คาดว่า

10.0

เขียนโดย ต้นเกว๋น

วันที่ 12 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 เวลา 15.28 น.

  1 ตอน
  3 วิจารณ์
  3,723 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 12 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 15.31 น. โดย เจ้าของเรื่องสั้น

แชร์เรื่องสั้น Share Share Share

 

1) คาดว่า

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก
คาดว่า
 
        บนท้องฟ้า ม่านสายใยแห่งสายหมอกปกคลุมอย่างหนาทึบ กำลังเคลื่อนที่ผ่านไปอย่างช้า ๆ ทำให้เห็นดวงอาทิตย์เป็นดวงกลมสีส้มอมแดง ขอบกลมอย่างชัดเจน อากาศตอนเช้าในฤดูหนาวทางภาคเหนือช่างเย็นสบาย        ถ้าเป็นเหมือนทุกวันฉันคงซุกกายรับไออุ่นจากผ้าห่มแล้วค่อยนอนหลับต่อไป แต่วันนี้ฉันคงทำไม่ได้เหมือนวันอื่นที่ผ่านมา เพราะฉันจะต้องไปรายงานตัวทำคาดว่าจะสำเร็จการศึกษา         ตอนนี้ฉันเรียนปี่สุดท้ายแล้ว ถ้าฉันพลาดการทำคาดว่าก็คงต้องจบช้ากว่าเพื่อนหนึ่งภาคเรียนการศึกษา
 
         ฉันรีบลืมตาขึ้นมาแปรงฟันแล้วอาบน้ำ ยิ่งตอนเช้า ๆ น้ำเย็นอย่างกับน้ำแข็งเพื่อนของฉันบางคนตอนอยู่หอปี่หนึ่งด้วยกันเคยวิ่งผ่านน้ำครั้งเดียวด้วยซ้ำ เพราะหนาวจัด       ช่วงหนึ่งมีการเลือกตั้งนายกเทศมนตรีจึงมีนโยบายออกมาเพื่อเด็กมหาวิทยาลัย ฉันยังจำคำปราศรัยของนักการเมืองคนนั้นได้ว่      า “ ผมจะสนับสนุนระบบน้ำอุ่นพลังงานให้น้อง ๆมหาวิทยาลัยตามหอพักทุกหอ ด้วยพลังงานแสงอาทิตย์ระบบโซลาร์เซลล์ เลือกผมนะครับ เบอร์ 1 ”        จากนั้นมีเสียงตบมือกันเกรียวกราว ไชโยยกใหญ่        ไม่นานก็ปรากฏว่านักการเมืองคนนี้ชนะการเลือกตั้งจริง ๆ แต่ผิดคาดตั้งแต่ตอนนั้นจนมาถึงตอนนี้         ตอนนี้ฉันอยู่ปีสุดท้ายแล้ว หอพักในมหาวิทยาลัยก็ยังใช้น้ำเย็นอาบกันเหมือนเดิม ทุกสิ่งยังคงเหมือนเดิม     เด็กชาวหอทุกคนยังมีน้ำเย็นช่วยให้ร่างกายตื่นในยามเช้า ต้อนรับความสดชื่นในการไปเรียนตอนเช้าได้เป็นอย่างดี
       
        ฉันแต่งตัวอย่างเรียบร้อย      เสื้อกับกางเกงที่รีดเตรียมไว้เมื่อวานถูกสวมใส่ ฉันผูกเนคไทสีน้ำเงินอมม่วงพร้อมปักเข็มตรามหาวิทยาลัย     แล้วจึงเดินออกหอพัก ขับรถจักรยานยนต์ไปแวะกินข้าวที่โรงอาหาร แล้วยังไปสำนักทะเบียน วันนี้มีสามคณะด้วยกันที่รายงานตัวคาดว่าเพื่อรอถ่ายรูป คือ คณะวิทยาศาสตร์ ศึกษาศาสตร์ และนิติศาสตร์           ฉันเรียนคณะวิทยาศาสตร์คนมีจำนวนมากที่สุดในสามคณะนี้               ทางสำนักทะเบียนจึงเปิดเวลาให้มาทั้งวัน แต่ฉันมันคนใจร้อนอยากทำให้เสร็จจึงมาตั้งแต่ตอนเช้าเลย        ตอนนี้ใกล้จะแปดโมงครึ่งแล้ว ตามเวลาที่เริ่มรายงานตัวฉันจึงรีบเดินทางไปสำนักทะเบียน          ฉันอยากไปให้ตรงเวลาที่สุด ในเมื่ออีกไม่นานฉันก็จะจบไปเป็นผู้ใหญ่แล้วหากไม่ฝึกตอนนี้แล้วจะไปฝึกตอนไหน     ในเมื่อเวลา ทุกนาทีมีค่าก็ควรใช้เวลาให้เกิดประโยชน์สูงสุด
     
 
        ฉันมาถึงสำนักทะเบียนหยิบเอาใบเสร็จที่ต้องจ่ายเงินมาเพื่อจะได้เป็นหลักฐานใช้ในการถ่ายรูปทำคาดว่า            โดยนักศึกษาเมื่อทำคาดว่าเสร็จจะได้ สำเนาแสดงผลการเรียนให้จำนวนอีกสามชุด รวมเป็นเงินเกือบสองพันกว่าบาทจะได้แค่กระดาษไม่กี่ใบพร้อมสมนาคุณกับการถ่ายรูปและจัดส่งถึงบ้าน           แต่ก็ช่างเถอะในเมื่อฉันจะจบแล้วก็ถือว่าทำนุบำรุงผู้บริหารมหาวิทยาลัยไป เฮ้ย ไม่ใช่ ทำนุบำรุงมหาลัยเท่านั้น          ฉันมาถึงก่อนเวลา 10 นาที คนเริ่มเยอะมาก ฉันเห็นคนต่อแถวแล้วไม่รู้เอาอะไร ฉันจึงถามคนแถวนั้นได้ความว่า ต่อแถวเพื่อเอาบัตรคิว        ฉันจึงต่อแถวตามเขา          ฉันได้บัตรคิวคนที่ 39 ฉัน จึงนั่งรอตรงม้านั่งพลางเหลือบซ้ายแลขวาเพื่อมองหาเพื่อนร่วมสาขาเดียวกันแต่ก็ไม่เห็นใครสักคน คนต่อแถวเริ่มยาวขึ้น บัตรคิวมีสองชุดแล้ว คือใบสีเขียวมีเลข 1- 100 เป็นชุดแรก และชุดสองคือใบสีฟ้ามีเลข 1- 100 เช่นเดียวกัน       ไม่นานนักเจ้าหน้าที่ก็เริ่มเรียกถ่ายรูป       ฉันรออีกสักประมาณสิบห้าคนจะถึงคิวของฉัน เด็กนักศึกษาเริ่มมากันคับคั่ง         จนแทบจะไม่เหลือพื้นที่ในห้องสำนักทะเบียน เสียงเริ่มดังขึ้นดังขึ้นเหมือนกับนกกระจอกเข้ารัง         เจ้าหน้าที่เริ่มประกาศว่า “ ขอให้เงียบหน่อยคะ เดี๋ยวเพื่อนจะไม่ได้ยินคิวที่เรียก ”           จากนั้นจึงมีเสียงสงบลงสักพัก แต่ก็เริ่มดังและดังขึ้นอีก บางคนเริ่มทำหน้าบูด เพราะคิวตนเองต้องรอนาน
     
        เขาเหล่านั้นจึงหาเพื่อนพูดกัน เมื่อคนจากกลุ่มน้อยพูดกันมากหลายคนเสียงก็เริ่มดังขึ้น จนเจ้าหน้าที่ต้องออกมาประกาศเป็นรอบสองสอง       แต่คราวนี้กับมีเสียงโห่ ดังจากนักศึกษายกใหญ่ แล้วจึงพากันทยอยออกจากห้องไป             ฉันนั่งรอจนใกล้จะถึงคิวฉันแล้ว จึงเห็นเพื่อนสาขาเดียวกันมาทัก
 
“ โอ้ย มาเช้าจังมึง เดี๋ยวก็ได้ถ่ายรูปแล้วสิ กูก็ว่าจะมาแต่เช้าแต่อากาศหนาวเย็นสบาย ก็เลยเผลอหลับไป แล้วนี่ทำไงบ้างวะ ”
 
“หยิบ บัตรคิว แล้วรอถ่ายรูป เตรียมเอกสารจ่ายเงินยื่นให้เจ้าที่เวลาถ่ายรูป ”
ไม่นานนักเจ้าหน้าที่จึงเรียกฉันเข้าไปถ่ายรูปฉันจึงลาเพื่อน
 
“ เดี่ยวไปถ่ายรูปก่อนนะ ”
 
“ เอ้อ แล้วเจอกันตอนเรียนบ่าย ”
 
“ เอ่อ บาย ”
 
        ทุกอย่างเสร็จไปด้วยดีฉันถ่ายรูปเสร็จเรียบร้อยแล้ว กะจะเดินออกห้องไปอีกทางหนึ่ง เพื่อเตรียมตัวไปเรียนตอนบ่าย      แต่ฉันก็ต้องหันหลังกลับมา สะดุ้งทันทีเมื่อมีคนล้มกันหน้าคว่ำ ตรงที่รับบัตรคิว ซึ่งเป็นกล่องกระดาษใส่บัตรคิวไว้        ทุกคนไม่เรียงแถวต่อกัน แต่ต่างคนต่าง รีบ มือใครยาวก็สาวเอา    บางคนก็หยิบเผื่อเพื่อน     หยิบยื้อแย่งกันจนกล่องตก    บางคนก็ลุกล้มลง แต่มิวายยังมีคนจำนวนหนึ่งรีบหาบัตรคิวที่ตกอีก      แล้วจึงตามมาด้วยเสียงโห่ของคนด้านหลังที่ผลักดันมา    และเสียงเป่านกหวีดให้หยุดของตำรวจนักศึกษา     ฉันก็ได้แต่หันหลังเดินออกไปแล้วก็ยิ้มครู่หนึ่ง พลางคิดถึงอนาคตของชาติในวันข้างหน้า

 

คำยืนยันของเจ้าของเรื่องสั้น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
10 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา