Dragon tear ผจญภัยสุดขอบฟ้าฝ่าเซียนเทพ

10.0

เขียนโดย api3api

วันที่ 7 ธันวาคม พ.ศ. 2556 เวลา 00.09 น.

  16 บท
  3 วิจารณ์
  21.38K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 19 ธันวาคม พ.ศ. 2556 22.22 น. โดย เจ้าของเรื่องสั้น

แชร์เรื่องสั้น Share Share Share

 

8) การกลับมาของเซียน

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

  "ฟังนะตอนนี้พวกเราลงเรือลำเดียวกันแล้วพวกข้าจึงจะอธิบายเรื่องของอาวุธน้ำตามังกรที่เหลือให้เจ้าเข้าใจ "เฉินโจวคลี่แผ่นกระดาษสาที่มีรูปภาพและตัวหนังสืออธิบาย

 

 

 

           "อาวุธมีน้ำตามังกรที่เหลือ ตาม พงศวดารมีอีกสามอย่างนั่นคือ ดาบสุริยัน  ลูกแก้วหยั่งรู้ กับไม้ตีมังกร"

 

 

 

            "แล้วบอกให้ข้าฟังทำใม"ต้ากงอ้วงทำหน้าเหรอหราทำให้เฉินโจวโมโหอย่างมาก

 

           "หมายความว่าเรามีโอกาสที่จะสู้กับอาวุธน้ำตามังกรที่เหลือ เจ้าทึ่ม"

 

ต้ากงอ้วงอ้าปากค้างหวาดกลัวเอ้อหลันจึงเข้ามาอธิบายเสริม

 

          "น้ำตามังกรที่ข้า จะชักนำอาวุธน้ำตามังกรมาเพื่อขัดขวางพวกเรา อันนี้ข้าแน่ใจแล้ว"

 

          ต้ากงอ้วงอ้าปากค้างอีกรอบเอ้อหลันยิ้มแห้งตาเจื่อนๆ

 

 

 

          "มีอาวุธอันนึงแปลกกว่าชนิดอื่นนั่นคือ ไม้ตีมังกร เป็นอาวุธลำดับห้า แต่ความสามารถของมันจะทำให้เรารับมือยาก"เฉินโจวชักนำเข้าเรื่องอีกครั้ง

 

 

 

 

 

            "ความสามารถของมันก็คือ"

 

    ต้ากงอ้วงตัวเกร็งลุ้น กลืนน้ำลายอย่างยากลำบาก

 

 

 

            "ไม่รู้"

 

 

 

    ต้ากงอ้วงลุ้นจนหงายหลังเมื่อตำตอบออกมา

 

 

 

           "ได้ไง คำตอบอะไรของเจ้าเนี่ย"

 

เฉินโจวเอาสีเขียนบนกระดาษเปล่าอธิบาย

 

 

 

            "อาวุธสี่อย่างแค่ชื่อก็พอจินตนาการความสามารถออก พัดเรียกลม

 

 กระบี่ใจ คือ สะกดจิตใจ  ดาบสุริยันน่าจะเป็นไฟความร้อน ลูกแก้วหยั่งรู้คงจะเป็นเรื่องของเวลา แต่ไม้ตีมังกร ไม่มีบันทึกใดไว้ เหมือนมันหายสาปสูญไม่ปรากฎที่ใดเลย และจะเป็นปัญหาในการรับมือแน่นอน"

 

 

 

            "งั้นเราก็ไม่จำเป็นต้องกลัว ก็เรามีอาวุธน้ำตามังกรเป็นพวกถึงสองคนแล้วนี่" ต้ากงอ้วงกล่วอย่างไม่คิดแต่ทำให้เอ้อหลันกับเฉินโจวตะลึง

 

 

 

           "ทำใมข้าไม่คิดถึงเรื่องนี้ ข้ามัวแต่คิดว่าอาวุธน้ำตามังกรเป็นศัตรู"เฉินโจวทำท่าครุ่นคิด

 

 

 

            "แต่เซียงหลันยังเด็กมากนะ นางแค่สิบสามเองจะกล้าทำร้ายคนเหรอ"เอ้อหลันเป็นห่วง

 

             

 

             "ข้าจะส่งนกพิราบไปหาเหมยลี่ แค่เหมยลี่ก็น่าจะเพียงพอแล้ว"

 

 

 

        เฉินโจว ส่งนกพิราบขึ้นไปบนฟ้า โดยไม่สังเกตุว่ามีสายตาจับจ้องอยู่

..........................................................................................................

เมื่อสี่สิบปีก่อน การต่อสู้อย่างดุเดือดของผู้ครอบครองอาวุธปิศาจได้เกิดขึ้น ผู้ครอบครองดาบสุริยันกับผู้ครอบครองไม้ตีมังกรต่างปะทะกับโดยมีผู้ครอบครองอาวุธน้ำตามังกรอีกสามคนต่างบาดเจ็บสาหัสอยู่รอบๆ

 

           "เมฆาอัคคีเจ้านั่นแหละผิด เจ้าทำผิด" ผู้ครอบครองไม้ตีมังกรตะโกนใส่ผู้ครอบครองดาบสุริยัน ทั้งสองสู้กันทำให้เกิดภัยพิบัติมากมายเกิดขึ้นทั่วยุทธภพ

 

               "พวกเราคือเซียน มนุษย์บาปหนาไม่สมควรได้รับเมตตราจากพวกเรา เจ้านั่นแหละผิด เต้าซื่อ" 

 

                ดาบสุริยันฟันมาอย่างรุนแรงทำให้ไม้ตีมังกรแตกกระจุย แล้วเกิดการระเบิดขึ้น

 

              ต้ากงอ้วงสะดุ้งตื่นกลางคืนเดือนเพ็ญ

 

 

 

              "อีกแล้วเหรอ"ต้ากงอ้วงเหงื่อเต็มตัวเดินออกมาจากกระโจมกลางดึก เดินออกมาชมจันทร์

 

 

 

               จึงเห็นเฉินโจวยืนรออยู่

 

 

 

              "มาถึงขนาดนี้แล้ว จงบอกการทำตัวน่าสงสัยของเจ้ามาซะ ต้ากงอ้วง" เฉินโจวทำท่าเอาจริงทำให้ต้ากงอ้วงตกใจ

 

 

 

               "อะไรกันเจ้าหัวไม้กวาด เจ้าบ้าไปแล้วเหรอ"

 

 

 

          ต้ากงอ้วงทำท่าเลิ่กลัก

 

 

 

            "ทุกคืนเพ็ญเจ้าจะหายจากที่พัก เจ้าไปใหน"

 

            "ข้าก็ออกมายืนรับแสงจันทร์ไง แปลกเหรอ"

 

        ต้ากงอ้วงกล่าวความจริง ทำให้ท่าทีของเฉินโจวอ่อนลง

 

 

 

             "ถ้าเจ้าหลอกลวงความใสซื่อของเอ้อหลัน ข้าจะไม่อภัยให้เจ้าจำไว้" เฉินโจวเดินไหล่ชนกลับที่พัก

 

 

 

            "ทำใมใจข้าไม่สงบ ทุกครั้งที่ได้ยินชื่อนั้น"

 

 

 

                 "เต้าซื่อ"

 

 

 

      ทั้งสามผ่านมาถึงหมู่บ้านใหญ่กลางดินแดนแห้งแล้ง ทั้งสามจึงเข้ามาหาเสบียงที่นี่

 

 

 

               "ต้ากงอ้วง ท่านไปซื้อแห้งตากแห้งนะ ข้ากับศิษย์พี่จะไปหาพวกยารักษาโรค" เอ้อหลันเอาพวงร้อยเงินให้ต้ากงอ้วง ต้ากงอ้วงเลยคิดจะไปหาบะหมี่กินแก้หิว

 

 

 

                "ไม่มี ไม่มีร้านขายอาหารเลย"

 

ต้ากงอ้วงตกใจที่หมู่บ้านนี้ไม่มีร้านค้าขายอาหาร

 

             "พี่ชายซื้อเนื้อตากแห้งข้าใหม โลละร้อยตำลึง"

 

              "แพงบรรลัย ทำใมขายแพงเช่นนี้"

 

 ต้ากงอ้วงตวาดพ่อค้าเร่ พวกเขาจึงารภาพด้วยความหวาดกลัว

 

          "นายท่านอย่าตำหนิข้า เพราะเมืองนี้แห้งแล้ง พืชพันธุ์เพราะปลูกลำบากมันเลยเกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้น  อ้อนายท่านที่นี่มีหมอดูนางน่าจะรู้เรื่องราวเป็นไปท่านลองไปสอบถามดูสิ"

 

     พ่อค้าเร่รีบวิ่งหนีไป ต้ากงอ้วงจึงไม่มีทางเลือก

 

 

 

ทางด้านเอ้อหลันกับเฉินโจว เอ้อหลันกำลังทำท่าทางลำบากใจอยู่

 

 

 

      "ท่านหมายความว่ายังไง"

 

 

 

       "พอเมื่อวานพูดถึงเหมยลี่ข้าถึงนึกออกช่วงนั้นตอนที่สู้กับพัดเหล็กสะท้านโลกันต์" เฉินโจวพูดจาด้วยความเคร่งเครียดทำให้เอ้อหลันต้องตั้งใจฟัง

 

 

 

         "ในลมพายุ ลูกน้องเหมยลี่ล้วนโดนลมฉีกกระจุยในนั้นยกเว้นเหมยลี่ที่เป็นผู้ครอบครองอาวุธน้ำตามังกร และข้าก็บถูกกระชากเหมือนกัน แต่"

 

         "แต่"เอ้อหลันย้ำคำ เฉินโจวพยักหน้า

 

 

 

         "ใช่  ต้ากงอ้วงไม่เป็นอันตรายจากลมพายุเหมือนเหมยลี่"

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

           ภายในสำนักหมอดูดูวังเวง ไร้ผู้คนแต่มีป้ายบอกให้เลื่อนประตูเข้าไป เมื่อต้ากงอ้วงเลื่อนเข้าไปก็มีสาวๆมาต้อนรับ

 

          "เชิญพบกับแม่หมอ อี้ผิง เจ้าค่า"

 

 

 

      เก้าอี้หมุนที่กลับด้านหมุนกับมาก็เห็นจอมเวทย์หมอดู

 

 

 

                   "บอกเรื่องที่เจ้าอยากรู้ออกมา"

 

                    "เด็ก"

 

         แม่หมอแท้จริงแล้วเป็นสตรีที่มีรูปร่างแค่เด็กอายุ15ปี

 

 

 

              ก่อนที่ต้ากงอ้วงจะพูดอะไร นางก็กระโดดขึ้นมาบนโต๊ะอย่างตกใจ 

 

 

 

              "เจ้า  เต้าซื่อ เจ้ากลับมาแล้ว"

 

 

 

   ต้ากงอ้วงตะลึงกับคำพูดของเด็กน้อย....



/////////////////////////////////////////////////////////////////////////////

 

คำยืนยันของเจ้าของเรื่องสั้น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
10 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา