แก่น
6.8
เขียนโดย ต้นเกว๋น
วันที่ 23 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 เวลา 15.33 น.
1 บท
3 วิจารณ์
4,147 อ่าน
แก้ไขเมื่อ 23 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 15.36 น. โดย เจ้าของเรื่องสั้น
1) แก่น
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความแก่น
เช้า อากาศเย็นสบาย ไม่มีเมฆก้อนใหญ่เหมือนวันก่อนที่ผ่านมา พระอาทิตย์กำลังทอแสง โผล่พ้นขึ้นจากขอบฟ้า หมู่นกนานาชนิดกำลังบินร่อนออกหากิน วันนี้ก็เหมือนกับวันอื่นที่ทุก ๆ ชีวิตต่างก็มีภาระหน้าที่จะต้องทำในรุ่งอรุณแห่งวันใหม่ ณ ถิ่นที่แห่งนี้ ไกลจากตัวเมืองเชียงใหม่หลายสิบกว่ากิโล ถูกโอบล้อมไปด้วยขุนเขาพนาป่าไม้หนาทึบ แต่ก็ยังมีหมู่บ้านหนึ่งซึ่งซ่อนตัวอยู่ในขุนเขาแห่งนี้ มีป้ายชื่อหมู่บ้านทำด้วยไม้กระดานสี่เหลี่ยมผืนผ้า ถูกตรึงไว้ด้วยเสาสองต้น เพื่อให้ป้ายชื่อตั้งไว้ได้ บนแผ่นไม้กระดานนั้นมีตัวหนังสือเขียนด้วยสีขาว ดูเหมือนว่าจะเขียนไว้นานแล้วเพราะตัวหนังสือบางตัวซีดจางเลอะเลือนไปแสดงถึงการผ่านสายลม สายฝน แสงแดด มาหลากหลายฤดู แต่ถึงอย่างไรป้ายนี้ก็ยังคงมีประโยชน์แก่ผู้ที่สัญจรผ่านไปมาเพราะยังสามารถอ่านป้ายนี้ออกอยู่ว่า “หมู่บ้านไม้งาม” ถัดจากป้ายของหมู่บ้านไปอีกไม่ไกลนัก ก็เป็นโรงเรียน และเป็นวัด มีบ้านเรือนหลายหลังปลูกติดชิดกันบริเวณนี้แต่ก็ไม่ได้ดูแน่นหนายัดเยียดเบียดเสียดกัน เห็นได้จากบ้านแต่ละหลังนั้นมีเนื้อที่บริเวณบ้านกว้างมากแล้วก็ไม่ได้ล้อมรั้วกับบ้านใกล้เรือนเคียงด้วย ปล่อยให้โล่งเป็นที่กว้างไป หมู่บ้านแห่งนี้มองไปรอบ ๆ ช่างห่างไกลจากเทคโนโลยี แสงสี กลิ่นไอของเมือง และความสะดวกสบายอย่างมาก แต่ผู้คนที่นี่ก็มีใบหน้ายิ้มแย้มมีความสุขกันทุกคน เหมือนจะไม่สิ่งใดขาดหายไปในชีวิต และไม่ต้องขวนขวายไขว่คว้าสิ่งอื่นใดเข้ามาเพิ่มเติมอีกต่อไป
วันนี้เป็นวันจันทร์เด็กน้อยหลายคนกำลังเดินทางไปโรงเรียน เช่นเดียวกันกับ เด็กชายผมสั้นคนหนึ่งที่มีผมวกวนอยู่บนหัวบริเวณด้านหน้าผาก ราวกับพายุหมุน หรือคนทั่วไปเรียกว่าขวัญผม ก็กำลังเดินไปกับเพื่อน ๆบนถนนลูกรังสีแดง เพื่อน ๆ มักเรียกเด็กชายคนนี้ว่า “ไอ่แก่น” บ้านแก่นอยู่แถวทางเข้าหมู่บ้าน หน้าบ้านมีต้นมะขามหวานต้นใหญ่อยู่ต้นหนึ่ง ตั้งแต่จำความได้แก่นก็เห็นต้นมะขามต้นนี้อยู่หน้าบ้านแล้ว แก่นเรียนอยู่ชั้น ป.2 โรงเรียนบ้านไม้งาม มีครูประจำชั้นผู้หญิงชื่อ ครูสมฤดี ยิ้มสวยใส แต่เด็กนักเรียนหลายคนมักเรียก ว่าครูสม แก่น เป็นที่รักของเพื่อน ๆ และคุณครูหลายคน เพราะเป็นคนตลก ทั้งยังชอบพูดและกล้าแสดงออก ครั้งหนึ่งเมื่ออยู่ชั้น ป.1 ครูเคยให้เขาเป็นตัวแทนไปพูดหน้าเสาธงเรื่องการประหยัดพลังงานในบ้าน แก่นหยิบกระดาษที่ครูจดให้มาพูด ระหว่างพูดก็บิดซ้ายขวา ทำท่าเขินอาย พูดเหมือนกับอ่านหนังสือแถมยังมีการอ่านสะกดคำที่อ่านไม่คล่องอีกด้วย ทว่ามันก็ไม่หนักเท่ากับเมื่อตอนเขาพูดเสร็จกลับมีน้ำสีเหลืองไหลมาจากกางเกง จนทำให้เป็นเรื่องที่น่าขบขันไปทั้งวันทั้งโรงเรียน แต่แก่นก็ไม่เคยโกรธใครแถมยังมีความสุขเสียอีกที่ทำให้หลายคนมีความสุข แก่น ชื่อนี้แปลกมากนัก ครั้งก่อนครูสมถามเขาว่า ชื่อเล่นว่า แก่น นั้นหมายความว่าอะไร จนเขาต้องกลับมาถามแม่ที่บ้าน แม่บอกว่าชื่อนี้หลวงพ่อที่วัดบ้านเราท่านตั้งให้ตอนลูกเกิด แก่นในที่นี้คือแก่นสาร ซึ่งหมายถึงประโยชน์ แล้วหลวงพ่อก็ยังบอกว่าโตขึ้นมาลูกต้องรู้จักทำคุณ ทำประโยชน์ แก่แผ่นดิน ถึงจะสมชื่อว่า แก่นสาร
แก่น เด็กชายที่น่ารักของทุกคนในโรงเรียน มีนิสัยช่างพูด ทำให้ทุกคนสนุก ตลก มักจะถูกเรียกยืมใช้จากครูหลายคน โดยเฉพาะครูสม ครูประจำชั้นของแก่น วันนี้ก็เช่นเดียวกันครูสมได้ใช้ให้แก่นเอาแฟ้มเล่มหนึ่งไปให้ครูวันใหม่ ครูประจำชั้น ป.6 เพื่อที่จะให้เขียนหรือเซ็นอะไรบางอย่าง แล้วครูสมยังบอกด้วยว่าให้เอาแฟ้มกลับมาให้ครูด้วย แก่นก็รู้หน้าที่เป็นอย่างดี เขาทำตามคำคำสั่งเช่นทุกครั้งโดยไม่ขาดตกบกพร่องอะไรเลย โดยเขาเดินไปอาคารเรียนของพี่ชั้น ป.6 อีกตึกหนึ่งถัดจากอาคารที่แก่นเรียนอยู่ ซึ่งเป็นอาคารสร้างด้วยไม้ 2 ชั้น แต่ละชั้นมี 3 ห้อง ทาสีน้ำตาลเข้ม ข้าง ๆอาคารปลูกต้นมะม่วงอยู่หลายต้น เมื่อถึงเวลาพักเที่ยงเด็ก ๆ มักมาเล่นบริเวณนี้ เพราะร่มรื่นเย็นสบาย อาคารหลังนี้เป็นอาคารเรียนของพี่ ป.3 ถึง ป.6 ซึ่งแก่นก็รูดีว่าปีหน้าเขาต้องย้ายมาเรียนอาคารหลังนี้แล้ว แก่นวางแผนการเดินว่าต้องขึ้นไปชั้น 2 เพราะเห็นว่าชั้นที่ 2 เป็นชั้นที่ครูวันใหม่สอนพี่ๆ ป.6 แก่นมุ่งหน้าเดินผ่านอ่างน้ำแปรงฟัน ที่มีก๊อกน้ำหลายอันให้เด็กนักเรียนไว้แปรงฟันตอนกินข้าวเที่ยงเสร็จ และเอาไว้สำหรับ ล้างมือ ล้างหน้าเมื่อสกปรก เดินผ่านอ่างน้ำแปรงฟันอีกไม่นานนัก ก็ผ่านลานหน้าเสาธง แล้วจึงถึงอาคารพี่ ป.6 เขาจึงก้าวเดินขึ้นบันไดทีละขั้น เขามองดูขั้นบันไดซึ่งเป็นกระดานไม้แผ่นหนา ช่างดูเงามัน สะอาดเอี่ยม คงจะเป็นเพราะผ่านการขัดด้วยกาบมะพร้าว ตลอดจนการเช็ดด้วยฝีมือของพี่ๆ แก่นขึ้นบันไดไปเรื่อย ๆ จนถึงชั้นที่หนึ่งและก็ขึ้นไปอีกจนถึงชั้นที่สอง เขาจึงเดินไปตรงลานระเบียงหน้าห้อง พร้อมกับอ่านป้ายชื่อหน้าประตู แต่ละห้อง เมื่อเดินผ่านห้องแรกเขียนติดว่าครูมิ่งขวัญ เขาจึงเดินผ่านไป จนเดินมาถึง ห้องที่สองเขียนติดว่าครูวันใหม่ แก่นจึงก้าวเข้าไปในห้องทันที โดยเขามองไปรอบๆ ก็เห็น ว่าตอนนี้ พี่ ๆ หลายคน กำลังจับกลุ่มทั่งยืนนั่งทำอะไรบางอย่าง ระหว่างที่ครูวันใหม่สอนด้านหน้าห้อง แก่นไม่รอช้ารีบตรงไปหาครูวันใหม่ ยกมือไหว้ทักทาย “สวัสดีครับ” แล้วเอาแฟ้มยื่นให้ครูวันใหม่ ถัดมาจึงพูดว่า “ครูสมฝากมาให้ครับ” ระหว่างนั้นเองแก่นก็หาเก้าอี้ว่างตัวหนึ่งที่เห็นว่ารุ่นพี่ไม่ได้นั่งแล้วมานั่งรอ เขารออีกสักประเดี๋ยวไม่นานนักครูวันใหม่ก็ส่งแฟ้มให้แก่น เขายกมือรับและกล่าวว่า “ขอบคุณครับครับ” จากนั้น แก่นจึงเดินกลับออกจากห้องมุ่งหน้าไปอาคารเรียนของตนเองด้วยความสบายใจเพราะทำภารกิจเสร็จแล้ว แต่ก่อนที่เขาจะก้าวลงบันได ทันใดนั้นเองก็ได้ยินเสียงดังจากห้องรุ่นพี่มาว่า “ ใครวะแกล้ง เอาเก้าอี้ออกไป ล้มเจ็บก้นนะเว้ย” ตามมาด้วยเสียงหัวเราะยกใหญ่ทั้งห้อง แก่นยิ้ม แล้วนึกในใจคงไม่ใช่ เก้าอี้ตัวนั้นแน่ ที่เรา เอามานั่ง เพราะมันมีเก้าอี้ หลายตัว และแก่นก็นึกขึ้นได้อีกว่า สิ่งที่แม่พูดวันนั้น แก่นสงแก่นสารนั้นมันหมายถึงประโยชน์อะไรสักอย่าง ที่จริงแล้วเขาก็ไม่เข้าใจมันดีมากหรอก แต่เขาก็ไม่ได้โง่นะเพราะแก่นหนึ่งที่เขาเข้าใจและรู้ความหมายดีก็คือแก่นที่ครูสม สอนวันนี้ คือ “จอมแก่น”
เช้า อากาศเย็นสบาย ไม่มีเมฆก้อนใหญ่เหมือนวันก่อนที่ผ่านมา พระอาทิตย์กำลังทอแสง โผล่พ้นขึ้นจากขอบฟ้า หมู่นกนานาชนิดกำลังบินร่อนออกหากิน วันนี้ก็เหมือนกับวันอื่นที่ทุก ๆ ชีวิตต่างก็มีภาระหน้าที่จะต้องทำในรุ่งอรุณแห่งวันใหม่ ณ ถิ่นที่แห่งนี้ ไกลจากตัวเมืองเชียงใหม่หลายสิบกว่ากิโล ถูกโอบล้อมไปด้วยขุนเขาพนาป่าไม้หนาทึบ แต่ก็ยังมีหมู่บ้านหนึ่งซึ่งซ่อนตัวอยู่ในขุนเขาแห่งนี้ มีป้ายชื่อหมู่บ้านทำด้วยไม้กระดานสี่เหลี่ยมผืนผ้า ถูกตรึงไว้ด้วยเสาสองต้น เพื่อให้ป้ายชื่อตั้งไว้ได้ บนแผ่นไม้กระดานนั้นมีตัวหนังสือเขียนด้วยสีขาว ดูเหมือนว่าจะเขียนไว้นานแล้วเพราะตัวหนังสือบางตัวซีดจางเลอะเลือนไปแสดงถึงการผ่านสายลม สายฝน แสงแดด มาหลากหลายฤดู แต่ถึงอย่างไรป้ายนี้ก็ยังคงมีประโยชน์แก่ผู้ที่สัญจรผ่านไปมาเพราะยังสามารถอ่านป้ายนี้ออกอยู่ว่า “หมู่บ้านไม้งาม” ถัดจากป้ายของหมู่บ้านไปอีกไม่ไกลนัก ก็เป็นโรงเรียน และเป็นวัด มีบ้านเรือนหลายหลังปลูกติดชิดกันบริเวณนี้แต่ก็ไม่ได้ดูแน่นหนายัดเยียดเบียดเสียดกัน เห็นได้จากบ้านแต่ละหลังนั้นมีเนื้อที่บริเวณบ้านกว้างมากแล้วก็ไม่ได้ล้อมรั้วกับบ้านใกล้เรือนเคียงด้วย ปล่อยให้โล่งเป็นที่กว้างไป หมู่บ้านแห่งนี้มองไปรอบ ๆ ช่างห่างไกลจากเทคโนโลยี แสงสี กลิ่นไอของเมือง และความสะดวกสบายอย่างมาก แต่ผู้คนที่นี่ก็มีใบหน้ายิ้มแย้มมีความสุขกันทุกคน เหมือนจะไม่สิ่งใดขาดหายไปในชีวิต และไม่ต้องขวนขวายไขว่คว้าสิ่งอื่นใดเข้ามาเพิ่มเติมอีกต่อไป
วันนี้เป็นวันจันทร์เด็กน้อยหลายคนกำลังเดินทางไปโรงเรียน เช่นเดียวกันกับ เด็กชายผมสั้นคนหนึ่งที่มีผมวกวนอยู่บนหัวบริเวณด้านหน้าผาก ราวกับพายุหมุน หรือคนทั่วไปเรียกว่าขวัญผม ก็กำลังเดินไปกับเพื่อน ๆบนถนนลูกรังสีแดง เพื่อน ๆ มักเรียกเด็กชายคนนี้ว่า “ไอ่แก่น” บ้านแก่นอยู่แถวทางเข้าหมู่บ้าน หน้าบ้านมีต้นมะขามหวานต้นใหญ่อยู่ต้นหนึ่ง ตั้งแต่จำความได้แก่นก็เห็นต้นมะขามต้นนี้อยู่หน้าบ้านแล้ว แก่นเรียนอยู่ชั้น ป.2 โรงเรียนบ้านไม้งาม มีครูประจำชั้นผู้หญิงชื่อ ครูสมฤดี ยิ้มสวยใส แต่เด็กนักเรียนหลายคนมักเรียก ว่าครูสม แก่น เป็นที่รักของเพื่อน ๆ และคุณครูหลายคน เพราะเป็นคนตลก ทั้งยังชอบพูดและกล้าแสดงออก ครั้งหนึ่งเมื่ออยู่ชั้น ป.1 ครูเคยให้เขาเป็นตัวแทนไปพูดหน้าเสาธงเรื่องการประหยัดพลังงานในบ้าน แก่นหยิบกระดาษที่ครูจดให้มาพูด ระหว่างพูดก็บิดซ้ายขวา ทำท่าเขินอาย พูดเหมือนกับอ่านหนังสือแถมยังมีการอ่านสะกดคำที่อ่านไม่คล่องอีกด้วย ทว่ามันก็ไม่หนักเท่ากับเมื่อตอนเขาพูดเสร็จกลับมีน้ำสีเหลืองไหลมาจากกางเกง จนทำให้เป็นเรื่องที่น่าขบขันไปทั้งวันทั้งโรงเรียน แต่แก่นก็ไม่เคยโกรธใครแถมยังมีความสุขเสียอีกที่ทำให้หลายคนมีความสุข แก่น ชื่อนี้แปลกมากนัก ครั้งก่อนครูสมถามเขาว่า ชื่อเล่นว่า แก่น นั้นหมายความว่าอะไร จนเขาต้องกลับมาถามแม่ที่บ้าน แม่บอกว่าชื่อนี้หลวงพ่อที่วัดบ้านเราท่านตั้งให้ตอนลูกเกิด แก่นในที่นี้คือแก่นสาร ซึ่งหมายถึงประโยชน์ แล้วหลวงพ่อก็ยังบอกว่าโตขึ้นมาลูกต้องรู้จักทำคุณ ทำประโยชน์ แก่แผ่นดิน ถึงจะสมชื่อว่า แก่นสาร
แก่น เด็กชายที่น่ารักของทุกคนในโรงเรียน มีนิสัยช่างพูด ทำให้ทุกคนสนุก ตลก มักจะถูกเรียกยืมใช้จากครูหลายคน โดยเฉพาะครูสม ครูประจำชั้นของแก่น วันนี้ก็เช่นเดียวกันครูสมได้ใช้ให้แก่นเอาแฟ้มเล่มหนึ่งไปให้ครูวันใหม่ ครูประจำชั้น ป.6 เพื่อที่จะให้เขียนหรือเซ็นอะไรบางอย่าง แล้วครูสมยังบอกด้วยว่าให้เอาแฟ้มกลับมาให้ครูด้วย แก่นก็รู้หน้าที่เป็นอย่างดี เขาทำตามคำคำสั่งเช่นทุกครั้งโดยไม่ขาดตกบกพร่องอะไรเลย โดยเขาเดินไปอาคารเรียนของพี่ชั้น ป.6 อีกตึกหนึ่งถัดจากอาคารที่แก่นเรียนอยู่ ซึ่งเป็นอาคารสร้างด้วยไม้ 2 ชั้น แต่ละชั้นมี 3 ห้อง ทาสีน้ำตาลเข้ม ข้าง ๆอาคารปลูกต้นมะม่วงอยู่หลายต้น เมื่อถึงเวลาพักเที่ยงเด็ก ๆ มักมาเล่นบริเวณนี้ เพราะร่มรื่นเย็นสบาย อาคารหลังนี้เป็นอาคารเรียนของพี่ ป.3 ถึง ป.6 ซึ่งแก่นก็รูดีว่าปีหน้าเขาต้องย้ายมาเรียนอาคารหลังนี้แล้ว แก่นวางแผนการเดินว่าต้องขึ้นไปชั้น 2 เพราะเห็นว่าชั้นที่ 2 เป็นชั้นที่ครูวันใหม่สอนพี่ๆ ป.6 แก่นมุ่งหน้าเดินผ่านอ่างน้ำแปรงฟัน ที่มีก๊อกน้ำหลายอันให้เด็กนักเรียนไว้แปรงฟันตอนกินข้าวเที่ยงเสร็จ และเอาไว้สำหรับ ล้างมือ ล้างหน้าเมื่อสกปรก เดินผ่านอ่างน้ำแปรงฟันอีกไม่นานนัก ก็ผ่านลานหน้าเสาธง แล้วจึงถึงอาคารพี่ ป.6 เขาจึงก้าวเดินขึ้นบันไดทีละขั้น เขามองดูขั้นบันไดซึ่งเป็นกระดานไม้แผ่นหนา ช่างดูเงามัน สะอาดเอี่ยม คงจะเป็นเพราะผ่านการขัดด้วยกาบมะพร้าว ตลอดจนการเช็ดด้วยฝีมือของพี่ๆ แก่นขึ้นบันไดไปเรื่อย ๆ จนถึงชั้นที่หนึ่งและก็ขึ้นไปอีกจนถึงชั้นที่สอง เขาจึงเดินไปตรงลานระเบียงหน้าห้อง พร้อมกับอ่านป้ายชื่อหน้าประตู แต่ละห้อง เมื่อเดินผ่านห้องแรกเขียนติดว่าครูมิ่งขวัญ เขาจึงเดินผ่านไป จนเดินมาถึง ห้องที่สองเขียนติดว่าครูวันใหม่ แก่นจึงก้าวเข้าไปในห้องทันที โดยเขามองไปรอบๆ ก็เห็น ว่าตอนนี้ พี่ ๆ หลายคน กำลังจับกลุ่มทั่งยืนนั่งทำอะไรบางอย่าง ระหว่างที่ครูวันใหม่สอนด้านหน้าห้อง แก่นไม่รอช้ารีบตรงไปหาครูวันใหม่ ยกมือไหว้ทักทาย “สวัสดีครับ” แล้วเอาแฟ้มยื่นให้ครูวันใหม่ ถัดมาจึงพูดว่า “ครูสมฝากมาให้ครับ” ระหว่างนั้นเองแก่นก็หาเก้าอี้ว่างตัวหนึ่งที่เห็นว่ารุ่นพี่ไม่ได้นั่งแล้วมานั่งรอ เขารออีกสักประเดี๋ยวไม่นานนักครูวันใหม่ก็ส่งแฟ้มให้แก่น เขายกมือรับและกล่าวว่า “ขอบคุณครับครับ” จากนั้น แก่นจึงเดินกลับออกจากห้องมุ่งหน้าไปอาคารเรียนของตนเองด้วยความสบายใจเพราะทำภารกิจเสร็จแล้ว แต่ก่อนที่เขาจะก้าวลงบันได ทันใดนั้นเองก็ได้ยินเสียงดังจากห้องรุ่นพี่มาว่า “ ใครวะแกล้ง เอาเก้าอี้ออกไป ล้มเจ็บก้นนะเว้ย” ตามมาด้วยเสียงหัวเราะยกใหญ่ทั้งห้อง แก่นยิ้ม แล้วนึกในใจคงไม่ใช่ เก้าอี้ตัวนั้นแน่ ที่เรา เอามานั่ง เพราะมันมีเก้าอี้ หลายตัว และแก่นก็นึกขึ้นได้อีกว่า สิ่งที่แม่พูดวันนั้น แก่นสงแก่นสารนั้นมันหมายถึงประโยชน์อะไรสักอย่าง ที่จริงแล้วเขาก็ไม่เข้าใจมันดีมากหรอก แต่เขาก็ไม่ได้โง่นะเพราะแก่นหนึ่งที่เขาเข้าใจและรู้ความหมายดีก็คือแก่นที่ครูสม สอนวันนี้ คือ “จอมแก่น”
คำยืนยันของเจ้าของเรื่องสั้น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
6 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
6.5 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ