Thinking Of You
-
เขียนโดย เดลิกา
วันที่ 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 เวลา 16.15 น.
1 ตอน
4 วิจารณ์
3,834 อ่าน
แก้ไขเมื่อ 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 16.43 น. โดย เจ้าของเรื่องสั้น
1)
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความThinking Of You
ฉันลืมตาขึ้นมาในทุกๆเช้า...ตัวของฉันยังนอนอยู่บนเตียงเตียงเดิมที่เราซื้อมาด้วยกัน กลิ่นน้ำหอมของเธอนั้นมันยังติดอยู่ในสัมผัสและความรู้สึกของฉัน ไม่เคยเสื่อมคลายไปเลยแม้สักนาที…
เมื่อฉันได้มองออกไปนอกหน้าต่าง เธอรู้ไหมว่าฉันเห็นอะไรตรงหน้าของฉัน...ฉันเห็นเราสองคนปั่นจักรยานไปด้วยกัน ดั่งแต่ก่อนที่มันเป็นเช่นนั้นเสมอมา
ฉันนั่งซ้อนท้ายเธอและกอดเธอไว้พร้อมกับยิ้มร่า มือข้างหนึ่งของเธอสัมผัสที่แขนของฉันเกือบตลอดเวลา และเธอก็เริ่มร้องเพลงที่เธอชอบให้ฉันฟัง รู้ไหมว่ามันเพราะมากแค่ไหน น้ำเสียงของเธอช่างติดตรึงหัวใจของฉันได้ดีเหลือเกิน…
เวลาที่ฉันส่องกระจกและมองตัวเอง เธอรู้ไหมว่าภาพของเธอมันปรากฏเป็นภาพซ้อนทับ เหมือนดั่งว่าเธอยังคงยืนอยู่ตรงนั้น...ยืนอยู่ข้างหลังฉันและส่งรอยยิ้มอันแสนอบอุ่นให้กันดั่งแต่ก่อน พลางชมว่าฉันสวยแค่ไหนในสายตาของเธอ
ในมือของฉันมีสร้อยมุกเส้นหนึ่งที่สวยมากสำหรับฉัน ถึงแม้มันจะไม่สวยสำหรับคนอื่นก็ตาม มันคือสร้อยเส้นที่เธอซื้อให้ฉันเมื่อวันครบรอบของเรานั่นแหละ
และฉันก็สวมใส่มันทุกวัน...อย่างไม่รู้จักเบื่อมันเลยล่ะ...
“ที่รัก”
คำๆนี้ยังดังให้ฉันได้ยินในทุกๆวัน แต่มันกลับไม่ใช่คำที่ฉันคุ้นเคยเสียแล้ว เพราะรู้ไหมที่รัก...มันไม่ได้ดังมาจากเธอเหมือนทุกครั้ง ไม่ใช่เธอที่พูดให้ฉันฟังด้วยน้ำเสียงอันนุ่มนวล แต่สิ่งที่ฉันได้ยินกลับเป็นน้ำเสียงที่เปลี่ยนไปจนฉันรู้สึกใจหายทุกครั้งที่ได้ยิน
“คิดอะไรอยู่หรือครับ”
“เปล่าค่ะ”
ฉันตอบเสียงนั้นกลับไปด้วยหัวใจที่ปวดร้าว สัมผัสที่เคยได้รับจากเธอบัดนี้มันแปรเปลี่ยนเป็นของใครอีกคนที่ฉันไม่คิดจะต้องการมันเลยสักนิด อ้อมกอดอันอบอุ่นมันไม่ทำให้ใจของฉันอุ่นซ่านขึ้นมาได้ จุมพิตที่เขามอบให้มันไม่ทำให้ฉันหวั่นไหวเหมือนอย่างจูบอันแสนหวานของเธอ
เธอรู้ไหมเวลาที่ฉันมองเข้าไปในตาของเขาฉันเห็นแต่ความสิเน่หาที่มีอยู่เต็มเปี่ยมแต่ว่างเปล่าในความรัก…ไม่เหมือนกับดวงตาอันอ่อนโยนของเธอที่พอฉันมองไปทีไร ความรักที่เธอมีให้มันสื่อออกมาให้ฉันรับรู้เสมอ
“วันนี้ดูคุณสวยเป็นพิเศษเลยนะ” เขาเอ่ยชมฉัน และแน่นอนว่ามันไม่เหมือนกับคำชมของเธอ
“แน่นอนค่ะ” ฉันตอบกลับเขาไปอย่างนั้น ก่อนจะพรมน้ำหอมกลิ่นที่เธอชอบเป็นครั้งสุดท้าย เพราะบัดนี้ในขวดมันมีแต่เพียงความว่างเปล่าเหมือนกับตัวฉันที่ขาดเธอเสียแล้ว
“แล้วเจอกันตอนเย็นนะครับ”
เสียงนั้นพูดกับฉันก่อนที่ริมฝีปากหยักจะประทับลงบนริมฝีปากของฉันอย่างถือวิสาสะ เธอไม่รู้หรอกว่าฉันเจ็บปวดมากแค่ไหน ไม่ใช่การเจ็บปวดทางกายแต่เป็นการเจ็บปวดทางใจจนฉันแทบจะเป็นบ้า
รอยตราที่เขาฝังรากทับซ้อนกับรอยประทับของเธอ...เธอไม่รู้หรอกว่ามันทำให้ฉันเกลียดตัวเองจนไม่อยากจะไปให้เธอเห็นหน้า แต่ฉันก็ยังดันทุรังมาหาเธอทุกวันตามหัวใจที่ปรารถนา พร้อมกับดอกไม้แสนสวยที่ฉันตั้งใจเลือกอย่างพิถีพิถันเพื่อเธอคนเดียว
ฉันเดินไปตามทางอันเงียบสงบ สองข้างรายล้อมไปด้วยป้ายหินที่ไม่ใหญ่มากนัก ทุกป้ายถูกสลักเป็นตัวอักษรบรรจงออกมาเป็นคำที่แตกต่าง พร้อมทั้งประดับตรงฐานด้วยดอกไม้สีสดให้บรรยากาศดูน่าสลดมากเข้าไปอีก...
สายลมพัดผ่านร่างฉันอย่างหยอกเย้า หากแต่มันกลับสร้างความหนาวเหน็บให้หัวใจของฉันจนแทบจะทนไม่ได้ เสียงนกต่างๆที่ร้องร่ำดั่งเหมือนเสียงโหยหวนมันช่างบาดลึกเข้าไปในหัวใจ...จนฉันกลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่ไหวทุกครั้งเมื่อฉันใกล้จะได้เจอเธอ
เธอยังคงอยู่ตรงนั้นไม่ไปไหน และยังคงส่งยิ้มให้ฉันเสมอมาไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานเพียงใด เหมือนกับตอนแรกที่เราได้เจอกัน วันที่ฝนตกพรำๆและเธอช่วยฉันไว้ด้วยการกางร่มให้ พร้อมกับกล่าวคำใจดีออกมาจนหัวใจของฉันมันพองโตไปหมด...
มือของฉันวางดอกไม้ลงตรงหน้าเธออย่างระมัดระวัง รอยยิ้มของฉันปรากฏขึ้นอีกครั้งตามเคย...เธอก็รู้ดีนี่ว่าไม่มีใครทำให้ฉันมีความสุขจนยิ้มออกมาได้นอกจากเธอ สายลมที่ปะทะตัวฉันในตอนนี้มันช่างทำให้รู้สึกอุ่นซ่านไปทั้งหัวใจเหมือนเธอกำลังกอดฉันอยู่ และเมื่อฉันได้หลับตาก็เหมือนว่าโลกทั้งโลกมีเพียงแค่เราสองคนเท่านั้น
ฉันอยากเอนตัวลงนอนข้างๆเธอจัง...อยากสัมผัสเธออีกครั้งเหมือนที่เคยได้ทำมา แต่มันก็เป็นได้แค่ฝัน ที่รอวันให้เป็นความจริงเท่านั้นเอง
ฉันผิดเองที่ทำให้เธอจากไปอย่างไม่มีวันหวนกลับ
มันเป็นเพราะฉันเองที่ดื้นรั้นในวันนั้น...ไม่ยอมฟังคำของเธอ
นั่นมันเป็นเพราะฉันรักเธอจนสุดหัวใจ จนไม่สามารถจะเป็นของใครได้นอกจากเธอ
แต่มันกลับแย่ลงกว่าเดิม...เธอจากฉันไปด้วยน้ำมือของพ่อฉัน...และฉันต้องฝืนใจไปเป็นของใครอีกคน...ที่พ่อเลือกให้
มันเจ็บปวดมากเลยนะรู้ไหม...
ทุกๆวันที่ฉันยังหายใจมันคือความทรมานเกินกว่าที่เธอจะรับรู้ถึงมันได้
ฉันคิดถึงแต่เธอทั้งคืนและวัน คิดถึงทั้งๆที่มีเขาอยู่ข้างกาย
แต่ฉันไม่โทษตัวเองหรอกนะที่คิดถึงเธอ เพราะเธอคือเจ้าชีวิตและเจ้าหัวใจของฉัน
และฉันจะมีเธออยู่ในใจไปอย่างนี้ จะรักเธอไปอย่างนี้ไม่ว่าจะอยู่ในภพชาติไหน
ผ่านไปนานสักเพียงใด
ฉันจะรักและเป็นของเธอ....
...ชั่วนิรันดร์...
แด่เธอผู้เป็นที่รัก
Thinking Of You
ฉันลืมตาขึ้นมาในทุกๆเช้า...ตัวของฉันยังนอนอยู่บนเตียงเตียงเดิมที่เราซื้อมาด้วยกัน กลิ่นน้ำหอมของเธอนั้นมันยังติดอยู่ในสัมผัสและความรู้สึกของฉัน ไม่เคยเสื่อมคลายไปเลยแม้สักนาที…
เมื่อฉันได้มองออกไปนอกหน้าต่าง เธอรู้ไหมว่าฉันเห็นอะไรตรงหน้าของฉัน...ฉันเห็นเราสองคนปั่นจักรยานไปด้วยกัน ดั่งแต่ก่อนที่มันเป็นเช่นนั้นเสมอมา
ฉันนั่งซ้อนท้ายเธอและกอดเธอไว้พร้อมกับยิ้มร่า มือข้างหนึ่งของเธอสัมผัสที่แขนของฉันเกือบตลอดเวลา และเธอก็เริ่มร้องเพลงที่เธอชอบให้ฉันฟัง รู้ไหมว่ามันเพราะมากแค่ไหน น้ำเสียงของเธอช่างติดตรึงหัวใจของฉันได้ดีเหลือเกิน…
เวลาที่ฉันส่องกระจกและมองตัวเอง เธอรู้ไหมว่าภาพของเธอมันปรากฏเป็นภาพซ้อนทับ เหมือนดั่งว่าเธอยังคงยืนอยู่ตรงนั้น...ยืนอยู่ข้างหลังฉันและส่งรอยยิ้มอันแสนอบอุ่นให้กันดั่งแต่ก่อน พลางชมว่าฉันสวยแค่ไหนในสายตาของเธอ
ในมือของฉันมีสร้อยมุกเส้นหนึ่งที่สวยมากสำหรับฉัน ถึงแม้มันจะไม่สวยสำหรับคนอื่นก็ตาม มันคือสร้อยเส้นที่เธอซื้อให้ฉันเมื่อวันครบรอบของเรานั่นแหละ
และฉันก็สวมใส่มันทุกวัน...อย่างไม่รู้จักเบื่อมันเลยล่ะ...
“ที่รัก”
คำๆนี้ยังดังให้ฉันได้ยินในทุกๆวัน แต่มันกลับไม่ใช่คำที่ฉันคุ้นเคยเสียแล้ว เพราะรู้ไหมที่รัก...มันไม่ได้ดังมาจากเธอเหมือนทุกครั้ง ไม่ใช่เธอที่พูดให้ฉันฟังด้วยน้ำเสียงอันนุ่มนวล แต่สิ่งที่ฉันได้ยินกลับเป็นน้ำเสียงที่เปลี่ยนไปจนฉันรู้สึกใจหายทุกครั้งที่ได้ยิน
“คิดอะไรอยู่หรือครับ”
“เปล่าค่ะ”
ฉันตอบเสียงนั้นกลับไปด้วยหัวใจที่ปวดร้าว สัมผัสที่เคยได้รับจากเธอบัดนี้มันแปรเปลี่ยนเป็นของใครอีกคนที่ฉันไม่คิดจะต้องการมันเลยสักนิด อ้อมกอดอันอบอุ่นมันไม่ทำให้ใจของฉันอุ่นซ่านขึ้นมาได้ จุมพิตที่เขามอบให้มันไม่ทำให้ฉันหวั่นไหวเหมือนอย่างจูบอันแสนหวานของเธอ
เธอรู้ไหมเวลาที่ฉันมองเข้าไปในตาของเขาฉันเห็นแต่ความสิเน่หาที่มีอยู่เต็มเปี่ยมแต่ว่างเปล่าในความรัก…ไม่เหมือนกับดวงตาอันอ่อนโยนของเธอที่พอฉันมองไปทีไร ความรักที่เธอมีให้มันสื่อออกมาให้ฉันรับรู้เสมอ
“วันนี้ดูคุณสวยเป็นพิเศษเลยนะ” เขาเอ่ยชมฉัน และแน่นอนว่ามันไม่เหมือนกับคำชมของเธอ
“แน่นอนค่ะ” ฉันตอบกลับเขาไปอย่างนั้น ก่อนจะพรมน้ำหอมกลิ่นที่เธอชอบเป็นครั้งสุดท้าย เพราะบัดนี้ในขวดมันมีแต่เพียงความว่างเปล่าเหมือนกับตัวฉันที่ขาดเธอเสียแล้ว
“แล้วเจอกันตอนเย็นนะครับ”
เสียงนั้นพูดกับฉันก่อนที่ริมฝีปากหยักจะประทับลงบนริมฝีปากของฉันอย่างถือวิสาสะ เธอไม่รู้หรอกว่าฉันเจ็บปวดมากแค่ไหน ไม่ใช่การเจ็บปวดทางกายแต่เป็นการเจ็บปวดทางใจจนฉันแทบจะเป็นบ้า
รอยตราที่เขาฝังรากทับซ้อนกับรอยประทับของเธอ...เธอไม่รู้หรอกว่ามันทำให้ฉันเกลียดตัวเองจนไม่อยากจะไปให้เธอเห็นหน้า แต่ฉันก็ยังดันทุรังมาหาเธอทุกวันตามหัวใจที่ปรารถนา พร้อมกับดอกไม้แสนสวยที่ฉันตั้งใจเลือกอย่างพิถีพิถันเพื่อเธอคนเดียว
ฉันเดินไปตามทางอันเงียบสงบ สองข้างรายล้อมไปด้วยป้ายหินที่ไม่ใหญ่มากนัก ทุกป้ายถูกสลักเป็นตัวอักษรบรรจงออกมาเป็นคำที่แตกต่าง พร้อมทั้งประดับตรงฐานด้วยดอกไม้สีสดให้บรรยากาศดูน่าสลดมากเข้าไปอีก...
สายลมพัดผ่านร่างฉันอย่างหยอกเย้า หากแต่มันกลับสร้างความหนาวเหน็บให้หัวใจของฉันจนแทบจะทนไม่ได้ เสียงนกต่างๆที่ร้องร่ำดั่งเหมือนเสียงโหยหวนมันช่างบาดลึกเข้าไปในหัวใจ...จนฉันกลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่ไหวทุกครั้งเมื่อฉันใกล้จะได้เจอเธอ
เธอยังคงอยู่ตรงนั้นไม่ไปไหน และยังคงส่งยิ้มให้ฉันเสมอมาไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานเพียงใด เหมือนกับตอนแรกที่เราได้เจอกัน วันที่ฝนตกพรำๆและเธอช่วยฉันไว้ด้วยการกางร่มให้ พร้อมกับกล่าวคำใจดีออกมาจนหัวใจของฉันมันพองโตไปหมด...
มือของฉันวางดอกไม้ลงตรงหน้าเธออย่างระมัดระวัง รอยยิ้มของฉันปรากฏขึ้นอีกครั้งตามเคย...เธอก็รู้ดีนี่ว่าไม่มีใครทำให้ฉันมีความสุขจนยิ้มออกมาได้นอกจากเธอ สายลมที่ปะทะตัวฉันในตอนนี้มันช่างทำให้รู้สึกอุ่นซ่านไปทั้งหัวใจเหมือนเธอกำลังกอดฉันอยู่ และเมื่อฉันได้หลับตาก็เหมือนว่าโลกทั้งโลกมีเพียงแค่เราสองคนเท่านั้น
ฉันอยากเอนตัวลงนอนข้างๆเธอจัง...อยากสัมผัสเธออีกครั้งเหมือนที่เคยได้ทำมา แต่มันก็เป็นได้แค่ฝัน ที่รอวันให้เป็นความจริงเท่านั้นเอง
ฉันผิดเองที่ทำให้เธอจากไปอย่างไม่มีวันหวนกลับ
มันเป็นเพราะฉันเองที่ดื้นรั้นในวันนั้น...ไม่ยอมฟังคำของเธอ
นั่นมันเป็นเพราะฉันรักเธอจนสุดหัวใจ จนไม่สามารถจะเป็นของใครได้นอกจากเธอ
แต่มันกลับแย่ลงกว่าเดิม...เธอจากฉันไปด้วยน้ำมือของพ่อฉัน...และฉันต้องฝืนใจไปเป็นของใครอีกคน...ที่พ่อเลือกให้
มันเจ็บปวดมากเลยนะรู้ไหม...
ทุกๆวันที่ฉันยังหายใจมันคือความทรมานเกินกว่าที่เธอจะรับรู้ถึงมันได้
ฉันคิดถึงแต่เธอทั้งคืนและวัน คิดถึงทั้งๆที่มีเขาอยู่ข้างกาย
แต่ฉันไม่โทษตัวเองหรอกนะที่คิดถึงเธอ เพราะเธอคือเจ้าชีวิตและเจ้าหัวใจของฉัน
และฉันจะมีเธออยู่ในใจไปอย่างนี้ จะรักเธอไปอย่างนี้ไม่ว่าจะอยู่ในภพชาติไหน
ผ่านไปนานสักเพียงใด
ฉันจะรักและเป็นของเธอ....
...ชั่วนิรันดร์...
แด่เธอผู้เป็นที่รัก
Thinking Of You
คำยืนยันของเจ้าของเรื่องสั้น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ