[OS] ツンデレ (ซึนเดเระ) ● Kris x Han ●

-

เขียนโดย arey

วันที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 เวลา 15.10 น.

  1 ตอน
  1 วิจารณ์
  4,974 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 15.19 น. โดย เจ้าของเรื่องสั้น

แชร์เรื่องสั้น Share Share Share

 

1) [OS] ツンデレ (ซึนเดเระ) ● Kris x Han ●

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

ツンデレ

 

 

 

บางครั้งความอ่อนโยนก็ไม่จำเป็นต้องแสดงออกมาก...

 

 

            ท่ามกลางสนามฟุตบอลขนาดใหญ่ยักษ์พื้นที่เกือบล้านตารางวา เว่อร์ไปไหม? โอเคเว่อร์ไปลดลงมาหน่อยเหลือแค่ขนาดพอเหมาะเจาะสำหรับหญ้าสีเขียวกับพื้น ดินสีน้ำตาลก็พอ เหล่านักกีฬาขาแข้งที่แทบจะเตะก้านคอคนให้ล้มตายอยู่กับที่กำลังพากันวิ่ง เหยาะไปตามทางที่อาจารย์โค้ชผู้ฝึกหัดชี้ทางให้

 

            “เอ้าเร็วๆ อืดอาดยืดยาดขนาดนี้มันจะไม่วิ่งทันคู่แข่งได้ไงว่ะ”

 

            เสียงเร่งที่ทำเอาลูกศิษย์แทบจะอยากต่อกระดูกขาให้ยาวกว่านี้เพื่อที่จะวิ่ง ให้เร็วทันใจโค้ช แต่ก็เออนะ!บางทีโค้ชแมร่งก็ใจร้ายว่ะนี่วิ่งมา8รอบแล้วนะครับยังไม่ได้พัก เลย!ถึงจะเป็นนักกีฬาฟุตบอลวิ่งในสนามกว่า90นาทีก็เถอะ แต่ให้มาวิ่งต่อกันแบบนี้หลายๆรอบก็เหนื่อยนะ

 

            “เหี้ยกูเหนื่อย!”

 

            เสียงหอบหายใจฮักใหญ่ที่มาพร้อมกับการทิ้งตัวลงนอนแผ่ราบไปกับพื้นสนามหญ้าและเสียงอันแหลมปรี๊ดของเจ้าตัว ลู่หานหันไปมองเพื่อนที่จัดได้ว่าเตี้ยกว่าตนแล้วถอนหายใจออกมา

 

            “อย่าพูดเหมือนกูไม่เหนื่อยสัด!วิ่งพ่อง10รอบต่อกันไม่ให้กูพัก” บ่นอุบอิบให้กับโค้ชที่ปลีกตัวไปรับโทรศัพท์

 

            ดีดตัวลุกขึ้นนั่งแล้วเดินไปหยิบเอาขวดน้ำในถังแช่มาดื่มยกใหญ่ ก่อนที่หางตาจะเหลือบไปเห็นใครบางคนที่กำลังเดินมาทางตน ลดระดับขวดน้ำลงแล้วปิดฝาเอาไว้ก่อนจะโยนมันลงใส่ถังไว้ตามเดิม เช็ดมุมปากที่เปรอะเปื้อนของตัวเองเล็กน้อยแล้วจึงหันมาเผชิญหน้ากับคนที่ เดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าตนพอดี

 

            “เสนอหน้ามาอีกแล้วนะมึง” เท้าเอวเชิดหน้ามองคนตรงหน้าที่แมร่งสงสัยแย่งหมากินข้าวมันถึงได้สูงเหมือน เสาไฟฟ้าขนาดนี้ ละพอมาเทียบกับตัวของเขาดิ แมร่ง!ยอดหญ้ากับเสาไฟฟ้าอ่ะ เอ๊ะ!แล้วนี่จะนอกเรื่องทำไมกลับไปหาเรื่องมันต่อครับ

 

            “ก็แล้วมันหนักหัวใคร หัวมึงหรือไง?กูไม่ได้เอาตีนไปเหยียบหัวมึงสักหน่อย”

 

            แทบปรี๊ดเมื่อคำด่าทอตอกกลับมา ก็นะ!เวลาเจอหน้ากันทีไรเราสองคนก็แทบจะฆ่ากันให้ตายไปข้างวันไหนไม่ได้ทำ ร้ายร่างกายก็ขอให้ได้ทำร้ายกันทางวาจาก็ยังดี

 

            “เชี้ยคริส” นั่นแหละคือชื่อของไอ้หน้าเหียกตรงหน้าผมตอนนี้

 

            มันชื่อคริส มันสูง มันหน้าตาดีเหรอ? ก็งั้นๆอ่ะ มันขาวนะแต่ก็น้อยกว่าผม มันเป็นนักบาสของมหาวิทยาลัย แต่อะไรมันก็ไม่สำคัญเท่ากับมัน...เป็นลูกชายของโค้ชทีมฟุตบอล นั่นก็หมายความว่าพ่อมันเป็นโค้ชให้กับผมและเพื่อนในทีม ชิชะ!

 

            งงละสิทำไมผมกับมันถึงได้มาพูดจาหมาไม่แดกใส่กันแบบนี้ มันมีที่มาที่ไปครับ...

 

 

            เมื่อก่อนที่ผมเข้ามาในทีมฟุตบอลใหม่ๆผมก็ถูกซ่อมจากโค้ชเป็นว่าเล่นเพราะ มือใหม่อาจจะยังไม่ได้ดั่งใจโค้ชแกมาก ผมก็เออออตามไปเพราะเรามีความมุ่งมั่นจะเล่นฟุตบอลแต่เด็กแล้วไง แต่หลังจากนั้นไม่นานเดือนหนึ่งได้มั้งไอ้ลูกชายหัวทองของโค้ชก็เดินเข้ามา หาผมแล้วยื่นกระดาษแผ่นเล็กๆมาให้

 

            ‘ขาสั้นแบบนี้วิ่งไม่ทันคนอื่นหรอก’

 

            เจ็บจึ๊กในทรวง มันผิดตรงไหนว่ะที่ผมจะดูขาสั้น ไม่ดิ!ผมน่ะปกติสมมาตรฐานชายนะเว้ยแต่มันนั่นแหละที่สูงเกินมนุษย์โลก และนั่นมันก็คือจุดเกิดเหตุที่ทำให้ผมกับมันไม่ถูกชะตากัน

 

            “กลัวจำชื่อกูไม่ได้ไง หลีกดิจะไปกินน้ำ” แล้วมันก็ผลักผมออกจากวิถีทางการมองเห็นของมัน

 

            “เลวแล้วมึงนั่นมันน้ำของพวกกูนะเว้ย!อยากแดกก็กลับไปที่โรงยิมดิ” แล้วมีเหรอที่ผมจะยอม โถ่!คนเขาอุตส่าห์ไปแบกมาจากในห้องพักแล้วมึงเป็นใครมึงเป็นใคร๊!แค่ลู่ชาย โค้ชป่ะครับอย่ามาทำตัวกร่าง

 

            “เชี้ยค คริ... น้องเซฮุน” แทบจะเบรกคำพูดตัวเองไว้ไม่อยู่เมื่อหันไปเจอน้องเซฮุนคนน่ารักของ ผม(?)กำลังเดินมาทางนี้ อ่า~นั่นมันนางฟ้าตัวน้อยๆของผมเลยนะ(แม้น้องแกจะสูงกว่าผมก็เถอะ)แต่ยังไง ในสายตาน้องเซฮุนก็ยังคงน่ารักเสมอ บ้า!ลู่หานเขิน

 

            ป๊าบ..!

 

            “ทำหน้าพิลึก” เกือบจะได้ฟินจนถึงจุดสูงสุดแล้วเชียวถ้าไม่มีมารผจญอย่างเชี้ยคริสมาขัดขวางเนี้ย!

 

            “ตบหัวกูทำพ่อง! ..อ๊ะ!น้องเซฮุนครับ” ถลาไปขวางหน้าคนน่ารักของตัวเองเอาไว้แล้วใช้เท้าเตะไปด้านหลังเพื่อให้ถูก คนตัวสูงที่ยังยืนนิ่งอยู่กับที่ไม่ไปไหน คือถ้าจะหันไปบอกมันว่า ‘ช่วยหนีไปจากตรงนี้ทีกูจะเต๊าะน้องเซฮุน’ มันก็ทำได้นะแต่มันจะดูไม่งามต่อหน้าน้องเซฮุนไงผมต้องทำตัวเป็นคนดีศรีสยาม เข้าไว้

 

            “หวัดดีฮะพี่ลู่หาน” โอ้ย!แค่เรียกชื่อก็ทำเอาใจพี่สั่นแล้วนะ แต่นี้น้องมีการยิ้มละลายมาให้ด้วยอ่ะ งานนี้ขอรถพยาบาลมาสัก10คันนะครับ

 

            “จะไปไหนเหรอครับ” แอบเนียนเขยิบเข้าไปหาน้องมันอีกนิด

 

            “อ่อ ผมกำลังจะไปหาพ่อน่ะครับ”

 

            “ให้พี่เดินไปส่งไหมครับ แถวนี้ผู้ชายไม่น่าไว้ใจมันเยอะเดี๋ยวน้องเซฮุนถูกแซว”

 

            “ไม่เป็นร...”

 

            “ผู้ชายไม่น่าไว้ใจมึงก็หนึ่งในนั้นไม่ใช่ไง” แต่ยังไม่ทันที่เซฮุนจะพูดจบเสียงคำรามของหมาบ้าแถวๆนี้ก็ดังขัดเสียก่อน ขัดตลอด ขัดเวลาแห่งความสุขของกูตลอดเชี้ยนี้!

 

            “เงียบไปเลยมึงน่ะ! ...เอาเป็นว่าพี่เดินไปส่งนะครับ” กระแทกฝ่าตีนลงให้คริสได้ลิ้มลองแล้วจึงหันกลับมาทำหน้ายิ้มแป้นแล้นใส่รุ่น น้องตัวขาวอีกครั้ง

 

            “น้องกูไม่ได้พิการไม่จำเป็นต้องมีคนไปส่ง ..เซฮุนมาหาพี่ยืนอยู่แถวนี้นานเดี๋ยวแมร่งถูกคนบางคนลวนลาม” กวักมือเรียกน้องชายตัวเองให้เดินมาหาแล้วผลักหัวกลมของลู่หานให้ออกห่าง เซฮุนเองก็เดินมาหาพี่ชายตามคำสั่งแล้วจึงยิ้มหวานไปให้คนที่กำลังทำหน้าบูด บึ้งอยู่ “ยังไงผมก็ขอตัวก่อนนะฮะ” โค้งลารุ่นพี่หน้าหวานแต่ใจไม่หวานตามก่อนจะถูกคริสโอบไหล่เอาไว้แล้วพาเดิน ออกจากตรงนั้นไป

 

            “ฮึ่ย!จำไว้นะมึงไอ้สูง” ฟึดฟัดอยู่กับตัวเองได้ไม่ถึงครึ่งวินาที เสียงเป่านกหวีดเรียกรวมพลก็ดังขึ้น

 

            ให้กูซ้อมบอลเสร็จก่อนเถอะมึง กูจะตามไปจีบน้องชายมึงให้ถึงถิ่นเลย!

 

 

            เวลาล่วงเลยมาจนมืดค่ำเสียงนกหวีดดังขึ้นอีกครั้งพร้อมๆกับที่ร่างไร้วิญญาณ ของเหล่านักเตะแข้งทองค่อยๆล้มลงไปกองกับพื้นที่ละคน

 

            “พรุ่งนี้เวลาเดิมนะ แยกย้ายได้” เสียงขานรับที่ดูจะอ่อนแรง ถึงแม้จะบอกแยกย้ายได้แต่มันยังไม่มีใครลุกหรอก

 

            “จบสิ้นกันทีวันนี้ เหนื่อย!” ลู่หานตะโกนออกมาสุดเสียง ดวงตากลมโตมองท้องฟ้าที่เริ่มเป็นสีส้มอมเทา พระอาทิตย์ที่เห็นเพียงแค่แสงรำไร เปลือกตาสีไข่มุกค่อยๆปิดลงช้าๆเพื่อต้องการจะพักผ่อน

 

            “เชี้ยลู่อย่ามาหลับตรงนี้นะเว้ย ไปๆกลับบ้านกัน” แต่ก็ยังไม่ทันได้เข้าสู่ห้วงนิทราเสียงเพื่อนซี้ในทีมก็ร้องเรียกให้ตื่น

 

            “เออๆ”

 

            หยัดตัวลุกขึ้นนั่งปัดป่ายเส้นหญ้าออกจากกลุ่มผมของตัวเองแล้วจึงลุกขึ้น เดินไปหยิบเอากระเป๋ามาพาดบ่า เดินไปหยิบเอาขวดน้ำมาดื่มดับกระหายแล้วโยนมันกลับที่เก่า “กูไปนะฝากเก็บถังน้ำด้วย” โบกมือลาเพื่อนในทีมที่ยังพากันนั่งเล่นอยู่ในสนาม

 

            สองขาก้าวเดินไปตามทางที่คุ้นเคย ตึกเรียนบางตึกก็ยังคงเปิดไฟสว่างเอาไว้เพราะยังมีนักศึกษาบางคณะยังเรียน อยู่ ลู่หานหยุดชะงักเท้าเมื่อนึกขึ้นได้ว่าตัวเองยังไม่ได้ล้างตัว หันหลังกลับไปยังห้องแต่งตัวของชมรมก็เห็นว่าเพื่อนหลายสิบชีวิตกำลังชำระ ร่างกายตัวเองอยู่

 

            “อ้าว กลับมาทำไมว่ะ”

 

            “อาบน้ำดิว่ะ พวกมึงแมร่งไม่เตือนกู” วางกระเป๋าเอาไว้ตรงม้านั่งตัวยาว ถอดเสื้อที่ใส่ซ้อมออกเผยให้เห็นผิวขาวเนียนและกล้ามหน้าท้องหน่อยๆพอให้ดู สมชาย หยิบเอาผ้าเช็ดตัวผืนใหญ่มาห่อหุ้มส่วนล่างเอาไว้แล้วจึงถอดกางเกงออก

 

            เสียงน้ำตกกระทบพื้นดังไปไม่ถึง5นาทีลู่หานก็ออกมาพร้อมกับหยาดน้ำที่เกาะ พราวตามตัวเล็กน้อย เปิดกระเป๋าเอาชุดที่เตรียมมาออกมาใส่ เดินเอาผ้าเช็ดตัวไปตากไว้แวะส่องกระจกเสริมหล่อนิดหน่อยแล้วจึงลาเพื่อนอีก ครั้ง

 

            “อ้าวแมร่งมืดซะละ”

 

            ออกมาอีกทีกลายเป็นว่าตอนนี้ท้องฟ้าได้มืดลงไปเสียแล้ว ล้วงกระเป๋ากางเกงขาสามส่วนทั้งสองข้าง ผิวปากอย่างอารมณ์ดียามนึกไปถึงกับข้าวฝีมือแม่ของตนที่ป่านนี้คงกำลังเข้า ครัวทำให้ลูกชายกินเป็นแน่ “คิดแล้วก็หิว” ลูบท้องตัวเองป้อยๆก่อนจะเร่งเดินให้เร็วขึ้นไปอีก

 

            ปิ๊น ปิ๊น...

 

            กำลังจะเดินพ้นรั้วมหา’ลัยกลับมีเสียงแตรรถมาจากด้านหลัง ลู่หานหันไปมองแล้วก็ต้องถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ ...ไอ้เด็กนี่อีกละ

 

            “พี่จะกลับแล้วเหรอครับ” บุรุษผิวเข้มตรงหน้าพุ่งตัวเข้ามาหาพร้อมกับคำถามโลกแตกที่ลู่หานได้ยินเป็นประจำทุกวัน

 

            “ยังมั้ง ก็เห็นอยู่ว่ากูกำลังจะกลับยังเสือกถามแบบหน้าโง่ๆอีก” เตะฝุ่นแถวนั้นเล่น มือก็ยังล้วงกระเป๋าเต๊ะท่ามาดนิ่งให้รุ่นน้องที่ตามจีบตัวเองมอง

 

            “งั้นผมไปส่งนะครับ”

 

            “ไม่ต้อง! นี่กูถามจริงนะเมื่อไหร่จะเลิกตามตอแยกูสักทีว่ะ กูเคยบอกไปแล้วไม่ใช่เหรอว่ะว่ากูไม่ได้ชอบมึง อ่อ!บวกความรำคาญให้ด้วย เลิกเหอะว่ะกูว่าหน้าอย่างมึงหาใหม่ยังได้เลยจะมาตามจีบกูให้เสียเวลาทำไม” ประโยคที่ยืดยาวและดูจะไม่ได้รักษาน้ำใจคนฟังเท่าไหร่ แต่กระนั้นรุ่นน้องตรงหน้ากลับไม่สะทกสะท้าน รอยยิ้มที่ยังวาดไว้มันก็ยังค้างไว้แบบเดิม

 

            “แต่ผมชอบพี่นี่ครับ น่านะพี่ลู่หานให้น้องเทาคนนี้ไปส่งพี่เถอะนะ” ไม่ว่าเปล่าจื่อเทายังถือวิสาสะเดินมาคว้าเอากระเป๋าเป้ของลู่หานไปกอดไว้ทันที

 

            “เหี้ย!เอากระเป๋ากูคืนมา” ครั้นพอรู้ตัวลู่หานก็ไม่รอช้าที่จะกระโจนเข้าใส่ไอ้รุ่นน้องตัวยักษ์ตรง หน้า แต่ก็อย่างว่าแหละนะ ยอดหญ้าอย่างเขาจะไปทำอะไรไอ้พวกเปรตแบบนี้ได้

 

            “ครั้งนี้ผมไม่ยอม ยังไงๆผมก็จะไปส่งพี่ให้ได้” ว่าแล้วก็รวบเอาข้อมือของลู่หานมากอบกุมไว้อย่างแน่นแล้วลากคนที่ตัวเล็ก กว่าให้เดินตามไป

 

            “ไม่ไป!เชี้ยเทาปล่อยกูนะเว้ย”

 

            แหกปากก็แล้ว ใช้เล็บมืออีกข้างข่วนมันก็แล้ว ศอกท้องมันก็แล้วแต่ไอ้มนุษย์หน้าแพนด้ามันก็ยังไม่ปล่อยให้เขาเป็นอิสระสัก ที เกือบจะถอดใจแล้วนะ เกือบแล้วถ้าไม่ติดว่า...

 

            พรึ่บ..!!

 

            แรงยื้อยุดทุกอย่างหยุดลงเมื่อตัวลู่หานลอยละลิ่วไปอยู่ด้านหลังของใครอีกคน ดวงตากลมเบิกกว้างเมื่อมองดูแผ่นหลังของคนที่เข้ามากระชากตัวเองออกจากจื่อ เทา เสื้อแบบนี้ สัดส่วนแบบนี้ สีผมแบบนี้ ชัด!

 

            “ไอ้คริส” เอ่ยออกมาเบาๆแล้วทุบลงไปที่กลางหลังของไอ้คนตัวสูงแรงๆ

 

            “โอ้ยเหี้ย!ทุบกูทำไม”

 

            “แล้วมึงลากกูมาไว้ด้านหลังมึงทำไม” เดินออกมาเผชิญหน้ากับไอ้คนตัวสูง เงยหน้าขึ้นมองมันอีกนิดรู้สึกปวดคอไม่น้อยนะที่ต้องเงยแบบนี้ เท้าเอววางมาดให้ตัวเองอีกครั้ง

 

            “นี่กูกำลังช่วยมึงนะ” จิ้มนิ้วลงไปที่หน้าผากของคนตัวเล็กปากจัดก่อนจะผลักหัวของลู่หานไปอีกหนึ่งที

 

            “กูไม่ได้ขอ! แล้วก็เลิกมาผลักหัวกูได้ละสัด” เตะเข้าไปที่หน้าขาของคริสแรงๆ พลิกตัวหันไปมองจื่อเทาที่ยืนดูเหตุการณ์อยู่เงียบๆ

 

            “ส่วนมึงน่ะเอากระเป๋ากูมาได้ละอย่าให้ได้ใช้กำลัง”

 

            แหม่!พูดแล้วอย่าหาว่าคุยถึงตัวผมจะเล็กแต่ก็แรงเยอะพอตัวนะ เคยยกพวกไปตีกับโรงเรียนอื่นสมัยที่ยังอยู่ไฮสคูลแล้วผลปรากฏว่าผมล้มพวกมัน ไปได้สามคนจากทั้งหมดที่มีเจ็ด โฮะๆภูมิใจที่หนึ่งเลยล่ะ แต่ตอนนี้ไม่ใช่เวลามารำลึกความหลังสินะ

 

            “เอามา” กระดิกนิ้วให้กับรุ่นน้องตรงหน้าที่จ้องมองตนไม่เลิก

 

            พรึ่บ..!

 

            “เชี้ย!” อุทานออกมาดังลั่นเมื่อจู่ๆก็ถูกจื่อเทาดึงเข้าไปใกล้ ใบหน้าคมคายที่ก้มลงมาแทบจะเรียกว่ารวมร่างกันเลยก็ว่าได้ แล้วไอ้ลมหายใจอุ่นๆที่มึงพ่นออกมาใส่หน้ากูนี่ต้องการอะไรว่ะไอ้เชี้ยน้อง เทา

 

            “พี่...เหอะ ช่างเถอะ นี่ครับกระเป๋า” แล้วจื่อเทาก็ปล่อยผมให้เป็นอิสระพร้อมกับกระเป๋าคู่ใจ

 

            “ยังไงก็กลับดีๆนะครับ” แล้วมันก็จากไป

 

            เออ!บทจะไปก็ง่ายซะยิ่งกว่าปอกกล้วยไอ้เด็กบ้านี่นับวันยิ่งประสาทปะว่ะ แล้วอะไรคือที่มันค้างไว้ตอนสุดท้าย เกาหัวแกรกเมื่อหาคำตอบให้ตัวเองไม่ได้ ยกกระเป๋าขึ้นพาดบ่าไว้อีกครั้งแล้วจึงตั้งท่าจะเดินออกไป

 

            “มึงจะไปไหน” แต่แรงลากที่คอเสื้อก็ทำให้ลู่หานต้องชะงักฝีเท้าลง พลิกตัวกลับมามองไอ้หัวทองที่ยักคิ้วส่งมาให้ คิดว่าเท่ตายละสัดเอ๊ย!

 

            “กลับบ้านไง มึงมีปัญหาไร” เลิกคิ้วถาม

 

            “ไม่มี งั้นก็กลับ” ว่าจบก็เดินนำหน้าคนที่ยืนงงเป็นไก่ตาแตกอยู่กับที่ “เร็วดิว่ะจะกลับไหมบ้านน่ะ” พยักหน้าตอบกลับอย่างงงๆแต่ก็รีบเดินไปให้ทันคนด้านหน้าที่ขายาวกว่าตน

 

            เอาจริงๆนะจนกระทั่งตอนนี้ลู่หานเองก็ยังสงสัยและงงงวยอยู่กับตัวเอง คือก่อนหน้านี้เขาบอกจะกลับบ้านใช่ป่ะ แล้วจื่อเทารุ่นน้องที่มันจีบเขามันดันเข้ามาขวางแล้วบอกจะไปส่ง แต่จู่ๆไอ้คริสก็ไม่รู้โผล่มาจากไหนมาดึงเขาออกจากจื่อเทา แต่พอสักพักจื่อเทามันดันมาค้างคำพูดอะไรเอาไว้ที่ผมไม่ได้คิดจะใส่ใจแล้ว มันก็จากไป สุดท้ายไอ้หัวทองชื่อคริสมันก็ถามจะไปไหนพอเขาบอกกลับบ้าน มันก็เดินนำหน้าเขาไปแล้วก็เร่งให้เดินตาม จนตอนนี้ เวลานี้ ผมกับมันมายืนทำหน้านิ่งใส่กันบนรถเมล์เรียบร้อย

 

            “กูถามจริงดิ” ในเมื่อมันทนความสงสัยตัวเองไม่ไหวเลยต้องถามออกไป

 

            “ไร” คลื่นตามถนนทำให้รถเมล์สั่นเล็กน้อย คริสเลยต้องกระชับฝ่ามือตัวเองเข้ากับราวเหล็กให้มั่นแล้วเหลือบสายตามองคน ตรงหน้าไปด้วย

 

            “บ้านมึงกับบ้านกู...มันไปทางเดียวกันตั้งแต่เมื่อไหร่ว่ะ”

 

            คริสมองสบกับแววตาใสแป๋วที่มองมาอย่างต้องการคำตอบ คิ้วขมวดเล็กน้อยตามฉบับของคนขี้สงสัย ปากเล็กเบะนิดๆ พร้อมกับท่าทางเท้าเอว เหอะ!แมนมากครับสัด

 

            “กูจำเป็นต้องตอบไหม”

 

            “ที่สุด”

 

            “จะเอาคำตอบแบบไหน ตอบจริงๆหรือตอบเล่นๆ” ยักคิ้วไปให้คนที่ทำท่าฟึดฟัดอยู่ตรงหน้า

 

            “อย่ามากวนตีน เอาคำตอบจริงๆดิว่ะ”

 

            “...”

 

            “แหน่ะ!อย่ามาทำเงียบนะสัด” ละมือออกจากเอวตัวเองแล้วยกขึ้นโบกไปทีหัวของคริสหนึ่งที

 

            “ต.. ฮ เฮ้ย!” ยังไม่ทันจะได้พูดจบเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันก็เกิดเสียก่อน

 

            รถเมล์ที่เบรกกะทันหันเพราะดันมีแมววิ่งตัดหน้ารถ ลู่หานที่ตั้งท่าจะโวยวายอีกคนเผลอปล่อยมือของตัวเองออกจากราวจับมันจึงทำ ให้ตัวเขาแทบจะล้มลงไปตามแรงโน้มถ่วงของโลกหากไม่มีอ้อมแขนจากใครบางคนมาโอบ เอาไว้

 

            ใช่!คิดถูกแล้วล่ะอ้อมแขนที่ว่ามันคืออ้อมแขนของไอ้หัวทองหน้ายาวนี่แหละ แล้วถ้ามันโอบพยุงเขาธรรมดาจะไม่ว่านะแต่นี่มึงโอบเอากูเข้าไปกอดเลยนะ! เหี้ยยยยยยยยย

 

            “ปล่อยกู!!!!” อู้อี้อยู่ตรงอกอุ่น ดิ้นสุดแรงเกิดแต่ก็นะ คนแมร่งเสือกมาแต่ไหนไม่รู้ดันมาปิดกั้นหนทางให้เขาดิ้นไปไหนไม่ได้

 

            “ฟังกู...” ชะงักกึกเมื่อลมร้อนกำลังรินรดที่ใบหู เสียงทุ้มแหบที่เพียงเอ่ยออกมาแค่สองคำกลับทำให้แข้งขาของลู่หานอ่อนยวบ

 

            “บ้านมึงกับบ้านกูมันยังอยู่คนละทางเหมือนเดิม...”

 

            “...”

 

            “แต่กูแค่อยากจะไปเยี่ยมบ้านเมียตัวเอง กูคงไม่ผิดใช่ไหม” พูดจบมันก็เป่าลมร้อนใส่หูผมอีกหนึ่งเฮือกใหญ่

 

            เหี้ยละ!ทำไมหน้ากูร้อน ไอ้เหหหหหหหหห้!

 

 

            ย้อนกลับไปเมื่อสองเดือนก่อน...

 

            วันนั้นเป็นวันที่ทีมฟุตบอลของมหา’ลัยชนะลู่หานที่เป็นหนึ่งในทีมจึงรับ หน้าที่เปิดบ้านฉลองให้กับชัยชนะ โค้ชที่เคารพรักจึงออกค่าเหล้าเบียร์ให้ ส่วนพวกขนมนมเนยก็ให้เหล่านักเตะออกกันเอง แน่นอนว่าลูกผู้ชายเสียอย่างของมึนเมาแค่นี้มันจิบจ๋อยมาก

 

            เตรียมตัวกันไม่นานโค้ชก็มาถึงพร้อมกับลูกชายอีกสองคนที่คุ้นหน้าคุ้นตากัน ดี คนโตชื่อคริสเป็นนักบาสของมหา’ลัย ส่วนคนเล็กชื่อเซฮุน น่ารักมาก!ซึ่งลู่หานก็หมายตาเอาไว้ตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอ โฮะๆ สังสรรค์กันไปราวเกือบสามชั่วโมงโค้ชก็ขอตัวกลับแต่ลูกชายตัวดีกลับบอกอยาก อยู่ดื่มต่อซึ่งพ่อก็ไม่ว่าอะไรแค่ฝากให้ดูแลน้องด้วยข้อนั้นก็ไม่มีปัญหาสำ หรับคริสนัก

 

            หนักเข้าเวลาล่วงเลยไปถึงตีสองจากสภาพคนกลายเป็นสภาพที่ไม่ต่างจากหมาข้าง ถนน พื้นกระเบื้องเย็นเฉียบถูกจับจองไปด้วยเหล่าบรรดาเพื่อนในทีมของลู่หาน ส่วนเจ้าของบ้านน่ะเหรอ?...

 

            “น้องเซฮุนนน” น้ำเสียงยานคางที่บ่งบอกว่าเจ้าตัวเข้าสู่ช่วงกำลังจะหมดโปรแต่ก็ฝืนใช้ เรี่ยวแรงที่พอมีขยับไปเบียดชิดกับเซฮุนเอาไว้

 

            “พี่ลู่หานเมาแล้วนะฮะ ไปนอนพักเถอะ” ส่วนน้องมันก็นิสัยดีจับเอาพี่ชายหน้าหวานที่ตั้งท่าจะมาลวนลามตัวเองให้ออก ห่าง ส่งสายตาไปหาพี่ชายที่แท้จริงที่กำลังอยู่ในสภาวะกรึ่มให้มาช่วยตัวเอง

 

            “ปล่อยมันไว้นั้นแหละ กร่างนัก” เซฮุนมองดูลู่หานที่นอนคอพับอยู่ชั่วครู่จึงตัดสินใจเดินกลับมาหาพี่ชาย

 

            “พี่คริสจัดการพาพี่ลู่หานไปนอนพักดีๆเลยนะไม่งั้นน้องฮุนโกรธจริงด้วย”

 

            “ยุ่งยากจริงเว้ย เดี๋ยวค่อยทำปล่อยมันไปก่อน” หยิบขนมเข้าปากพร้อมกับกระดกเหล้าที่ผสมให้อ่อนลงคอไป

 

            แน่ละ!ขืนเขาชงเหล้าแบบเพรียวๆหรือเข้มไปนะมีหวังได้นอนกันระเนระนาดอยู่แบบ นี้แน่ ดูจากท่าทางที่พวกในทีมฟุตบอลมันพากันกินแล้วบอกได้คำเดียว ...เละ

 

            “งั้นน้องฮุนพาจงอินกลับนะพี่คริส” บอกพี่ชายตัวเองที่ยังนั่งกินอยู่คนเดียวแล้วจึงละไปปลุกแฟนตัวเองที่นอนอืด อยู่บนพื้นให้ลุก

 

            “จะกลับไม่กลับก็โทรบอกนะน้องฮุนจะได้ออกมารับ” สั่งเสร็จก็เดินออกไปทันที

 

            คริสหันกลับมามองสภาพของแต่ละคนอีกทีแล้วต้องส่ายหัว พวกมันเคยคิดบ้างไหมว่าถ้าเมาคอพับกันหมดแล้วจะเป็นไง ใครจะมาเก็บกวาดทำความสะอาดบ้านให้หรือถ้าแมร่งเมาแล้วเสือกล้มหัวฟาดพื้น ใครมันจะมีแรงลุกไปช่วย “แล้วความซวยก็มาตกที่กู” อันที่จริงคือเขาไม่จำเป็นต้องอยู่ตามเก็บศพของไอ้พวกนี้ให้เป็นที่เป็นทาง หรอกนะ แต่พอดีจรรยาบรรณของลูกชายโค้ชและกัปตันทีมบาสทำให้เขามีความรับผิดชอบที่จะ ดูแลคนอื่นอยู่บ้าง ก็เลยนะ...หามซากพวกนี้ไปทิ้งให้เป็นที่เป็นทางก่อนกลับสักหน่อย

 

            คนแล้วคนเล่าที่คริสลากไปกับพื้นแล้ววางมันนอนเรียงกันไว้แบบนั้นแหละเพราะ บ้านของลู่หานก็ไม่ได้ใหญ่โตอะไรมากมายเพราะไอ้เตี้ยตากวางมันก็อยู่แค่กับ แม่สองคน แล้วมันเป็นโชคดีที่วันนี้แม่มันดันไปทำธุระที่ต่างจังหวัดเลยถือโอกาสเปิด บ้านเลี้ยงฉลอง

 

            “อือ น้องเซ เอิ๊ก ฮุนนน”

 

            มาถึงซากเจ้าของบ้านที่ทำเอาคริสปวดหัวตามๆกัน คือคนอื่นเขาเมาแล้วหลับแต่ไอ้นี่เมาแล้วชอบลวนลามคนที่เข้าไปใกล้ เช่นตอนนี้ มันกำลังลวนลามเขาเพราะเพียงนึกถึงแต่เซฮุน โถ่!จะจีบน้องกูนี่ไม่ดูสังขารตัวเองเล้ย!

 

            “หุบปากเน่าๆของมึงไปเลย” จับเอานิ้วของลู่หานทั้งห้านิ้วยัดเข้าไปในโพรงปากที่กำลังอ้าออกคล้ายกำลัง จะพูดอะไรสักอย่าง แล้วจึงลากร่างทั้งร่างไปวางแหมะบนโซฟา ..พอดีพื้นมันเต็มอ่ะ

 

            “นอนนี่แหละมึงแล้วอย่ากลิ้งตกลงมานะเว้ย” เหมือนคนเมาจะรู้เรื่องด้วยแต่คริสก็ไม่ได้สนใจมากนัก เดินเข้าไปล้างหน้าให้สร่างเล็กน้อยแล้วจึงเดินออกมา ตรวจดูสภาพของแต่ละคนอีกครั้งแล้วจึงเดินไปปิดไฟให้

 

            “กูกลับละนะ” เดินมาลาเจ้าของบ้านทั้งๆที่เปลือกตานั้นยังปิดอยู่

 

            พรึ่บ..!!

 

            แต่ก็ยังไม่ทันจะได้ก้าวออกห่างข้อมือก็ถูกคนที่หลับพริ้มจับเอาไว้ หันกลับไปมองก็ต้องถอนหายใจออกมาเมื่อในตาหวานมันฉ่ำเยิ้ม รอยยิ้มเล็กๆที่ผุดขึ้นพร้อมแรงเขย่าแขนเบาๆ

 

            “น้องเซฮุนของพี่ลู่อย่าเพิ่งกลับสิคร้าบบบ” ยืดตัวแล้วคว้าเอาคอของอีกคนให้ลงมาใกล้กับตน

 

            ตกใจอยู่ไม่น้อยที่ถูกทำแบบนี้ แต่มันยังดีที่คริสยกมือขึ้นท้าวพนักโซฟาไม่ทันไม่งั้นนะ....

 

            “กูไม่ใช่เซฮุนโว้ย!ปล่อยกูๆ” พยายามแกะมือของคนเมาออก หลุดปุ๊บก็กลับมาคว้าใหม่

 

            “งื้อออ น้องเซฮุนอยู่กับพี่ลู่หานนะ รู้ไหมพี่ลู่น่ะช๊อบชอบน้องเซฮุน” คราวนี้ไม่ใช่แค่คล้องคอแต่ลู่หานดึงให้ใบหน้าเข้าไปใกล้กันก่อนที่จะ .....จูบ

 

            จูบที่ไม่ใช่แค่แตะปาก จูบที่ไม่ใช่แค่เล็มเลียแค่ภายนอกแต่มันขั้นแอดวานซ์ซ่านลึกเข้าไปในโพรงปาก แน่นอนว่าผู้ชายทุกคนมันต้องรู้เรื่องพรรค์นี้กันเป็นธรรมดาแต่มันจะแปลก หน่อยก็ตรงที่จูบผู้ชายด้วยกันนี่แหละ

 

            “เซฮุนนา เมื่อไหร่พี่จะจีบเราติดสักที”

 

            ละออกมาพูดแล้วมันก็ดึงผมเข้าไปจูบใหม่ จากตอนแรกที่คิดจะตบหัวให้มันสติกลับคืนแต่ตอนนี้ขอเปลี่ยนใจทันป่ะ ถ้าแมร่งอยากได้น้องผมขนาดนั้นก็จัดให้ ...จัดให้มันกลายมาเป็นเมียผมแทนเนี้ย! หลังจากนั้นคงไม่ต้องบอกเนอะว่าระหว่างพื้นโซฟาท่ามกลางแสงไฟสลัวนั้นมัน เกิดอะไรขึ้นบ้าง ดีแค่ไหนแล้วที่พวกเพื่อนไอ้ตากวางไม่ตื่นขึ้นมาตอนเราใส่กันรอบที่สาม กว่าจะสงบลงได้ก็ปาเข้าไปรอบที่สี่ สลบเหมือดกันไปทั้งคู่ แต่ก็โชคดีหน่อยที่ผมตื่นเช้ากว่าใครเลยมีเวลาจัดการอุ้มลู่หานเข้าไปนอนใน ห้องของมันได้...

 

 

            “เหี้ย!แล้วมึงจะไปรำลึกถึงมันทำไมว่ะ แมร่งเอ๊ยไม่น่าพลาดเลยกู”

 

            ตอนนี้ผมกับไอ้คริสหัวทองกำลังเดินเข้ามาในซอยบ้านของผมครับ คือมันดื้อด้านจะมาให้ได้ไงแล้วอีกอย่างแมร่งกวนตีนมันบอกถ้าไม่ให้มาพรุ่ง นี้มันจะไปประกาศให้ทั่วชมฟุตบอลว่ามันได้กับผมแล้ว เอาเข้าไป เลวมากเหอะถ้าทำแบบนั้นอ่ะ ผมยังจีบน้องเซฮุนไม่ติดเลยนะเว้ย!

 

            “ความจริงทั้งนั้น”

 

            “ความจริงที่กูไม่อยากจำน่ะสิ”

 

            “ทำไมอ่ะกูว่าแมร่งเร้าใจดีออก หึหึ” โยกหัวคนข้างๆไปมาแล้วมันก็เป็นตามคาด หน้าแข้งถูกเตะเข้ามาอีกป๊าบใหญ่

 

            “กูจะเอาน้องมึงมาเป็นเมียไม่ใช่ให้มึงมาเอากูเป็นเมียโว้ย!” ทุบหลังคนที่หัวเราะตัวเองเข้าไปอีกหลายที

 

            “ยังไงมึงก็หนีความจริงไม่พ้นอ่ะเชี้ยลู่ มาม่ะมาให้สามีสุดหล่อคนนี้กอดหน่อยเร็ว” ไม่ต้องรอคอยให้คนขี้โวยวายได้พูด จัดการดึงเอาลู่หานเข้ามากอดอย่างปากว่า แรงดิ้นที่รุนแรงไม่ได้ทำให้คริสลำบากเลยสักนิด

 

            “ชาตินี้มึงคงจีบน้องกูไม่ติดหรอก” ลูบกลุ่มผมนุ่มมือไปมาเบาๆ

 

            “ทำไมว่ะ” ผ่อนแรงดิ้นลงเมื่อรอคอยให้คนตัวสูงตอบ

 

            “ก็น้องกูมีแฟนแล้ว...”

 

            “...ชื่อจงอิน” เท่านั้นแรงสะบัดจากลู่หานก็ทำเอาอ้อมกอดของคริสหลุดออก

 

            “กูว่าแล้ว!!เชี้ยดำแมร่งทำตัวลับๆล่อๆตลอด แมร่งเอ๊ย!พลาดอีกแล้วไงกู พลาด ...พลาดหนักด้วย โอ้ย!น้องเซฮุนของพี่ลู่” คร่ำครวญกับตัวเองอยู่ได้ไม่นานก็ถูกคริสดึงเข้าไปกอดอีกครั้ง

 

            “น้องเซฮุนน่ะของจงอิน” จูบซับลงไปที่กลุ่มผมของลู่หาน

 

            “แต่น้องลู่หานน่ะ...ของอี้ฟานนะครับ”

 

            คล้ายระเบิดมาลงที่แก้มทั้งสองข้างของลู่หาน ไม่รู้ล่ะ!ไม่ขอรับรู้ด้วยว่าอาการแบบนั้นมันเรียกว่าอะไร แล้วทำไมตัวเขาไม่ยอมขัดขืนออกจากอ้อมกอดของไอ้หัวทอง แล้วอีกอย่างทำไมมุมปากต้องยกยิ้ม ทำไมว่ะ นี่ไอ้สูงมันทำอะไรเขาว่ะเฮ้ย!!!!

 

 

 

            แต่มันกอดทีไรแล้วไม่อยากให้ปล่อยเลยว่ะ ...เชี้ย!!!

 

 

 

THE END!

 

คำยืนยันของเจ้าของเรื่องสั้น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา