"หรือหัวใจใช่ของเขา"
7.3
เขียนโดย candle
วันที่ 3 สิงหาคม พ.ศ. 2556 เวลา 16.06 น.
1 ตอน
1 วิจารณ์
3,750 อ่าน
แก้ไขเมื่อ 3 สิงหาคม พ.ศ. 2556 16.22 น. โดย เจ้าของเรื่องสั้น
1)
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความกิ่งเงยหน้าขึ้น พอดีกับที่ชายหนุ่มคนหนึ่งเปิดประตูห้องนอนออกมา ท่อนบนเขาเปล่าเปลือย ท่อนล่างสวมใส่กางเกงชาวเลสีน้ำตาลหม่น
สายตาเย็นชาของเขานิ่งมองหล่อนอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะตัดสินใจพาตัวเองออกมา รอยไม่ได้ไปนั่งเก้าอี้รับแขกเช่นเดียวกับหล่อน เขาตรงไปยังเก้าอี้หน้าบาร์เล็ก ๆ มุมหนึ่งของห้องฟุบหน้าลงหนุนไว้ด้วยท่อนแขน และเฝ้ามองหล่อนอยู่เงียบ ๆ ภายใต้สายตาเย็นชาของเขา ไม่พูดอะไรออกมาแม้แต่คำเดียว
“อ้าว...ทอยตื่นแล้วเหรอ” รายันหันกลับมาพร้อมกาแฟสองถ้วย
“หน่อยไหม” เขาเสนอ ยื่นส่วนของตัวเองให้
“ตามสบาย” ทอยเลิกคิ้ว ใช้นิ้วเคาะบาร์เป็นจังหวะคล้ายไม่ใส่ใจ
“กิ่งมาแต่เช้าเลยนะ” เขาพูดขึ้นลอย ๆ ยิ้มขณะดวงตายังคงเดิม
ลุกเดินมายังคนทั้งคู่ อ้อมไปด้านหลังเก้าอี้โน้มตัวลงใกล้กิ่ง ตามองรายันซึ่งนั่งฝั่งตรงข้าม
“ยกให้ฉันได้มั๊ย” ทอยเน้นเสียงอย่างจงใจยั่ว
“...............”
“ว่าไง” เขาถามย้ำ ก่อนจะหัวเราะออกมาเมื่อรายันไม่ปริปาก
“ล้อเล่นน่า ฉันไม่ได้หมายความตามนั้นจริง ๆ หรอก” ว่าแล้วทอยก็จูบหล่อน ยิ้มให้รายันอย่างใจเย็นเมื่อถอนริมฝีปาก
กิ่งมองรายัน เขายังคงนิ่งเฉย
“จะไม่พูดอะไรหน่อยรึไง นายไม่รู้สึกอะไรเลยเหรอ ว่าไง” เขายิ้ม
หมัดของรายันทำให้ทอยถึงกับสะบัดหน้า เลือดสด ๆ ไหลออกมาจากปากและจมูก ทอยเอามือป้ายเลือดมุมปากเขากระตุกยิ้มก่อนจะเลียมัน
“ทำให้กาแฟเช้านี้มีรสชาดขึ้นมากเลยทีเดียว” ทอยคว้าถ้วยกาแฟขึ้นดื่มรวดเดียว ทิ้งสายตาขุ่นเคืองไปยังกิ่ง ก่อนจะเดินเข้าห้องไปเงียบ ๆ
“ว่าไงคะ ไม่คิดจะพูดอะไรออกมาบ้างเหรอ” กิ่งพูดขึ้นหลังจากนั้นครู่ใหญ่
“ผมขอโทษ ทอยไม่ได้ตั้งใจเขา...” รายันถอนใจ ไม่รู้จะอธิบายให้กิ่งเข้าใจได้ยังไง เพราะตัวเขาเองในบางครั้งก็ไม่เข้าใจทอย
“คุณสองคนเป็นอะไรกันแน่ กิ่งไม่อยากจะทนอยู่ในสภาพอย่างนี้” เธอถามขึ้นอย่างเหลืออด ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมากิ่งรู้สึกได้ว่าทอยไม่พอใจที่เธอเข้ามาในแวดล้อมของเขา โดยเฉพาะเข้าใกล้รายัน
รายันส่ายหน้า
“ไม่มีอะไรหรอก ผมเสียใจ” รายันแตะมือหล่อน
“ทอยหวงรายัน” กิ่งพูดในสิ่งที่คิดออกไปโดยไม่ปิดบัง
“เขาไม่ได้เป็นอย่างที่กิ่งเข้าใจหรอก”
“...............”
“ผมขอเข้าไปดูเขาหน่อย” รายันลุกขึ้น
**
**
“ทอย ฉันเข้าไปนะ” รายันเคาะประตูบอกกับคนข้างในห้อง
ไม่มีเสียงตอบกลับมา เขาจึงผลักประตูเข้าไป ทอยนั่งอยู่บนพื้นห้องพิงหัวไว้กับขอบเตียง
“เจ็บมากมั๊ย” รายันนั่งลงข้างเขา
ทอยคงคลายอารมณ์ หากไม่เพราะเห็นกิ่งเดินตามเข้ามาด้วยอีกคน
สามคนนิ่งเงียบ จนทอยเป็นฝ่ายอดรนทนไม่ได้
“ฉันอยากอยู่คนเดียว” เขาบอกเสียงเรียบ ๆ
“ไปทำแผลเถอะ ลุกสิ” รายันคว้าข้อมือทอย ฉุดเขาให้ลุกขึ้น
“อย่ายุ่งกับฉัน” ทอยโกรธเกรี้ยวสะบัดมือ
“มีปัญหาอะไรก็บอกสิ พูดออกมาได้มั๊ยต้องการอะไร หรือจะให้ฉันทำอะไร”
รายันถามอย่างใจเย็น
ทอยขบกรามแน่น
“จะไปไหนก็ไป” ทอยเน้นเสียง
“จำไว้นะทอย นายเป็นคนพูดเอง ฉันก็เบื่อท่าทางของนายเต็มทีแล้วเหมือนกัน”
รายันกับกิ่งออกไปก่อนที่เขาจะได้เห็นแววตาเสียใจของทอย เขาไม่ตั้งใจจะทำอย่างนั้นเลย ไม่เคยคิดว่าจะพูดประโยคนั้นกับรายัน นับตั้งแต่เขาเข้ามาอยู่ในบ้านหลังนี้ รายันเป็นคนให้ชีวิตใหม่แก่เขา ฉุดเขาขึ้นมาจากฝันร้ายของเด็กข้างถนน
**
**
“ไปอยู่ด้วยกันนะ”
รายันในตอนนั้นเป็นเพียงเด็กผู้ชายอายุเก้าขวบ หน้าตาหมดจดสะอาดเกลี้ยงเกลา และทอยเป็นเด็กข้างถนนที่คอยวิ่งหนีตำรวจ นอนใต้สะพานลอย คุ้ยเขี่ยอาหารตามถังขยะประทังชีวิต เขาไม่มีพ่อแม่และไม่มีใคร
ตั้งแต่จำความได้ก็พบว่าต้องอยู่คนเดียว ระเหเร่ร่อนไปที่นั่นที่นี่ไม่เคยรู้ที่มาของตัวเอง ดั่งว่าเขามีชีวิตขึ้นมาเพื่อที่จะเจอกับฝันร้าย เขาจำไม่ได้ว่าตอนเด็ก ๆ ตัวเองใช้ชีวิตมาได้ยังไง หรือว่าเขามีชีวิตรอดมาได้อย่างไร กว่าที่เขาจะเริ่มรู้สึกได้ถึงความโดดเดี่ยว และแตกต่างจากคนอื่น
ทอยไม่เคยเปิดปากพูด เขาหวาดระแวงทุกอย่างโดยเฉพาะสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่ามนุษย์ นานทีเดียวกว่าที่เขาจะไว้ใจรายันและยอมพูด รายันเป็นเด็กผู้ชายที่ทำให้เขาหายหวาดกลัว และเป็นทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิตของเขา
เลือดตรงบริเวณจมูกของทอยแห้งไปนานแล้ว โดยที่เขาปล่อยทิ้งไว้อย่างนั้น และในความเป็นจริงเวลาก็ล่วงเลยไปมาก จากเช้าตรู่ของวันใหม่จนกระทั่งย่ำสนธยา และความมืดของราตรีคืบคลานมาแทนที่
ทอยลุกไปเปิดไฟในห้อง ยืนมองตัวเองผ่านกระจกเงา รู้สึกเกลียดตัวเองเป็นที่สุด เกลียดการกระทำที่เห็นแก่ตัวของเขา เพราะรักและหวงรายันมาก เขากลัวที่จะสูญเสียรายันให้คนอื่น
**
**
“กลับบ้านเถอะ ฉันมารับกลับบ้าน” คำพูดของทอยไม่ก่อให้เกิดปฏิกิริยาใด ๆ แก่ชายหนุ่มซึ่งนั่งดื่มอยู่แต่อย่างใด
ทอยไม่ได้นั่งลง เขายืนนิ่งเงียบอย่างอดทนและเฝ้ารอ ด้วยรู้ว่าตัวเองเป็นฝ่ายผิด
รายันยังคงนั่งดื่มไม่สนใจเช่นกัน ทอยหันหลังกลับสีหน้าไม่สู้ดี
“ไหนบอกว่าจะมารับ” รายันเอ่ยขึ้น
ทอยยิ้มร่า รีบหันกลับมานั่งลง
รายันมองหน้าเขา
“นายโกรธฉันหรือเปล่า” ทอยถามเบา ๆ เหลือบมองเขา
รายันส่ายหน้า
“กลัวว่ากิ่งจะทำให้ฉันทิ้งนายใช่มั๊ย”
ทอยขบกรามจนเห็นเป็นสันนูนขึ้นข้างแก้ม เขาหลบสายตารายัน
“ฉันเข้าใจ แต่นั่นมันก็เป็นไปตามวิถีที่ควรจะเป็นของคนทุกคน นายเองก็เหมือนกัน ลองรักคนอื่นบ้าง มีคนอีกมากมายที่พร้อมจะรักนาย เพียงแค่เปิดตัวเองสักหน่อย ไม่มีใครทำร้ายนายได้อีกแล้ว เชื่อใจคนรอบข้างบ้าง คนอื่น ๆนอกจากฉัน”
ทอยกัดริมฝีปากไม่พูดอะไร เหมือนกับว่ารับฟังคำของรายันแต่โดยดีหากสายตากลับปรากฏแววขุ่นเคืองออกมาให้เห็น ทั้งที่เจ้าตัวพยามปกปิดโดยอาการสงบเงียบแล้วก็ตาม
“กลับกันเถอะ ฉันง่วงแล้ว” รายันชวน เขาลุกขึ้นเดินนำไปก่อน
ทอยยังคงนั่งอยู่ชั่วครู่หนึ่ง เหมือนกำลังกัลวลใจในบางสิ่ง
ภายใต้แสงสลัวของนีออนตามรายทาง ชายหนุ่มสองคนเดินตามหลังกันไปเงียบ เชียบ คนหลังทิ้งระยะห่างจากคนแรกพอสมควร ด้วยจงใจเช่นนั้น
แต่แล้วทอยรู้สึกเหนื่อย จนคิดว่าเขาคงเดินตามรายันไม่ทัน ชายหนุ่มเลี่ยงที่จะหยุดพักริมฟุตบาท เขาทรุดนั่งลงแทบจะหมดแรง จนคิดว่าตัวเองอาจจะตายอยู่ที่นี่ก็ได้
หาก...รายันไม่หันกลับมา ถ้าเพียงแค่รายันเดินไปเรื่อย ๆ และทิ้งเขาอย่างไม่สนใจ เขาจะทำยังไง ร้องเรียกหรือปล่อยให้รายันเดินจากไป
ทอยกอดเข่าฟุบหน้าลง
“เป็นอะไรไป” เสียงคุ้นหูดังอยู่ใกล้ ๆ
“รายัน” ทอยเรียกชื่อเขาแผ่วเบา
“นายไม่ทิ้งฉันใช่มั๊ย” ทอยย้ำเหมือนจะให้แน่ใจว่ารายันยืนอยู่ตรงนั้นจริง
รายันพยักหน้า เขาส่งมือให้ทอย เหมือนกับครั้งหนึ่งในวัยเด็ก
“อย่างทิ้งฉันนะ” ทอยลุกขึ้นโผเข้ากอดรายันไว้แน่น
“ฉันขอโทษ ฉันขอโทษ” เขาพร่ำบอก
“นายไม่สบายนี่” รายันสัมผัสได้ถึงความร้อนจากตัวทอยที่โอบกอดเขาอยู่
“ฉันไม่เป็นอะไรหรอก แค่รู้สึกเหนื่อยเท่านั้นเอง” ทอยมองหน้าเขา
“แน่ใจนะ”
“ฉันรู้ ฉันรู้ ไม่เป็นไรหรอก” ทอยโอบรายันแน่นเข้า
รายันพยามที่จะไม่มองใบหน้านั้น ทอยยังไม่หายจากอาการหวาดกลัว เขากลัวที่จะถูกทิ้งอีกครั้ง รายันเป็นคนทำให้ทอยไว้ใจเลิกหวาดกลัว แต่ในเวลานี้ทอยกำลังจะกลับไปเป็นเหมือนอย่างเก่า โดยต้นเหตุมาจากตัวเขา
ในบางครั้งรายันอดไม่ได้ที่จะคิดทอดทิ้งทอย ผละจากเขาไปเสีย แต่อีกใจหนึ่งมักโต้แย้งอยู่เสมอว่า ทอยเป็นชีวิตที่เขาควรจะดูแลในเมื่อทอยไว้วางใจเขา ในชีวิตของทอยมีเพียงเขาคนเดียวเท่านั้น
“ฉันรักนาย” ทอยกระซิบ
**
**
“เราหยุดความสัมพันธ์ไว้แค่นี้เถอะ”
กิ่งมองรายันดั่งล่วงรู้เรื่องนี้มาแล้ว
“กิ่งเข้าใจรายันนะ แม้จะไม่ทั้งหมด แต่ก็ไม่อยากให้ลำบากใจ ในเมื่อคุณเป็นฝ่ายพูดเรื่องนี้ขึ้นมาก็แสดงว่าได้ตัดสินใจแล้วว่าควรทำยังไง ไม่เป็นไรหรอกเรายังคงเป็นเพื่อนกันได้ กิ่งไม่ถือเอาเรื่องนี้มาเป็นสาระหรอกสบายใจได้”
หล่อนบอกเขาให้คลายกังวลใจ
“ทอยเป็นไงบ้าง”
“เขาเปลี่ยนไป เหมือนที่กิ่งเคยถามผม ไม่รู้เหมือนกันนะผมไม่แน่ใจ”
กิ่งมองเขา เก็บงำคำพูดไว้ไม่แสดงความคิดเห็นออกไป เมื่อเห็นอาการของรายันในเวลานี้ เพราะหล่อนเองไม่สามารถเข้าใจทอย และยิ่งไม่เข้าใจการตัดสินใจของรายัน เขาคิดยังไง สองคนจะอยู่ด้วยกันไปตลอดชีวิตอย่างนั้นเหรอ รายันตัดสินใจที่จะละทิ้งคนรอบข้างเพื่อทอยหรือ...? เขาคิดอะไรอยู่
“รายันรักทอยหรือเปล่า”
“ผมสงสารทอย”
หล่อนยิ้ม มันน่าเศร้า เป็นตลกร้ายที่หล่อนหัวเราะไม่ออกเลยล่ะ ชายหนุ่มสองคนผูกพันธ์กันอย่างลึกซึ้ง ห่วงหาอาทรธ์กันขนาดว่าไม่สนใจใครอื่นอีกแล้ว
กิ่งไม่อยากคิดเลยว่า รายันอาจเป็นแบบเดียวกับทอย แล้วหล่อนเล่าไปหลงรักผู้ชายประเภทนี้ได้อย่างไรกัน
“เขาไม่สบาย ผมไม่แน่ใจหรอกเขาไม่ได้แสดงอาการอะไรมาก แต่ผมรู้สึกว่าเขาเป็น ไม่รู้เหมือนกัน อาจจะใช่หรือไม่ใช่ก็ได้”
“โฮโมฯ” กิ่งคาดเดา
“ผมคิดว่าอย่างนั้น ถึงจะไม่มีเรื่องเพศเข้ามาเกี่ยวข้องก็เถอะ แต่ความรู้สึกของเขา ผมไม่อยากให้กิ่งต้องทนกับสภาพที่เป็นอยู่ของผม”
“...............” กิ่งมองรายัน
ยังมีเรื่องราวมากมายก่อเกิดขึ้นในใจของมนุษย์ ของคนบางคน เป็นสิ่งซึ่งซ่อนเร้นในใจ บางคราวสามารถอธิบายออกมาให้ใครคนอื่นเข้าใจได้ แต่ในบางคราวก็ไม่สามารถทำเช่นนั้น ได้แต่เก็บงำเอาไว้ และปล่อยให้ค้างคาใจของคนรอบข้างเช่นนี้ตลอดไป.
***
เรื่องนี้เคยลงไปแล้ว แต่เผอิญกดลบไปเลยเอามาลงอีกที...ใครอ่านแล้วก็ข้าม ๆ ไปซะ
คำยืนยันของเจ้าของเรื่องสั้น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
7 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
7 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ