the dark

9.1

เขียนโดย ►Inés◄

วันที่ 11 สิงหาคม พ.ศ. 2556 เวลา 20.34 น.

  2 chapter
  9 วิจารณ์
  5,781 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 21 กันยายน พ.ศ. 2556 14.21 น. โดย เจ้าของเรื่องสั้น

แชร์เรื่องสั้น Share Share Share

 

2) เรื่องเล่าที่1 เด็กสาวขายไม้ขีดไฟ 30%

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก
The dark
Author:Inés
 
 
 
*ครั้งหนึ่ง ฉันคว้าหมอกไว้เต็มกำมือ
แล้วเมื่อแบออก โอ้ หมอกกลายเป็นหนอน
เมื่อกลับกำแล้วแบอีก ดูสิ กลายเป็นนก
กำลงแล้วแบอีกครั้ง ปรากฏเป็นชายผู้โศกเศร้า
มองขึ้นจากอุ้งมือ
ฉันกำมืออีกครั้งแล้วแบ คงเหลือแต่หมอก
แต่ยังคงได้ยินบทเพลงแสนหวานล้ำ
 
 
 
อากาศเย็นจัดในช่วงปลายปีดูจะไม่ยี่หระสำหรับใครบางคนสักเท่าไหร่ เด็กสาวในชุดคลุมยาวลากเท้าผ่านเนินหิมะที่กองสูงท่วมถนน
ดวงหน้าซีดที่โผล่พ้นเสื้อคลุมเปื้อนยิ้มอย่างปิติ เด็กสาวเฝ้ามองเกล็ดหิมะที่หล่นร่วงลงมาอย่างไม่จบสิ้น
บางครั้งสัมผัสกับพวงแก้มสีระเรื่อก็พลันละลายหายไป
มือน้อยเอื้อมคว้าหมอกจางเบื้องหน้า กำมือแล้วแบออกนับครั้งไม่ถ้วน บทกวีเมื่อครั้งเยาว์นักที่คุณย่าของเธอขับกล่อมให้ฟัง
แม้เธอจะยังไม่ค่อยเข้าใจมันสักเท่าไหร่ แต่เสียงหวานที่กร่นอยู่ในใจกลับหวนให้เธอนึกถึงเสียเหลือเกิน
 
 
 
…หมอกจ๋า ท่านตอบข้าได้หรือไม่ ชีวิตเราใครขีดชะตาไว้อย่างนั้นหรือ? …
 
 
 
รถม้าขนาดกลางวิ่งกุบกับผ่านถนนหิมะใจกลางเมืองหลวง จัตุรัสโอดอร์ยังคงพลุกพล่านไปด้วยผู้คน แหล่งรวมผู้คนตั้งแต่ชนชั้นขอทานไปจนถึงขุนนางผู้มั่งคั่ง ตรอกซอกซอยเต็มไปด้วยร้านค้าทั้งพ่อค้านอกและใน
สินค้าท่ายดีเทน้ำเทท่าในช่วงนี้คงหนีไม่พ้นเสื้อขนสัตว์อุ่นๆและไม้ขีดไฟขนาดมาตรฐานที่ผลิตจากโรงงานคุณภาพ
 
เด็กสาวตัวน้อยนั่งคุดคู้กับกำแพงเพื่อคลายความหนาว ที่หัวมุมถนนข้างธนาคารหลวงโอดอร์คือทำเลขายของชั้นดีที่เธอเลือกแล้ว แม้คนจะไม่เยอะเท่าในจัตุรัสแต่ที่นี่ก็มีที่สำหรับกำบังความหนาวได้พอตัว
 
 
“ไม้ขีดไฟค่า ไม้ขีดไฟทำมือ”แมอิสป้องปากตะโกนเรียกให้คนสนใจ
ถึงแม้จะมีผู้คนหันมามองอยู่ไม่น้อย แต่กลับไม่มีใครเดินมาหาสาวน้อยเลยสักคนเดียว
 
“คุณลุงคนนั้น ใช้ไม้ขีดไฟจุดบุหรี่ไหมค่ะ”เด็กสาววิ่งโร่หาคุณลุงที่กำลังจะจุดบุหรี่ ชายแก่ส่ายหน้าน้อยๆ ก่อนจะหยิบไม้ขีดโรงงานขึ้นมาจากกระเป๋า
 
 
 
 
…และเป็นอีกวันที่แมอิสยังขายไม้ขีดไฟไม่ได้ ร่างบางทิ้งตัวลงข้างเพิงน้อยๆที่สร้างมาจากน้ำพักน้ำแรงของตน มือน้อยล้วงหยิบไม้ขีดไฟที่เหลือมาจุดบรรเทาความหนาว เปลวไฟสว่างวาบเพียงไม่นาน ลมหนาวที่ตีรวนเข้ามาก็ทำให้มันดับไป
 
แมอิสวางมันลงและหยิบก้านใหม่ขึ้นมาอีกครั้ง
คราวนี้เธอใช้มือป้องโอบความอบอุ่นนั้นไว้
แต่เพียงไม่นานมันก็หายไป
 
 
ขอบตาเริ่มร้อนผ่าว ไม่เคยมีใครคาดคิดถึงโศกนาฏกรรมอันโหดร้ายที่เกินขึ้นกับเด็กที่ยังไม่ประสีประสาอย่างเธอแม้แต่น้อย แมอิสยังจำได้ดีในฤดูหนาวเมื่อปีกลาย เธอยังคงวิ่งจากโรงเรียนกลับบ้านเพื่อมาฉลองคริสต์มาสกับคุณย่า
 
 
 
 
 
 
 
 
เด็กสาวอายุย่าง13ปีวิ่งขึ้นบันไดบ้านด้วยความดีใจ หวังเพียงว่าจะพบหญิงชราผู้แสนอารีกับกล่องของขวัญวันคริสต์มาสของเธอเพียงเท่านั้น
 
 
หายไป…คุณย่าหายไปไหนค่ะ
 
รอยยิ้มที่เคยมีถูกกระชากไปต่อหน้าต่อตาเมื่อเธอมาถึงที่หมาย
 
ชายฉกรรจ์กลุ่มหนึ่งกำลังยืนล้อมคุณย่าของเธอไว้
คุณย่าไม่ได้มีสีหน้าหวาดกลัว ท่านไม่มีสีหน้าตกใจ
 
เพราะคุณย่าที่เธอเห็น
.
.
.
 
คือร่างของหญิงชราที่ไร้ลมหายใจนอนจมกองเลือดสีแดงฉานอยู่ตรงหน้า. . .
 
 
30%
-----------------------------------------------------------------------------------------------
*ทรายกับฟองคลื่น คาลิล ยิบราน
 

 

คำยืนยันของเจ้าของเรื่องสั้น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.2 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา