อาคาซาวะ ริวคุง กับ ยัยส์โหดจอมป่วน

-

เขียนโดย PATTER

วันที่ 22 กันยายน พ.ศ. 2556 เวลา 15.32 น.

  1 ตอน
  0 วิจารณ์
  3,835 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 22 กันยายน พ.ศ. 2556 15.45 น. โดย เจ้าของเรื่องสั้น

แชร์เรื่องสั้น Share Share Share

 

1) จุดเริ่มต้นและจุดจบ

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

ตอนนี้ผมอยู่ที่หน้าห้องบีเป็นห้องของผู้รับสาร และตอนนี้เธอก็อยู่ตรงหน้าผมแล้ว 

"ฉันมิซาโอะค่ะ"

"ครับ  ผมริวคุง  เอาล่ะครับ รับฟังสารจากผู้ถ่ายทอดกันนะครับ  เนื่องในโอกาสที่วันนี้เป็นวันเกิดของคุณผมเลยขออวยพรให้คุณมีความสุขมากๆนะครับ  จากคัตสึ"

และนั่นก็คืองานแรกของผมครับ  มันเป็นงานที่ง่ายแสนง่ายสำหรับคนอื่น แต่ว่าสำหรับผมแล้วล่ะก็...มันเป็นที่ต้องใช้ศิลปะขั้นสูงในการถ่ายทอดอารมณ์ต่างๆให้ถูกต้องสมบูรณ์ไม่บิดพลิ้ว เพราะถ้าพลาดขึ้นมาผู้รับสารจะเข้าใจเจตนาของผู้ถ่ายทอดผิด นี่ไงงานที่ว่ายากของผม  แต่ยังไงก็รักมันนะ ผมเป็นเหมือนกามเทพเลยแฮะ

ฮั่นแน่!!สงสัยกันละสิครับ ว่าทำไมต้องแฝงตัวอยู่ที่นี่ให้มันยุ่งยากด้วย ก็เพราะว่าเรายังต้องสังเกตการต่อไปเรื่อยไงครับ ถ้าความรักของผู้ถ่ายทอดกับผู้รับสารยังคงเป็นไปได้ด้วยดี ค่าเครดิตเลิฟของผมก็จะสูงไปด้วย ค่าเครดิตนี้มีไว้แสดงถึงค่านิยมในตัวของผมด้วย (เกี่ยวไรด้วยอ่ะ)ง่ายๆครับ ก็พวกเค้าวางใจให้เราช่วยในความรักของพวกเค้าไงละครับ เพราะฉะนั้นก็ต้องเก็บเครดิตกันนิดนึง

“ขอบคุณนายมากเลยนะ”

“มันเป็นหน้าที่ของผมอยู่แล้วล่ะ”

“แล้วนี่ไม่เข้าเรียนหรอ”

“ฮะ...ขอบใจที่เตือนนะ ขอตัวล่ะ” เวรแล้วไง เช้าสายแน่ๆ

แอ๋ดดดด!!!!!

“ขออนุญาตครับมาสเซอร์”

“ไปไหนมา’อาคาซาวะ’ ”

“เอิ่ม...ธุระส่วนตัวครับ ขอตัวนะครับ” อ้าวนั่น!!ใครมันมานั่งที่นั่งข้างผมเนี่ย ตอนแรกมันยังว่างอยู่เลยอ่ะ พอผมนั่งลงเธอก็หันมามองผมนิดนึง แล้วก็หันกลับไป  อะไรวะ!!!

ปึ้ง!!

ผมวางหนังสือกระแทกกับโต๊ะ จนทุกคนหันมามอง แล้วไงล่ะ! ใครแคร์วะ (ไอ้นี่มันเริ่มพาลแระ)

“เฮ้ย!มึงอ่ะ ชื่อไรวะ” ชายคนนึงจาก5คน ทักผม บระเจ้า ไอ้เราก็พึ่งสังเกตนะว่ามันก็มีคนหล่ออีก5คน ไม่ใช่แต่พวกเนิรด์ทั้งหลาย ผู้หญิงก็...ไม่ออกความคิดเห็นแล้วกัน

“ริวคุง มึงอ่ะ”แบบนี่แหละ เข้ากันได้

“กู ซัน ส่วนไอ้ผมทองนั่น คิน แล้วไอ้ที่มันใส่ต่างหูรูปไม้กางเขนนั่นก็ เอ็ม คนที่ห้อยสร้อยกางเขนนั่น ต๋อง คนสุดท้าย ไอ้ตัวเล็กนั่น ปิงปอง” ไอ้ซันมันหัวแดง ย้ำนะ! ว่าหัวแดง เอิ่ม มึงชั่งกล้า ได้ข่าวว่า...นายจะสีฟ้าเลยนะ) อมน้ำเงินด้วยยัยส์โหด (กลัวมั๊ยล่ะ) ไม่!!! (โอเค!!!เอาละค่ะ ต่อไปนี้นะคะ ริวคุงของเจะเป็นเกย์แล้วค่ะ) 

อ้ากกกก!!!! บ้าเรอะ ฮิ่ย!! หงุดหงิดเว้ย

“เออ ยินดีที่ได้รู้จักเว้ย”

“ริวกูเตือนไว้ก่อนนะว่าอย่าแตกออกจากกลุ่มเป็นอันขาด ชะนีมันเยอะ เดี๋ยวมึงจะโดนฉุด”

ไอ้ปิงปองมันเตือนผมครับ

“นี่อย่าคุยได้ป่าววะ ลำคาญฉันฟังมาสเซอร์ไม่รู้เรื่อง”โห!ประโยคแรกที่เธอพูดกับผมล่ะ

“ไม่ได้ มีไรป่ะ”

“ว่าไงนะ”

“หูตึงรึไง โดนแน่”

“โดนไรหรอ แค่ก...ปะ...ปล่อยนะเฟ้ย....แค่ก...อ่อก...หะ...หายใจ...มะ...ไม่...ออก”

“เฮ้ย!!!!!เจ้พอตพอเถอะ เดี๋ยวมันตาย”

“แค่ก...แค่ก”

“มานี่เลย ริวคุง”หลังจากที่ผมเกือบตายก็โดนพวกเพื่อนลากมาที่ห้องน้ำจนได้

“กูขอเตือนนะ อย่ากวนเจ้แกให้มาก เดี๋ยวตาย!” อะไรของมันวะ  ไอ้ซันเนี่ย

“ทำไมวะ  ก็แค่ผู้หญิง แถมยังตัวเตี้ยกว่าฉันอีก อยู่แค่ไหล่ฉันเองนะเว้ย”

“เห้อ!นั่นสารวัตรนักเรียนเลยนะเว้ย อีกอย่างคนโปรดของผ.อ.ด้วย”

“แถมยังช่วยงานโรงเรียนก็เยอะนะเว้ย  ไอ้พวกเด็กเลวๆทั้งหลาย เจ้แกปราบหมดแระ” ผมค่อนข้างที่จะไม่เข้าใจไอ้คินมันเลยนะ

“ตัวก็เท่านั้น จะทำไรได้”

“เห้อ!!เจ้แกแผนสูง พวกเราโดนมาหมดแล้ว แกอยู่ไปเดี๋ยวก็รู้ริว พวกฉันถือว่าเตือนแกแล้วนะ” ตบท้ายด้วยปิงปอง เอิ่ม...บางทีผมก็สงสัยนะ ว่าเอ็มมันเป็นไบ้หรือปล่าว

“เอ่อ...เอ็มแกพูดไม่ได้ หรอวะ”

“ฉันก็แค่ไม่อยากคุย  ถ้าแกอยากคุยล่ะก็มาคุยกับรองเท้าฉันนี่มะ” โอ้ว! ไม่ขอเสี่ยง ล่ะ ดูจากหุ่นแล้วไม่ไหว เดี๋ยวตาย (ที่นี้ล่ะกลัวตาย)

“ไปเถอะ”

ตอนนี้พักเที่ยงล่ะ แต่เหมือนกับจะไม่ได้พักแฮะ  ก็ครู(ครูผู้หญิง)สั่งให้คัดภาษาจีน4จบ

“เอ่อ เจ้เสร็จแล้ว ไปกินข้าวก่อนก็ได้”

“ไม่อ่ะ ไม่อยากไปกินคนเดียว โห!  มันชินแล้วอ่ะ ถ้าไม่มีพวกแกนะ ฉันเบื่ออ่ะ”

“งั้นก็มาช่วยทำซะสิ”

“ไอ้ริว!!!!!” เฮ้ยไรอ่ะ  ผมพูดไรผิดอ่ะ

“ก็ได้ เอาของพวกนายมาให้หมดเลย 25 จบสินะ”

“เอ่อ ของฉันไม่ต้องนะ”

“ทำไมล่ะซัน”

“เอาเถอะ แค่นี้ก็เยอะแล้ว”

10นาทีผ่านไป ไอ้ผมก็นั่งชิวๆไปรอเวลาไปกินข้าว

“ไปกันเถอะ เสร็จแล้ว”

“หะ...เร็วจัง” เป็นไปได้หรอวะ ไอ้ซันหันมากระซิบกับผมว่า...

“เจ้แกเซียนแล้วเว้ยเรื่องนี้อ่ะ”

 

แล้วชีวิตในการแฝงตัวของผมก็ผ่านไป4ปี มีหลายอย่างที่เปลี่ยนไป อย่างเช่น ผมรู้ถึงฤทธิ์ของเจ้แกแระ แสบชะมัด  อีกเรื่องที่เปลี่ยนไปก็คือ ไอ้ซันมันเป็นแฟนกับเจ้ไปแล้ว

“ไงเจ้ ซันมันดูแลดีมากเลยอ่ะดิ”

“ก็ปกตินี่ มีอะไรหรือปล่าวริว”อ๋อ ท่าทางตอนที่ยังเป็นเพื่อนกันอยู่ คงจะดูแลกันดีอยู่แล้วสินะ ถึงได้รู้สึกว่ามีอะไรพิเศษเลยนะ

“ก็...ฉันแค่สงสัยนะ คนเป็นแฟนกัน มันก็น่าจะมีอะไรพิเศษบ้างสิ”

“เดี๋ยวนะ ใครแฟนใคร” อะไรเนี่ย เรื่องนี้ชักแปลกๆแล้วนะ

“ก็เจ้ กับไอ้ซันไง”

“ใครบอกนาย”เอาแล้วไง

“ก็ไอ้ซันอ่ะ”

“ฮิ่ย!!”อ้าว  ตรูพูดไรผิดฟระเนี่ย แล้วเดินหนีไปแบบนี้แล้วจะรู้เรื่องมั๊ยเนี่ย  เอาว่ะ ไปถามไอ้ซันมันตรงๆก็ได้

 

ออดดดดดดดดดดด!!!!!

“หมดเวลาซักที  เฮ้ย! พวกเราไปไหนกันต่อดีวะ”ไอ้คินถามผม แต่ยังไงๆถ้าเรื่องยังไม่เคลียล่ะก็ คงได้หมดสนุกกันละทีนี้

“ใครจะไปไหนก็ชั่งเหอะ แต่แกซัน มาคุยกับกูให้รู้เรื่อง”

“เฮ้ย!!!จะลากกูไปไหน ปล่อยกู!!!!!!!!!!!!!!” ผมลาก...ลาก...ลาก แล้วก็ลากมันไปที่หลังตึก แล้วก็ผลักมันให้นั่งบนม้านั่ง ก่อนจะเริ่มคุยกันต่อ

“ตกลงที่แกลากฉันมาเนี่ย มีอะไร?”

“ตกลงว่าแกกับพอตเป็นอะไรกัน??”

“แกถามทำไมวะ ฉันก็เคยบอกแกไปแล้วนี่”

“งั้นหรอ หึ! แปปนะ”ในเมื่อถามกันดีๆแบบนี้ แล้วคำตอบยังเป็นแบบนี้อยู่คงต้องทำให้มันพูดออกมาแล้วล่ะ

“นั่นแกจะทำอะไรวะ” แทนที่ผมจะตอบ ผมให้เสี่ยงของเจ้แกตอบ ถูกต้องผมโทรหาเธอ

(โทรมามีอะไรริว)

“ฉันอยากจะถามนะ ว่าตกลงแล้วเธอกับซันเป็นอะไรกัน”ตอนนี้ซันถึงกับหน้าซีดเลยล่ะ

(ฉันก็เคยบอกไปแล้วนะ งั้นฉันบอกใหม่ก็ได้ นายจะได้เลิกสงสัยซะที ฉันกับซันนะเป็นได้แค่เพื่อนสนิทกันเท่านั้นแหละ)

“...”

(เฮ้!!นี่นายฟังฉันอยู่หรือปล่าวริว ฮัลโหล...ป

“อืม ฟังอยู่”

(ก็นั่นแหละ แล้วอะไรที่นายคิดว่าฉันกัยซันเป็นแฟนกันล่ะ)

“เดี๋ยว เธอก็รู้เองแหละ อย่าใจร้อนสิ แค่นี้นะ บาย”

(เดี๋ยว!!คือ...เอ่อ...วันนี้ฉันต้องกับเองอ่ะ...แต่ว่า...)

“กลับไม่เป็นว่างั้น”

(อ่าใช่)

“งั้นก็รอฉันที่หน้าประตูนั่นแหละ เดี๋ยวคนขับรถฉันก็มาแล้ว”

(ได้งั้น แค่นี้นะ)

 

ถ้าถามว่าตอนนี้ไอ้ซันเป็นยังไง ก็บอกได้แค่ว่า...นั่งทำหน้าหงอย เป็นหมาเหงาไปแล้วล่ะ

“หวังว่าแกคงจะไม่สร้างปัญหาให้เธออีกล่ะ”ผมหันหลังให้แล้วเดินออกมา

“เดี๋ยว!!!” ผมหันไปมอง แล้วก็เลิกคิ้วสูงขึ้น

“แกชอบพอตงั้นหรอ”O.O

“ปล่าว  ไปละ”อะไรกันมันดูง่ายขนาดนั้นเลยหรอวะ ฮิ่ย!!

 

14/02/25xx

 

“อะไรนะครับ จะให้ผมไปส่งสารที่อเมริกา ทำไมละครับ”

“ไปต้องถามพ่อสั่งให้ทำอะไรก็ทำซะ แล้วแกต้องเดินทางเย็นนี้ด้วย ไปเรียนได้แล้วไป”

ให้ตายเถอะ เอาไงดีละเนี่ย

“ริว!!!”

“เอ่อ พอต เรามีเรื่องจะบอกอ่ะ ไปที่ห้องก่อนดีกว่า”

“อืมม์ก็ได้”  เอายังไงดีวะ โอ๊ย!!! เป็นถึงผู้ส่งสารแต่ไม่รู้จะบอกความในใจของตัวเองยังไง อ๊ากกก!!! จะบ้าตาย

 

“มีอะไรหรอ”

“เอ่อ คือ...ฉัน...เอาว่ะ...เอาล่ะในนามของผู้ส่งสาร และผู้ถ่ายทอด ขอให้ฟังเราให้ดีล่ะ เพราะเราจะพูดมันแค่รอบเดียวนะ”

ฟืดดด!!!

“ฉัน-ชอบ-เธออ่ะ”แล้วจะอยุ่ซากอะไรเล่า เผ่นสิ

“เฮ้ย!!เดี๋ยวริว” ไม่สนแล้วเว้ย วิ่งอย่างเดียวครับ

กรี๊ดดดดดดดด!!!!

“O.Oพอตตตตตตตตตตตตตตตตตตตตต!!!!!”

ผลัก!!!!โครม!!!!!!!!!!!!

“ไม่นะ!!!!!!!!!!!!!!!!!” ภาพที่ผมเห็นคือเธอกำลังจะถูกรถชน แต่ไอ้ซันผลักเธอออกไป แล้วมันก็โดนชนซะเอง  นี่ขนาดในโรงเรียนนะเฮ้ย

“ซันเป็นไงบ้างวะ”

“กูว่ารีบพาส่งโรงพยาบาลก่อนเถอะวะ ริว”แล้วพวกเราทั้งหมดก็มาถึงโรงพยาบาลกัน ตอนนี้ก็แค่รอหมอออกมาจากห้องตรวจเท่านั้นแหละ

 

22.00 น.

 

“มามุดหัวอยู่นี่เองหรอ ไอ้ลูกเวรฉันบอกให้แกไปอเมริกาไม่ใช่รึไง”

“แต่เพื่อนผมถูกรถชน อาการเป็นตายเท่ากันนะ”

“แล้วไงไว้เป็นแกเมื่อไหร่ ค่อยว่ากัน”

“พ่อ!!!!!!!!!!!”

“รีบกลับเลยนะแก ก่อนที่ฉันจะโมโหก็แค่ชีวิตของคน คนเดียวอย่าเอามันมาทำให้ธุรกิจของเราล่มสิวะ!!!

มีสมอง คิดบ้าง!!!!”

ผมไม่เคยคิดเลยนะว่าพ่อผมจะเป็นคนแบบนี้  ให้ตายเถอะ!!!

“มันจะมากไปแล้วนะ!!!!”จู่ๆเธอก็พูดขึ้นมาซะงั้น

“นี่ฉันเป็นผู้ใหญ่นะ กล้าดียังไงมาขึ้นเสียงใส่ฉัน!!!”

“ถ้าผู้ใหญ่มันทำตัวไม่น่าเคารพ ฉันก็ว่าไม่น่าจะต้องสนน่ะ ลองคิดดูสิ ว่าถ้าคนที่อยู่ในนั้นเป็นเพื่อนอขงคุณ  แล้วพ่อคุณมาตามให้กลับไปทำงาน คุณจะรู้สึกยังไง หรือว่า...คุณไม่เคยมีเพื่อนกันแน่ ถึงไม่เข้าใจความรู้สึกของลูกชายคุณเลย  ส่วนนาย!!!!”

“อะไร?”

“ไม่คิดจะบอกกันเลยใช่ป่ะ ว่าจะไปเม’กา”

“ฉัน”

“หมอมาแล้ว” ดีนะ ที่คินพูดก่อน ไม่งั้นผมก็ไม่รู้ว่าจะแก้ตัวยังไงเหมือนกัน

 

ณ สถานที่ที่มีแต่ทุ่งหญ้าสีเขียวเต็มไปหมด ขณะนี้มีชายหนุ่ม5คนและหญิงสาว1คน มายืนอยู่หน้าหลุมศพ พวกเขาแต่งกายด้วยเสื้อผ้าสีขาว

“หลับให้สบายนะเว้ยซัน”คิน

“กูจะมาหาทุกปีเลยนะเว้ย”เอ็ม

“กูคิดถึงมึงจัง ไอ้หัวแดง”ต๊อง

“ขอบคุณนะเว้ย ที่ช่วยชีวิตคนสำคัญของฉันเอาไว้”ริว

“รักแกวะ”ปิงปอง

“ขอบคุณนะ ขอบคุณสำหรับทุกอย่างนะซัน”พอต

 

สนามบินที่อเมริกา

 ผมไม่รู้จะทำยังไง ขอให้เล่าให้พวกคุณฟังแล้วกันนะ  ต่อไปนี้คงไม่มีแล้ว หัวแดงของเรา เฮ้อ!!! ผมเคยบอกคุณหรือปล่าวว่า...พวกเรา6คนเคยตั้งวงดนตรีกันด้วย ผมเป็นมือกลอง เอ็มนักร้อง ปิงปองมือเบส ต๊องมือกลอง คินมือคีย์บอรด์  ในเมื่อขาดใครสักคนไปวงคงต้องล่ม  Child SC  คงเป็นได้แค่ส่วนหนึ่งในความทรงจำของพวกเราล่ะครับ  ตอนนี้ผมค่อนข้างจะเหงานะครับ เพื่อนทุกคนผมติดต่อได้หมด แต่ทำไมคนที่อยากจะคุยด้วย ถึงกลับติดต่อไม่ได้นะ

 

3 ปีต่อมา

 

ตอนนี้ผมอยู่ที่เมืองไทยแล้ว แต่ผมก็ยังไม่ได้เจอเธออยู่ดีล่ะ เฮ้อ!!! คิดถึงจัง  ป่านนี้เธอจะลืมผมไปหรือยังเนี่ย

@งานวันเกิด

“วันนี้เป็นงานวันเกิดของผม ขอให้ทุกคนสนุกกันให้เต็มที่นะครับ”

“ ไงครับ ลูกพ่อ วันเกิดปีนี้อยากได้อะไรครับ^^”

 

 

อะฮะ ผมอยากจะบอกว่าหลังจากที่พ่อผมโดนพอตเทศนาไปกลับกลายเป็นคนดีอย่างที่เห็นนี่ล่ะครับ

“โธ่! พ่อครับ ผมโตแล้วนะครับ ไม่ใช่เด็กๆแล้วนะ”ผมพูดพลางเดินไปกอดพ่อ ก่อนจะ เดินไปหอมแก้มแม่ ฮะๆ ผมรู้ดีครับ ว่าอีกสักพักพ่อก็จะด่าผม เหมือนอย่างเคย  ทำไงได้ละคร้าบบ แม่ผมสวยนี่ (ฉันนึกว่าแกไม่มีแม่ซะอีกนะ)แล้วจะให้ฉันเกิดจากกระบอกไม่ไผ่รึไงวะ

“นี่ไอ้ลูกบ้า อยากได้ทีบเป็นของขวัญวันเกิดรึไง”

“แหม!!~ ไอ้หน้าหมา นี่ลูกนะ”

“555+”

“หัวเราะ อะไรของแก ตามฉันมาเดี๋ยวนี้”ผมละรักพ่อกับแม่ที่สุดเลย อย่างปีที่แล้วเนี่ย พ่อซื้อรถพอร์ชให้ผมด้วยล่ะ ส่วนปีก่อนโน้น ก็เป็นเกาะชิกะแลนด์ ซึ่งมันเป็นที่โปรดของผมเลยล่ะ

“พ่อมีอะไรหรอครับ”

“อ่ะนี่ ของขวัญแก ถ้าเป็นเมื่อก่อนฉันเอาไปใช้เองแหละ แต่ตอนนี้..”

“กลัว...ว่างั้น”

“เอ๊ะ! ไอนี่ จะเอาหรือไม่เอา”

“โห่!!~ พ่อ เอาดิของดีเลยนะเนี่ย  งั้นผมไปเลยแล้วกันนะ” 55+พ่อรู้ใจผมที่สุดเลย ไอ้บัตรสี่เหลี่ยมๆสี่ทองนี่ มันคือบัตรระดับพรีเมี่ยมที่จะใช้ในผับไทเกอร์เลิฟ หรือชื่ออีกชื่อนึงก็คือ เสือร้อนรักนั่นเอง(ชื่อมันส่อมาก) อ่ะนะ ถึงจะอายุไม่ถึงก็เข้าได้นะ  ดีนะที่งานเลี้ยงของผมจบไปตั้งแต่ชั่วโมงที่แล้ว ไม่งั้นผมคงต้องชวนเพื่อนมาแน่ๆ ซึ่งไม่ใช่สิ่งที่ผมต้องการเลยซักนิด

 

ย้อนกลับไปเมื่อชั่วโมงที่แล้ว

 

“เฮ้อ!!~ กว่าจะเสร็จ” สวัสดีทุกคนนะคะ ฉันชื่อ’พอต’ค่ะ ตอนนี้ฉันพึ่งทำงานพิเศษเสร็จ กำลังจะกลับบ้าน เพื่อเอาเงินที่ได้ไปให้น้อง หลังจากที่แม่(บุญธรรม)ฉันเสียไป ฉันก็ต้องดิ้นรนเพื่อเลี้ยงตัวเองกับทิพย์น้องสาวฉัน (ไม่อยากกวนแม่แท้) ส่วนพ่อบุญธรรมของฉันก็เป็นหัวหน้าแก๊งค์มาเฟียอันดับต้นๆของประเทศ แต่ด้วยเรื่องของความปลอดภัยเราจึงต้องทำเป็นไม่รู้จักกัน ตอนนี้ฉันกำลังจะเดินเข้าบ้าน แต่ว่าทำไมประตูมันถึงเปิดแบบนี้ล่ะ 

“กรี๊ด!!! ปล่อยฉันนะ ช่วยด้วยๆ” นั่นมันเสียงยัยส์ทิพย์นี่

หญิงสาวรีบวิ่งไปภายในบ้านก่อนจะต้องตกใจ เพราะว่ามีชายฉกรรจ์ประมาณ5คนกำลังรุมทึ้ง ฉีกเสื้อผ้าของน้องสาวเธอ และกำลังรุมโทรมน้องเธอด้วย

“หยุดนะ! ไอ้พวกบ้าแกจะทำอะไรน้องสาวฉัน” แต่ด้วยความที่เธอเองก็ไม่ได้เก่งเรื่องการต่อสู้นัก เธอจึงถูกพวกมันจับมัดแขน มัดขาติดกับขาโต๊ะไว้ ก่อนที่พวกมันจะเข้าไปรุมโทรมน้องสาวเธอต่อหน้า ต่อตา โดยที่เธอทำอะไรไม่ได้เลย เธอได้ยินแต่เสียงกรีดร้องของน้องสาว เป็นระยะจนเธอได้ยินอีกเสียงที่ดังกว่า นั่นก็คือเสียงปืน!

“กรี๊ด~ ยัยส์ทิพย์ ฮือๆ”

“เฮ้ย!พี่เอาไงกับอีนังนี่ดี”

“หึ!ก็พามันไปขายซะสิฟระ เราจะได้เอาเงินไปใช้กัน”

 

@ Tiger Love Pub

 

“สวัสดีครับ จองไว้รึยังครับ”เสียงพนักงานต้อนรับกล่าวขึ้น ผมส่งบัตรพรีเมี่ยมให้ ก่อนที่จะเดินตามไปยังห้องๆหนึ่ง

“สิ้นค้าอยู่ด้านในแล้วครับ แค่รอให้เธอฟื้น”เฮอะ!! ผมไม่ชอบคำพูดของไอ้หมอนี่เลยจริงๆเห็นผู้หญิงเป็นสิ้นค้า น่าจะใช้คำว่า ‘อาหาร’มากกว่า

“แล้วทำไมต้องรอให้ฟื้นด้วยล่ะ ฉันไม่ของซ้ำใครหรอกนะ”

“ไม่ใช่หรอกครับ แต่ว่าเธอพึ่งมาใหม่ครับ และเธอก็สลบมาก่อนหน้านี้แล้วด้วย” ผมพยักหน้าก่อนจะเดินเข้ามาในห้อง แล้วผมกำลังเห็นผู้หญิงคนนึงกำลังนอนหลับอยู่ เมื่อผมเดินเข้าไปใกล้เธอ ก่อนจะโน้มหน้าลงไปใกล้ๆ เพราะว่าความมืดมันทำให้ผมมองเห็นใบหน้านั้นไม่ชัดเจน แต่ตอนเธอลืมตาขึ้น ก่อนที่จะ...

เพี๊ยย!! 

“นี่เธอ...ตบหน้าฉันทำไมเนี่ย”ผมเดินไปเปิดไฟ ก่อนที่O.O บระเจ้า!! นี่มันพอตนี่หว่า แน่ๆเลย

“ริว!!!ขอโทษทีฉันตกใจน่ะ แล้วที่นี่มันที่ไหน ฮือๆ”

“นี่เธอเป็นอะไรเนี่ย ร้องไห้ทำไม ฉันก็อยู่นี่แล้วไง ไม่ทำไรหรอกนะ เมื่อก่อนไม่ยักกะกลัวส่วน ที่นี่ก็...ที่ๆผู้ชายส่วนใหญ่จะปลดปล่อยอารมณ์สวาทกับผู้หญิงไง แต่ที่นี่มันไม่เหมือนที่อื่น ฉันจ่ายค่าตัวเธอไปตั้งห้าหมื่น ถ้าเธอเอาแต่ร้องไห้แบบนี้ ฉันก็เสียงเงินฟรีน่ะสิ”

“ฮือๆไอ้บ้า!!!”

“แล้วเธอมาทำอะไรที่นี่  แล้วมาได้ยังไง”

“ฉะ...ฉันโดนจับมา ฮึกๆ พวกมันรุมโทรมน้องสาวฉันแล้วก็พาฉันมาขาย ฮือๆนายต้องช่วย
ฉันนะ ฉันไม่อยากอยู่ที่นี่” ไปมีน้องสาวตอนไหนวะ

“ได้สิ ฉันจะช่วยเธอ แต่เธอก็รู้ว่ามันไม่ง่าย  ฉันต้องใช้เงิน1แสนเพื่อซื้อเธอ ออกจากที่นี่เธอต้องทำตามคำสั่งของฉัน จนกว่าฉันจะพอใจภายในเวลาสองอาทิตย์ หลังจากนั้นเธอจะ...เป็นอิสระทันที”

“ตกลง แต่นายต้องสัญญากับฉันนะ ว่าจะช่วยเหลือฉันทุกอย่างภายในหนึ่งอาทิตย์”

“ได้สิ แต่...การที่ออกจากห้องนี่ไปได้ มันไม่ง่ายเลยนะ งั้นรอแปป”

 

ณ  บ้านของซอนอา กับ โฬม

“คุณริวกลับมาแล้วค่ะ ”

“เอ่อ...แม่ครับ พ่อครับ ผมมีเรื่องอยากจะปรึกษาครับ”

“มีเรื่องอะไรก็พูดมาเลยสิจ๊ะ”

“เอ่อ...ผมว่าไปคุยกันที่ห้องทำงานของคุณพ่อดีกว่าครับ”ในตอนแรกพวกท่านก็ยังไม่เข้าใจในสิ่งที่ผมพูดซักเท่าไหร่ แต่พอผมอธิบายไปพวกท่านก็เริ่มมีสีหน้าที่ดีขึ้น ผมกลัวเหลือเกินว่าท่านจะไม่ยอมรับพอต ใช่ครับ! ผมคิดจะจริงจังกับเธอ 

“แล้วหนูคนนั้นอยู่ที่ไหนล่ะ”

“เธอชื่อพอตครับแม่ ตอนนี้เธออยู่ที่คอนโดของผม”

“แล้วเราจะเอายังไงกับพวกชั่วพวกนั้นดี”นี่ละครับพ่อผมเป็นเดือดเป็นร้อนแทนผมตลอด พ่อคงรู้แล้วสินะ ว่าผมคิดยังไงกับเธอ ขอบคุณครับพ่อ

“อันนี้ผมก็ยังไม่ทราบครับ แต่เธอบอกว่าภายในหนึ่งอาทิตย์ ผมต้องช่วยหลือเธอทุกอย่าง อีกอย่างเธอเองก็ยังไม่ได้เล่ารายละเอียดให้ผมฟังเลยครับ”

“งั้นก็ปล่อยไปก่อนแล้วกัน แต่...”พ่อพูดพลางหรี่ตามองผมอย่างจับผิด เอ่อ...ผมไม่ได้ทำอะไรผิดซักหน่อยอ่ะ

“แต่อะไรคะ”นั่นไงขนาดแม่ยังเดาความคิดของพ่อไม่ออกซักเท่าไหร่

“แต่แกต้องพาหนูคนนั้นมาพักที่นี่ พ่อไม่ไว้ใจแกให้อยู่กับผู้หญิงสองต่อสองหรอก”

“โธ่!!! พ่อครับ”

 

คอนโดย่านสุขุมวิทย์

 

“ทะ...ทำไมฉันต้องไปอยู่ที่บ้านนายด้วยล่ะ”

“ไม่รู้สิ พ่อฉันสั่งน่ะ หรือว่า...เธออยากอยู่กับฉัน ตามลำพัง” พูดบ้าอะไรของมันนะ เฮ้ย!! นายนั่นเริ่มยื่นหน้ามาใกล้ฉัน ใกล้มากจนปากเราจะติดกันอยู่แล้ว จากนั้นก็...

“ไอ้ริว!!”

“ฮิ่ย!! แกมันมารความสุขฉันซะจริง ไอ้มอลต์”เฮ้อ!!!โล่งอก

“นั่นใครวะ”

“นั่น...พอต แฟนฉัน”

“O///Oเฮ้ย ใครแฟนแกพูดให้ดีๆนะ”

“ก็เธอไงจ๊ะพอตจ๋า”

“โอ๊ย!!!พอเลยๆ ตกลงแกจะไปไหมเนี่ยTiger Pubเนี่ย”

“เออวะ ไปดิ แต่ขอไปส่งยัยส์นี่ก่อนนะ”

“เอ่อ ไม่ต้องหรอก ฉันเองก็อยากไปนะ”หึๆฉันจะได้จัดการทุกอย่างให้มันเรียบร้อยซะที

“แต่ที่นั่นมัน...”

“ถือว่าฉัน...ขอ”หึ เจอไม้นี้เข้าไปก็ต้องทำตามอยู่แล้วล่ะ ก็สัญญาไว้แล้วนี่

 

@ Tiger Pub

 

“นี่...มาเที่ยวผับทั้งทีใส่เสื้อยืดแขนยาวสีดำ กางกางเดฟสีดำ รองเท้าผ้าใบสีดำเนี่ยนะ”

“เรื่องของฉัน...อีกอย่างฉันไม่ได้มาเที่ยวด้วยมอลต์”ตอนนี้เราสามคนสนิทกันมากขึ้นและก็ได้รู้จักกับใครหลายคนเลย เช่นเมล มาย ซันนี่

“แล้วนี่จะไม่ดื่มอะไรหน่อยหรอ”

“ไม่ละเมล เดี๋ยวจะเสียแผน”

“แผน!!!”  ทุกคนคงจะตกใจสินะ หึ!! ยังไงซะวันนี้ฉันต้องแก้แค้นให้น้องฉันให้ได้ ว่าแล้วกุญแจดอกแรกที่จะไขไปสู่ความจริง ก็มาถึง….

“ไงครับ คุณริวสินค้าที่ซื้อไปด้วยราคาหนึ่งแสนบาท เป็นยังไงบ้างครับ”มันพูดแล้วก็มองมาที่ฉัน หึ ปากวอนโดนตี-จริงๆ

“นี่แกยังกล้าใช้คำว่าสิ้นค้ากับฉันอีกงั้นเรอะ หึๆ”ฉันพูดโดยที่ไม่มองหน้ามัน ไอ้หน้าคงใกล้ได้เวลาที่นรกจะสูบมันไปแล้วสินะ

“แล้วทำไม ก็แกเป็นสินค้าของที่นี่ทำไมฉันจะใช้คำนั้นไม่ได้” พอกันทีกับความอดทน ฉันลุกขึ้นคว้าขวดเหล้าฝาดไปที่หัวมัน แล้วลูกน้องมันก็วิ่งเข้ามา พวกเพื่อนฉันก็มองกันตาค้างเลยทีเดียว ฉันหยิบปืนที่ติดอยู่กับเอวไอ้เสี่ยบ้านั่นออกมาจี้ที่หัวของมันเอง

“ถ้าพวกแกยังไม่อยากให้นายแกไปหายมบาลล่ะก็ ถอยออกไปให้ไกลจากตรงนี้ซะ!!”

“ใจเย็นหน่า ”

“หุบปากไป!!”ฉันตะคอกใส่มอลต์ ซึ่งหลังจากนั้นก็ไม่มีใครกล้าขัดฉันอีก

“เอ่อ...ใจเย็นก่อนนะหนู หนูอยากได้อะไร บอกเสี่ยนะ แต่อย่าทำอะไรเสี่ยเลย”

“หึ...ใครเป็นคนขายฉันให้กับแก ไอ้แก่!!”

“เป็นสมุนอั๊วเอง ไอ้พวกนั้นไง”ไอ้เสี่ยบ้าชี้ไปทางพวกผู้ชายห้าคนยืนอยู่

“ไอ้พวกนั้นเองเรอะ หึ! ขอบใจมาก ฉันจะไม่ส่งแกไปนรก แต่...ฉันจะส่งแกไปเฝ้าพระอินทร์แทน!!”ฉันใช้ปืนทุบไปที่ท้ายทอย แล้วก็โยนมันลงไปที่พื้น” พวกแกมานี่!! ยืนเรียงตัวกันมาเลย” ตอนนี้ไม่ว่าอะไรก็หยุดฉันไม่ได้แล้วล่ะ

“พวกแกสินะ ที่พาฉันมาขายที่นี่ แล้วพวกแกสินะที่รุมโทรมน้องสาวฉัน แล้วก็ฆ่าทิ้งนะ เฮอะ” ถึงตอนนี้ไม่ว่าฉันจะต้องฆ่าพวกมัน ฉันก็จะไม่ทำหรอก เพราะอะไรรู้มั๊ย น้องสาวฉันมันต้องเจ็บปวดมาก แล้วพวกมันจะต้องได้รับความเจ็บนั้นเป็นเท่าตัว

“ส่งมีดนั้นมาให้ฉัน เร็ว!!!...ดี...พวกแกจับตัวพวกมันไว้”พวกมันจะต้องกัดกันเอง ฉันไม่นิยมให้คนที่ไม่เกี่ยวข้องต้องมาเดือดร้อนด้วยหรอกนะ ฉันเลื่อนมืดไปทั่วตัวของผู้ชายคนแรกก่อนที่จะไปหยุดมือของมัน “สำหรับพวกแกน่ะ ตายมันง่ายไป มือนี้ใช่มั๊ยที่ใช้ทำร้ายน้องสาวฉัน!! หึ งั้นแกก็กลายเป็นคนพิการซะเถอะ”

“อ๊ากกก!!!!”

“ส่วนแก...”ฉันเดินไปหยุดอยู่ที่คนที่สอง”ในฐานะสมรู้ร่วมคิดนะ แกใช้มีดของแกแทงไปที่ข้อมมือข้างขวาข้งอไอ้คนที่สามซะ ส่วนแกก็แทงไปที่คนที่สื่ ส่วนแกแทงไปที่คนสุดท้าย ส่วนคนสุดท้ายย้อยมาแทงคนที่สอง”  ฉึก!!!

”อ๊ากกก!!!!”พวกมันร้องออกมาอย่างเจ็บปวด แต่มันไม่จบแค่นี้หรอกนะ

“คนไหนที่เสนอความคิดให้เอาฉันมาขายนะฮะ” แล้วพวกมันก็ชี้มาทางคนที่สอง

“แกนี่ท่าจะบ้านะ มีสมองแต่กลับใช้ไปในทางที่ผิด งั้นก็อย่ามีมันเลย” ฉันใช้มีดแทงไปที่ขมับขวาของมัน ส่วนพวกที่เหลือฉันก็ใช้ปืนยิงใส่พวกมันที่หัว เรียงตัว ปืนฉันก็เอาไปยัดไว้ที่มือของไอ้เสี่ยบ้านั่น เท่านี้ก็ไม่มีรอบนิ้วมือของฉันแล้วล่ะ ส่วนมีดฉันก็แค่ถือเอาไว้รอเวลา ที่พ่อฉันจะมา ใช่แล้วพ่อฉันรู้เรื่องนี้แล้ว

“แปะ ๆๆๆ”เสียงปรบมือของพ่อฉันดังขึ้นก่อนที่ตัวท่านจะออกมายืนอยู่ตรงหน้าฉัน

“มีธุระอะไรรึปล่าวคะ”

“ปล่าว...ก็แค่จะมาตรวจตราผับแห่งใหม่ของฉันก็แค่นั้น”

“ดีมากคะ ศพทุกศพเกี่ยวข้องกับการตายของทิพย์ทั้งนั้น ส่วนศพไหนที่มีแผลที่ข้อมือคือพวกที่เอาเอมมาขายที่นี่ ส่วนที่แผลตรงขมับขวาคือคนต้นคิด”

“อืมม์ว่าแต่ใครเป็นคนซื้อแกออกมาล่ะ” ฉันชี้ไปทางนายริว

“คนนี้ค่ะ อาคาซาวะ ริวคุง”

“อืมม์ เงินแสนนึงฉันจะคืนให้...อืมม์...ลูกชายของโฬมงั้นสินะ ฝากความคิดถึงไปให้พ่อนายด้วยแล้วกัน

“ฉันว่าเรากลับกันดีกว่านะ”

“เออๆงั้นพวกแกก็กลับกันไปแล้วกันส่วนพวกเราจะอยู่ต่อ”

“นี่นายจะอยู่ต่อใช่มั๊ย งั้นอ่ะนี่ฝากทำความสะอาดมีดนี่ด้วยนะ”ฮ่าๆๆๆนายมอลต์ถึงกลับหน้าเหวอไปเลย

“พอเลยๆ เธอมันยัยส์โหด เออๆกลับก็ได้ ไม่รู้ไอ้ริวชอบไปได้ไง”

 

ที่คอนโด

 

“นี่ฉันว่าเราน่าจะมาลองเริ่มต้นใหม่ดูนะ”

“ก็ได้...ฉันจะเริ่มต้นใหม่กับใครก็ได้ แต่...คนๆนั้นจะไม่มีวันเป็นนายเด็ดขาด เพราะฉันไม่เคยลืมนายเลยริว”

“ห้องนี่น่ะ เธอจะอยู่นานแค่ไหนก็ได้เพราะฉันจะไม่อยู่แล้ว”

“หมายความว่าไง”

“สนใจด้วยหรอ ฉันจะไปเรียนต่อน่ะ ถือโอกาสลาเธอตรงนี้เลยแล้วกัน”ผมเดินออกมาจากห้องนั่นโดยไม่ลืมทิ้งคีย์การ์ดไว้ให้เธอ  ผมขับรถไปเรื่อยๆหวังว่าเวลามันจะทำให้ผมลืมเธอได้บ้าง ถึงจะเจอกันแค่ไม่กี่วัน แต่อย่างน้อยเธอก็ทำให้ผมรักเธอเข้าให้แล้วล่ะ

 

เช้าวันต่อมาที่บ้านริว

 

“นี่แกผีเข้ารึปล่าว อยากไปเรียนต่อเนี่ยนะ”

“ใช่แล้วครับพ่อ ผมอยากไปเรียนต่อแล้วจะไม่กลับมาที่ไทยอีก จนกว่าผมพร้อมที่จะดูแลธุรกิจต่อจากพ่อนั่นแหละ”

“แกมีปัญหาอะไร”

“ป่าว”

“เออ งั้นก็ชั่งแกเถอะ อยากจะไปไหน ทำอะไรก็เชิญ แต่ไปลาแม่แกก่อนก็ดีนะ”

“ครับพ่อ”ผมเดินไปที่ห้องครัว แม่ผมชอบทำอาหารมากเลยละครับ แต่ตอนนี้แม่คงอยากให้ผมได้ทานอาหารก่อนจะไปเกาหลีละมั้งครับ

“แม่ครับ ผมรักแม่นะครับ”

“จร้า...ลูกอยู่ที่นู่นแม่คงต้องคิดถึงลูกมากแน่ๆเลย ดูแลตัวเองดีๆนะ”

 

ถ้าถามว่าทำไมต้องไปทั้งๆที่ก็เข้าใจกันแล้ว ก็นะอยากเรียนจบไวๆนี่  เห้อ!ตอนนี้ปี2551แล้ว ผมจะอยู่ที่เกาหลียันปี56นั่นแหละ แล้วค่อยกลับไปตอนวันเกิดเธอแล้วกัน ถึงวันนั้นอะไรๆคงจะดีขึ้นกว่านี้ล่ะ แต่อย่าพึ่งเข้าใจว่าเรื่องทั้งหมดเป็นเรื่องจริงนะ บางส่วนเป็นจินตนาการทั้งนั้น  เรื่องทั้งหมดก็มีแค่นี้แหละครับ^^

 

คำยืนยันของเจ้าของเรื่องสั้น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา