มุมมองของผม มุมมองของคุณหละ?
7.9
เขียนโดย นายน่าเบื่อ
วันที่ 9 ตุลาคม พ.ศ. 2556 เวลา 16.31 น.
2 บท
9 วิจารณ์
5,976 อ่าน
แก้ไขเมื่อ 9 ตุลาคม พ.ศ. 2556 16.34 น. โดย เจ้าของเรื่องสั้น
2) มุมมองของผม
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความมุมมองผม
วันเวลาเปลี่ยน อะไรก็เปลี่ยน ไม่ว่าจะเป็นจิตใจ ร่างกาย สันดาน (หยาบมั้ยหว่า) ไปจนถึงค่านิยม ด่านต่าง ๆ ของคน
ในมุมมองของผมไม่ว่า จะเป็นอะไรก็ตามเวลามักเป็นตัวต้นในการเปลี่ยนแปลงสิ่งต่าง ๆ เสมอ แฟชั่น ก็เช่นกัน มันเปลี่ยนไปไวมาก และแฟชั่นด้านทรงผม ก็มักจะมีผลกับวัยรุ่น วัยเรียนมาก
อันที่จริงก็ไม่ค่อยมีสาระไรหลอกผมก็แค่เซง ๆ กับ คำถามซ้ำ ๆ เดิม ๆ ในช่วงนี้ ไม่ว่าจะไปทางไหน ก็ถูกทักเรื่องทรงผมตลอด แต่ละคนมีมุมมองที่แตกต่างเหลือเกิน จึงมีคำถาม มาให้ผมกันในคนระแบบ ในแบบของคน ๆ นั้น แล้วคุณละ เคยเจอคำถามเกี่ยวกับผมมั้ยครับ ?
“ผมยาวแล้วไม่ตัดมั้งเหรอ” อันนี้เป็นคำถามที่ เจอคนถามเยอะสุด ๆ และมักจะมีคำพูดต่ออีก ต่าง ๆ น่า ๆ ตามมุมมองของแต่ละคน “ฟูหยั่งกะเงาะ ป่า “ เอาเข้าไปอะไรจะขนาดนั้น มุมมองของท่านช่างลึกล้ำ
“ผมยาวเซอร์ดีวะ เท่ ๆ” และอันนี้ก็เป็นมุมมองที่ผมชอบที่สุด เพราะเค้าบอกว่าผมเท่ 555 และมันยังตรงกับความคิดผมด้วย ผมเป็นคนชอบผมยาว ในแบบหยักศก ไม่ยาวมากแต่ก็ชอบฟู ๆ ในมุมมองของผมฟู ๆ เป็นอะไรที่ใช้เลย และมันก็แนวได้อีก มีครั้งหนึ่งผมเถียงกับเพื่อนเล่น ๆ เรื่องทรงผมที่ตัวเองชอบ มันเป็นอะไรที่ผม จำได้กับเรื่องผม ๆ
“ ไอ้เบื่อ ทำไมมึงชอบไว้ผมฟู ยาว เซอร์วะแมงหน้าตาเหมือนโจรยังไว้ผมเหมือนโจรอีก” เพื่อนของผมเป็นคนรักสะอาด วันนั้นผมเจอมันอยากไม่รู้ตัวพร้อมกับคำทักทายในมุมมองของมันที่แทงใจผมไม่รู้ตัวเช่นกัน เกิดคำถามขึ้นมาว่า นี้กูเหมือนโจรเหรอวะT^T?
“อาว ที่มึงหละตัดหัวเกรียนเหลื่อตรงกลางอยู่หย่อมเดียว เท่ตายหละ” รับไม่ได้ บังอาจมาว่ากันได้ แท่นที่จะทักดีดีไม่มี
“เฮ้ยเค้าเรียก แฟชั่นเว้ย” จบ เมื่อผมได้ยินอย่างนั้นก็ไม่คิดที่จะด่า หรือว่ามันอีก ไม่รู้ว่ามันมีมุมมองด้านแฟชั่นยังไง แต่ผมรู้ว่า ฟู ๆ ยาว ๆ ของผมไม่ใช่แฟชั่นสำหรับมัน ในวันนั้นผมจึงชวนมันคุยเรื่องอื่นแทน แต่ก็ยังอดคิดไม่ได้ว่าตัวเองเหมือนโจรตรงไหน เฮ้อ
“คุณดูเซอร์จังนะครับ ดูแล้วเป็นตัวของตัวเองสูง แต่คุณไม่คิดจะเปลี่ยนทรงผมมั่งเหรอครับ ?” ครั้งหนึ่ง เคยมีคนถามคำถามที่ผมคิดว่ามันเหมือนคำชมนี้ กับผม ในเวลานั้นผมมีความรู้สึกงง และสงสัย เพราะคนที่ถามคำถามผมคนนั้น เราไม่รู้จักกัน เราเจอกันในซุปเปอร์ ผมตอบกลับไปว่า “ผมอยากเปลี่ยนทรงครับ แต่ไม่อยากเปลี่ยนแนว” แล้วก็แถมยิ้มเป็นมิตรเหมือนอย่างที่เค้ายิ้มให้ นั้นคือจุดเริ่มตนของเพื่อนใหม่
“คุณอยากตัดผมรึเปล่า มันดูยาวและไม่เป็นทรงแล้วนะครับ” ในตอนที่เราซื้อของและเดินคุยกัน เค้าก็ถามผมขึ้น ผมมองหน้าเค้า เค้ายิ้มให้ ผมมองออกทันทีนะตอนนั้น = = ช่างตัดผมสินะ
“อยากครับ คุณจะตัดให้ผมเหรอ 55 ” ผมบอกเค้าแล้วก็หัวเราะออกมา มุมมองของผมตอนนั้นผมมองเค้าว่า ทักผมเพราะอยากตัดผมของผมรึเปล่า
“55 ครับผมจะตัดให้” เค้าบอกก่อนจะหิ้วของใส่รถเข็น “คุณมองออกสินะว่าผมเป็นช่างตัดผม 55” ผมไม่ได้บอกว่ามองออกหรือไม่ออก แต่ผมพยักหน้าให้แทนคำตอบ หลังจากเราสองคนจ่ายตังเสร็จ ผมก็ตัดสินใจไปตัดผมร้านของเพื่อนใหม่
และในวันนั้นก็ทำให้ผมเขวในมุมมองความชอบทรงฟู ๆ ไปเล็กน้อย ถึงปลานกลาง 555
ไปถึงที่ร้านปรากฏว่าร้านปิดแล้ว แต่ผมก็ได้รับสิทธ์ vip ที่เพื่อนใหม่มอบให้ ผมเข้ามาในร้านนั่งลงเก้าอี้หนังหน้ากระจก
ระหว่างที่เข้าร้านมาผมไม่ได้คุยอะไรกับเพื่อนใหม่เลย ผ้าคลุมตัดผมคลุมรอบตัวผม ก่อนที่บทสนทนาแรกเริ่มต้นขึ้น
“ คุณจะตัดทรงไหนให้ผมหละ” ผมเปิดบทสนทนาขึ้น จองมองเค้าผ่านกระจก ก่อนที่เค้าจะยิ้มให้ผมผ่านกระจกเช่นกัน
“เดี่ยวก็รู้ครับ ผมว่ามันต้องเปลี่ยนมุมมอง เปลี่ยนตัวคุณแน่นอน” ผมกลืนน้ำลายอึกใหญ่ลงคอ พร้อมกลับมองว่า ตัวเองกำลังขึ้นเขียงอย่างเต็มใจ -3-
“เปิดร้าน ทำอาชีพนี้ กำไรเยอะรึเปล่าครับ” ผมมองเค้าที่กำลังใช้กรรไกรตัดผมให้ผมอย่างชำนานก่อนจะถามขึ้น
“ก็แล้วแต่จะมองครับ สำหรับตัวผมนะร้านตัดผมก็เหมือนร้านอื่น มันก็มีขาดทุนกับได้กำไรเหมือนกันครับ แล้วแต่คุณจะมองอะ” เพื่อนใหม่พูด ทั้งที่ยังตัดอยู่ สีหน้าของเค้าดูแล้ว ...
“คุณดูมีความสุขจังนะครับ ได้ตัดผมฟู ๆ รึเปล่า55” ผมอดที่จะล้อไม่ได้ ใช่เค้าดุมีความสุข ในตอนดัน นี้คงเป็นงานที่เค้ารักสินะ
“ครับ แต่จะว่ามีความสุขก็ไม่ถูกหมดนะ ผมมองว่าแค่อยากตัดผมคุณให้มันเป็นทรงที่ผมชอบเท่านั้น” แล้วผมก็คิดว่า ซวยแล้ว ถ้าตูไม่ชอบละทำไงดีT^T
ใ นตอนนั้นผมไม่ได้มองโลกในแง่ว่าคนเรามีมุมมองต่างกันหรือ เรามองว่าอะไรไม่ดีให้มองมุมกลับหลอก มันจึงมีความกังวลไปหมด ที่กลัวสุด ๆ คือมันจะไม่ฟู 555
ตัดไปรอบหัวได้ซักพัก เค้าก็หยุดมองผมผ่านกระจก มีสีหน้าเหมือนกำลังคิดอะไรสนุก ๆ ได้ก่อนจะยิ้มเจ้าเลห์ให้ผม
แล้วก็หยิบปัตตาเลี่ยน ขึ้นมา ในตอนที่ผมเห็นใจหล่นวูบ แล้วเค้าก็ใส่ฟันรองปัตตาเลียนไม่ทราบว่าเบอร์อะไร แล้วก็ไถข้างผมขึ้นทันที อยากไม่ทันตั้งตัว พร้อมกับผมที่ค้างไปแล้ว
“เสร็จแล้วครับ” รู้สึกตัวเต็มที่ตอนที่คำนี้หลุดออกมาจากปากเพื่อนใหม่ ผมเงยหน้าขึ้นมามองกระจกอีกครั้ง ก่อนจะพบกับตัวเองที่ไม่เหมือนตัวเอง ในมุมมองของผมมันเหมือนกับไม่ใช่ตัวเอง และมันก็เปลี่ยนมุมมองของผมเรื่องฟู ๆ ยาว ๆ ไปเลย มันเป็นทรงที่ไถออกข้างเดียว และทิ้งให้อีกข้างยาว และยังฟูอยู่
แล้วผมก็พบว่า มันดูสะอาดและเด่นขึ้น ในความรู้สึกมันบอกว่าโอเค
นี้คงเป็นมุมมองนึ่งที่แหวกจากมุมมองความชอบเดิมไป ผมเริ่มเข้าใจว่าทำไมเพื่อนคนนั้นถึงชอบทรงเกรียน ๆ มุมมองของผมเริ่มเปลี่ยน จากที่ไม่เคยชอบทรงอื่นที่ไม่ฟู ยาว ก็หันมาสนใจอย่างบอกไม่ถูก จากที่เคยมองว่ามันไม่เซอร์ ก็มองใหม่ว่ามัน เซอร์ในตัวผมเองอยู่แล้ว ไม่ว่าทรงไหน นะตอนนี้มันคงกลายเป็นแฟชั่นไปแล้วทุกทรงรึเปล่า มันแค่ขึ้นอยู่ที่ มองว่าชอบ หรือไม่ชอบ ขึ้นอยู่ที่มุมมอง
วันเวลาเปลี่ยน อะไรก็เปลี่ยน ไม่ว่าจะเป็นจิตใจ ร่างกาย สันดาน (หยาบมั้ยหว่า) ไปจนถึงค่านิยม ด่านต่าง ๆ ของคน
ในมุมมองของผมไม่ว่า จะเป็นอะไรก็ตามเวลามักเป็นตัวต้นในการเปลี่ยนแปลงสิ่งต่าง ๆ เสมอ แฟชั่น ก็เช่นกัน มันเปลี่ยนไปไวมาก และแฟชั่นด้านทรงผม ก็มักจะมีผลกับวัยรุ่น วัยเรียนมาก
อันที่จริงก็ไม่ค่อยมีสาระไรหลอกผมก็แค่เซง ๆ กับ คำถามซ้ำ ๆ เดิม ๆ ในช่วงนี้ ไม่ว่าจะไปทางไหน ก็ถูกทักเรื่องทรงผมตลอด แต่ละคนมีมุมมองที่แตกต่างเหลือเกิน จึงมีคำถาม มาให้ผมกันในคนระแบบ ในแบบของคน ๆ นั้น แล้วคุณละ เคยเจอคำถามเกี่ยวกับผมมั้ยครับ ?
“ผมยาวแล้วไม่ตัดมั้งเหรอ” อันนี้เป็นคำถามที่ เจอคนถามเยอะสุด ๆ และมักจะมีคำพูดต่ออีก ต่าง ๆ น่า ๆ ตามมุมมองของแต่ละคน “ฟูหยั่งกะเงาะ ป่า “ เอาเข้าไปอะไรจะขนาดนั้น มุมมองของท่านช่างลึกล้ำ
“ผมยาวเซอร์ดีวะ เท่ ๆ” และอันนี้ก็เป็นมุมมองที่ผมชอบที่สุด เพราะเค้าบอกว่าผมเท่ 555 และมันยังตรงกับความคิดผมด้วย ผมเป็นคนชอบผมยาว ในแบบหยักศก ไม่ยาวมากแต่ก็ชอบฟู ๆ ในมุมมองของผมฟู ๆ เป็นอะไรที่ใช้เลย และมันก็แนวได้อีก มีครั้งหนึ่งผมเถียงกับเพื่อนเล่น ๆ เรื่องทรงผมที่ตัวเองชอบ มันเป็นอะไรที่ผม จำได้กับเรื่องผม ๆ
“ ไอ้เบื่อ ทำไมมึงชอบไว้ผมฟู ยาว เซอร์วะแมงหน้าตาเหมือนโจรยังไว้ผมเหมือนโจรอีก” เพื่อนของผมเป็นคนรักสะอาด วันนั้นผมเจอมันอยากไม่รู้ตัวพร้อมกับคำทักทายในมุมมองของมันที่แทงใจผมไม่รู้ตัวเช่นกัน เกิดคำถามขึ้นมาว่า นี้กูเหมือนโจรเหรอวะT^T?
“อาว ที่มึงหละตัดหัวเกรียนเหลื่อตรงกลางอยู่หย่อมเดียว เท่ตายหละ” รับไม่ได้ บังอาจมาว่ากันได้ แท่นที่จะทักดีดีไม่มี
“เฮ้ยเค้าเรียก แฟชั่นเว้ย” จบ เมื่อผมได้ยินอย่างนั้นก็ไม่คิดที่จะด่า หรือว่ามันอีก ไม่รู้ว่ามันมีมุมมองด้านแฟชั่นยังไง แต่ผมรู้ว่า ฟู ๆ ยาว ๆ ของผมไม่ใช่แฟชั่นสำหรับมัน ในวันนั้นผมจึงชวนมันคุยเรื่องอื่นแทน แต่ก็ยังอดคิดไม่ได้ว่าตัวเองเหมือนโจรตรงไหน เฮ้อ
“คุณดูเซอร์จังนะครับ ดูแล้วเป็นตัวของตัวเองสูง แต่คุณไม่คิดจะเปลี่ยนทรงผมมั่งเหรอครับ ?” ครั้งหนึ่ง เคยมีคนถามคำถามที่ผมคิดว่ามันเหมือนคำชมนี้ กับผม ในเวลานั้นผมมีความรู้สึกงง และสงสัย เพราะคนที่ถามคำถามผมคนนั้น เราไม่รู้จักกัน เราเจอกันในซุปเปอร์ ผมตอบกลับไปว่า “ผมอยากเปลี่ยนทรงครับ แต่ไม่อยากเปลี่ยนแนว” แล้วก็แถมยิ้มเป็นมิตรเหมือนอย่างที่เค้ายิ้มให้ นั้นคือจุดเริ่มตนของเพื่อนใหม่
“คุณอยากตัดผมรึเปล่า มันดูยาวและไม่เป็นทรงแล้วนะครับ” ในตอนที่เราซื้อของและเดินคุยกัน เค้าก็ถามผมขึ้น ผมมองหน้าเค้า เค้ายิ้มให้ ผมมองออกทันทีนะตอนนั้น = = ช่างตัดผมสินะ
“อยากครับ คุณจะตัดให้ผมเหรอ 55 ” ผมบอกเค้าแล้วก็หัวเราะออกมา มุมมองของผมตอนนั้นผมมองเค้าว่า ทักผมเพราะอยากตัดผมของผมรึเปล่า
“55 ครับผมจะตัดให้” เค้าบอกก่อนจะหิ้วของใส่รถเข็น “คุณมองออกสินะว่าผมเป็นช่างตัดผม 55” ผมไม่ได้บอกว่ามองออกหรือไม่ออก แต่ผมพยักหน้าให้แทนคำตอบ หลังจากเราสองคนจ่ายตังเสร็จ ผมก็ตัดสินใจไปตัดผมร้านของเพื่อนใหม่
และในวันนั้นก็ทำให้ผมเขวในมุมมองความชอบทรงฟู ๆ ไปเล็กน้อย ถึงปลานกลาง 555
ไปถึงที่ร้านปรากฏว่าร้านปิดแล้ว แต่ผมก็ได้รับสิทธ์ vip ที่เพื่อนใหม่มอบให้ ผมเข้ามาในร้านนั่งลงเก้าอี้หนังหน้ากระจก
ระหว่างที่เข้าร้านมาผมไม่ได้คุยอะไรกับเพื่อนใหม่เลย ผ้าคลุมตัดผมคลุมรอบตัวผม ก่อนที่บทสนทนาแรกเริ่มต้นขึ้น
“ คุณจะตัดทรงไหนให้ผมหละ” ผมเปิดบทสนทนาขึ้น จองมองเค้าผ่านกระจก ก่อนที่เค้าจะยิ้มให้ผมผ่านกระจกเช่นกัน
“เดี่ยวก็รู้ครับ ผมว่ามันต้องเปลี่ยนมุมมอง เปลี่ยนตัวคุณแน่นอน” ผมกลืนน้ำลายอึกใหญ่ลงคอ พร้อมกลับมองว่า ตัวเองกำลังขึ้นเขียงอย่างเต็มใจ -3-
“เปิดร้าน ทำอาชีพนี้ กำไรเยอะรึเปล่าครับ” ผมมองเค้าที่กำลังใช้กรรไกรตัดผมให้ผมอย่างชำนานก่อนจะถามขึ้น
“ก็แล้วแต่จะมองครับ สำหรับตัวผมนะร้านตัดผมก็เหมือนร้านอื่น มันก็มีขาดทุนกับได้กำไรเหมือนกันครับ แล้วแต่คุณจะมองอะ” เพื่อนใหม่พูด ทั้งที่ยังตัดอยู่ สีหน้าของเค้าดูแล้ว ...
“คุณดูมีความสุขจังนะครับ ได้ตัดผมฟู ๆ รึเปล่า55” ผมอดที่จะล้อไม่ได้ ใช่เค้าดุมีความสุข ในตอนดัน นี้คงเป็นงานที่เค้ารักสินะ
“ครับ แต่จะว่ามีความสุขก็ไม่ถูกหมดนะ ผมมองว่าแค่อยากตัดผมคุณให้มันเป็นทรงที่ผมชอบเท่านั้น” แล้วผมก็คิดว่า ซวยแล้ว ถ้าตูไม่ชอบละทำไงดีT^T
ใ นตอนนั้นผมไม่ได้มองโลกในแง่ว่าคนเรามีมุมมองต่างกันหรือ เรามองว่าอะไรไม่ดีให้มองมุมกลับหลอก มันจึงมีความกังวลไปหมด ที่กลัวสุด ๆ คือมันจะไม่ฟู 555
ตัดไปรอบหัวได้ซักพัก เค้าก็หยุดมองผมผ่านกระจก มีสีหน้าเหมือนกำลังคิดอะไรสนุก ๆ ได้ก่อนจะยิ้มเจ้าเลห์ให้ผม
แล้วก็หยิบปัตตาเลี่ยน ขึ้นมา ในตอนที่ผมเห็นใจหล่นวูบ แล้วเค้าก็ใส่ฟันรองปัตตาเลียนไม่ทราบว่าเบอร์อะไร แล้วก็ไถข้างผมขึ้นทันที อยากไม่ทันตั้งตัว พร้อมกับผมที่ค้างไปแล้ว
“เสร็จแล้วครับ” รู้สึกตัวเต็มที่ตอนที่คำนี้หลุดออกมาจากปากเพื่อนใหม่ ผมเงยหน้าขึ้นมามองกระจกอีกครั้ง ก่อนจะพบกับตัวเองที่ไม่เหมือนตัวเอง ในมุมมองของผมมันเหมือนกับไม่ใช่ตัวเอง และมันก็เปลี่ยนมุมมองของผมเรื่องฟู ๆ ยาว ๆ ไปเลย มันเป็นทรงที่ไถออกข้างเดียว และทิ้งให้อีกข้างยาว และยังฟูอยู่
แล้วผมก็พบว่า มันดูสะอาดและเด่นขึ้น ในความรู้สึกมันบอกว่าโอเค
นี้คงเป็นมุมมองนึ่งที่แหวกจากมุมมองความชอบเดิมไป ผมเริ่มเข้าใจว่าทำไมเพื่อนคนนั้นถึงชอบทรงเกรียน ๆ มุมมองของผมเริ่มเปลี่ยน จากที่ไม่เคยชอบทรงอื่นที่ไม่ฟู ยาว ก็หันมาสนใจอย่างบอกไม่ถูก จากที่เคยมองว่ามันไม่เซอร์ ก็มองใหม่ว่ามัน เซอร์ในตัวผมเองอยู่แล้ว ไม่ว่าทรงไหน นะตอนนี้มันคงกลายเป็นแฟชั่นไปแล้วทุกทรงรึเปล่า มันแค่ขึ้นอยู่ที่ มองว่าชอบ หรือไม่ชอบ ขึ้นอยู่ที่มุมมอง
คำยืนยันของเจ้าของเรื่องสั้น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8.6 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
7 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ