"เพื่อนข้างบ้าน"
9.7
เขียนโดย PUKBUNG
วันที่ 14 กรกฎาคม พ.ศ. 2556 เวลา 21.08 น.
2
1 วิจารณ์
6,040 อ่าน
แก้ไขเมื่อ 14 กรกฎาคม พ.ศ. 2556 21.21 น. โดย เจ้าของเรื่องสั้น
2) ความฝันของเมื่อคืน และอดีตที่ผ่านมา มันเกิดขึ้น
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ6.46 น.วันที่ 2 ก.พ.56
มีเหตุการณ์แปลกๆ เกิดขึ้นคืนวันที่ 1 ก.พ.56 ฝันว่าตัวเองขับมอไซด์ไปทางริมเขื่อนเจ้าพระยา ฝั่งวัดศรีสาคร ใจว่าจะไปหาเพื่อนชื่อสุจินต์ ศุภนคร แต่ไปเท่าไหร่ก็ไม่เจอบ้าน แต่ในฝันเห็นลางๆว่าไปทางวัดศรีสาคร แต่ไปเท่าไหร่ก็ไปไม่ถึง แล้วตื่น ตื่นมาก็สงสัย ทำไม? ต้องให้เราไปทางนั้น
รุ่งขึ้นไปทำงาน ต้องลงพื้นที่หลังเสร็จภาระกิจขากลับมากับพี่ที่ทำงาน เจอคุณยาายนุ่งขาวหิ้วของพะรุงพะรัง จึงจอดรถถามยายจะไปไหน ยายยืนเก้ๆกัง บอกจะไปบวชวัดสว่างอารมณ์ (น่าจะเป็นบวชชี) ถามยายจะไปยังงัย ยายตอบไม่ถูกคงจะใช้วิธีโบกรถเอา เราไม่ได้ถามเอาความอะไรแต่บอกพี่ที่มาว่าเดี๋ยวไปส่งที่ทำงานเสร็จหนุ่มจะกลับมารับยายไปส่งวัด แคล้วกันไม่ถึงสามนาที เราวกรถรีบกลับมาอีกครั้งตรงจุดที่ยายเดิน ปรากฏว่ายายไม่อยู่แล้ว ตกใจมาก คือไม่อยู่จริงๆ ใครจะรับไปแล้วก็ไม่รู้ แต่ทำให้นึกถึงฝันเมื่อคืนว่าขับรถไปวัดศรีสาคร ยังสงสัยคาใจอยู่ อีกสิบนาทีเที่ยง ที่จริงมีนัดทานข้าวเลี้ยงส่งพนักงานที่ทำงานกับน้องนักศึกษาฝึกงานวัดห่างจากที่ทำงานไม่ไกลนัก มันคาใจไปเลยดีกว่า น้ำมันในถังรถก็ใกล้จะหมด แต่ไม่สนแล้ว ขับรถเลาะไปตามทางที่ฝัน ที่จริงมีทางลัดแต่ไม่ไป
เมื่อไปถึงวัด ก็เก้ๆกังๆ เพราะจำความได้มาครั้งแรกเมื่อปีที่แล้วกับนายก แล้วก็ไมได้มาอีกเลย วัดนี้ขึ้นชื่อคือเจ้าอาวาส หลวงพ่อฉาบ ทุกคนรักท่านลูกศิยษ์ลูกหามากมาย วันนี้ที่มาเราตรงดิ่งไปที่ศาลาเอนประสงค์ล่าง มองหาโบสถ์ใจจะไปไหว้พระพุทธรูป ไม่อยากไปรบกวนหลวงพ่อ เพราะแขกเขาเยอะ สาวเท้าเดินไปหาหญิงสูงวัยท่านนึง เราบอกเจตนาว่าจะมาไหว้พระ ที่นี่เขาไหว้พระพุทธรูปกันที่ไหน หญิงคนนั้นบอกทางด้านหนู้น ชื่อหลวงปู่ปั้น อดีตเจ้าอาวาสผู้มีช่ือเสี่ยง ฉายา หมอเทวดา รักษาโรคชื่อดัง หญิงคนนั้นถามเรามาจากไหน เราบอกเราคนหมู่ห้าตำบลม่วงหมู่ เรามาวัดนี้ตามความฝันเมื่อคืน หญิงคนนั้นทำหน้าตกใจ ขนลุก เราบอกเขาไปว่า ผมก็ไม่รู้ว่าผมมาที่นี่ทำไม แต่ในฝันบอกให้มาทางนี้ ก็เลยมา หญิงคนนั้นแนะนำตัวชื่อป้าตุ๊ บอกเราว่า เขาจะให้หนูมาทำบุญนะสิ ป้าฟังแล้วขนลุก แล้วเขาก็เข้ามาลูบหลังลูบหัวเรา เขาดีใจ พอดีทางวัดจะจัดผ้าป่าช่วงสงกรานต์ ปีที่ผ่านมาจู่ๆ หลวงพ่อฉาบก็สั่งลูกศิษย์แปลกๆ ท่านบอกว่า ถ้าฉันไม่อยู่ กลัวว่าค่าน้ำค่าไฟจะไม่พอจัดทำงานอะไรต่ออะไรต่างๆ จึงขอให้ปีนี้จัดผ้าป่านำเงินสมทบกับมูลนิธิเดิมที่มีนั้นเพื่อเตรียมไว้ใช้ค่าน้ำค่าไฟในเรื่องต่างๆ เรามองไปรอบศาลาเอนกประสงค์แล้วแนะนำตัวว่าทำงานสื่อ และเจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์ ผมช่วยอะไรได้บ้าง ในเมื่อเขานิมิตรให้ผมมาทางนี้แสดงว่าเขาอยากให้ผมมาทำบุญ ผมจะช่วย สุดท้ายเราขอซองผ้าป่ามา 10 ซอง มีบัตรสอยดาวมาชุดนึง จะเอาไปให้ผู้นำหมู่บ้านช่วยกันทำ ก่อนกลับป้าตุ๊บอกดีจังเลย ป้าอนุโมทนาบุญด้วยนะ แล้วเขาก็เดินไปเอาสร้อยร็อคเก็ตรูปหลวงพ่อฉาบรุ่นล่าสุดมาคล้องให้ อวยพรให้โชคดี พอจะเดินออกมา แกบอกว่า ซองในมือนี่ทุก 100 บาทที่ทำบุญมา จะได้เหรียญที่หลวงพ่อฉาบจะแจกในงานปีนี้เป็นนางกวัก และอีกด้านเป็นพระพุทธชินราช เราตกใจ เพราะเราชอบพระพุทธชินราช เพราะที่บ้านทุกคนในครอบครัวนับถือท่านมาก ก็รับกลับมาเลย มาถึงที่ทำงานก็บอกบุญ มีคนร่วมทำบุญต่อ เหลืออีก 2 ซอง เก็บไว้ก่อน
ส่วนเมื่อช่วงเช้ามืดที่ผ่านมาฝันว่าตัวเองเผาศพใครก็ไม่รู้ โดยจุดไฟเผาด้วยตนเอง รู้สึกบาปมาก ไม่รู้ว่าเขาเป็นใครมองไม่ออก ความรู้สึกเหมือนเขาคือ "ย่าแป้น" ย่าของเรา ในฝันเห็นพี่หนึ่ง เรา และน้องนาย ยืนอยู่ในงาน โดยเราบวชเณรกับน้องชายเดินไปตรงบริเวณจุดธูปฝังดิน แล้วท่องคำสวดมนต์พิจารณาผ้า อนิจจัง วาตะสังขารา...จนจบ แต่รู้สึกไม่ดีเลย เพราะตอนเผามีความรู้สึกว่าเหมือนเผาคนทั้งเป็น
อนึ่งปีที่ช่วงตกงาน ปี 54 มีแต่เรื่องไม่ดีตลอดทั้งปี ช่วงกลางปีฝันว่าตัวเองซ้อนกระบะหลังรถพ่อหนีน้ำขึ้นเขา ตอนนั้นมีข่าวน้ำจะท่วมโลก ในฝันจำได้ว่าไปทางสุพรรณบุรี ตอนขึ้นเขาเราเห็นพระพุทธรูปจีบมืออยู่ตรงหน้าอก อยู่บนเขาองค์สีขาว บริเวณนั้นประดับด้วยธงธรรรมจักษ์ แล้วก็ตื่น ก็เอาความฝันไปบอกแม่ ซึ่งคาใจอยู่หลายเดือน จนวันนึงน้ากลับมาจาก กทม.ก็อยากให้เราไป ก็ขับรถพาไปมีพ่อ แม่ น้า บึ่งตรงไปสุพรรณฯ เมื่อไปถึง เรามุ่งหน้าไปวัดต่างๆที่อยู่บนเขา ลงทุนกระทั่งเดินึ้นเขาไปดูเองคนเดียว จนปวดขาก็ยอม แต่ไม่ใช่ จนท้อจะกลับแล้ว แต่ก็อถิษฐานในใจขอให้ได้เจอ จนขากลับจู่ๆพ่อก็บอกว่าคุ้นๆ เหมือนจะคับคล้ายคับคาวัดที่อยู่กลางทุ่ง ก็เลยลองเลี้ยวรถไปตามทางที่ว่า เมื่อไปถึงจะใกล้บริเวณวัดเราที่นั่งอยู่ในรถตกใจ เพราะทางที่กำลังจะขึ้นไปบนเขาเหมือนในฝันเลย เราขนลุกน้ำตาจะไหล ได้แต่บอกแม่ว่า นี่ใช่เลย เหมือนในฝันมากเลย แล้วพอรถขึ้นไปยังไม่สุดทางเราเห็นธงธรรมจักรสีส้มและหน้าพระพุทธรูปก็จำได้ ว่าองค์นี้องค์ใหญ่มากอยู่บนเขา ทราบตอนหลังว่าเป็นปรางค์ประทานพร เขาอยากให้เรามากราบขอพรนี่เอง ความทรงจำนี้ไม่เคยลืมเลย และจำได้แม่่น เพราะไม่นาเชื่อว่าจะเป็นไปได้เลย ส่วนวัดที่ว่านี้คือ วัดเขานางบวช อ.เดิมบางนางบวช จ.สุพรรณบุรี
มีเหตุการณ์แปลกๆ เกิดขึ้นคืนวันที่ 1 ก.พ.56 ฝันว่าตัวเองขับมอไซด์ไปทางริมเขื่อนเจ้าพระยา ฝั่งวัดศรีสาคร ใจว่าจะไปหาเพื่อนชื่อสุจินต์ ศุภนคร แต่ไปเท่าไหร่ก็ไม่เจอบ้าน แต่ในฝันเห็นลางๆว่าไปทางวัดศรีสาคร แต่ไปเท่าไหร่ก็ไปไม่ถึง แล้วตื่น ตื่นมาก็สงสัย ทำไม? ต้องให้เราไปทางนั้น
รุ่งขึ้นไปทำงาน ต้องลงพื้นที่หลังเสร็จภาระกิจขากลับมากับพี่ที่ทำงาน เจอคุณยาายนุ่งขาวหิ้วของพะรุงพะรัง จึงจอดรถถามยายจะไปไหน ยายยืนเก้ๆกัง บอกจะไปบวชวัดสว่างอารมณ์ (น่าจะเป็นบวชชี) ถามยายจะไปยังงัย ยายตอบไม่ถูกคงจะใช้วิธีโบกรถเอา เราไม่ได้ถามเอาความอะไรแต่บอกพี่ที่มาว่าเดี๋ยวไปส่งที่ทำงานเสร็จหนุ่มจะกลับมารับยายไปส่งวัด แคล้วกันไม่ถึงสามนาที เราวกรถรีบกลับมาอีกครั้งตรงจุดที่ยายเดิน ปรากฏว่ายายไม่อยู่แล้ว ตกใจมาก คือไม่อยู่จริงๆ ใครจะรับไปแล้วก็ไม่รู้ แต่ทำให้นึกถึงฝันเมื่อคืนว่าขับรถไปวัดศรีสาคร ยังสงสัยคาใจอยู่ อีกสิบนาทีเที่ยง ที่จริงมีนัดทานข้าวเลี้ยงส่งพนักงานที่ทำงานกับน้องนักศึกษาฝึกงานวัดห่างจากที่ทำงานไม่ไกลนัก มันคาใจไปเลยดีกว่า น้ำมันในถังรถก็ใกล้จะหมด แต่ไม่สนแล้ว ขับรถเลาะไปตามทางที่ฝัน ที่จริงมีทางลัดแต่ไม่ไป
เมื่อไปถึงวัด ก็เก้ๆกังๆ เพราะจำความได้มาครั้งแรกเมื่อปีที่แล้วกับนายก แล้วก็ไมได้มาอีกเลย วัดนี้ขึ้นชื่อคือเจ้าอาวาส หลวงพ่อฉาบ ทุกคนรักท่านลูกศิยษ์ลูกหามากมาย วันนี้ที่มาเราตรงดิ่งไปที่ศาลาเอนประสงค์ล่าง มองหาโบสถ์ใจจะไปไหว้พระพุทธรูป ไม่อยากไปรบกวนหลวงพ่อ เพราะแขกเขาเยอะ สาวเท้าเดินไปหาหญิงสูงวัยท่านนึง เราบอกเจตนาว่าจะมาไหว้พระ ที่นี่เขาไหว้พระพุทธรูปกันที่ไหน หญิงคนนั้นบอกทางด้านหนู้น ชื่อหลวงปู่ปั้น อดีตเจ้าอาวาสผู้มีช่ือเสี่ยง ฉายา หมอเทวดา รักษาโรคชื่อดัง หญิงคนนั้นถามเรามาจากไหน เราบอกเราคนหมู่ห้าตำบลม่วงหมู่ เรามาวัดนี้ตามความฝันเมื่อคืน หญิงคนนั้นทำหน้าตกใจ ขนลุก เราบอกเขาไปว่า ผมก็ไม่รู้ว่าผมมาที่นี่ทำไม แต่ในฝันบอกให้มาทางนี้ ก็เลยมา หญิงคนนั้นแนะนำตัวชื่อป้าตุ๊ บอกเราว่า เขาจะให้หนูมาทำบุญนะสิ ป้าฟังแล้วขนลุก แล้วเขาก็เข้ามาลูบหลังลูบหัวเรา เขาดีใจ พอดีทางวัดจะจัดผ้าป่าช่วงสงกรานต์ ปีที่ผ่านมาจู่ๆ หลวงพ่อฉาบก็สั่งลูกศิษย์แปลกๆ ท่านบอกว่า ถ้าฉันไม่อยู่ กลัวว่าค่าน้ำค่าไฟจะไม่พอจัดทำงานอะไรต่ออะไรต่างๆ จึงขอให้ปีนี้จัดผ้าป่านำเงินสมทบกับมูลนิธิเดิมที่มีนั้นเพื่อเตรียมไว้ใช้ค่าน้ำค่าไฟในเรื่องต่างๆ เรามองไปรอบศาลาเอนกประสงค์แล้วแนะนำตัวว่าทำงานสื่อ และเจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์ ผมช่วยอะไรได้บ้าง ในเมื่อเขานิมิตรให้ผมมาทางนี้แสดงว่าเขาอยากให้ผมมาทำบุญ ผมจะช่วย สุดท้ายเราขอซองผ้าป่ามา 10 ซอง มีบัตรสอยดาวมาชุดนึง จะเอาไปให้ผู้นำหมู่บ้านช่วยกันทำ ก่อนกลับป้าตุ๊บอกดีจังเลย ป้าอนุโมทนาบุญด้วยนะ แล้วเขาก็เดินไปเอาสร้อยร็อคเก็ตรูปหลวงพ่อฉาบรุ่นล่าสุดมาคล้องให้ อวยพรให้โชคดี พอจะเดินออกมา แกบอกว่า ซองในมือนี่ทุก 100 บาทที่ทำบุญมา จะได้เหรียญที่หลวงพ่อฉาบจะแจกในงานปีนี้เป็นนางกวัก และอีกด้านเป็นพระพุทธชินราช เราตกใจ เพราะเราชอบพระพุทธชินราช เพราะที่บ้านทุกคนในครอบครัวนับถือท่านมาก ก็รับกลับมาเลย มาถึงที่ทำงานก็บอกบุญ มีคนร่วมทำบุญต่อ เหลืออีก 2 ซอง เก็บไว้ก่อน
ส่วนเมื่อช่วงเช้ามืดที่ผ่านมาฝันว่าตัวเองเผาศพใครก็ไม่รู้ โดยจุดไฟเผาด้วยตนเอง รู้สึกบาปมาก ไม่รู้ว่าเขาเป็นใครมองไม่ออก ความรู้สึกเหมือนเขาคือ "ย่าแป้น" ย่าของเรา ในฝันเห็นพี่หนึ่ง เรา และน้องนาย ยืนอยู่ในงาน โดยเราบวชเณรกับน้องชายเดินไปตรงบริเวณจุดธูปฝังดิน แล้วท่องคำสวดมนต์พิจารณาผ้า อนิจจัง วาตะสังขารา...จนจบ แต่รู้สึกไม่ดีเลย เพราะตอนเผามีความรู้สึกว่าเหมือนเผาคนทั้งเป็น
อนึ่งปีที่ช่วงตกงาน ปี 54 มีแต่เรื่องไม่ดีตลอดทั้งปี ช่วงกลางปีฝันว่าตัวเองซ้อนกระบะหลังรถพ่อหนีน้ำขึ้นเขา ตอนนั้นมีข่าวน้ำจะท่วมโลก ในฝันจำได้ว่าไปทางสุพรรณบุรี ตอนขึ้นเขาเราเห็นพระพุทธรูปจีบมืออยู่ตรงหน้าอก อยู่บนเขาองค์สีขาว บริเวณนั้นประดับด้วยธงธรรรมจักษ์ แล้วก็ตื่น ก็เอาความฝันไปบอกแม่ ซึ่งคาใจอยู่หลายเดือน จนวันนึงน้ากลับมาจาก กทม.ก็อยากให้เราไป ก็ขับรถพาไปมีพ่อ แม่ น้า บึ่งตรงไปสุพรรณฯ เมื่อไปถึง เรามุ่งหน้าไปวัดต่างๆที่อยู่บนเขา ลงทุนกระทั่งเดินึ้นเขาไปดูเองคนเดียว จนปวดขาก็ยอม แต่ไม่ใช่ จนท้อจะกลับแล้ว แต่ก็อถิษฐานในใจขอให้ได้เจอ จนขากลับจู่ๆพ่อก็บอกว่าคุ้นๆ เหมือนจะคับคล้ายคับคาวัดที่อยู่กลางทุ่ง ก็เลยลองเลี้ยวรถไปตามทางที่ว่า เมื่อไปถึงจะใกล้บริเวณวัดเราที่นั่งอยู่ในรถตกใจ เพราะทางที่กำลังจะขึ้นไปบนเขาเหมือนในฝันเลย เราขนลุกน้ำตาจะไหล ได้แต่บอกแม่ว่า นี่ใช่เลย เหมือนในฝันมากเลย แล้วพอรถขึ้นไปยังไม่สุดทางเราเห็นธงธรรมจักรสีส้มและหน้าพระพุทธรูปก็จำได้ ว่าองค์นี้องค์ใหญ่มากอยู่บนเขา ทราบตอนหลังว่าเป็นปรางค์ประทานพร เขาอยากให้เรามากราบขอพรนี่เอง ความทรงจำนี้ไม่เคยลืมเลย และจำได้แม่่น เพราะไม่นาเชื่อว่าจะเป็นไปได้เลย ส่วนวัดที่ว่านี้คือ วัดเขานางบวช อ.เดิมบางนางบวช จ.สุพรรณบุรี
คำยืนยันของเจ้าของเรื่องสั้น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
10 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ