เสิร์ฟรักรสสตอเบอร์รี่

9.7

เขียนโดย nooann

วันที่ 14 มกราคม พ.ศ. 2557 เวลา 14.25 น.

  4 ตอน
  0 วิจารณ์
  7,791 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 20 มกราคม พ.ศ. 2557 19.24 น. โดย เจ้าของเรื่องสั้น

แชร์เรื่องสั้น Share Share Share

 

4) ตอนที่ 4

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

โรงเรียน

ประเทศไทยรวมเลือดเนื้อชาติเชื้อไทย...

“วันนี้ครูมีเรื่องจะประกาศนะคะ จะมีการแข่งกีฬาระหว่างชั้นปีในอีกหนึ่งเดือนข้างหน้าส่วนลายละเอียดครูจะแจ้งให้ทราบอีกทีนะคะ แยกย้ายเข้าเรียนได้คะ”

ทุกชั้นปีต่างแยกย้ายเข้าเรียน แต่แปลกวันนี้ทำไมคิวถึงไม่มาเข้าแถว ปกติคิวไม่เคยมาสายเลยนะ แต่ชั่งเถอะ เดี๋ยวก็คงมาแล้วฉันจะสงสัยทำไม

“เฮ้ยแก ไปดูหนังอีกป่ะ”

“หยุดเลยจันทร์หยุดเลย แกไปกับนังทิวเหอะไม่เอาแล้ว”

“หยุดๆ ฉันก็ไม่ไป แกไปคนเดียวเลยจันทร์”

ฉันกับทิวตอบก็จะทิ้งให้จันทร์เดินมาคนเดียว ทั้งๆ ที่ฉันกำลังจะลืมแต่มันกลับทำให้ฉันยิ่งนึกถึงเรื่องวันนั้น ทำไมฉันไม่ลืมไปสักทียิ่งพยายามไม่คิด มันกลับยิ่งจำฝังใจ

โป๊ก!!

โอ๊ย! เจ็บชะมัดใครมันเดินไม่รู้จักมองคนอื่นบ้าง ฉันเงยหน้าขึ้นเตรียมจะด่าเต็มทีทันทีที่เห็นว่าใครที่เดินชน ฉันกลับกลืนคำด่าลงคอไปก่อนจะลงแล้วเดินไปที่โต๊ะตัวเอง เพราะคนที่ฉันเดินชนคือกันต์

“นอกจากจะขี้เซาแล้วยังซุ่มซ่ามอีกนะ”

ถ้าทุกๆ ฉันคงจะเถียงกลับไปแล้วแต่วันนี้ไม่ใช่ ฉันไม่รู้จะพูดอะไรก็เลยเลือกที่จะนั่งเงียบๆ ดีกว่า

“อิ๊บ วันนี้แกเป็นไรป่าว” << ทิวลิบ

นั้นสิแกไม่สบายหรือป่าว” << จันทร์เจ้า

“ป่าวนะ”

ฉันตอบสั้นๆ ก่อนที่คิวจะเดินเข้ามานั่งที่โต๊ะข้างๆ ฉันเลือกที่จะมองออกไปนอกหน้าต่างก่อนะจะหยิบหนังสือเรียนในลิ้นชัก แต่แทนที่ฉันจะเจอหนังสือกลับเจอบาง ฉันหยิบขึ้นมาดูมันคือเค้กสตอเบอร์รี่ที่มุลุกสตอเบอร์รี่อยู่ข้างบน

“อิ๊บของใครว่ะ น่ารักอ่ะ” ทิวลิบถามขึ้น

“สงสัยคนที่ให้คงตาบอด”

“คิวไม่พูดน้ำลายมันไม่บูดหรอกนะ”

มองดูเค้กไปรอบๆ ก่อนจะสะดุดตาตรงชื่อร้านที่อยู่ตรงข้างๆเค้กเพราะชื่อร้านชื่อว่าสตอเบอร์รี่ มันจะบังเอิญไปไหมที่ร้านชื่อสตอเบอร์รี่ แล้วยังรู้ว่าฉันชอบกินเค้กสตอเบอร์รี่

ฉันได้เค้กอยู่เกือบเดือนโดยที่ยังไม่รู้ว่าใครเป็นคนให้แล้วร้านเค้กอยู่ตรงไหน เพราะฉันยังไม่มีเวลาว่างพอจะไปหากำลุงยุ่งๆอยู่กับงานกีฬาที่กำลังจะถึง

“อิ๊บ แกไหวป่าวดูแกแย่ๆนะ”

“ไม่นะ”

อยู่ๆ จันทร์ก็ถามอะไรแปลกๆ ท่าจะบ้า

“เดี๋ยวฉันไปซื้อน้ำให้นะ”

“ไหวแน่นะ”

“ไหวดิ ถามไรแปลกๆ”

ฉันลุกขึ้นจะไปซื้อน้ำแต่จู่ๆ ก็รู้สึกหน้ามืดสงสัยจะลุกเร็วเกินไป ฉันเซเล็กน้อยแต่ไม่เป็นไร

“อุ๊บอิ๊บไหวป่าว”

กันต์รีบลุกขึ้นมาพยุงฉันเพราะกลัวว่าฉันจะล้ม

“ไม่ๆ ขอบใจ”

ฉันเดินต่อได้แค่สองก้าวทุกอย่างก็มืดลงแล้วฉันก็ไม่รู้เรื่องอะไรอีกเลย

 

ฉันค่อยๆลืมตาขึ้นก่อนจะมองไปรอบๆ ห้องฉันอยู่ที่ไหน คุ้งๆ เหมือนห้องนอนฉันเลยนะแต่มันจะใช่หรอหรือว่ากำลังฝัน ฉันหยิกแขนตัวเอง แต่ผลที่ได้คือมันโคตรเจ็บแสดงว่าฉันไม่ได้ฝันไป

“อ้าวอุ๊บอิ๊บรู้สึกตัวแล้วหรอลูก ลูกรู้ไหมว่าลูกหลับไปสองวันเต็มๆ เลยนะ”

“เป็นไปได้ไงคะแม่ ก็หนูยังทำงานกับเพื่อนๆอยู่เลย”

“เป็นไปได้สิ ถ้าไอ้กันต์มันรับไม่ทันหัวเธอคงฟาดพื้นสมองเสื่อมไปแล้ว”

คิวยืนพูดอยู่หน้าห้องด้วยแววตาที่จริงจังมาก

“จริงหรรอคะแม่”

“จ๊ะ”

“ถ้าหนูหลับไปสองวัน แล้วงานกีฬาล่ะคิว”

“ใช่! เขาแข่งกันเสร็จเรียบร้อยแล้ว”

ติ่งต๊อง! จู่ๆเสียงกริ่งหน้าบ้านกดังขึ้น

“เดียวแม่ไปดูก่อนนะว่าใครมา”

“คะ”

แม่ลงไปได้ไม่นานบรรดาเพื่อนๆ ตัวดีของฉันก็เดินเข้ามาในห้องก่อนจะตามมาด้วยคำถามมากมาย ซึ่งฉันฟังมันไม่รู้เรืองเลย

“หยุด! ฉันว่าพวกแกนั่งก่อนแล้วถามที่ละคนดีกว่าไหม”

“มาเริ่มที่ฉันก่อนนังทิวหลบ อิ๊บแกรู้ไหมว่าขนมเค้กเป็นของใคร”

“ไม่!”

เบสเดินเอากล่องขนมเค้กลงมาวางที่เตียงฉันก่อนจะเดินกลับไปยืนที่ข้างคิว

“พวกแกจะบอกอะไร ฉันไม่เข้าใจ”

“กันต์ฝากมาเยี่ยม”

ทิวลิบพูดขึ้นก่อนจะวางกล่องขนมเค้กลงข้างๆ กล่องที่เบสวางและที่สำคัญมันเหมือนกันมากๆ

“ใช่อย่างที่ฉันคิดหรือป่าว”

“อยากดูเฉลยไหมล่ะแก ฉันพามาด้วยนะ”

จันทร์เจ้าพูดขึ้นก่อนจะหันไปมองที่ประตูห้อง

“ต้องกล่าวตอนรับไหมครับท่าน”

“แกพูดอะไรคิวฉันไม่เข้าใจ พวกแกกำลังทำฉันงงนะ”

และจู่ๆ กันต์ก็เดินเข้ามา วันนี้เขาดูหล่อมากๆ แม้ว่ามันจะเป็นเพียงแค่กางเกงยีนธรรมดากับเสื้อสีขาวแขนยาว กับสร้อยคอรูปไม้กางเขน แต่สิ่งที่ทำให้ฉันตกใจคือ ในมือเขามีช่อดอกไม้สีแดงสด ไม่สิมันควรจะเรียกว่าสตอเบอร์รี่มากกว่า มันดุสวยมากๆ เลยฉันไม่เคยเห็นมาก่อน

กันต์เดินมาที่เตียงฉันก่อนที่จะส่งมันให้กับฉัน ฉันรับอย่างอายๆ กับหัวใจที่เต้นแรงเอามากๆ ถ้ามันจะเต้นแรงขนาดนี้หลุดออกมาเลยดีกว่าไหม

“ขอบใจนะ”

“อุ๊บอิ๊บ!”

“ว่าไง”

“คือ...”

“...”

“คือ...”

“...”

“คือ...”

อะไรของนาย จะรอให้ฉันหัวใจวายตายก่อนหรือไง

“มีบางอย่างจะบอก...”

“...”

“ขนมเค้กที่อยู่ใต้โต๊ะ...”

“...”

“มันคือของฉันเอง”

“หรอ”

ฉันตอบเพียงสั้น แต่ในใจฉันมันกลับยิ้ม ไม่รู้เหมือนกันว่าเพราะอะไร

“ยังไงก็ขอบใจนะ”

“ยังมีอีกเรื่องนึง”

“เรื่องอะไรหรอ”

“ฉันตั้งใจตั้งชื่อนี้เพื่อเธอนะอุ๊บอิ๊บ”

“เพื่อฉันหรอ!”

ประโยคนี้ทำฉันตกใจแต่ก็ยังดีใจอยู่ดี นี่ฉันบ้าไปแล้วหรอความรู้สึกแปลกๆ แบบนี้ทำไมมันเกิดขึ้นอีกแล้วเนี่ย

“อุ๊บอิ๊บ!”

“...”

“จะผิดไหมถ้าฉัน...”

ตึกๆ ตึกๆ ตึกๆ เขาจะได้ยินเสียงหัวใจฉันไหมเนี่ย

“ฉัน...จะรักเธอมากกว่าเพื่อน”

ช๊อก! สาบานว่าที่ฉันได้ยินมันไม่ได้หูฟาดไป ตอนนี้ทุกๆอย่างเหมือนหยุดหมุน เหมือนตอนนี้มีแค่ฉันกับเขา

“ถ้าเธอไม่ตกลงไม่เป็นไรนะฉัน...”

ดูหน้าเขาตอนนี้สิเหมือนกำลังโดนจับได้ว่าแกล้งเพื่อน

“อุ๊บอิ๊บ...ฉันขอโทษ”

“ตกลง”

“หมายความว่าไง”

“ก็หมายความว่าตกลงไง”

“เยส!”

กันต์ดูดีใจมาก รอยยิ้มของเขาวันนี้มันดูสวยและที่สำคัญดวงตาของของเขามันบอกฉันว่าขอบคุณที่ให้เขาได้ดูแลฉัน ไม่รู้เหมือนกันว่าใจของเรามันไปตรงกันวันไหน แต่วันนี้ฉันขอสัญญาว่าจะรักและดูแลความรักครั้งนี้ให้ดีที่สุด

“นี่ทิวลิบรักครั้งนี้ของยัยอุ๊บอิ๊บมันเป็นรสอะไรนะ”

“ไม่น่าถามก็ต้องเป็นรสสตอเบอร์รี่สิจันทร์เจ้า”

“ทำไมต้องรสสตอเบอร์รี่ล่ะ”

“เอ้า! ก็มันทั้งหวานและทั้งหอมและสดใสเหมือนสตอเบอร์รี่ไง”

ทำเอาฉันอายสุดๆ เลยนะเนี่ย

“นั้นสิ ฉันรู้สึกเหมือนฉันกำลังกินสตอเบอร์รี่รสหวานที่พึ่งเด็ดจากต้นสดๆ ฉันอยากกินแบบนี้ไปทุกวันจัง”

“ถ้างั้นผมจะเสิร์ฟรักรสสตอเบอร์รี่ให้ทุกวันเลยนะครับ”

 

THE END

 

คำยืนยันของเจ้าของเรื่องสั้น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา