หมู่บ้านพริมใจ...สายใยสามัคคี

-

เขียนโดย wanjai_writer

วันที่ 12 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557 เวลา 17.30 น.

  1 บท
  2 วิจารณ์
  25.22K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557 17.40 น. โดย เจ้าของเรื่องสั้น

แชร์เรื่องสั้น Share Share Share

 

1)

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

หมู่บ้านพริมใจ…สายใยสามัคคี

     ในป่ากว้างหลังเขาสูง มีหมู่บ้านเล็ก ๆ แห่งหนึ่งตั้งถิ่นฐานอยู่กันเป็นลักษณะครอบครัว ที่นี่มีชื่อว่า หมู่บ้านพริมใจ แม้จะเป็นเพียงหมู่บ้านเล็ก ๆ กลางป่าเขา แต่มีความสวยงามทางธรรมชาติอย่างน่าหลงใหลแห่งหนึ่งในประเทศไทย ทั้งอากาศที่แสนจะบริสุทธิ์ น้ำในลำธารใสแจ๋ว ไหนจะมีต้นไม้อายุเกือบ ๑,๐๐๐ ปีที่เรียงรายสูงสง่าง่ายต่อการพบเห็น รวม ๆ แล้วที่นี่ยากต่อการละสายตาไปได้เลย

     ฝุ่นควันตลบไปเงา ๆ ปรากฏภาพหญิงสาวอายุราว ๆ ๒๐ ปี เดินกันมาลาง ๆ  

     “เย่ ! ถึงสักทีพวกเราหมู่บ้านพริมใจแสนสวย” แก้วพูดขึ้นกับเพื่อนอีก ๒ คนอย่างหมดห่วง

     “ก็ดีนะ แต่จะมีอินเทอร์เน็ตใช้รึเปล่านี่” น้ำตอบ

     “หืม เธอนี่อากาศออกจะดี ธรรมชาติก็ส้วยสวยยังจะถามหาอินเทอร์เน็ตอีก” พลอยกล่าว

     “ก็แหม่ ชีวิตคนเราต้องอัพเดตตลอดเวลานี่นา ใครจะเหมือนเธอวัน ๆ เอาแต่อ่านหนังสือ”  

      พวกเธอเป็นนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยชื่อดังในกรุงเทพ ฯ ที่ต้องการมาหาความรู้สิ่งใหม่ๆเพื่อประกอบการใช้ทำรายงานในวันหยุดยาวจำนวน ๓ วันของพวกเธอ พวกเธอเริ่มกางแผนที่ออกมาแล้วเริ่มเดินทางตามแผนที่ไปเรื่อย ๆ และได้เก็บภาพธรรมชาติสวยงามมากมายน่าละลานตาจนเดินมาเรื่อยๆแล้วพบหมู่บ้านเล็กมีป้ายตระหง่านตาว่า “หมู่บ้านพริมใจ” เธอเดินเข้าไปท่ามกลางผู้คนเดินไปมาไม่มากนัก

      “สวัสดีจ้าหนู ๆ  มาจากที่ไหนกันล่ะจ้ะ” ลุงทองกล่าวขึ้นและป้าใจยืนอยู่ข้าง ๆ

      “พวกหนูมาจากกรุงเทพค่ะคุณลุง เรามาศึกษาข้อมูลเพื่อจะนำไปทำรายงานน่ะค่ะลุง”

      “อ่อจ้า ๆ พวกหนูยังไม่มีที่พักกันเลยใช่มั้ย เพราะที่พักก็มีแต่ที่นี่ล่ะ ถ้างั้นตามลุงมาเลยจ้า”

      “สุดยอดไปเลยค่ะลุง ขอบคุณมาก ๆ เลยนะคะ”

       พวกเธอเดินขึ้นมาที่กระท่อมเล็ก ๆ หลังหนึ่ง และไม่ลืมที่กล่าวขอบคุณ แต่ละคนจัดแจงวางกระเป๋าเดินทางและสำรวจบริเวณห้องกันอย่างสนุกสนาน ตอนนี้เวลาประมาณ ๖ โมงเย็นแล้ว

      “สุดยอดไปเลยพลอย น้ำฉันรักที่นี่จัง”

      “ก็ดีนะ แต่ดูกระท่อมนี่เล็กไปหน่อย”

      “อยู่ ๆ ไปเถอะยัยน้ำ เออทุกคนอย่าลืมนะพวกเรา รายงานที่จะต้องส่งครูอ่ะ”

      “อืมจริงด้วย งั้นเราเริ่มสำรวจหาข้อมูลพรุ่งนี้เลยดีมั้ย วันนี้เราคงเหนื่อยกันมากแล้ว”

      “โอเคเลย ฉันไปเล่นไลน์ก่อนนะ ดีจังหมู่บ้านนี้มิอินเทอร์เน็ตด้วย เยี่ยมสุด ๆ ”

      “หนูๆมาทานอาหารเย็นด้วยกันสิจ๊ะ อร่อย ๆ ทั้งนั้นเลยน้า” เสียงป้าใจชวน

      “ได้เลยค่า ป้าใจ”

      อาหารที่เตรียมไว้มีประมาณ ๕ อย่าง เป็นรายการอาหารที่ดูสวยน่ารับประทานอย่างมาก รสชาติอร่อยกลมกล่อมอย่างถูกปาก เมื่อรับประทานอิ่มแล้วพวกเราก็ตัวไปทำธุระส่วนตัว ตอนนี้ดึกมากแล้ว พวกเราทุกคนจึงจัดแจงช่วยกันกางมุ้ง พร้อมทั้งไล่ยุงกันยกใหญ่แล้วก็พากันมาสวดมนต์ พรุ่งนี้พวกเราคงต้องเหนื่อยกันพอตัวกับการไปศึกษาข้อมูลในการทำรายงาน

       เสียงไก่ขันยามเช้า อากาศหนาวลมพัดไปมาเย็นสบาย ๓ สาวตื่นขึ้นมาทำธุระส่วนตัวกันเสร็จ พวกเธอเข้าครัวไปช่วยป้าใจทำอาหารเช้ากันอย่างสนุกสนาน จากนั้นก็เริ่มสำรวจวิถีชีวิตของผู้คนในหมูบ้านแห่งนี้ไปเรื่อย ๆ และสิ่งที่พบเห็นได้ทั่วไปนั่นก็คือ รอยยิ้มที่จริงใจของพวกคนเหล่านี้

       “พี่สาว ๆ  ผลเป็นไกด์ที่นี่นะครับเห็นลุงทองบอกว่าพวกพี่มาทำรายงานจากกรุงเทพฯ มีอะไร         ถามผมได้เลยนะครับ” เด็กชายวัยประมาณ ๙ ปีพูดขึ้น

       “ดีเลย หนูพาพี่ชมที่นี่ทีนะว่ามีอะไรที่เป็นวิถีชีวิตของที่นี่บ้าง ว่าแต่ … หนูชื่ออะไรกันหรอ”

       “ผมชื่อกล้าครับ พวกพี่ล่ะครับ”

       “พี่ชื่อแก้ว จ้า นี่ก็พี่น้ำ และพี่พลอยจ้า”

       “ยินดีที่รู้จักครับ ตามผมมาเลยครับ ผมจะบอกให้ฟัง”

         กล้าพาพวกเราเดินชมสถานที่ต่าง ๆ ในหมูบ้านนี้ บอกได้คำเดียวเลยว่าที่นี่สวยงามจริง ๆ   พวกเราพบเห็นสวนผักผลไม้ที่สามารถกินได้ตามใจชอบ อีกทั้งยังมีไบโอดีเซลขนาดใหญ่

        “พวกพี่รู้มั้ยครับ หมู่บ้านผมน่ะ อยู่มาเกือบ ๑๐๐ ปีแล้วนะ  พ่อเล่าให้ผมฟังว่าที่หมู่บ้านเราน่ะอยู่มาได้นานขนาดนี้เกิดจากความสามัคคีครับ พวกเราช่วยเหลือกันทำมาหากิน มีอะไรเราก็ช่วยเหลือกัน แบ่งปันกัน สวนผักผลไม้ที่ผมพาพวกพี่ไปดูก็เกิดจากพวกเราทุกคนในหมู่บ้านร่วมแรงร่วมใจใช้กำลังกาย และกำลังความรู้จากพี่สาวพี่ชายที่ได้ไปร่ำเรียนกันมาจากอำเภอเมืองมาช่วยกันคิดแก้ปัญหาครับ อีกทั้งหมู่บ้านของพวกเรายังใช้หลักเศรษฐกิจพอเพียงของในหลวงมาเป็นแบบอย่างในการสร้างสิ่งต่างๆมากมายเลยนะครับ พ่อบอกผมว่าท่านทรงสอนให้ประชาชนใช้ชีวิตอย่างพอดีและพึ่งพาตนเองได้ ผมคิดว่าเป็นอะไรที่ดีสุด ๆ ไปเลยครับ ถึงแม้เราจะเป็นหมู่บ้านที่ห่างไกลจากอำเภอเมืองมากและเป็นเพียงหมู่บ้านเล็ก ๆ แต่ความเหนียวแน่นปึกแผ่นของพวกเราเป็นที่แน่นแฟ้นมากเลยนะครับ ผมดีใจมากที่ได้อยู่หมู่บ้านนี้และเมืองไทย เมืองแห่งความสุขของพวกเราชาวไทยทุกคน”

         “จริงเลยจ้ะกล้า ความสามัคคีนี่คือสิ่งที่เราทุกคนควรมีกันอยู่ในภายใต้จิตใจตัวเราทุกคน รวมถึงความพอเพียงนี่ใช้ได้ในชีวิตจริงเลยล่ะ บ้านที่ต่างจังหวัดของพี่ก็ใช้หลักเศรษฐกิจพอเพียงของในหลวงเหมือนกันนะจ๊ะ นี่แหล่ะนะสิ่งสำคัญยิ่งใหญ่เหนือกว่าเงินทองอันมีค่ามหาศาล”

      ในขณะที่ทุกคนกำลังเดินสำรวจสภาพหมู่บ้านกันอยู่นั้นเอง ก็เดินไปที่บ้านหลังหนึ่งที่ถูกไฟไหม้ลุกลามไปทั่วบ้าน ซึ่งสาเหตุก็มาจากเจ้าของบ้านคนนี้ลืมดับเทียนที่ตั้งบนหิ้งพระจึงเกิดเชื้อเพลิงขึ้น ทุกคนต่างช่วยกันดับไฟที่ลุกกันอย่างรวดเร็ว ตอนนี้ไฟดับแล้วเพราะเกิดจากการร่วมมือร่วมใจของทุกคนในหมู่บ้าน ทุกคนหมดห่วงที่ดับไฟได้สำเร็จและไฟไหม้แค่บางส่วนของสิ่งของเท่านั้น เจ้าของบ้านร้องไห้กับความประมาทและสูญเสียสิ่งของที่เขารักไป ชาวบ้านที่มาช่วยกันดับไฟต่างเดินเข้ามาพร้อมนั่งเคียงข้างเขา พร้อมทั้งพูดว่า

        “อย่าเศร้าไปเลยนะ อย่างน้อยไฟก็ไหม้แค่บางส่วนไม่ไหม้ทั้งหลัง”

        “จริงเลย ปล่อยวางเสียเถอะ อย่ายึดติดกับมันมากเลย”

        “ขอบใจทุกคนมากเลยนะ ถ้าไม่ได้ทุกคนช่วยกันดับไฟบ้านฉันคงจะไหม้ทั้งหลังเป็นแน่”

       วันพรุ่งนี้พวกเราจะเดินทางกลับไปกรุงเทพ ฯ เพื่อทำตามหน้าที่ของนักศึกษาในการเรียนหนังสือแล้ว ฉันรู้สึกดีใจมากที่ได้รับความจริงใจจากผู้คนในหมู่บ้านแห่งนี้ หมู่บ้านที่มีแต่ความสุขและเปี่ยมล้นไปด้วยความสามัคคี สิ่งหนึ่งที่ฉันอยากเห็นในสังคมปัจจุบันมากที่สุดก็คือสิ่งนี้การช่วยเหลือกัน แม้ว่าจะอยู่ที่ใดหรือ หรือจะมีฐานะทางสังคมเป็นอะไรก็ตาม ความสมัครสมานสามัคคีนี่แหล่ะสำคัญที่สุดที่จะทำให้ชาติของเราพัฒนาไปได้อย่างก้าวไกล การมาทำรายงานครั้งนี้ทำให้ฉันได้รับรู้อะไรหลายๆอย่างที่มีคุณค่า ฉันจะไม่ลืมความทรงจำที่ดีที่น่าประทับใจแบบนี้ตลอดไป.

 

           "... ความสามัคคีนี้ เป็นคุณธรรมสำคัญประการหนึ่ง ซึ่งหมู่ชน อยู่รวมกันจำเป็นต้องมี ต้องถนอมรักษาและ ต้องนำมาใช้อยู่สม่ำเสมอ ถ้าแต่ละฝ่ายเข้ามาร่วมกันทำงานด้วยความ ตั้งใจดี ด้วยความสามัคคี ความรู้ความสามารถ และ ด้วยความคิดที่สร้างสรรค์ งานก็สำเร็จสมบูรณ์งดงามตามประสงค์ทุกอย่าง..."

                                                                     ความตอนหนึ่ง ในพระราชดำรัส

                                      ในการเสด็จออกมหาสมาคม งานพระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษา

                                      วันที่ ๕ธันวาคม ๒๕๓๐

 

 

                                         

                                             ขอบคุณทุกคำติชมนะคะ 

 

                                                                                                  หวานใจ.

 

 

 

 

คำยืนยันของเจ้าของเรื่องสั้น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา