เพราะยังอยู่ท่ามกลางความรัก
เขียนโดย สสิธร
วันที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 เวลา 16.41 น.
แก้ไขเมื่อ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 17.26 น. โดย เจ้าของเรื่องสั้น
1) เพราะยังอยู่ท่ามกลางความรัก
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความเพราะยังอยู่ท่ามกลางความรัก จึงรู้ว่าชีวิตมีคุณค่ามากพอที่จะเดินก้าวต่อไป
เห็นทุกท่านกำลังมีประกวดเรื่องสั้นในหัวข้อ วันพ่อ จึงนึกครื้มใจอยากจะลองบรรเลงเพลงอักษรในหัวข้อนี้ดูบ้าง ลองอ่านกันดูนะคะ
ทุกครั้งที่กลับบ้านต่างจังหวัด ฉันมักจะมีอะไรให้ทำมากมายตั้งแต่เช้าจนค่ำ จึงได้สังเกตเห็นว่า บ้านของเราได้เปลี่ยนแปลงไปทีละน้อยอย่างเงียบเชียบ ทั้งสีระเบียงที่เลอะเทอะเมื่อคราวก่อน พ่อก็จัดการให้ช่างมาทาสีซะใหม่ จนแทบไม่รู้เลยว่า มันเคยได้ผ่าน การเก่า มาแล้ว ตู้เลี้ยงกุ้งของแม่ ก็ถูกเก็บไปจากโต๊ะตัวยาวในครัว ของใช้บางอย่างที่พี่ชายและน้องชายเคยใช้ ก็ถูกเก็บเข้าตู้ไปอย่างยากที่จะรื้อออกมา
บางที ความเปลี่ยนแปลงทีละน้อย มันก็ทำให้ฉันใจหายนะคะ ราวกับเราโดนตอกย้ำ ว่าทุกปีที่เราเติบโตขึ้น มันได้เพิ่มความเหงาให้กับบ้านหลังใหญ่ของเรามากแค่ไหน
แต่ก็นั่นแหละนะคะ พ่อ แม่ พูดอยู่เสมอว่า บ้านนี้เคยอบอุ่นมากอย่างที่หวังไว้เเล้ว อนาคตก็เป็นสิ่งที่ต้องเป็นไป ลูกอย่าเก็บไปคิดมากเลย
มันเกือบจะเป็นความเศร้าแล้วนะคะ ถ้าฉันไม่ได้ค้นพบโอเอซิสของความรักในบ้านเก่าหลังนี้
ที่ไหนน่ะหรอคะ ที่ห้องของพี่ชายค่ะ ซึ่งตอนนี้แม่ได้เข้าไปจับจองเป็นเจ้าของเรียบร้อยเเล้ว เพราะอยู่ชั้นล่างเดินเข้าออกสะดวก แม่ของฉันเป็นนักประดิษฐ์ค่ะ จะวางอุปกรณ์ประดิษฐ์ดอกไม้ต่างๆเรียงรายไว้มากมาย พร้อมกับหนังสือดีๆที่วางเรียงแน่นอยู่ในตู้สีสดข้างประตู ฉันกลับบ้านทีไร แม่จะชอบพาเข้ามาที่ห้อง ชี้ชวนให้ดู ของประดิษฐ์ใหม่ๆ ฉันมีความสุขมากจริงๆค่ะ (เรื่องราวของแม่นั้นมีมากมาย กลัวจะแย่งซีนพ่อซะก่อนจึงขอพัก เรื่องราวของโอเอซิสความรักผู้นี้เอาไว้เล่าต่อวันหลังนะคะ)
โอเอซิสความรักเคลื่อนที่อีกผู้หนึ่ง จะมาชัดเจนมากเวลาฝนตก ฉันนั่งดูทีวีทีไรสะดุ้งตกใจทุกที ปึง ปัง ปัง ปัง ปัง เสียงพ่อเดินปิดหน้าต่างรอบบ้าน พร้อมกับตะโกนบอกให้วิ่งไปเก็บผ้า ถ้าฉันขี้เกียจก็จะพูดอยู่อย่างนั้นจนกว่าฉันจะลุก
มันน่าแปลกนะคะ ทุกครั้งที่ฉันท้อใจมากๆจะมีเหตุที่ทำให้ฉันได้กลับบ้าน พ่อ จะขับรถมารับที่ท่ารถ พ่อจะยิ้มน้อยๆ แล้วก็พยามเอื้อมมือมาแตะแขน แตะตัวฉันอยู่เรื่อยๆ เหมือนกับจะรู้ได้อย่างนั้นแหละ ว่าลูกกำลังอ่อนแอ
พอถึงบ้าน พ่อเล่าว่า พ่อได้รับขนมเค้กชั้นดีที่เพื่อนนำมาฝากจากกรุงเทพ ! เขาว่าเป็นร้านดังที่ต้องต่อคิวยาวเหยียด พร้อมกับจูงมือพาฉันไปที่ตู้เย็น บอกให้เปิดกล่องขนมดูสิ หน้าตามันน่ากินมากเลยนะ แล้วก็ยืนลุ้น ตาไม่กระพริบ ว่าลูกสาวจะตื่นเต้นเหมือนกับตัวเองไหม
ฉันบรรจงเปิดกล่องอย่างตั้งใจ หีบห่อยังดีไม่มีร่องรอยว่าเคยถูกแกะ แล้วฉันก็พบ ว่าขนมเค้กถูกกินไปหนึ่งคำ ฉันเอ่ยชื่นชมให้สมใจพ่อก่อน โห น่ากินจริงๆแหละพ่อ เอามากินเลยไหม
แล้วก็หยิบขนมออกมา เอ่อ ใครแอบกินไปคำนึงอะพ่อ มันแหว่ง
พ่อยิ้มอย่างภูมิใจ พ่อเองแหละ พ่อเห็นตอนแรกไม่แน่ใจว่าจะอร่อยไหม เลยกินดูคำนึง ปรากฏว่ามันอร่อย เลยเก็บไว้ให้ลูกกิน
เค้กขนาด 2 ปอนด์ พ่อกินไปคำเดียว แล้วเก็บใส่ตู้เย็นไว้อย่างนั้นอีกสามวัน รอลูกกลับบ้าน
พ่อกลัวลูกจะกินไม่พอหรือ แม้แต่แม่ พ่อก็ยับยั้งไว้ให้รอลูกกลับบ้านก่อน
พอได้ฟังแบบนี้ ไม่ต้องชิมก็รู้แล้วล่ะพ่อ ว่ามันอร่อยแค่ไหน
ความอ่อนแอในหัวใจ มันถูกเติมเต็มแล้วด้วยขนมเค้กที่พ่อกินไปหนึ่งคำ
ดีใจเหลือเกิน ที่ได้รู้ว่า ฉันยังอยู่ท่ามกลางความรักมากมายขนาดนี้
ใครไม่รัก ไม่เห็นคุณค่าของเราก็ช่างเขาปะไร
ชีวิตของเรามีคุณค่าพอที่จะก้าวต่อไป จริงๆนะคะ
คำยืนยันของเจ้าของเรื่องสั้น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ