the dark

9.1

เขียนโดย ►Inés◄

วันที่ 11 สิงหาคม พ.ศ. 2556 เวลา 20.34 น.

  2 chapter
  9 วิจารณ์
  5,864 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 21 กันยายน พ.ศ. 2556 14.21 น. โดย เจ้าของเรื่องสั้น

แชร์เรื่องสั้น Share Share Share

 

2) เรื่องเล่าที่1 เด็กสาวขายไม้ขีดไฟ 30%

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

The dark

Author:Inés

 

 

 

*ครั้งหนึ่ง ฉันคว้าหมอกไว้เต็มกำมือ

แล้วเมื่อแบออก โอ้ หมอกกลายเป็นหนอน

เมื่อกลับกำแล้วแบอีก ดูสิ กลายเป็นนก

กำลงแล้วแบอีกครั้ง ปรากฏเป็นชายผู้โศกเศร้า

มองขึ้นจากอุ้งมือ

ฉันกำมืออีกครั้งแล้วแบ คงเหลือแต่หมอก

แต่ยังคงได้ยินบทเพลงแสนหวานล้ำ

 

 

 

อากาศเย็นจัดในช่วงปลายปีดูจะไม่ยี่หระสำหรับใครบางคนสักเท่าไหร่ เด็กสาวในชุดคลุมยาวลากเท้าผ่านเนินหิมะที่กองสูงท่วมถนน

ดวงหน้าซีดที่โผล่พ้นเสื้อคลุมเปื้อนยิ้มอย่างปิติ เด็กสาวเฝ้ามองเกล็ดหิมะที่หล่นร่วงลงมาอย่างไม่จบสิ้น

บางครั้งสัมผัสกับพวงแก้มสีระเรื่อก็พลันละลายหายไป

มือน้อยเอื้อมคว้าหมอกจางเบื้องหน้า กำมือแล้วแบออกนับครั้งไม่ถ้วน บทกวีเมื่อครั้งเยาว์นักที่คุณย่าของเธอขับกล่อมให้ฟัง

แม้เธอจะยังไม่ค่อยเข้าใจมันสักเท่าไหร่ แต่เสียงหวานที่กร่นอยู่ในใจกลับหวนให้เธอนึกถึงเสียเหลือเกิน

 

 

 

…หมอกจ๋า ท่านตอบข้าได้หรือไม่ ชีวิตเราใครขีดชะตาไว้อย่างนั้นหรือ? …

 

 

 

รถม้าขนาดกลางวิ่งกุบกับผ่านถนนหิมะใจกลางเมืองหลวง จัตุรัสโอดอร์ยังคงพลุกพล่านไปด้วยผู้คน แหล่งรวมผู้คนตั้งแต่ชนชั้นขอทานไปจนถึงขุนนางผู้มั่งคั่ง ตรอกซอกซอยเต็มไปด้วยร้านค้าทั้งพ่อค้านอกและใน

สินค้าท่ายดีเทน้ำเทท่าในช่วงนี้คงหนีไม่พ้นเสื้อขนสัตว์อุ่นๆและไม้ขีดไฟขนาดมาตรฐานที่ผลิตจากโรงงานคุณภาพ

 

เด็กสาวตัวน้อยนั่งคุดคู้กับกำแพงเพื่อคลายความหนาว ที่หัวมุมถนนข้างธนาคารหลวงโอดอร์คือทำเลขายของชั้นดีที่เธอเลือกแล้ว แม้คนจะไม่เยอะเท่าในจัตุรัสแต่ที่นี่ก็มีที่สำหรับกำบังความหนาวได้พอตัว

 

 

“ไม้ขีดไฟค่า ไม้ขีดไฟทำมือ”แมอิสป้องปากตะโกนเรียกให้คนสนใจ

ถึงแม้จะมีผู้คนหันมามองอยู่ไม่น้อย แต่กลับไม่มีใครเดินมาหาสาวน้อยเลยสักคนเดียว

 

“คุณลุงคนนั้น ใช้ไม้ขีดไฟจุดบุหรี่ไหมค่ะ”เด็กสาววิ่งโร่หาคุณลุงที่กำลังจะจุดบุหรี่ ชายแก่ส่ายหน้าน้อยๆ ก่อนจะหยิบไม้ขีดโรงงานขึ้นมาจากกระเป๋า

 

 

 

 

…และเป็นอีกวันที่แมอิสยังขายไม้ขีดไฟไม่ได้ ร่างบางทิ้งตัวลงข้างเพิงน้อยๆที่สร้างมาจากน้ำพักน้ำแรงของตน มือน้อยล้วงหยิบไม้ขีดไฟที่เหลือมาจุดบรรเทาความหนาว เปลวไฟสว่างวาบเพียงไม่นาน ลมหนาวที่ตีรวนเข้ามาก็ทำให้มันดับไป

 

แมอิสวางมันลงและหยิบก้านใหม่ขึ้นมาอีกครั้ง

คราวนี้เธอใช้มือป้องโอบความอบอุ่นนั้นไว้

แต่เพียงไม่นานมันก็หายไป

 

 

ขอบตาเริ่มร้อนผ่าว ไม่เคยมีใครคาดคิดถึงโศกนาฏกรรมอันโหดร้ายที่เกินขึ้นกับเด็กที่ยังไม่ประสีประสาอย่างเธอแม้แต่น้อย แมอิสยังจำได้ดีในฤดูหนาวเมื่อปีกลาย เธอยังคงวิ่งจากโรงเรียนกลับบ้านเพื่อมาฉลองคริสต์มาสกับคุณย่า

 

 

 

 

 

 

 

 

เด็กสาวอายุย่าง13ปีวิ่งขึ้นบันไดบ้านด้วยความดีใจ หวังเพียงว่าจะพบหญิงชราผู้แสนอารีกับกล่องของขวัญวันคริสต์มาสของเธอเพียงเท่านั้น

 

 

หายไป…คุณย่าหายไปไหนค่ะ

 

รอยยิ้มที่เคยมีถูกกระชากไปต่อหน้าต่อตาเมื่อเธอมาถึงที่หมาย

 

ชายฉกรรจ์กลุ่มหนึ่งกำลังยืนล้อมคุณย่าของเธอไว้

คุณย่าไม่ได้มีสีหน้าหวาดกลัว ท่านไม่มีสีหน้าตกใจ

 

เพราะคุณย่าที่เธอเห็น

.

.

.

 

คือร่างของหญิงชราที่ไร้ลมหายใจนอนจมกองเลือดสีแดงฉานอยู่ตรงหน้า. . .

 

 

30%

-----------------------------------------------------------------------------------------------

*ทรายกับฟองคลื่น คาลิล ยิบราน

 

 

คำยืนยันของเจ้าของเรื่องสั้น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.2 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา