ชายในบ่อน(การพนัน พ่อ ฉัน และคำสัญญา)
7.4
เขียนโดย มะมาย
วันที่ 8 ตุลาคม พ.ศ. 2556 เวลา 15.38 น.
1 ตอน
11 วิจารณ์
5,697 อ่าน
แก้ไขเมื่อ 8 ตุลาคม พ.ศ. 2556 15.46 น. โดย เจ้าของเรื่องสั้น
1) ชายในบ่อน(การพนัน พ่อ ฉัน และคำสัญญา)
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความชายในบ่อน
(การพนัน พ่อ ฉัน และคำสัญญา)
คุณคิดยังไงกับคนที่คุณพบเจอเขาอยู่ในบ่อน?
แวบแรก เราคงมองว่าเขาติดการพนันและย่อมเป็นคนไม่ดี เราตัดสินเขาไปแล้วทั้งที่เขาอาจมีเหตุผลจำเป็นอย่างอื่นนอกเหนือจากที่เราเข้าใจในพื้นฐาน
พ่อของฉันเองเป็นหนึ่งในบุคคลนั้น ตั้งแต่เล็กจนโตฉันไม่เคยเข้าใจว่าทำไมพ่อถึงได้เข้าไปพัวพันกับสิ่งไม่ดีเหล่านั้น
พ่อเคยบอกฉันมาคำหนึ่งว่าที่พ่อเข้าบ่อนนั้นเพราะลูกอย่างฉัน เขาหมายถึงเขาทำเพื่อฉัน ฟังดูแล้วตลกสิ้นดีจริงไหม แต่แล้ววันหนึ่งฉันถึงได้เข้าใจว่าฉันมองพ่อผิดไป
สถานีตำรวจ
พอรู้ว่าพ่อถูกจับฉันก็รีบนั่งแท็กซี่มาหาทันที แล้วก็พบกับพ่อที่ยืนเกาะลูกกรงรอฉันอยู่ แต่ความเป็นห่วงทั้งหมดก็เลือนหายไปเพราะพวกที่อยู่ในห้องขังเดียวกันกับพ่อล้วนแต่เป็นนักพนันขาประจำของบ่อนที่พ่อชอบไปเล่นโดยทั้งสิ้น แล้วที่ถูกจับนี่ก็คงเป็นเพราะพ่อหวนกลับไปเล่นมันอีกตามเคย สุดท้ายคำสัญญาก็ไม่มีความหมาย ฉันวางเงินประกันตัวเขาออกมาแต่อย่าหวังว่าฉันจะให้อภัยกับสิ่งที่เขาทำในวันนี้โดยเด็ดขาด
“ดาวพ่อขอโทษ”
พ่อรั้งแขนฉันไว้ ฉันยอมหยุดเพื่อที่จะรอฟังว่าคราวนี้เขาจะสรรหาข้อแก้ตัวอะไรอีก
“พ่อขอโทษที่ผิดสัญญา แต่ที่พ่อทำพ่อมีเหตุผลนะดาว”
“เหตุผลที่ว่า พ่อไปที่นั่นเพื่อหาเงินสกปรกมาเลี้ยงดาวน่ะหรอ! ฟังไม่ขึ้นหรอกนะพ่อ”
“ไม่ ไม่ใช่แบบนั้นลูก”
“ทุกวันนี้ที่ดาวส่งเงินให้พ่อยังไม่พออีกหรอ หรือที่ไม่พอนี่เพราะพ่อเอาไปจมอยู่กับที่บ่อนเฮงซวยนั่น!”
“เปล่าลูกเอาเป็นว่าพ่อมีเหตุผลจำเป็นก็แล้วกัน” เขาจับมือฉัน
“พ่อสัญญาว่านับจากนี้ไปต่อให้พ่อตายพ่อก็จะไม่มีทางกลับไปยุ่งกับมันเด็ดขาด”
ฉันยิ้มที่มุมปาก “พ่อสัญญา ดาวจำได้ว่าพ่อพูดแบบนี้มาตั้งแต่ดาว 3ขวบ จนทุกวันนี้พ่อก็ยังทำมันไม่ได้” ฉันบิดมือออก
“พ่อเก็บคำสัญญาจอมปลอมไว้เถอะ ตอนนี้ดาวเข้าใจแล้วว่าทำไมแม่ถึงทิ้งพวกเราไป ก็เพราะพ่อเป็นไอ้บ้าพนันแบบนี้ไง!”
คำพูดของลูกทิ่มแทงไปยังหัวใจช้ำๆของผู้เป็นพ่อ เขาคงเป็นพ่อที่แย่มากในสายตาของเธอเต็มที แต่เขาไม่คิดโกรธประกายดาวลูกสาวแม้แต่น้อย ภาพที่เขาเข้าบ่อนทุกวันหรือในบางวันก็กระเตงลูกสาวตัวน้อยไปด้วย ยังคงติดตาอยู่
แต่ถ้าหากจะบอกว่าที่เขาลงไปทุกอย่างก็เพื่อประกายดาวล่ะ ถ้าจะบอกว่าเงินที่เลี้ยงเธอมาจนเติบโตและเรียนจบอย่างทุกวันนี้ส่วนหนึ่งก็เงินที่เธอบอกว่าสกปรกนั่นล่ะ จะมีใครเชื่อบ้างว่าทั้งหมดนั่นเขาทำเพื่อเธอ?
ฉันล้มตัวลงนอนเอาหน้าซบหมอนแล้วน้ำตาที่สะกดกลั้นเอาไว้มาตลอดก็ไหลพร่าออกมาไม่ยอมหยุด ฮือ ฮือ ใบหน้าท่วมน้ำตาแหงนมองออกไปนอกหน้าต่าง คืนนี้ท้องฟ้ามืดมาก บางทีฉันก็รู้สึกว่าอยากจะหายตัวไปเหมือนกับดวงดาวบนท้องฟ้าบ้าง
ขณะที่ประกายดาวล้างจานอยู่ภายในครัว พ่อของเธอก็เดินเข้ามาหยุดอยู่ข้างๆ
“ให้พ่อช่วยนะดาว”
เขายื่นมือหวังจะช่วยทว่าหญิงสาวรีบล้างมือและเดินออกจากครัวไปในทันที ผู้เป็นพ่อทอดถอนใจแล้วหวนนึกถึงเมื่อครั้งที่ประกายดาวยังเป็นเด็กตัวเล็กๆ
เธอมักจะจะมายืนอ้อนขอเขาล้างจานแทบทุกครั้งหลังทานข้าวเสร็จ แต่ตอนนั้นเธอยังตัวเล็กเกินไปและสูงไม่พอ เขาเลยไม่อนุญาต ว่าแล้วจึงเดินหน้างอหายไปก่อนจะกลับมาพร้อมกับเก้าอี้หนึ่งตัว
“พ่อจ๋าดาวช่วยนะจ๊ะ” เสียงหวานใสของเธอยังคงดังก้องในหูเขาจนทุกวันนี้ เขาอดยิ้มออกมาไม่ได้เมื่อเห็นความพยายามของลูกสาว หลังจากวันนั้นสองพ่อลูกจึงช่วยกันล้างจานด้วยกันมาโดยตลอด
แต่มาในวันนี้เด็กผู้หญิงคนนั้นกลับเลือกที่จะเดินหันหลังให้เขา ไม่มีแม้แต่รอยยิ้มสดใสอย่างในวันนั้น ไม่ทันไรน้ำตาก็รินไหลออกมา
ฉันเดินออกไปนั่งที่ม้านั่งนอกบ้าน เพื่อสูดอากาศ
“ยังไม่หายโกรธพ่ออีกหรอ ดาว”
ป้าพิมพ์อรนั่งลงข้างๆ ฉันฝืนยิ้มจางๆให้ทั้งทีแทบไม่มีเรี่ยวแรงใดๆหลงเหลือ
“ ดาวรู้ไหมลูกว่าบนโลกนี้มีคนทำผิดมากมาย หลายคนว่าซ้ำเติม หลายคนให้กำลังใจ แต่สิ่งหนึ่งที่พวกเขาต้องการมากที่สุดก็คือการให้อภัย ดูอย่างนักโทษที่ต้องคดีร้ายแรงที่สุดเขาก็ยังได้รับการอภัย ได้รับโอกาสพ่อของดาวเองเขาก็ทำผิด แต่สิ่งสำคัญมันก็ไม่ได้ขึ้นอยู่กับความผิดของคนๆนั้น มันสำคัญที่ว่าเขาสำนึกผิดแล้วหรือยัง เมื่อสำนึกแล้วก็เหลือเพียงแต่รอให้ใครคนหนึ่งที่สำคัญที่สุดในชีวิตให้อภัย นั่นก็คือดาว ดาวที่เป็นดาวใจของท่าน
สุดท้ายแล้วไม่ว่าพ่อของเราจะเป็นยังไง จะดีหรือเลวร้ายแค่ไหน แต่ก็ไม่มีอะไรสามารถมาลบเลือนความรักความผูกพันของพ่อที่มีต่อลูก หรือของลูกที่มีต่อพ่อได้ นอกจากท่านจะไม่อยู่แล้ว”
ป้าพิมพ์อรลูบศีรษะของฉันอย่างอ่อนโยน
“ดาวคงไม่อยากมานั่งร้องไห้เสียใจ สำนึกผิด ในวันที่ไม่มีพ่ออีกต่อไปแล้วใช่ไหมลูก…”
พิมพ์อรมองหลานสาวอย่างห่วงใย ประกายดาวนั่งนิ่งแล้วน้ำตาก็รินไหลออกมาอย่างไม่ได้ตั้งใจ เธอปาดน้ำตาแล้วแหงนหน้ามองไปบนท้องฟ้ากว้าง
“ หลายร้อยความผิดของเราที่ใครๆเขาเอาแต่ต่อว่า แต่ในทุกครั้งก็จะมีฮีโร่คนหนึ่งคอยอยู่เคียงข้างเรา คอยปลอบใจเราเสมอไม่ว่าเราจะเป็นฝ่ายถูกหรือผิดก็ตาม แล้วกับการที่เขาทำผิดเพียงไม่กี่ครั้งเราจะให้อภัยเขาไม่ได้เลยหรอลูก
วันนี้ดาวอาจจะไม่อยากเห็นหน้าเขา แต่ดาวลองคิดให้ดีนะลูกว่าที่ผ่านมาพ่อเขาทำอะไรเพื่อเราบ้าง ถ้าหนูพอจะนึกออกหนูจะไม่มีทางทำเหมือนอย่างวันนี้”
“หนูเสียใจค่ะ”
“ร้องออกมาเถอะลูก ถ้าดีขึ้นแล้วอย่าลืมไปขอโทษพ่อเขานะ เขาคงเสียใจไปไม่น้อยกว่าหนูหรอก”
อะไรหลายๆอย่างทำให้ฉันสำนึกผิด วันนี้ฉันจึงตั้งใจตื่นขึ้นมาแต่เช้ามืดเพื่อลงไปเก็บดอกมะลิริมรั้วมาเรียงร้อยเป็นพวงมาลัย ฉันจะใช้มันแทนคำขอโทษ
ฉันยืนกล้าๆกลัวๆรอจังหวะจะเข้าไปหาพ่ออยู่หลายรอบแต่ก็ไม่กล้า ได้แต่ยืนมองพวงมาลัยในมือ พอพ่อเดินมาฉันก็รีบทำท่าจะเดินไปทางอื่น
“ดาวทานข้าวก่อนสิลูก พ่อทำแกงส้มมะละกอ ไข่เจียวหมูสับ และก็มีผัดผักรวมมิตรที่ลูกชอบด้วยนะ”
ฉันยืนนิ่งมองพวงมาลัยในมืออีกครั้งแล้วค่อยๆผ่อนลมหายใจออกมาไล่ความกลัวในใจ ทว่าเสียงจานที่แตกกระจายทำให้ฉันรีบหันกลับไปทางต้นเสียง ภาพที่เห็นทำเอาฉันทรุดลงไปกับพื้นข้างๆพ่อที่นอนหมดสติอยู่แล้วมีเลือดไหลออกมาจากจมูก “พ่อ!”
พ่อถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลโดยได้รับความช่วยเหลือจากป้าพิมพ์อร
“พ่อฉันเป็นยังไงบ้างคะ!”
ฉันรอฟังคำตอบทว่าหมอกลับยืนนิ่งนั่นทำให้ฉันยิ่งใจคอไม่ดีไปกันใหญ่
“ว่าไงคะหมอ”
“เราตรวจพบว่าคนไข้มีก้อนเนื้อขนาดใหญ่อยู่ในสมอง ต้องรีบผ่าเอาเนื้องอกนั้นออกให้เร็วที่สุด”
ฉันใจหายวูบนึกว่าตัวเองหูฝาด พ่อไม่เคยแสดงอาการใดๆให้ฉันเห็น
“ผ่าได้เร็วที่สุดตอนไหนคะ” ฉันถาม
“การผ่าตัดต้องใช้ค่ารักษาจำนวนมาก หมอคิดว่าจะมาถามความคิดเห็นพวกคุณก่อน”
พอเห็นใบประเมินค่ารักษาเบื้องต้นแล้วฉันถึงกลับเข่าอ่อน ป้าพิมพ์อรรีบมาประครองฉันไว้ แน่นอนว่าฉันไม่มีทางหาเงินจำนวนมากมายขนาดนั้นได้ ฉันตัดสินใจให้พ่อนอนรอดูอาการที่โรงพยาบาลก่อนถึงจะยังผ่าตัดไม่ได้ตอนนี้ แต่นั่นเป็นสิ่งเดียวที่ฉันทำได้ดีที่สุดในเวลานี้
ฉันตัดสินใจแล้วว่าจะไปกู้เงินจากเสี่ยประยูรเจ้าของบ่อนที่พ่อไปเล่น ถึงแม้อาจจะไม่ใช่แค่ดอกเบี้ยที่ฉันต้องใช้คืนภายหลัง ฉันก็ยอม
“ดาวจะไปไหนลูก” พาพิมพ์อรเรียกเมื่อเห็นว่าฉันเดินไปหยิบกระเป๋า
“หนูคงไม่ได้คิดที่จะไปกู้เงินเสี่ยประยูรหรอกใช่ไหม หนูก็รู้ว่ามันจะไม่ยอมปล่อยหนูง่ายๆ”
“แต่หนู….” ป้าพิมพ์อรยื่นซองสีน้ำตาลให้ฉัน
“เงิน ไม่ค่ะหนูไม่เอาเงินจากป้าพิมพ์เด็ดขาด พ่อกับหนูรบกวนป้ามาตลอด”
“หนูไม่รับไม่ได้หรอก เพราะเงินนี้ไม่ใช่เงินของป้า”
“หมายความว่ายังไงคะ”
“เงินทั้งหมดนี้ ของพ่อหนูตั้งหาก พ่อเขาตั้งใจหาเงินให้มากที่สุด เขาคงรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เขาคงไม่อยากทำให้หนูเดือดร้อน”
“พ่อ” น้ำตาฉันไหลออกมา
“เขารักหนูมากนะดาว ป้าคิดว่าที่เขากลับไปที่นั้นอีกคงเพราะเรื่องนี้คราวนี้ดาวเข้าใจแล้วใช่ไหมลูก”
ฉันพยักหน้าทั้งน้ำตา ฉันคอยอยู่ข้างๆพ่อไม่ไปไหนจนเขาเริ่มรู้สึกตัว
“พ่อเป็นยังไงบ้างจ๊ะ”
ประกายดาวกุมมือพ่อไว้แน่น เขารู้สึกได้ว่าไม่หลงเหลือความโกรธใดๆในใจลูกสาวแล้วจึงคลี่ยิ้มบางๆออกได้
“พ่อเป็นมากถึงขนาดนี้แล้วทำไมไม่บอกดาวล่ะจ๊ะ”
แววตาที่เป็นห่วงส่งจากใจถึงคนตรงหน้า
“พ่อทำให้ดาวลำบากมามากแล้ว”
เขามีสีหน้าดูเหน็ดเหนื่อยและซีดมาก
“พ่อไม่เคยทำให้ดาวลำบากเลยนะจ๊ะ”
สิ้นเสียงฉันก็ก้มลงกอดพ่อ เขาพูดต่อได้ไม่กี่คำก็ไอ ฉันจึงรินน้ำให้แต่กลืนไปได้ไม่กี่อึกก็บอกพอ
“พ่อไม่ต้องพูดอะไรแล้วนะจ๊ะ นอนพักเถอะ”
แม้ว่าประกายดาวจะบอกให้เขานอนพัก
แต่เขาพยายามฝืนความอ่อนเพลียมองหน้าเธอที่นั่งกุมมืออยู่ข้างๆให้นานที่สุด
เพราะไม่รู้ว่าวันพรุ่งนี้เขาจะได้ตื่นขึ้นมาอีกหรือไม่ หรือนี่อาจเป็นครั้งสุดท้ายที่เขาจะได้เห็นหน้าเธอก็ได้
พ่อไม่เคย บ่นว่าเหนื่อย แม้งานหนัก
พ่อไม่เคย คิดจะพัก แม้สักหน่อย
พ่อไม่เคย ด่าว่ากัน แม้แต่น้อย
แต่พ่อจะ คอยปลอบลูก ในทุกยาม
เสียงของพ่อ ขับกล่อม ฉันยามหลับ
พ่อไม่เคย ไกลลับ ฉันเคยถาม
พ่อรักหนู แค่ไหน พ่อคิดตาม
แล้วจึงเอ่ย บอกความใน ที่พ่อมี
พ่อรักลูก เท่าชีวิต นี้ของพ่อ
พ่อไม่ขอ อะไร บนโลกนี้
มากไปกว่า ชีวิตเจ้า สุขสบายดี
เพียงแค่นี้ พ่อพอใจ ไม่เสียดาย
หากจะต้อง แลกมันมา ด้วยชีวิต
บนทางเดิน ที่ผิด จนดูคล้าย
ว่าเป็นพ่อ ที่ไม่ดี ลูกอับอาย
แต่สุดท้าย ที่พ่อทำ ‘ลูก’คำเดียว
จากใจผู้เขียน
ทุกอย่างที่คนเราทำไปล้วนแต่มีเหตุผล จงอย่าตัดสินใครเพียงภายนอกหรือแค่สิ่งที่เรามองเห็น จงมองให้ลึกแล้วเราจะเข้าใจ
(การพนัน พ่อ ฉัน และคำสัญญา)
คุณคิดยังไงกับคนที่คุณพบเจอเขาอยู่ในบ่อน?
แวบแรก เราคงมองว่าเขาติดการพนันและย่อมเป็นคนไม่ดี เราตัดสินเขาไปแล้วทั้งที่เขาอาจมีเหตุผลจำเป็นอย่างอื่นนอกเหนือจากที่เราเข้าใจในพื้นฐาน
พ่อของฉันเองเป็นหนึ่งในบุคคลนั้น ตั้งแต่เล็กจนโตฉันไม่เคยเข้าใจว่าทำไมพ่อถึงได้เข้าไปพัวพันกับสิ่งไม่ดีเหล่านั้น
พ่อเคยบอกฉันมาคำหนึ่งว่าที่พ่อเข้าบ่อนนั้นเพราะลูกอย่างฉัน เขาหมายถึงเขาทำเพื่อฉัน ฟังดูแล้วตลกสิ้นดีจริงไหม แต่แล้ววันหนึ่งฉันถึงได้เข้าใจว่าฉันมองพ่อผิดไป
สถานีตำรวจ
พอรู้ว่าพ่อถูกจับฉันก็รีบนั่งแท็กซี่มาหาทันที แล้วก็พบกับพ่อที่ยืนเกาะลูกกรงรอฉันอยู่ แต่ความเป็นห่วงทั้งหมดก็เลือนหายไปเพราะพวกที่อยู่ในห้องขังเดียวกันกับพ่อล้วนแต่เป็นนักพนันขาประจำของบ่อนที่พ่อชอบไปเล่นโดยทั้งสิ้น แล้วที่ถูกจับนี่ก็คงเป็นเพราะพ่อหวนกลับไปเล่นมันอีกตามเคย สุดท้ายคำสัญญาก็ไม่มีความหมาย ฉันวางเงินประกันตัวเขาออกมาแต่อย่าหวังว่าฉันจะให้อภัยกับสิ่งที่เขาทำในวันนี้โดยเด็ดขาด
“ดาวพ่อขอโทษ”
พ่อรั้งแขนฉันไว้ ฉันยอมหยุดเพื่อที่จะรอฟังว่าคราวนี้เขาจะสรรหาข้อแก้ตัวอะไรอีก
“พ่อขอโทษที่ผิดสัญญา แต่ที่พ่อทำพ่อมีเหตุผลนะดาว”
“เหตุผลที่ว่า พ่อไปที่นั่นเพื่อหาเงินสกปรกมาเลี้ยงดาวน่ะหรอ! ฟังไม่ขึ้นหรอกนะพ่อ”
“ไม่ ไม่ใช่แบบนั้นลูก”
“ทุกวันนี้ที่ดาวส่งเงินให้พ่อยังไม่พออีกหรอ หรือที่ไม่พอนี่เพราะพ่อเอาไปจมอยู่กับที่บ่อนเฮงซวยนั่น!”
“เปล่าลูกเอาเป็นว่าพ่อมีเหตุผลจำเป็นก็แล้วกัน” เขาจับมือฉัน
“พ่อสัญญาว่านับจากนี้ไปต่อให้พ่อตายพ่อก็จะไม่มีทางกลับไปยุ่งกับมันเด็ดขาด”
ฉันยิ้มที่มุมปาก “พ่อสัญญา ดาวจำได้ว่าพ่อพูดแบบนี้มาตั้งแต่ดาว 3ขวบ จนทุกวันนี้พ่อก็ยังทำมันไม่ได้” ฉันบิดมือออก
“พ่อเก็บคำสัญญาจอมปลอมไว้เถอะ ตอนนี้ดาวเข้าใจแล้วว่าทำไมแม่ถึงทิ้งพวกเราไป ก็เพราะพ่อเป็นไอ้บ้าพนันแบบนี้ไง!”
คำพูดของลูกทิ่มแทงไปยังหัวใจช้ำๆของผู้เป็นพ่อ เขาคงเป็นพ่อที่แย่มากในสายตาของเธอเต็มที แต่เขาไม่คิดโกรธประกายดาวลูกสาวแม้แต่น้อย ภาพที่เขาเข้าบ่อนทุกวันหรือในบางวันก็กระเตงลูกสาวตัวน้อยไปด้วย ยังคงติดตาอยู่
แต่ถ้าหากจะบอกว่าที่เขาลงไปทุกอย่างก็เพื่อประกายดาวล่ะ ถ้าจะบอกว่าเงินที่เลี้ยงเธอมาจนเติบโตและเรียนจบอย่างทุกวันนี้ส่วนหนึ่งก็เงินที่เธอบอกว่าสกปรกนั่นล่ะ จะมีใครเชื่อบ้างว่าทั้งหมดนั่นเขาทำเพื่อเธอ?
ฉันล้มตัวลงนอนเอาหน้าซบหมอนแล้วน้ำตาที่สะกดกลั้นเอาไว้มาตลอดก็ไหลพร่าออกมาไม่ยอมหยุด ฮือ ฮือ ใบหน้าท่วมน้ำตาแหงนมองออกไปนอกหน้าต่าง คืนนี้ท้องฟ้ามืดมาก บางทีฉันก็รู้สึกว่าอยากจะหายตัวไปเหมือนกับดวงดาวบนท้องฟ้าบ้าง
ขณะที่ประกายดาวล้างจานอยู่ภายในครัว พ่อของเธอก็เดินเข้ามาหยุดอยู่ข้างๆ
“ให้พ่อช่วยนะดาว”
เขายื่นมือหวังจะช่วยทว่าหญิงสาวรีบล้างมือและเดินออกจากครัวไปในทันที ผู้เป็นพ่อทอดถอนใจแล้วหวนนึกถึงเมื่อครั้งที่ประกายดาวยังเป็นเด็กตัวเล็กๆ
เธอมักจะจะมายืนอ้อนขอเขาล้างจานแทบทุกครั้งหลังทานข้าวเสร็จ แต่ตอนนั้นเธอยังตัวเล็กเกินไปและสูงไม่พอ เขาเลยไม่อนุญาต ว่าแล้วจึงเดินหน้างอหายไปก่อนจะกลับมาพร้อมกับเก้าอี้หนึ่งตัว
“พ่อจ๋าดาวช่วยนะจ๊ะ” เสียงหวานใสของเธอยังคงดังก้องในหูเขาจนทุกวันนี้ เขาอดยิ้มออกมาไม่ได้เมื่อเห็นความพยายามของลูกสาว หลังจากวันนั้นสองพ่อลูกจึงช่วยกันล้างจานด้วยกันมาโดยตลอด
แต่มาในวันนี้เด็กผู้หญิงคนนั้นกลับเลือกที่จะเดินหันหลังให้เขา ไม่มีแม้แต่รอยยิ้มสดใสอย่างในวันนั้น ไม่ทันไรน้ำตาก็รินไหลออกมา
ฉันเดินออกไปนั่งที่ม้านั่งนอกบ้าน เพื่อสูดอากาศ
“ยังไม่หายโกรธพ่ออีกหรอ ดาว”
ป้าพิมพ์อรนั่งลงข้างๆ ฉันฝืนยิ้มจางๆให้ทั้งทีแทบไม่มีเรี่ยวแรงใดๆหลงเหลือ
“ ดาวรู้ไหมลูกว่าบนโลกนี้มีคนทำผิดมากมาย หลายคนว่าซ้ำเติม หลายคนให้กำลังใจ แต่สิ่งหนึ่งที่พวกเขาต้องการมากที่สุดก็คือการให้อภัย ดูอย่างนักโทษที่ต้องคดีร้ายแรงที่สุดเขาก็ยังได้รับการอภัย ได้รับโอกาสพ่อของดาวเองเขาก็ทำผิด แต่สิ่งสำคัญมันก็ไม่ได้ขึ้นอยู่กับความผิดของคนๆนั้น มันสำคัญที่ว่าเขาสำนึกผิดแล้วหรือยัง เมื่อสำนึกแล้วก็เหลือเพียงแต่รอให้ใครคนหนึ่งที่สำคัญที่สุดในชีวิตให้อภัย นั่นก็คือดาว ดาวที่เป็นดาวใจของท่าน
สุดท้ายแล้วไม่ว่าพ่อของเราจะเป็นยังไง จะดีหรือเลวร้ายแค่ไหน แต่ก็ไม่มีอะไรสามารถมาลบเลือนความรักความผูกพันของพ่อที่มีต่อลูก หรือของลูกที่มีต่อพ่อได้ นอกจากท่านจะไม่อยู่แล้ว”
ป้าพิมพ์อรลูบศีรษะของฉันอย่างอ่อนโยน
“ดาวคงไม่อยากมานั่งร้องไห้เสียใจ สำนึกผิด ในวันที่ไม่มีพ่ออีกต่อไปแล้วใช่ไหมลูก…”
พิมพ์อรมองหลานสาวอย่างห่วงใย ประกายดาวนั่งนิ่งแล้วน้ำตาก็รินไหลออกมาอย่างไม่ได้ตั้งใจ เธอปาดน้ำตาแล้วแหงนหน้ามองไปบนท้องฟ้ากว้าง
“ หลายร้อยความผิดของเราที่ใครๆเขาเอาแต่ต่อว่า แต่ในทุกครั้งก็จะมีฮีโร่คนหนึ่งคอยอยู่เคียงข้างเรา คอยปลอบใจเราเสมอไม่ว่าเราจะเป็นฝ่ายถูกหรือผิดก็ตาม แล้วกับการที่เขาทำผิดเพียงไม่กี่ครั้งเราจะให้อภัยเขาไม่ได้เลยหรอลูก
วันนี้ดาวอาจจะไม่อยากเห็นหน้าเขา แต่ดาวลองคิดให้ดีนะลูกว่าที่ผ่านมาพ่อเขาทำอะไรเพื่อเราบ้าง ถ้าหนูพอจะนึกออกหนูจะไม่มีทางทำเหมือนอย่างวันนี้”
“หนูเสียใจค่ะ”
“ร้องออกมาเถอะลูก ถ้าดีขึ้นแล้วอย่าลืมไปขอโทษพ่อเขานะ เขาคงเสียใจไปไม่น้อยกว่าหนูหรอก”
อะไรหลายๆอย่างทำให้ฉันสำนึกผิด วันนี้ฉันจึงตั้งใจตื่นขึ้นมาแต่เช้ามืดเพื่อลงไปเก็บดอกมะลิริมรั้วมาเรียงร้อยเป็นพวงมาลัย ฉันจะใช้มันแทนคำขอโทษ
ฉันยืนกล้าๆกลัวๆรอจังหวะจะเข้าไปหาพ่ออยู่หลายรอบแต่ก็ไม่กล้า ได้แต่ยืนมองพวงมาลัยในมือ พอพ่อเดินมาฉันก็รีบทำท่าจะเดินไปทางอื่น
“ดาวทานข้าวก่อนสิลูก พ่อทำแกงส้มมะละกอ ไข่เจียวหมูสับ และก็มีผัดผักรวมมิตรที่ลูกชอบด้วยนะ”
ฉันยืนนิ่งมองพวงมาลัยในมืออีกครั้งแล้วค่อยๆผ่อนลมหายใจออกมาไล่ความกลัวในใจ ทว่าเสียงจานที่แตกกระจายทำให้ฉันรีบหันกลับไปทางต้นเสียง ภาพที่เห็นทำเอาฉันทรุดลงไปกับพื้นข้างๆพ่อที่นอนหมดสติอยู่แล้วมีเลือดไหลออกมาจากจมูก “พ่อ!”
พ่อถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลโดยได้รับความช่วยเหลือจากป้าพิมพ์อร
“พ่อฉันเป็นยังไงบ้างคะ!”
ฉันรอฟังคำตอบทว่าหมอกลับยืนนิ่งนั่นทำให้ฉันยิ่งใจคอไม่ดีไปกันใหญ่
“ว่าไงคะหมอ”
“เราตรวจพบว่าคนไข้มีก้อนเนื้อขนาดใหญ่อยู่ในสมอง ต้องรีบผ่าเอาเนื้องอกนั้นออกให้เร็วที่สุด”
ฉันใจหายวูบนึกว่าตัวเองหูฝาด พ่อไม่เคยแสดงอาการใดๆให้ฉันเห็น
“ผ่าได้เร็วที่สุดตอนไหนคะ” ฉันถาม
“การผ่าตัดต้องใช้ค่ารักษาจำนวนมาก หมอคิดว่าจะมาถามความคิดเห็นพวกคุณก่อน”
พอเห็นใบประเมินค่ารักษาเบื้องต้นแล้วฉันถึงกลับเข่าอ่อน ป้าพิมพ์อรรีบมาประครองฉันไว้ แน่นอนว่าฉันไม่มีทางหาเงินจำนวนมากมายขนาดนั้นได้ ฉันตัดสินใจให้พ่อนอนรอดูอาการที่โรงพยาบาลก่อนถึงจะยังผ่าตัดไม่ได้ตอนนี้ แต่นั่นเป็นสิ่งเดียวที่ฉันทำได้ดีที่สุดในเวลานี้
ฉันตัดสินใจแล้วว่าจะไปกู้เงินจากเสี่ยประยูรเจ้าของบ่อนที่พ่อไปเล่น ถึงแม้อาจจะไม่ใช่แค่ดอกเบี้ยที่ฉันต้องใช้คืนภายหลัง ฉันก็ยอม
“ดาวจะไปไหนลูก” พาพิมพ์อรเรียกเมื่อเห็นว่าฉันเดินไปหยิบกระเป๋า
“หนูคงไม่ได้คิดที่จะไปกู้เงินเสี่ยประยูรหรอกใช่ไหม หนูก็รู้ว่ามันจะไม่ยอมปล่อยหนูง่ายๆ”
“แต่หนู….” ป้าพิมพ์อรยื่นซองสีน้ำตาลให้ฉัน
“เงิน ไม่ค่ะหนูไม่เอาเงินจากป้าพิมพ์เด็ดขาด พ่อกับหนูรบกวนป้ามาตลอด”
“หนูไม่รับไม่ได้หรอก เพราะเงินนี้ไม่ใช่เงินของป้า”
“หมายความว่ายังไงคะ”
“เงินทั้งหมดนี้ ของพ่อหนูตั้งหาก พ่อเขาตั้งใจหาเงินให้มากที่สุด เขาคงรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เขาคงไม่อยากทำให้หนูเดือดร้อน”
“พ่อ” น้ำตาฉันไหลออกมา
“เขารักหนูมากนะดาว ป้าคิดว่าที่เขากลับไปที่นั้นอีกคงเพราะเรื่องนี้คราวนี้ดาวเข้าใจแล้วใช่ไหมลูก”
ฉันพยักหน้าทั้งน้ำตา ฉันคอยอยู่ข้างๆพ่อไม่ไปไหนจนเขาเริ่มรู้สึกตัว
“พ่อเป็นยังไงบ้างจ๊ะ”
ประกายดาวกุมมือพ่อไว้แน่น เขารู้สึกได้ว่าไม่หลงเหลือความโกรธใดๆในใจลูกสาวแล้วจึงคลี่ยิ้มบางๆออกได้
“พ่อเป็นมากถึงขนาดนี้แล้วทำไมไม่บอกดาวล่ะจ๊ะ”
แววตาที่เป็นห่วงส่งจากใจถึงคนตรงหน้า
“พ่อทำให้ดาวลำบากมามากแล้ว”
เขามีสีหน้าดูเหน็ดเหนื่อยและซีดมาก
“พ่อไม่เคยทำให้ดาวลำบากเลยนะจ๊ะ”
สิ้นเสียงฉันก็ก้มลงกอดพ่อ เขาพูดต่อได้ไม่กี่คำก็ไอ ฉันจึงรินน้ำให้แต่กลืนไปได้ไม่กี่อึกก็บอกพอ
“พ่อไม่ต้องพูดอะไรแล้วนะจ๊ะ นอนพักเถอะ”
แม้ว่าประกายดาวจะบอกให้เขานอนพัก
แต่เขาพยายามฝืนความอ่อนเพลียมองหน้าเธอที่นั่งกุมมืออยู่ข้างๆให้นานที่สุด
เพราะไม่รู้ว่าวันพรุ่งนี้เขาจะได้ตื่นขึ้นมาอีกหรือไม่ หรือนี่อาจเป็นครั้งสุดท้ายที่เขาจะได้เห็นหน้าเธอก็ได้
พ่อไม่เคย บ่นว่าเหนื่อย แม้งานหนัก
พ่อไม่เคย คิดจะพัก แม้สักหน่อย
พ่อไม่เคย ด่าว่ากัน แม้แต่น้อย
แต่พ่อจะ คอยปลอบลูก ในทุกยาม
เสียงของพ่อ ขับกล่อม ฉันยามหลับ
พ่อไม่เคย ไกลลับ ฉันเคยถาม
พ่อรักหนู แค่ไหน พ่อคิดตาม
แล้วจึงเอ่ย บอกความใน ที่พ่อมี
พ่อรักลูก เท่าชีวิต นี้ของพ่อ
พ่อไม่ขอ อะไร บนโลกนี้
มากไปกว่า ชีวิตเจ้า สุขสบายดี
เพียงแค่นี้ พ่อพอใจ ไม่เสียดาย
หากจะต้อง แลกมันมา ด้วยชีวิต
บนทางเดิน ที่ผิด จนดูคล้าย
ว่าเป็นพ่อ ที่ไม่ดี ลูกอับอาย
แต่สุดท้าย ที่พ่อทำ ‘ลูก’คำเดียว
จากใจผู้เขียน
ทุกอย่างที่คนเราทำไปล้วนแต่มีเหตุผล จงอย่าตัดสินใครเพียงภายนอกหรือแค่สิ่งที่เรามองเห็น จงมองให้ลึกแล้วเราจะเข้าใจ
คำยืนยันของเจ้าของเรื่องสั้น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
7 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
7.3 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ