เรื่องเล่า ทุกวันที่ 16
10.0
เขียนโดย กุหลาบราตรี
วันที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2556 เวลา 16.48 น.
4 part
4 วิจารณ์
9,120 อ่าน
แก้ไขเมื่อ 2 มกราคม พ.ศ. 2557 17.35 น. โดย เจ้าของเรื่องสั้น
1) สาวออฟฟิศ
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ วิสา สาวออฟฟิศหน้าตาดีมีฐานนะชาติตระกูลดีแต่ในส่วนลึกของจิตใจนั้นไม่มีใครหยั่งถึงได้และเรื่องของผู้หญิงคนนี้คือเรื่องที่ฉันอยากเล่าให้ฟังเริ่มต้นที่วันที่สิบห้าเธอมีเพื่อนอยู่สองสามคนในกลุ่มนี้ต้องมีเรื่องเล่ากันทุกวันที่สิบหกและเธอก็ยังไม่มีเรื่องอะไรจะเล่าซะด้วย
กติกาในการเล่าเรื่องมีอยู่ว่าต้องเป็นเรื่องนากลัวน่าขนลุกเท่านั้นถ้าใครไม่มีเรื่องเล่าไม่ต้องมาร่วมวงในวันที่สิบหกเป็นเหตุให้เธอต้องหาเรื่องเล่าไปเล่าให้เพื่อนฟังจนได้
"ที่นั่นมันเฮี้ยนจริงๆนะฉันได้ข่าวว่ามีเสียงกรีดร้องดังทุกคืนโดยเฉพาะคืนนี้นี่แหละ"เสียงนั้นทำให้วิสาตาวาวทันทีเพราะเธอมีเรื่องเล่าแล้ว
"ที่นั่นที่ไหนเหรอ"
"บ้านร้างในหมู่บ้านเธอนั่นแหละได้ข่าวว่าอยู่ที่ซอยห้านะจะไปดูก็รีบไปก่อนตะวันตกดินนะยิ่งคืนวันที่สิบห้าด้วยเฮี้ยนยิ่งกว่าเฮี้ยนซะอีก"วิสาไม่ฟังคำเตือนของเพื่อนเลยแม้แต่น้อย
หลังเลิกงานเธอรีบไปที่บ้านร้างนั่นทันทีดูภายนอกก็เหมือนบ้านร้างธรรมดาไม่มีอะไรแปลกใหม่เธอค่อยๆ เดินเข้าไปในบ้านทีละก้าวด้วยความคิดที่ว่าอยากมีเรื่องไปเล่าให้เพื่อนฟังหารู้ไม่ว่าในนั้นมีใครคนหนึ่งนั่งไร้ลมหายใจในนั้นแล้ว บ้างก็นอนบ้างก็ยืนเป็นแถวเต็มไปหมด
วิสาเดินเข้ามาจนถึงทางขึ้นบันไดที่สูงมากๆน่าแปลกใจจริงดูภายนอกบ้านนี้ก็ไม่ค่อยสูงสักเท่าไหร่หรือว่าจะเป็นห้องลับจะมีสมบัติหรือว่าจะขึ้นไปเจอยักษ์กันนะความคิดของเธอไม่มีความเกรงกลัวเลยแม้แต่น้อยไม่น่าแปลกเพราะสถานที่แบบนี้ชวนให้นึกถึงสมบัติจริงๆอาจจะมีซ่อนไว้ที่ไหนสักแห่ง
เธอเดินขึ้นบันไดแล้วเจอกับทางแยกหลายทางทางหนึ่งมีป้ายบอกทางไปห้องน้ำ ห้องสมุด ห้องนอน ป้ายทางขวาบอกทางไปห้องน้ำห้องแต่งตัว ห้องกินข้าว ห้องเก็บเพชรและที่ห้องเก็บเพชรนี่แหละที่ทำให้วิสาถึงกับไม่อ่านป้ายอื่นเลยเธอเดินตรงไปที่ห้องเก็บเพชรอย่างไม่คิดอะไร
"มาอีกแล้ว มาอีกแล้ว" เสียงเด็กน้อยที่นั่งเล่นอยู่ในนั้นพูดอย่างมีความสุข "คิดถูกจริงๆ ที่มารออยู่ในห้องนี้"
วิสาคิดว่าคงเป็นเด็กที่หลงเข้ามาโดยไม่ทันสังเกตเลยว่าเด็กคนนั้นมีเลือดไหลออกมาทีละน้อยด้วยความโลภทำให้วิสารีบหาที่ซ่อนเพชรโดยไม่รู้เลยว่าเวลาผ่านมาเกือบจะถึงเที่ยงคืนแล้วอาจเป็นเพราะว่าในบ้านนี้สว่างไปทั่วบ้าน
"หนูจ๊ะรู้ที่ซ่อนเพชรหรือเปล่า"
"รู้ รู้ ตามหนูมาสิ"วิสาเดินตามเด็กคนนั้นไปทันทีโดยไม่ทันสังเกตป้ายบอกทางเลยว่าเขียนไว้ตัวใหญ่ด้วยเลือดว่า 'ทางตาย'
ด้วยความโลภทำให้วิสาเดินตามเด็กไปในทางมืดที่มองไม่เห็นอะไรจนกระทั่งเห็นแสงระยิบระยับเธอรีบวิ่งเข้าไปทันทีด้วยความคิดว่าสิ่งนั้นคือเพชรมีค่าที่ตามหา
"กรี๊ดดดดดด" เสียงกรีดร้องค่อยๆหายไปสู่เหวลึกทีละน้อยได้ยินเพียงเสียงเด็กสาวที่หัวเราะชอบใจเหมือนว่าตัวเองเป็นผู้ชนะ
"เพชรคืออะไร" เด็กสาวคนนั้นพูดอย่างไม่เข้าใจและเดินกลับไปทางเดิมอย่างสนุกสนานเธอคงคิดว่าเพื่อนของเธอคงหนีกลับบ้านไปเหมือนเพื่อนคนอื่นๆ ที่เคยมาที่นี่
แสงระยิบระยับที่เห็นนั้นเป็นเพียงแค่ลูกแก้วธรรมดาสะท้อนกับแสงไฟฉายเล็กๆก่อนจะเดินไปถึงก็มีทางบันไดกลับไปชั้นล่างแต่ด้วยความโลภนั้นทำให้วิสารีบวิ่งเข้าไปดูโดยไม่ทันระวังตัวทำให้ตกบันไดตายทับศพอีกหลายศพที่กองรวมกันจนเกือบจะกลายเป็นสุสานอยู่แล้ว
ในวันที่สิบหกเพื่อนของวิสาต่างเล่าเรื่องของตัวเองให้ฟังมีเพียงวิสาคนเดียวที่ไม่ได้ไปเล่าเรื่องของตัวเองให้เพื่อนฟังก่อนหมดลมหายใจ
เรื่องสั้นนี้แต่งขึ้นเพื่อความบันเทิงคนและสถานที่ที่กล่าวมาไม่มีอยู่จริง
กติกาในการเล่าเรื่องมีอยู่ว่าต้องเป็นเรื่องนากลัวน่าขนลุกเท่านั้นถ้าใครไม่มีเรื่องเล่าไม่ต้องมาร่วมวงในวันที่สิบหกเป็นเหตุให้เธอต้องหาเรื่องเล่าไปเล่าให้เพื่อนฟังจนได้
"ที่นั่นมันเฮี้ยนจริงๆนะฉันได้ข่าวว่ามีเสียงกรีดร้องดังทุกคืนโดยเฉพาะคืนนี้นี่แหละ"เสียงนั้นทำให้วิสาตาวาวทันทีเพราะเธอมีเรื่องเล่าแล้ว
"ที่นั่นที่ไหนเหรอ"
"บ้านร้างในหมู่บ้านเธอนั่นแหละได้ข่าวว่าอยู่ที่ซอยห้านะจะไปดูก็รีบไปก่อนตะวันตกดินนะยิ่งคืนวันที่สิบห้าด้วยเฮี้ยนยิ่งกว่าเฮี้ยนซะอีก"วิสาไม่ฟังคำเตือนของเพื่อนเลยแม้แต่น้อย
หลังเลิกงานเธอรีบไปที่บ้านร้างนั่นทันทีดูภายนอกก็เหมือนบ้านร้างธรรมดาไม่มีอะไรแปลกใหม่เธอค่อยๆ เดินเข้าไปในบ้านทีละก้าวด้วยความคิดที่ว่าอยากมีเรื่องไปเล่าให้เพื่อนฟังหารู้ไม่ว่าในนั้นมีใครคนหนึ่งนั่งไร้ลมหายใจในนั้นแล้ว บ้างก็นอนบ้างก็ยืนเป็นแถวเต็มไปหมด
วิสาเดินเข้ามาจนถึงทางขึ้นบันไดที่สูงมากๆน่าแปลกใจจริงดูภายนอกบ้านนี้ก็ไม่ค่อยสูงสักเท่าไหร่หรือว่าจะเป็นห้องลับจะมีสมบัติหรือว่าจะขึ้นไปเจอยักษ์กันนะความคิดของเธอไม่มีความเกรงกลัวเลยแม้แต่น้อยไม่น่าแปลกเพราะสถานที่แบบนี้ชวนให้นึกถึงสมบัติจริงๆอาจจะมีซ่อนไว้ที่ไหนสักแห่ง
เธอเดินขึ้นบันไดแล้วเจอกับทางแยกหลายทางทางหนึ่งมีป้ายบอกทางไปห้องน้ำ ห้องสมุด ห้องนอน ป้ายทางขวาบอกทางไปห้องน้ำห้องแต่งตัว ห้องกินข้าว ห้องเก็บเพชรและที่ห้องเก็บเพชรนี่แหละที่ทำให้วิสาถึงกับไม่อ่านป้ายอื่นเลยเธอเดินตรงไปที่ห้องเก็บเพชรอย่างไม่คิดอะไร
"มาอีกแล้ว มาอีกแล้ว" เสียงเด็กน้อยที่นั่งเล่นอยู่ในนั้นพูดอย่างมีความสุข "คิดถูกจริงๆ ที่มารออยู่ในห้องนี้"
วิสาคิดว่าคงเป็นเด็กที่หลงเข้ามาโดยไม่ทันสังเกตเลยว่าเด็กคนนั้นมีเลือดไหลออกมาทีละน้อยด้วยความโลภทำให้วิสารีบหาที่ซ่อนเพชรโดยไม่รู้เลยว่าเวลาผ่านมาเกือบจะถึงเที่ยงคืนแล้วอาจเป็นเพราะว่าในบ้านนี้สว่างไปทั่วบ้าน
"หนูจ๊ะรู้ที่ซ่อนเพชรหรือเปล่า"
"รู้ รู้ ตามหนูมาสิ"วิสาเดินตามเด็กคนนั้นไปทันทีโดยไม่ทันสังเกตป้ายบอกทางเลยว่าเขียนไว้ตัวใหญ่ด้วยเลือดว่า 'ทางตาย'
ด้วยความโลภทำให้วิสาเดินตามเด็กไปในทางมืดที่มองไม่เห็นอะไรจนกระทั่งเห็นแสงระยิบระยับเธอรีบวิ่งเข้าไปทันทีด้วยความคิดว่าสิ่งนั้นคือเพชรมีค่าที่ตามหา
"กรี๊ดดดดดด" เสียงกรีดร้องค่อยๆหายไปสู่เหวลึกทีละน้อยได้ยินเพียงเสียงเด็กสาวที่หัวเราะชอบใจเหมือนว่าตัวเองเป็นผู้ชนะ
"เพชรคืออะไร" เด็กสาวคนนั้นพูดอย่างไม่เข้าใจและเดินกลับไปทางเดิมอย่างสนุกสนานเธอคงคิดว่าเพื่อนของเธอคงหนีกลับบ้านไปเหมือนเพื่อนคนอื่นๆ ที่เคยมาที่นี่
แสงระยิบระยับที่เห็นนั้นเป็นเพียงแค่ลูกแก้วธรรมดาสะท้อนกับแสงไฟฉายเล็กๆก่อนจะเดินไปถึงก็มีทางบันไดกลับไปชั้นล่างแต่ด้วยความโลภนั้นทำให้วิสารีบวิ่งเข้าไปดูโดยไม่ทันระวังตัวทำให้ตกบันไดตายทับศพอีกหลายศพที่กองรวมกันจนเกือบจะกลายเป็นสุสานอยู่แล้ว
ในวันที่สิบหกเพื่อนของวิสาต่างเล่าเรื่องของตัวเองให้ฟังมีเพียงวิสาคนเดียวที่ไม่ได้ไปเล่าเรื่องของตัวเองให้เพื่อนฟังก่อนหมดลมหายใจ
เรื่องสั้นนี้แต่งขึ้นเพื่อความบันเทิงคนและสถานที่ที่กล่าวมาไม่มีอยู่จริง
คำยืนยันของเจ้าของเรื่องสั้น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
10 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ