กรอบรูป
7.7
เขียนโดย creammer
วันที่ 5 ตุลาคม พ.ศ. 2556 เวลา 20.49 น.
1 ตอน
21 วิจารณ์
5,028 อ่าน
แก้ไขเมื่อ 10 ตุลาคม พ.ศ. 2556 19.25 น. โดย เจ้าของเรื่องสั้น
1) สิ่งที่ยังหลงเหลือ
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความคำว่า "พ่อ" คืออะไร?
ท่านคือบุคคลที่เราเรียกท่านว่า "พ่อ" เมื่อเราได้ลืมตาดูโลก
ทำไมเราถึงเรียกท่านว่า "พ่อ" นั้นหรือ ? ก็เพราะ................
..................................................................................
สวัสดีครับท่านผู้อ่านทุกท่านก่อนอื่นเลยผมขออนุญาตแนะนำตัวเองก่อนเลยนะครับ ผมชื่อเล่นชื่อ พอล ครับ วันนี้ผมมีเรื่องราวที่แสนจะประทับใจเรื่องหนึ่งที่จะมาเล่าให้คุณผู้อ่านได้อ่านกันครับ เป็นเรื่องราวความรักที่ผมไม่สามารถลืมเลือนมันได้เลย ซึ่งเรื่องที่จะเล่าต่อไปนี้เป็นเรื่องราวความรักความผูกพันธ์ระหว่าง ผม และ ผู้ชายคนหนึ่งครับ..
30 ปีที่ผ่านมาผมยังจำเรื่องราวของผู้ชายคนหนึ่งได้ไม่เคยเปลี่ยนแปลง ผู้ชายคนนั้นเป็นผู้ชายคนแรกที่ทำให้ผมยืนหยัดที่จะต่อสู้กับโลกภายนอกได้เป็นอย่างดี เพราะอะไรน่ะหรือที่ผมต้องพูดสิ่งนี้ เพราะท่านได้เคยอาบน้ำร้อนมาก่อนผมครับ ท่านเป็นคนเดียวที่คอยบอกทุกสิ่งทุกอย่างและคอยชี้แนะแนวทาง สู้การเป็นคนดีในสังคม ท่านเป็นผู้ที่ทำให้ผมได้มีอนาคตที่ดีในวันนี้ ท่านคนนี้คือใครกัน ทุกคนจะได้ทราบกันเดี๋ยวนี้ครับ ............
20 ปีที่แล้ว ผมยังจำเรื่องราวครั้งนั้นได้ดี...
"ว่าไงลูก วันนี้เหนื่อยไหมกลับมาจากโรงเรียน?" เสียงของชายที่วัยย่างก้าวเข้าสู่ 30 ปลายๆที่ท่าทางดูใจหันมาถามเมื่อเห็นเด็กเล็กๆคนหนึ่งซึ่งตอนนี้กำลังวิ่งแจ้นเข้ามาหาเจ้าของปลายเสียงที่ถามขึ้นเมื่อครู่ พร้อมหยิบอะไรบางอย่างออกจากกระเป๋าขึ้นเพื่อยื่นให้พ่อดูอย่างรีบเร่ง
"สวัสดีครับ "พ่อ" ไม่เหนื่อยเลยครับ วันนี้คุณครูให้ผมระบายสีเกี่ยวกับครอบครัวของฉัน และผมก็วาดพ่อไว้ด้วยครับ" เด็กชายยื่นกระดาษสีขาวอ่อนให้กับผู้ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นพ่อดูอย่างภาคภูมิ ก่อนจะโผเข้าไปกอดพ่อด้วยความดีใจ
"โอ้โห สวยด้วย เก่งมากลูก แล้วได้คะแนนเท่าไหร่ล่ะ?" ผู้เป็นพ่อหันไปถามลูกชายบ้างหลังจากที่ได้ดูผลงานชิ้นล่าสุดที่ลูกชายวาดสุดฝีมือนั้นอยู่ในมือของตน
"ได้คะแนนเต็มครับ ครูบอกว่า ให้ผมนำกระดาษแผ่นนี้ไปให้พ่อหลังจากกลับบ้านไปแล้ว และให้พ่อเก็บไว้เป็นที่ระลึกไว้ดูต่างหน้าเมื่อผมโตขึ้นครับ"
เด็กชายรีบตอบอย่างฉะฉานชัดเจนพร้อมด้วยรอยยิ้มที่ผุดขึ้นที่ใบหน้านั้นอย่างสดใสเปรียบเสมือนกับว่าไม่เคยมีความทุกข์ใดได้เข้ามากล้ำกลายเลยในชีวิตน้อยๆของเด็กคนนี้
หลังจากที่ลูกของเขาได้พูดเสร็จ พ่อที่กำลังนั่งฟังคำตอบของลูกชายอยู่จึงลุกขึ้นไปยังห้องทำงานแล้วเดินไปหยิบกรอบรูปชิ้นหนึ่งที่วางอยู่บนโต๊ะแล้วจึงเดินออกมาหาลูกชายตัวน้อยๆที่ตอนนี้กำลังทำหน้าสงสัยเป็นที่สุด ก่อนที่ผู้เป็นพ่อจะคุกเข่าลงมาลูบหัวเด็กชายตัวน้อยๆแล้วพูดขึ้นว่า
"ลูกเก็บกระดาษผลงานของลูกไว้ในกรอบรูปนี้นะ ทุกปี หรือทุกเดือนถ้าลูกได้มีผลงานให้นำมาเก็บไว้ในนี้นะ จำคำที่พ่อพูดในวันนี้ให้ดี ลูกจะได้คิดถึงพ่อเมื่อหยิบมันขึ้นมาดู กรอบรูปจะเป็นตัวแทนของพ่อที่เป็นเหมือนกำลังใจสำคัญให้ลูกยืนหยัดและใช้ชีวิตอย่างมีความสุขในอนาคตได้ จำคำนี้ไว้นะลูก"
"ครับพ่อ ผมจะจำคำพูดของพ่อ" เด็กน้อยรีบรับปากอย่างใสซื่อถึงแม้จะไม่ค่อยเข้าใจในสิ่งพ่อพูดมา แต่ก็รับปาก โดยไม่มีข้อโต้แย้งใดๆ ออกจากปากเด็กชายตัวเล็กๆที่ยังไร้เดียงสาอยู่
ผู้เป็นพ่อพอกล่าวเสร็จจึงรีบเข้าไปกอดลูกถึงแม้เขาจะรู้ว่าเด็กในวัยแค่นี้จะยังไม่สามารถเข้าใจทุกความคิดและคำพูดของผู้ใหญ่ได้ แต่เชื่อว่าในอนาคตเขาจะต้องรับรู้ในสิ่งที่พ่อบอกในวันนี้ได้อย่างแน่นอน..
5 ปีต่อมา .
"พ่อครับผมได้เกรด A มาทุกวิชาเลยครับ" จากเด็กชายตัวน้อยๆบัดนี้ได้เริ่มย่างก้าวเข้าสู้วัยรุ่นอย่างเต็มที่แล้ว ที่กำลังรีบนำผลการสอบเทอมสุดท้ายออกมาจากกระเป๋าเพื่อยื่นให้พ่อดูอีกครั้งหลังจากเมื่อเขาได้เคยให้พ่อดูผลงานของตนเองเมื่อ 5 ปีที่แล้ว
ผู้เป็นพ่อยิ้มอย่างภาคภูมิใจให้กับลูกชายของเขาคนนี้ก่อนที่จะรับใบผลการสอบมาดูให้เห็นกับตาตนเอง และก็เป็นดั่งที่ลูกชายของเขาได้พูดไว้ตั้งแต่ต้นว่าเขาสามารถทำคะแนนทุกวิชาได้เกรด A ตลอดตั้งแต่เขาอยู่ประถมปลาย ยันถึงมัธยม เด็กตัวน้อยคนนี้ไม่เคยทำให้พ่อของเขาผิดหวังเลยแม้แต่นิดเดียว และเขาก็ยังสามารถจำคำสอนในครั้งนั้นของพ่อเขาได้ด้วย เขาไม่รอช้ารีบเดินไปหยิบกรอบรูปชิ้นใหม่มาแล้วรีบนำใบผลการสอบสอดลงไปอย่างช้าๆ และเก็บไปรวมกับกรอบรูปผลงานเก่าของเขาตั้งแต่เขายังอายุน้อย
"ดีมากลูก นับวันพ่อก็ยิ่งแก่ลงทุกทีแล้ว ไม่รู้ว่าพ่อจะได้อยู่กับลูกได้อีกนานแค่ไหนแต่พ่ออยากให้รู้ว่า ณ ขณะนี้ที่พ่อยังมีลมหายใจ พ่อจะอยู่เคียงข้างลูกเสมอ และวันใดที่ลูกคิดถึงพ่อให้ลูกกลับย้อนไปมองกรอบลูกที่เรียงกันอยู่บนโต๊ะในห้องทำงานของพ่อ และลูกจะรู้ว่าทำไมพ่อถึงให้ลูกทำเช่นนี้"
สิ้นเสียงคำสั่งสอนของผู้เป็นพ่อ น้้ำตาของลูกผู้ชายก็ได้เริ่มไหลรินหลงเป็นทาง พร้อมกับโผเข้าไปกอดพ่อไว้อย่างแน่นหนาก่อนจะบอกว่า
"ครับพ่อ พอลสัญญาจะไม่ทำให้พ่อผิดหวัง" สิ้นเสียงคำสัญญาที่ผสานกับเสียงสะอื้นนั้นจบลง มือหนาข้างหนึ่งก็เข้ามาโอบไหล่พอลอย่างทะนุถนอมพร้อมกับกอดลูกชายของเขาไว้เนิ่นนานและไม่มีท่าทีว่าจะปล่อยได้เลย
6 ปีต่อมา
วันนี้เป็นวันที่พอลเรียนจบปริญญาโท แล้วพร้อมที่จะไปรับปริญญา เขารู้สึกดีใจที่เขาได้ทำให้พ่อภูมิใจและเขาไม่เคยทำให้พ่อผิดหวังแม้แต่ครั้งเดียว หลังจากที่งานเลิกแล้วเขาจึงตกลงใจที่จะนำรางวัลที่เขาได้ไปให้พ่อเขาดูอีกครั้งหนึ่งเพื่อแสดงให้เห็นว่าเขาไม่เคยพลาดรางวัลที่เขาได้รับเลยแม้แต่ปีเดียว เพราะแต่ละปีเขาจะได้รับเกียรติบัตรนักเรียนเรียนดีมาโดยตลอดตั้งแต่ประถมจนจบมัธยม ครั้งนี้ก็เช่นเดียวกันถึงจะเข้ามหาวิทยาลัยก็ไม่ยอมพลาดแม้แต่สักครั้ง
พอลได้ก้าวเท้าเข้ามายังบ้านหลังเก่าซึ่งเป็นบ้านที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความรักและความผูกพันธ์ระหว่างพ่อและพอล
"พ่อครับ พอลมาแล้วครับ วันนี้พอลมีรางวัลมาฝากพ่ออีกเหมือนเดิมครับ"
"......."
เงียบไม่มีเสียงตอบกลับมาเหมือนดั่งเช่นที่ผ่านมาตลอดอีกแล้ว
"พ่อ ครับ ได้ยินผมไหมครับ" คราวนี้น้ำเสียงของพอลเริ่มสั่นคลอนพร้อมกับน้ำใสๆที่ไหลลงมาโดยไม่ได้ตั้งใจ เขาพยายามแล้วพยายามเล่าที่จะเรียกชื่อบิดาของเขาให้มาชื่นชมรางวัลเขาที่ได้รับมาตลอดกว่า 10 ปีที่ผ่านมา เขาทำให้พ่อเขายิ้มได้มาตลอด เขาทำให้พ่อได้ภูมิใจกับสิ่งที่เขาตั้งใจทำให้พ่อ
เขาเดินเข้าไปในห้องๆหนึ่งซึ่งในห้องนั้นเป็นห้องทำงานของพ่อของเขาและในนั้นก็มีกรอบรูปที่แปลกๆใหม่ๆรูปร่างหลายหน้าตาวางเรียงกันอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย ภายในห้องนั้นไม่มีเอกสารหรืองานที่พ่อได้ทำไว้เลยแม้แต่ชิ้นเดียว มีแต่กรอบรูปมากมายก่ายกองที่ยังคงอยู่บนนั้น และมันจะยังคงอยู่บนนั้นตลอดไป
"พ่อครับ ขอบคุณครับที่คอยสั่งสอนผมมาตลอด คอยให้กำลังใจ คอยกอดผม คอยอยู่เคียงข้างผม ผมยังจำได้ครับไม่เคยลืม " เขาค่อยๆหลับตาลงพยายามนึกถึงสิ่งที่พ่อเคยบอกไว้และคอยสอนตั้งแต่เขายังเด็ก เขาค่อยๆทำใจกับการที่เขาได้สูญเสียความรักอันยิ่งใหญ่ไปในครั้งนี้
เขาเข้าใจแล้วว่าทำไมพ่อถึงให้เขานำผลงานที่ได้มาใส่ในกรอบรูปนั้นไว้เพราะพ่อต้องการให้เขารู้เสมอว่าไม่ว่าเขาจะทำอะไรอยู่ที่ไหน หรือเป็นอย่างไร เขาจะยังมีพ่อที่เปรียบเสมือนกรอบรูปที่คอยปกป้องซึ่งอันตรายอยู่ข้างๆ ไม่ว่าพ่อจะอยู่ที่แห่งหนใดในโลกใบนี้ ลูกก็จะขอรักพ่อ จะขอรักพ่อตลอดไป
กรอบรูปชิ้นนี้จะเป็นเสมือนความรักความคิดถึงที่พ่อมีต่อลูก และจะเป็นเช่นนี้ตลอดไป
"ลูกจะคิดถึงพ่อตลอดไป ลูกขอสัญญา!"
.....................................................
นี่ล่ะครับคือเรื่องราวของผมกับพ่อ ครั้งตั้งแต่ผมอายุยังน้อยๆ จนกระทั่งผมอายุ 34 ปีแล้ว ผมยังจำเรื่องราวในครั้งที่พ่อยังคอยพร่ำสอนผมได้ดี หลายๆท่านอาจสงสัยว่า ทำไมผมไม่ได้พูดเรื่องของ แม่ เลย ก็เพราะว่า แม่ของผมได้เสียไปนานแล้วตอน ผมอายุได้แค่ 2 เดือนเองครับ แต่ยังไงผมก็ยังรักและคิดถึงแม่ของผม ถึงแม้จะไม่ได้เจอหน้ากันเลย แต่ผมยังมีพ่อ พ่อผู้เป็นแรงบรรดาลใจให้กับผมครับ พ่อไม่มีสมบัติอะไรจะให้กับผม แต่พ่อมี
"กรอบรูป" ซึ่งเป็นสมบัติสุดท้ายที่ผมจะได้นั่นคือความรักความคิดถึงของพ่อที่ส่งทอดจากกรอบรูปนั้นมายังผม ซึ่งผมมองครั้งใด น้ำตาเป็นต้องไหลครั้งนั้นครับ กรอบรูปจะเป็นสมบัติชิ้นเดียวที่มีค่าที่สุดในโลกเวลาที่ผมได้มองกรอบรูปรู้สึกราวกับว่ามีพ่อที่กำลังมองมายังผมผ่านกรอบรูปด้วยเช่นกัน ซึ่งผมมองครั้งใดรู้สึกอบอุ่นอย่างบอกไม่ถูกจริงๆ............
-จบแล้วค่ะสำหรับเรื่องสั้นเนื่องในโอกาสจะถึงวันพ่อในปีนี้แล้ว
ก่อนอื่นก็ขอขอบคุณพี่เว็บมาสเตอร์มากเลยค่ะที่มีกิจกรรมดีๆ แบบนี้ ครีมอยากให้มีแบบนี้ตลอดไปเลยค่ะ ขอบคุณจริง
(ขออภัย หากเรื่องนี้ ซ้ำ หรือมีความคล้ายคลึงกับเรื่องสั้นของนักเขียนท่านอื่น และขออภัย หากเรื่องสั้นเรื่องนี้ ไม่ซาบซึ้ง ไม่กินใจ ไม่มีอรรถรส แต่ครีมก็ยังภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการแบ่งปันความคิดสร้างสรรค์นี้ และครีมก็ตั้งใจกละพยายามมากค่ะกับเรื่องสั้นเรื่องนี้ ครีมทำสุดความสามารถแล้ว และครีมก็ทำด้วยใจค่ะ ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาอ่านนะคะ) ^^
ท่านคือบุคคลที่เราเรียกท่านว่า "พ่อ" เมื่อเราได้ลืมตาดูโลก
ทำไมเราถึงเรียกท่านว่า "พ่อ" นั้นหรือ ? ก็เพราะ................
..................................................................................
สวัสดีครับท่านผู้อ่านทุกท่านก่อนอื่นเลยผมขออนุญาตแนะนำตัวเองก่อนเลยนะครับ ผมชื่อเล่นชื่อ พอล ครับ วันนี้ผมมีเรื่องราวที่แสนจะประทับใจเรื่องหนึ่งที่จะมาเล่าให้คุณผู้อ่านได้อ่านกันครับ เป็นเรื่องราวความรักที่ผมไม่สามารถลืมเลือนมันได้เลย ซึ่งเรื่องที่จะเล่าต่อไปนี้เป็นเรื่องราวความรักความผูกพันธ์ระหว่าง ผม และ ผู้ชายคนหนึ่งครับ..
30 ปีที่ผ่านมาผมยังจำเรื่องราวของผู้ชายคนหนึ่งได้ไม่เคยเปลี่ยนแปลง ผู้ชายคนนั้นเป็นผู้ชายคนแรกที่ทำให้ผมยืนหยัดที่จะต่อสู้กับโลกภายนอกได้เป็นอย่างดี เพราะอะไรน่ะหรือที่ผมต้องพูดสิ่งนี้ เพราะท่านได้เคยอาบน้ำร้อนมาก่อนผมครับ ท่านเป็นคนเดียวที่คอยบอกทุกสิ่งทุกอย่างและคอยชี้แนะแนวทาง สู้การเป็นคนดีในสังคม ท่านเป็นผู้ที่ทำให้ผมได้มีอนาคตที่ดีในวันนี้ ท่านคนนี้คือใครกัน ทุกคนจะได้ทราบกันเดี๋ยวนี้ครับ ............
20 ปีที่แล้ว ผมยังจำเรื่องราวครั้งนั้นได้ดี...
"ว่าไงลูก วันนี้เหนื่อยไหมกลับมาจากโรงเรียน?" เสียงของชายที่วัยย่างก้าวเข้าสู่ 30 ปลายๆที่ท่าทางดูใจหันมาถามเมื่อเห็นเด็กเล็กๆคนหนึ่งซึ่งตอนนี้กำลังวิ่งแจ้นเข้ามาหาเจ้าของปลายเสียงที่ถามขึ้นเมื่อครู่ พร้อมหยิบอะไรบางอย่างออกจากกระเป๋าขึ้นเพื่อยื่นให้พ่อดูอย่างรีบเร่ง
"สวัสดีครับ "พ่อ" ไม่เหนื่อยเลยครับ วันนี้คุณครูให้ผมระบายสีเกี่ยวกับครอบครัวของฉัน และผมก็วาดพ่อไว้ด้วยครับ" เด็กชายยื่นกระดาษสีขาวอ่อนให้กับผู้ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นพ่อดูอย่างภาคภูมิ ก่อนจะโผเข้าไปกอดพ่อด้วยความดีใจ
"โอ้โห สวยด้วย เก่งมากลูก แล้วได้คะแนนเท่าไหร่ล่ะ?" ผู้เป็นพ่อหันไปถามลูกชายบ้างหลังจากที่ได้ดูผลงานชิ้นล่าสุดที่ลูกชายวาดสุดฝีมือนั้นอยู่ในมือของตน
"ได้คะแนนเต็มครับ ครูบอกว่า ให้ผมนำกระดาษแผ่นนี้ไปให้พ่อหลังจากกลับบ้านไปแล้ว และให้พ่อเก็บไว้เป็นที่ระลึกไว้ดูต่างหน้าเมื่อผมโตขึ้นครับ"
เด็กชายรีบตอบอย่างฉะฉานชัดเจนพร้อมด้วยรอยยิ้มที่ผุดขึ้นที่ใบหน้านั้นอย่างสดใสเปรียบเสมือนกับว่าไม่เคยมีความทุกข์ใดได้เข้ามากล้ำกลายเลยในชีวิตน้อยๆของเด็กคนนี้
หลังจากที่ลูกของเขาได้พูดเสร็จ พ่อที่กำลังนั่งฟังคำตอบของลูกชายอยู่จึงลุกขึ้นไปยังห้องทำงานแล้วเดินไปหยิบกรอบรูปชิ้นหนึ่งที่วางอยู่บนโต๊ะแล้วจึงเดินออกมาหาลูกชายตัวน้อยๆที่ตอนนี้กำลังทำหน้าสงสัยเป็นที่สุด ก่อนที่ผู้เป็นพ่อจะคุกเข่าลงมาลูบหัวเด็กชายตัวน้อยๆแล้วพูดขึ้นว่า
"ลูกเก็บกระดาษผลงานของลูกไว้ในกรอบรูปนี้นะ ทุกปี หรือทุกเดือนถ้าลูกได้มีผลงานให้นำมาเก็บไว้ในนี้นะ จำคำที่พ่อพูดในวันนี้ให้ดี ลูกจะได้คิดถึงพ่อเมื่อหยิบมันขึ้นมาดู กรอบรูปจะเป็นตัวแทนของพ่อที่เป็นเหมือนกำลังใจสำคัญให้ลูกยืนหยัดและใช้ชีวิตอย่างมีความสุขในอนาคตได้ จำคำนี้ไว้นะลูก"
"ครับพ่อ ผมจะจำคำพูดของพ่อ" เด็กน้อยรีบรับปากอย่างใสซื่อถึงแม้จะไม่ค่อยเข้าใจในสิ่งพ่อพูดมา แต่ก็รับปาก โดยไม่มีข้อโต้แย้งใดๆ ออกจากปากเด็กชายตัวเล็กๆที่ยังไร้เดียงสาอยู่
ผู้เป็นพ่อพอกล่าวเสร็จจึงรีบเข้าไปกอดลูกถึงแม้เขาจะรู้ว่าเด็กในวัยแค่นี้จะยังไม่สามารถเข้าใจทุกความคิดและคำพูดของผู้ใหญ่ได้ แต่เชื่อว่าในอนาคตเขาจะต้องรับรู้ในสิ่งที่พ่อบอกในวันนี้ได้อย่างแน่นอน..
5 ปีต่อมา .
"พ่อครับผมได้เกรด A มาทุกวิชาเลยครับ" จากเด็กชายตัวน้อยๆบัดนี้ได้เริ่มย่างก้าวเข้าสู้วัยรุ่นอย่างเต็มที่แล้ว ที่กำลังรีบนำผลการสอบเทอมสุดท้ายออกมาจากกระเป๋าเพื่อยื่นให้พ่อดูอีกครั้งหลังจากเมื่อเขาได้เคยให้พ่อดูผลงานของตนเองเมื่อ 5 ปีที่แล้ว
ผู้เป็นพ่อยิ้มอย่างภาคภูมิใจให้กับลูกชายของเขาคนนี้ก่อนที่จะรับใบผลการสอบมาดูให้เห็นกับตาตนเอง และก็เป็นดั่งที่ลูกชายของเขาได้พูดไว้ตั้งแต่ต้นว่าเขาสามารถทำคะแนนทุกวิชาได้เกรด A ตลอดตั้งแต่เขาอยู่ประถมปลาย ยันถึงมัธยม เด็กตัวน้อยคนนี้ไม่เคยทำให้พ่อของเขาผิดหวังเลยแม้แต่นิดเดียว และเขาก็ยังสามารถจำคำสอนในครั้งนั้นของพ่อเขาได้ด้วย เขาไม่รอช้ารีบเดินไปหยิบกรอบรูปชิ้นใหม่มาแล้วรีบนำใบผลการสอบสอดลงไปอย่างช้าๆ และเก็บไปรวมกับกรอบรูปผลงานเก่าของเขาตั้งแต่เขายังอายุน้อย
"ดีมากลูก นับวันพ่อก็ยิ่งแก่ลงทุกทีแล้ว ไม่รู้ว่าพ่อจะได้อยู่กับลูกได้อีกนานแค่ไหนแต่พ่ออยากให้รู้ว่า ณ ขณะนี้ที่พ่อยังมีลมหายใจ พ่อจะอยู่เคียงข้างลูกเสมอ และวันใดที่ลูกคิดถึงพ่อให้ลูกกลับย้อนไปมองกรอบลูกที่เรียงกันอยู่บนโต๊ะในห้องทำงานของพ่อ และลูกจะรู้ว่าทำไมพ่อถึงให้ลูกทำเช่นนี้"
สิ้นเสียงคำสั่งสอนของผู้เป็นพ่อ น้้ำตาของลูกผู้ชายก็ได้เริ่มไหลรินหลงเป็นทาง พร้อมกับโผเข้าไปกอดพ่อไว้อย่างแน่นหนาก่อนจะบอกว่า
"ครับพ่อ พอลสัญญาจะไม่ทำให้พ่อผิดหวัง" สิ้นเสียงคำสัญญาที่ผสานกับเสียงสะอื้นนั้นจบลง มือหนาข้างหนึ่งก็เข้ามาโอบไหล่พอลอย่างทะนุถนอมพร้อมกับกอดลูกชายของเขาไว้เนิ่นนานและไม่มีท่าทีว่าจะปล่อยได้เลย
6 ปีต่อมา
วันนี้เป็นวันที่พอลเรียนจบปริญญาโท แล้วพร้อมที่จะไปรับปริญญา เขารู้สึกดีใจที่เขาได้ทำให้พ่อภูมิใจและเขาไม่เคยทำให้พ่อผิดหวังแม้แต่ครั้งเดียว หลังจากที่งานเลิกแล้วเขาจึงตกลงใจที่จะนำรางวัลที่เขาได้ไปให้พ่อเขาดูอีกครั้งหนึ่งเพื่อแสดงให้เห็นว่าเขาไม่เคยพลาดรางวัลที่เขาได้รับเลยแม้แต่ปีเดียว เพราะแต่ละปีเขาจะได้รับเกียรติบัตรนักเรียนเรียนดีมาโดยตลอดตั้งแต่ประถมจนจบมัธยม ครั้งนี้ก็เช่นเดียวกันถึงจะเข้ามหาวิทยาลัยก็ไม่ยอมพลาดแม้แต่สักครั้ง
พอลได้ก้าวเท้าเข้ามายังบ้านหลังเก่าซึ่งเป็นบ้านที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความรักและความผูกพันธ์ระหว่างพ่อและพอล
"พ่อครับ พอลมาแล้วครับ วันนี้พอลมีรางวัลมาฝากพ่ออีกเหมือนเดิมครับ"
"......."
เงียบไม่มีเสียงตอบกลับมาเหมือนดั่งเช่นที่ผ่านมาตลอดอีกแล้ว
"พ่อ ครับ ได้ยินผมไหมครับ" คราวนี้น้ำเสียงของพอลเริ่มสั่นคลอนพร้อมกับน้ำใสๆที่ไหลลงมาโดยไม่ได้ตั้งใจ เขาพยายามแล้วพยายามเล่าที่จะเรียกชื่อบิดาของเขาให้มาชื่นชมรางวัลเขาที่ได้รับมาตลอดกว่า 10 ปีที่ผ่านมา เขาทำให้พ่อเขายิ้มได้มาตลอด เขาทำให้พ่อได้ภูมิใจกับสิ่งที่เขาตั้งใจทำให้พ่อ
เขาเดินเข้าไปในห้องๆหนึ่งซึ่งในห้องนั้นเป็นห้องทำงานของพ่อของเขาและในนั้นก็มีกรอบรูปที่แปลกๆใหม่ๆรูปร่างหลายหน้าตาวางเรียงกันอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย ภายในห้องนั้นไม่มีเอกสารหรืองานที่พ่อได้ทำไว้เลยแม้แต่ชิ้นเดียว มีแต่กรอบรูปมากมายก่ายกองที่ยังคงอยู่บนนั้น และมันจะยังคงอยู่บนนั้นตลอดไป
"พ่อครับ ขอบคุณครับที่คอยสั่งสอนผมมาตลอด คอยให้กำลังใจ คอยกอดผม คอยอยู่เคียงข้างผม ผมยังจำได้ครับไม่เคยลืม " เขาค่อยๆหลับตาลงพยายามนึกถึงสิ่งที่พ่อเคยบอกไว้และคอยสอนตั้งแต่เขายังเด็ก เขาค่อยๆทำใจกับการที่เขาได้สูญเสียความรักอันยิ่งใหญ่ไปในครั้งนี้
เขาเข้าใจแล้วว่าทำไมพ่อถึงให้เขานำผลงานที่ได้มาใส่ในกรอบรูปนั้นไว้เพราะพ่อต้องการให้เขารู้เสมอว่าไม่ว่าเขาจะทำอะไรอยู่ที่ไหน หรือเป็นอย่างไร เขาจะยังมีพ่อที่เปรียบเสมือนกรอบรูปที่คอยปกป้องซึ่งอันตรายอยู่ข้างๆ ไม่ว่าพ่อจะอยู่ที่แห่งหนใดในโลกใบนี้ ลูกก็จะขอรักพ่อ จะขอรักพ่อตลอดไป
กรอบรูปชิ้นนี้จะเป็นเสมือนความรักความคิดถึงที่พ่อมีต่อลูก และจะเป็นเช่นนี้ตลอดไป
"ลูกจะคิดถึงพ่อตลอดไป ลูกขอสัญญา!"
.....................................................
นี่ล่ะครับคือเรื่องราวของผมกับพ่อ ครั้งตั้งแต่ผมอายุยังน้อยๆ จนกระทั่งผมอายุ 34 ปีแล้ว ผมยังจำเรื่องราวในครั้งที่พ่อยังคอยพร่ำสอนผมได้ดี หลายๆท่านอาจสงสัยว่า ทำไมผมไม่ได้พูดเรื่องของ แม่ เลย ก็เพราะว่า แม่ของผมได้เสียไปนานแล้วตอน ผมอายุได้แค่ 2 เดือนเองครับ แต่ยังไงผมก็ยังรักและคิดถึงแม่ของผม ถึงแม้จะไม่ได้เจอหน้ากันเลย แต่ผมยังมีพ่อ พ่อผู้เป็นแรงบรรดาลใจให้กับผมครับ พ่อไม่มีสมบัติอะไรจะให้กับผม แต่พ่อมี
"กรอบรูป" ซึ่งเป็นสมบัติสุดท้ายที่ผมจะได้นั่นคือความรักความคิดถึงของพ่อที่ส่งทอดจากกรอบรูปนั้นมายังผม ซึ่งผมมองครั้งใด น้ำตาเป็นต้องไหลครั้งนั้นครับ กรอบรูปจะเป็นสมบัติชิ้นเดียวที่มีค่าที่สุดในโลกเวลาที่ผมได้มองกรอบรูปรู้สึกราวกับว่ามีพ่อที่กำลังมองมายังผมผ่านกรอบรูปด้วยเช่นกัน ซึ่งผมมองครั้งใดรู้สึกอบอุ่นอย่างบอกไม่ถูกจริงๆ............
-จบแล้วค่ะสำหรับเรื่องสั้นเนื่องในโอกาสจะถึงวันพ่อในปีนี้แล้ว
ก่อนอื่นก็ขอขอบคุณพี่เว็บมาสเตอร์มากเลยค่ะที่มีกิจกรรมดีๆ แบบนี้ ครีมอยากให้มีแบบนี้ตลอดไปเลยค่ะ ขอบคุณจริง
(ขออภัย หากเรื่องนี้ ซ้ำ หรือมีความคล้ายคลึงกับเรื่องสั้นของนักเขียนท่านอื่น และขออภัย หากเรื่องสั้นเรื่องนี้ ไม่ซาบซึ้ง ไม่กินใจ ไม่มีอรรถรส แต่ครีมก็ยังภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการแบ่งปันความคิดสร้างสรรค์นี้ และครีมก็ตั้งใจกละพยายามมากค่ะกับเรื่องสั้นเรื่องนี้ ครีมทำสุดความสามารถแล้ว และครีมก็ทำด้วยใจค่ะ ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาอ่านนะคะ) ^^
คำยืนยันของเจ้าของเรื่องสั้น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
7.3 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8.1 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
7.7 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ