเนอะ -0- ทำไงได้ อยู่กับณเดชน์แล้วเป็นงี้ทุกที โดยอัตโนมัติ -_-^ )
หลังจากทำแผลเสร็จผมก็ชวนเขาคุยเรื่อยเปื่อย ตั้งใจจะทำให้บรรยากาศอึมครึ้มเปลี่ยนเป็นมีเสียงหัวเราะบ้าง ผมไม่ได้ยินเสียงหัวเราะของเขาดังๆแบบนี้มานานแล้ว แต่มันก็อยู่ได้ไม่นาน ด้วยความที่พรุ่งนี้ผมจะต้องไปโรงเรียนเพื่อไปพูดกับบอยให้รู้เรื่อง
"ไม่เห็นนายหัวเราะแบบนี้มานานแล้วนะ"
"เพราะไม่มีความสุขละมั้ง"
"เรื่อง?"
"นายรู้ดี..."
พอจะเดาออกละว่าเรื่องอะไร...
"พรุ่งนี้จะไปเรียนไหม" ผมเปลี่ยนเรื่องเพราะไม่อยากให้บรรยากาศกลับมาอึมครึ้ม ตึงเครียดเหมือนเมื่อตอนเย็น
"บอกกับอาจารย์นะว่าฉันเป็นโรคดีซ่าน"
"ทำไมต้องดีซ่าน? -0-"
"ก็เพราะว่าโรคนี้นี่แหละที่ทำให้คนมีอารมณ์แปรปรวนในบางครั้งน่ะ"
"คิดว่าคนเขาจะเชื่อเหรอ หา? -_-^"
"ก็เรื่องของเขาสิ"
แล้วเขาก็เปลี่ยนความคิด...-_-
"ฉันเปลี่ยนใจแล้ว ไปโรงเรียนดีกว่า"
เฮ้อ...จริงๆเลยนะนายนี่ ใครอยู่ร่วมชายคาคงเป็นบ้าตายแน่ๆ ขนาดผมเองยังจะประสาทกิน -3- อารมณ์แปรปรวนแบบนี้น่านัก กี่รอบแล้วเนี่ย ก็ยังไม่ชินสักที -0- ก็ดี...ไปโรงเรียน เผชิญหน้ากับสิ่งมันกำลังจะเกิด และบางสิ่งเกิดขึ้นไปแล้ว พูดถึงก็อยากเห็นณเดชน์ออกโรงเหมือนกันนะ
"ฉันกลับได้ยัง"
"นอนกับฉัน"
"..."
พูดบ้าอะไรของนายน่ะ อารมณ์ดีแล้วเป็นแบบนี้ทุกที
"ได้ไหม..."
เล่นรีเควสต์ด้วยเสียงนุ่มๆพร้อมกับสายตาแวววาวอย่างนั้น ฉันก็แพ้น่ะสิ สุดท้ายคือต้องยอมทุกที ^3^
"แล้วฉันจะเรียนยังไง ชุดเดิมเนี่ยนะ"
"ชุดฉันไง เราสัดส่วนเดียวกันนะ"
"แต่มันปักชื่อนาย -_-^"
"ไม่เห็นแปลก ไหนๆคนเขาก็รู้กันแล้วนี่นา ใส่ไปเปิดตัวเลย ^~^"
"ฉันกลัวโดนตบ \(- - )/ \( - -)/"
"ใครกล้าก็ตบสิ ฉันจะได้ซัดกลับ : )"
"พวกสาวๆที่ปลื้มนายไง -/-"
"มีด้วย? เท่าที่่เห็นก็จะมีแต่คนเขาเชียร์คู่เรานะ ณเดชน์หมาก~ >O<"
"เห็นล็อกเกอร์นายมีแต่จดหมายรักนี่"
"นายต้องลองอ่านดู บางคนเขียนมาว่า 'พี่ณเดชน์กับพี่หมาก อยู่ในสถานะอะไรคะ' บางคนก็ 'ขอให้พี่สองคนรักกันนานๆนะคะ' " ณเดชน์ดัดเสียงแหลมให้ดูเป็นผู้หญิง (?) อืมมมม นายก็เข้าดีนะเนี่ยกับลุคส์นี้ .___.
"แล้วไป"
"หวง ห่วง หรือว่าหึง?"
"(.///. )( .///.)"
"นั่นแน่ๆ"
"คนบ้า ไปอาบน้ำนอนดีกว่า"
ผมเขินจนพูดไม่ออก ได้แต่จบการสนทนาด้วยการไปอาบน้ำนอน เชื่อว่าอีกไม่เกินห้านาทีณเดชน์จะไปนอนอยู่ในห้อง -0-
ขอโทษนะ พอดีวันนี้ฉันนอนห้องนอนแขกย่ะ^^
หลังจากอาบน้ำทำภารกิจส่วนตัวเสร็จเรียบร้อย ผมตั้งใจว่าจะเข้านอนทันทีเพราะพรุ่งนี้ต้องตื่นเช้า ทว่าพอผมเปิดประตูห้อวเข้าไปก็เจอณเดชน์นอนแอ้งแม้งอยู่บนเตียง นี่จะตามไปทุกที่เลยหรือไงเนี่ย เพลียจิต -_-^
"คงเข้าห้องผิด"
ผมทำท่าจะเดินออกจากห้อง แต่โดนเรียกไว้ซะก่อน คือถ้าผมจะเสียมานยาทเดินออกไปเลยก็ได้นะ แต่ว่านี่เขาลุกจากเตียงเข้ามาโอบจากทางด้านหลังด้วย โอบแน่นไปไหม -3-
"ปล่อย หายใจไม่ออก"
ผมพยายามดิ้น ดิ้นเท่าไหร่ก็ไม่หลุดจากอ้อมแขนนั้นได้ ฉันไม่ไปไหนหรอกน่า ทำอย่างกับเป็นฮัสแบนด์แอนด์ไวฟ์อย่างนั้นแหละ ว่าแต่อ้อมกอดนี้อุ่นชะมัด ^[]^
"เดี๋ยวปั๊มให้"
"ทะลึ่ง"
"ไม่ทะลึ่งแล้วจะเป็นณเดชน์ได้เหรอ^^"
"อย่ามาตลก -_-^"
"จริงจังนะเนี่ย เข้าไปในห้องเร็ว"
ยังไม่ทันพูดอะไรเขาก็อุ้มผมเข้าไปในห้องทันที -3- เขาปล่อยผมลงบนเตียงนุ่มอย่างแผ่วเบา เฮ้ๆๆ ทำแบบนี้ ถามฉันก่อนมั้ย -_-^ (กะว่าจะเล่นตัวนิดหนึ่งน่ะ ; ) ) และเหมือนเขาจะรู้ความคิดบ้าๆของผม พูดขึ้นมา...
"ไม่ต้องมาเล่นตัว ฉันรู้ทันนายหรอก"
"เชอะ -_-^ รู้ทันซะหมดเลยนะ" ผมเบ้ปาก
"เล่นตัวไปเถอะ ยังไงซะคืนนี้นายก็เป็นของฉัน ^3^"
เขาจบประโยคด้วยจุมพิตที่แสนหวานและอ่อนโยน จูบนี้ทำให้ผมรู้สึกเหมือนมีผีเสื้อนับร้อยนับพันบินว่อนอยู่ในท้อง เขาละเลียดลิ้นไปทั่วโพรงปาก ความซาบซ่านของอุ้งปากร้อนๆ ครอบครองอย่างเชี่ยวชาญ นานเท่าไหร่ไม่รู้กว่าเขาจะปลดมันออก ตอนนี้รู้เพียงว่า ผมต้องการมันอีก (คนเขียนตั้งใจให้ผมแรดใช่มั้ย -/- ) ...ร่างของผมอ่อนระทวยราวกับขี้ผึ้งรนไฟ
ทั้งสองหารู้ไม่ว่ามีใครอีนคนหนึ่งแอบมองอยู่ในเงามืด ในมือยังมีกล้องหนึ่งตัวสำหรับแอบถ่ายทั้งคู่อีกด้วย! O.o พวกเขามีช่วงเวลาอันดื่มด่ำโดยไม่รู้ว่าวันพรุ่งนี้อะไรจะเกิดขึ้น ไม่รู้เลยว่ามันจะเป็นครั้งสุดท้ายที่ได้อยู่ด้วยกัน
---------------------------------------
เช้ารุ่งขึ้น...
"สายแล้ววววว !!!" ผมตะโกน
"มาแล้วคร้าบๆๆ"
"สายไม่เคยเปลี่ยนเลยนะ"
"ไปกันเถอะ"
ชิชะ ได้ทีเปลี่ยนเรื่อง ผมมองค้อนณเดชน์ไม่จริงจังนัก เพราะชินกับการนอนดึกตื่นสายของเขาแล้ว แต่วันนี้ก็สายเกินไปนะ
"เดินนะ"
"สบายมาก" เขาตกลงพร้อมกับทำท่ากระตือรือร้นเต็มที่ ยิ้มหน้าบานเห็นฟันขาวเรียงรายสวยเชียว เดินไปเรื่อยๆแล้วจะเหนื่อย ชิชะ -0- จะยิ้มหน้าบานแบบนี้ไปได้อีกนานแค่ไหนกันนะ ป่านนี้ที่โรงเรียนวุ่นวายกันถึงไหนแล้ว เพราะคนเดียวแท้ๆเลย เฮ้อ
ผมไม่คิดเลยว่าเหตุการณ์นี้มันจะเกิดขึ้น และรุนแรงจน...(อ่านต่อไปนะครับ)
---------------------------------------
@SCHOOL
เสียงโวยวายพร้อมกับเสียงกระแทกกับโต๊ะอย่างแรง ทำให้คนที่ยืนอยู่ในละแวกนั้นหันมาที่เขาเป็นสายตาเดียว ใบหน้าของเขาตอนนี้แดงไปด้วยความโกรธ เขากัดฟันกรอด กำหมัดแน่นหลังจากดูรูปจากคนที่เขาให้ไปสืบมา
"นี่มันอะไรกัน!!!!"
เขาโยนรูปพวกนั้นลงบนโต๊ะ บ้างก็กระจายร่วงลงพื้น
รูปที่เขาเห็นนั้นเป็นรูปของณเดชน์กับหมากกำลังกอดกันบ้าง คิสกันบ้าง หรือทำอะไรๆบ้าง และที่สำคัญคือทั้งคู่นอนบนเตียงเดียวกันที่บ้านของณเดชน์ เพราะสิ่งนี้สินะ ที่ทำให้เขาลุกเป็นฟืนเป็นไฟ ทว่าโกรธอย่างไรก็ทำอะไรไม่ได้ เพราะที่นี่ไม่ใช่สถานที่ที่ควร หากพ้นเขตนี้ไปก็ไม่แน่...เขายิ่งโกรธๆอยู่ด้วย
ปัง !
"กล้าทำกับฉันขนาดนี้เลยเหรอ!?!"
เสียงประตูถูกเปิดเข้ามาด้วยแรงหมาศาลของใครคนหนึ่ง และไม่ผิด คนที่เดินเข้ามาคือณเดชน์และหมาก สองคนนี้มา 'ทัน' ที่บอยพูดประโยคนั้น เพียงแต่เข้าห้องช้าไปนิดทำให้ไม่เห็นสีหน้าของคนพูดอย่างที่ตั้งใจตั้งแต่ได้ยินเสียงลอดออกมาข้างนอกแล้ว
"ขนาดนี้? หมายความว่ายังไง?" ณเดชน์เลิกคิ้วถามพร้อมกับเดินตรงไปที่โต๊ะเรียนของตัวเอง วางกระเป๋าทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
ส่วนหมาก...เขาไม่เดินตามณเดชน์ไป กลับจ้องไปที่บอยอย่างโมโหเลือดแทบขึ้นหน้า ด้วยกันนั้นสายตาคู่สวยก็เต็มไปด้วยความผิดหวัง...ไม่คิดเลยจริงๆว่าเพื่อนกันจะทำกันได้ถึงเพียงนี้...
Foolishness,
Misunderstanding, and
Love...
สามสิ่งนี้เป็นที่เข้าใจยาก โดยเฉพาะเวลาที่มันมาเกี่ยวกับความรักและคำว่าเพื่อน...แต่ก็ยังหวังว่าบอยจะเข้าใจสักวันหนึ่ง
"บอย...บอย...ขอโทษ..."
เมื่อเห็นหมากจ้องเขาอย่างไม่วางตาจึงพร่ำขอโทษ เขาเป็นคนที่รักใครก็รักมาก และจะเกรงใจและตามใจคนนั้นเป็นพิเศษ (แต่บางทีก็ทำได้แค่เกรงใจและเกรงกลัว...) เหมือนตอนนี้ เขาเกรงใจหมาก เพราะรักมาก เขาทนไม่ได้ที่จะเสียหมากไปให้ใคร...
"ไม่มีประโยชน์หรอก"
เขารู้...หมากกำลังโกรธ ถึงจะไม่แสดงออกทางสีหน้า ทว่าดวงตาก็ปิดไม่มิด และดูได้จากน้ำเสียงของประโยค 'ปฏิเสธ' นั้น หมากไม่ได้พูดตรงๆแต่ก็คนฟังรับรู้ได้ถึงความนัยของประโยคนั้น
"ㅠ ㅠ" บอยน้ำตาคลอ...
"คิดว่าน้ำตาจะช่วยได้งั้นเหรอ นายก็รู้นี่ว่าน้ำตาไม่มีผลต่อฉัน"
พูดเสร็จก็เดินไปที่โต๊ะเรียนของเขาซึ่งอยู่ติดกับณเดชน์พอดี ณเดชน์กำลังสนใจกับหนังสือตรงหน้ามากกว่าที่จะสนใจความเป็นไปของคนในห้อง แต่เขา...ได้ยินทุกคำพูด ทุกเสียงกระซิบ ซุบซิบนินทาของใครมากมายที่มาเป็นระยะๆ หมากไม่สนใจอย่างอื่นนอกจากหนังสือที่ทำเป็นหยิบขึ้นมาอ่าน สมองและดวงตาหาได้จดจ่ออยู่ตัวอักษรไม่ ในใจวุ่นวายกว่าที่เคยเป็น วันนี้สามคาบเรียนแรกเขาไม่มีทั้งสมาธิและสติ เหม่อลอยออกไปไหนต่อไหนบ้าง จนโดนคุณครูตำหนิ ณเดชน์สังเกตุเห็นอาการนี้มานาน เขาตัดสินใจที่จะไม่พูดอะไร ไม่ใช่เพราะกลัวโดนคุณครูว่า แต่เป็นเพราะเขาอยากให้เวลาหมากคิดมบทวนให้ดีอีกครั้งมากกว่า ส่วนบอย...เขาดูจะตั้งใจเรียนมาก แต่นั่นเป็นแค่การ 'แสดง' เท่านั้น ลูกตาจดจ่อที่กระดาน คุณครูที่อธิบายอยู่หน้าห้องและสมุดจดมือเป็นระวิง แต่ภายในใจทั้งกระวนกระวาย ทั้งอึดอัดกลั้นใจ...หลายครั้งที่แอบมองไปที่หมาก แต่หมากก็ไม่แม้แต่จะหันมองตอบ จนกระทั่งออดพักกลางวัน...
นักเรียนทุกคนออกไปทานมื้อกลางวันกันหมดแล้ว จะเหลือก็แต่(อดีต) 'สามเกลอ' เท่านั้น ทั้งสามเงียบนิ่ง ไม่มีใครพูดอะไร ขอเวลาให้ได้คิดอีกสักนิด ผ่านไปราวเจ็ดนาที ณเดชน์ก็เริ่มบทสนทนา หรือจะเรียกให้ถูกว่า 'การจบปัญหา' น้ำเสียงเยือกเย็นบ่งบอกความโกรธในใจ
"นายไม่น่าทำแบบนี้นะ ก็รู้นี่ว่าทำไปก็เท่านั้น"
"มันยังไม่จบ" บอยเหงื่อไหลโชกทั้งที่ในห้องเย็นสบายกำลังดีด มือที่ซ่อนอยู่ในกระเป๋ากางเกงกำแน่นจนเห็นเส้นเลือดปูดขึ้นมา
"ต่อไปจะทำอะไรอีกล่ะ..." เขายิ้มเหยียดก่อนจะพูดต่อ "จ้างคนมาคอยตามไปทุกที่หรือว่าสายลับคอยรายงานทุกสิ่งอย่างล่ะ อ้อ หรือจะให้..."
"...!!! แก..." บอยชี้หน้าด่า หน้าแดงก่ำ "ไอ้เพื่อนทรยศ!"
"ใครทรยศใครกันแน่" ณเดชน์สวนกลับทันที เขาเลือกที่จะไม่ขึ้นเสียง แต่น้ำเสียงต่ำๆเย็นๆของเขาก็สามารถทำให้ขนลุกให้เหมือนกัน
"ก็เพราะใครล่ะ!"
หมากที่นั่งมองเหตุการณ์พลางครุ่นคิดอยู่นานเริ่มจะทนไม่ไหว ลุกขึ้นมาห้าม หาได้ผลไม่...
"หยุดทั้งคู่นั่นแหละ!!!"
"หมาก นายไม่เกี่ยว ถอยไป" ณเดชน์เลือดขึ้นหน้าอีกครั้ง คราวนี้เขาถึงกับใช้กำลัง ใช้มือสากหนาๆนั่นผลักหมากให้ออกห่าง ทว่าแรงไปหน่อยทำให้คนตัวใหญ่อย่างหมากเซล้มลงไปกับพื้น บางส่วนของร่างกายถูกกระทบกระเทือนอย่างแรงกับขาโต๊ะและเก้าอี้ แต่...ไม่มีใครสนใจ...แม้แต่คนที่รักหมากมากๆอย่างบอย...
"คิดจะรบกับฉันงั้นเหรอ"
เสียงนั้นเป็นเสียงสุดท้ายที่เขาได้ยินก่อนเปลือกตาจะปิดและเข้าสู่ห้วงนิทราไปในที่สุด...ตึง! ศรีษะของเขากระแทกเข้ากับอะไรสักอย่างใกล้ตัว เลือดไหลซิบๆ เขาไม่รับรู้อะไรทั้งสิ้นแม้กระทั่งความเจ็บภายนอกและภายใน
"หมาก!!!"
เสียงกระแทกนั้นทำให้ทั้งบอยและณเดชน์ตกใจและรีบถลาเข้าไปแย่งกันประคอง
"เพราะนาย" บอยพูด
ณเดชน์ไม่เถียง เขารู้ว่าเป็นเพราะเขาเอง...
"พาหมากไปห้องพยาบาลที" ณเดชน์บอกเสียงสั่น ดูกระวนกระวายเป็นพิเศษ
'นายอย่าเป็นอะไรเลยนะ'
'แค่นี้เอง คงไม่เป็นอะไรมากหรอกน่า'
'สลบไปก็เท่านั้น'
'ทำแผลนิดหน่อยกับให้นอนพักเดี๋ยวก็ฟื้น'
'นายต้องตื่นนะ'
ระหว่างที่คนตัวโตสองคนกำลังช่วยกันประคองร่างของหมากไปที่ห้องพยาบาล เสียงความกระวนกระวายแกมเป็นห่วงของทั้งคู่ดังสลับกันไปมาราวกับกำลังตอบโต้กันอยู่ภายในใจ ทว่าไม่มีใครปริปากพูดอะไร นาทีนี้หมากสำคัญกว่าที่จะชวนกันทะเลาะ กระนั้นก็ยังไม่ลงรอยกันอยู่ดี นี่ 'อาจจะ' เป็นการสงบศึกชั่วคราวเท่านั้น
---------------------------------------
@SCHOOL's INFIRMARY
หลังจากที่พยาบาลทำแผลและฉีดยาให้แล้ว คนสองคนที่ยืนรออยู่ข้างเตียงคนไข้ค่อยดีขึ้นมาหน่อย ต่างไม่พูดอะไรกลับมองตากันราวกับจะข่มกับ สลับมองคนที่นอนนิ่งไม่รู้ไม่ชี้อยู่บนเตียง
"นายรักหมาก"
"ใช่ รักมาก"
เสียงตอบรับหนักแน่นของบอยทำณเดชน์ใจสั่นคลอน เขาคิดมาเสมอว่าบนโลกนี้มีแค่เขาที่รักหมากได้หมดหัวใจ เพิ่งรู้ความจริงไม่นานมานี้ว่า 'มีอีกคน' ที่รักหมากพอๆกับเขา ยิ่งวันนี้ได้รับคำตอบที่หนักแน่นจากปากของคนที่ขึ้นชื่อว่า 'เพื่อนรัก' ความรู้สึกของเขาที่เคยสัญญากับตัวเองก็ยิ่งลดลงทุกท

 

คำยืนยันของเจ้าของเรื่องสั้น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา