พร่ำเพ้อ...ห้วงแห่งหัวใจ
-
เขียนโดย Rainboe_D
วันที่ 11 เมษายน พ.ศ. 2556 เวลา 19.19 น.
1 ตอน
5 วิจารณ์
4,372 อ่าน
แก้ไขเมื่อ 11 เมษายน พ.ศ. 2556 19.44 น. โดย เจ้าของเรื่องสั้น
1) พร่ำเพ้อ...ความในใจ
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ........"หลายครั้ง หลายคราว เธอเดินผ่านมาหยุดอยู่ตรงหน้าของฉันคนนี้ ทำให้ฉันได้รู้จัก ได้พูดคุย บอกเล่าเรื่องของกันและกัน แบ่งปันทุกข์ สุข"
เราใช้ชีวิตร่วมกันเดินผ่านคืนและวัน จนเหมือนจะเข้าใจกันและกันไปทุกเรื่อง เธอทำหรือคิดอะไรฉันรับรู้ สามารถดักทางเธอได้ตลอดเช่นเดียวกับเธอที่รู้ทันฉันเสมอ ไม่ว่าฉันจะทำอะไรไม่เคยทันเธอเลย
ฉันก็แค่ผู้หญิงธรรมดาๆคนนึง ชีวิตแสนจะราบรื่น ไม่เคยมีอะไรให้ตื่นเต้น ตกใจ หรือมีความสุขอะไรมากมายจนกระทั่งเธอเข้ามาในชีวิตของฉัน เธอทำให้ฉันเหมือนกลายเป็นเจ้าหญิง สิ่งไหนที่ฉันอยากได้เธอสรรหามันมาเพื่อฉัน ไม่ว่าฉันจะทำอะไรก็มีเธออยู่เคียงข้าง ชีวิตฉันมีสีสันขึ้นมาทันทีที่ได้รู้จักเธอ ฉันตื่นเต้น ตกใจ ดีใจ ร้องไห้ ยิ้มกว้าง และหัวใจพองโต
ฉันอยากสวย จากที่ไม่เคยแต่งหน้า ทำผม แต่งตัว เป็นผู้หญิงธรรมดาๆที่ไม่เคยมีผูชายเหลียวมอง แต่พอได้รู้จักเธอ ฉันลุกขึ้นมาเพื่อเปลี่ยนแปลงตัวเอง ผู้ชายหลายต่อหลายคนเหลียวมองฉัน แต่ฉันมองเธอเพียงคนเดียว เธอคือสีสันในชีวิตของฉัน
แต่แล้ว วันนึงทุกอย่างก็พังทลาย ทั้งที่คิดว่าเราต่างเป็นคนๆเดียวกัน แต่ทำไมฉันกับเป็นคนสุดท้ายที่รู้ความจริงที่ไม่จริง จากปากใครๆมันคือเรื่องเดียวกัน แต่จากปากเธอมันคือเรื่องที่เปลี่ยนไป วันเวลาที่เราอยู่ด้วยกัน รักกันมันไม่มีความหมายเลยใช่ไหม เธอมีคนอื่นๆ ที่่แสนจะใกล้ตัวของฉันซะเหลือเกิน ทุกคนรอบข้างฉันกลายเป็นคนที่เธอแบ่งใจ
"เบลล์ เธอว่าพี่แบล็กเขาดีไหม" เพื่อนสาวที่สนิทของเบลล์ถามด้วยน้ำเสียงราบเรียบ
"ทำไม ทำไม และทำไม ทำไมเพื่อนรักของเธอถึงถามเธอแบบนี้ล่ะ คำถามว่าทำไมมันยังวนเวียนอยู่ในสมองของเบลล์" และแล้วเธอก็ไม่อาจปล่อยคำว่า ทำไม มาวนเวียนในสมองของเธอได้อีกแล้ว เบลล์จึงกลั้นใจถามด้วยน้ำเสียงสดใส
"ทำไมพี่แบล็กเขาไปทำอะไรหรอเหรอ"
"สมมตินะ ถ้าพี่แบล็กเขามีคนอื่น เบลล์จะทำยังไง" ทิตาพูดด้วยน้ำเสียงสั่นๆในใจก็นึกกลัวว่าจะทำให้เพื่อนสาวกับแฟนหนุ่มที่คบกันมานานที่สุดแล้วเท่าที่เธอเห็นเบลล์คบกับผู้ชายคนนี้มานานที่สุดเท่าที่เคยมีแฟนมา เธอคิดในใจว่าถ้าเธอพูดขึ้นมาลอยๆเพื่อนสาวคงไม่เชื่อแน่ๆ ทิตาจึงเอื้อมมือหยิบโทรศัพท์ที่มีเรื่องราวอันแสนปวดร้าวให้เพื่อนสาวดู
"พี่รักทิตานะครับ พี่อยากดูแลหัวใจของทิตา พี่จะให้แม่ไปขอทิตาได้หรือเปล่า"
ประโยคเหล่านี้มันชั่งปวดร้าวและทิ่มแทงหัวใจของเบลล์มากที่สุดเท่าที่เธอเคยคบกับผู้ชายคนนี้ ทั้งที่ตลอดเวลาเรื่อยมาที่คบกัน เขาทั้งดูแลเบลล์เป็นอย่างดีตลอดมา ทั้งความซื่อสัตย์ จริงใจที่เบลล์รับรู้ได้ เขาไม่เคยเที่ยวโดยไร้เบลล์ ไม่ว่าไปไหนมาไหนเขาจะต้องพาเธอไปตลอดเหมือนเงาตามตัว เบลล์ไม่เคยต้องโทรหาเขาเลย ทุกๆชั่วโมงเขาจะต้องโทรมาหาเธอเพื่อรายงานว่าตัวเขานั้นอยู่ไหน ทำอะไร และบอกคิดถึงเธอทุกๆชั่วโมง ตลอดเวลาเรื่อยมาเบลล์คิดว่าเธอเป็นผู้หญิงที่โชคดีมากๆ ที่มีแฟนที่รักเธอมากชนาดนี้ แต่แล้วข้อความที่เธอเห็นวันนี้มันชั่งทรมานใจเธอยิ่งนัก
ทั้งที่เขาเพิ่งจะขอเธอแต่งงานไปไม่ถึงเดือน แล้วนี่อะไรกันเล่า เขากำลังขอผู้หญิงอีกคนแต่งงาน แถมยังเป็นเพื่อนสนิทของเธออีกด้วย มันเกิดอะไรขึ้นกับเธออย่างนั้นเหรอ ผู้ชายที่เธอคิดจะฝากชีวิตไว้ด้วยทั้งชีวิต ทำไมกันเขาถึงไปขอผู้หญิงอีกคนแต่งงาน เขาทำกลับเธอแบบนี้ได้อย่างไร ในสมองของเบลล์ตอนนี้มันกำลังไม่ทำงานแล้ว เธอคิดอะไรไม่ออกจริงๆนอกจากนั่งนิ่งเหมือนร่างที่ไร้วิญญาณ
"เบลล์ เบลล์! เป็นอะไรหรือเปล่า" เพื่อนสาวจับไหล่เบลล์เขย่าเพื่อเรียกสติคืนมา
"อืม ไม่เป็นไร" พลางยิ้มหน้าซีดๆ
"ถ้าเขา ไม่รักเราเราจะไปแคร์เขาทำไมล่ะ" ถึงแม้เธอจะพูดด้วยประโยคที่แลเย็นชา แต่ภายในใจเธอกลับตรงกันข้ามโดยสิ้นเชิง
เบลล์วางกระเป๋าลงบนเตียงนอนพร้อมกับเอนร่างบอบบางของเธอลงไปบนเตียงราวกับกระเป๋าเมื่อครู่ที่เธอวางลงไปมันชั่งไร้วิญญาณซะเหลือเกิน แต่ในวิธีนี้เธอจะสนอะไรกันเล่า ใครจะคิดได้ว่าคนที่รักเธอมากและรักเธอตลอดมาจะทรยศเธอโดยการไปขายขนมจีบให้กับคนรอบกายเธอ และที่สำคัญมันไม่ใช่แค่คนๆเดียว เมื่อความจริงจากคนหนึ่งเปิดเผย อีกหลายๆคนรอบกายเธอก็เริ่มเปิดปากออกมามาว่าคนที่รักเธอมากขนาดนี้และเธอก็รักเขามากจะไปจีบพวกเธอเหล่านั้น
"นี่เราเป็นตัวอะไรกันนะ มันน่าขำจังเลยเนอะ ชั่งโง่จริงๆเธออยู่ทุกวันด้วยความจริงใจและความคิดที่บริสุทธื์กับผู้คนเหล่านั้น เธอไม่เคยคิดแม้แต่จะทำร้ายพวกเขาเลย แต่ทำไมพวกเขากับทำร้ายเธอได้ขนาดนี้ ถ้าทุกคนรอบข้างบอกเธอ เธอคงจะเก็บหัวใจไว้กับตัวเองบ้างแล้ว และถ้าเขาคนที่เธอคิดว่าชาตินี้เขาจะไม่มีทางทำร้ายเธอกับเป็นคนที่ทำร้ายเธอได้อย่างร้ายกาจมาก แล้วทีนี้เธอจะสามารถมองหน้าใครได้ ในใจพลางคิดละอายใจ แต่บางส่วนก็คิดน้อยใจว่าทำไมทุกคนถึงทำกับเธอแบบนี้กัน หรือผิดที่เพราะตัวเธอมองโลกในแง่ดีเกินไปนะ"
ก๊อก.....ก๊อก.....ก๊อก
เสียงประตูห้อง 4 บนตึกชั้นสอง ของอาคารๆหนึ่งกลางเขตชุมชน ถูกเคาะอยู่หายที
เบลล์สะดุ้งตกใจกับเสียงประตูที่ถูกเคาะอยู่นานแล้วแต่เธอกลับเพิ่งรู้สึก เธอจึงลุกจากเตียงไปเปิดประตู
และแล้วบุคคลต้นเหตุที่ทำให้เธอต้องปวดหัวทั้งวันก็มาปรากฏต่อหน้าเธอแล้ว
เธออยากถามเขาหลายๆคำถามที่มันวนเวียนอยู่ในสมองของเธอ แต่เธอกับพูดไม่ออกเมื่อเห็นหน้าเขา
"แต่เราก้อยากรู้จากปากเขาเหมือนกัน แม้ในใจเราจะรู้ว่าเรื่องราวมันเป็นอย่างไรแล้วก็ตาม แต่เราอยากฟังคำขอโทษจากปากเขามากกว่า" เบลล์นึกในใจ นิ่งอยู่สักครู่หนึ่งเบลล์ก็พูดขึ้นว่า
"ตัวเองมีไรจะบอกเค้าไหม" เบลล์ทำหน้านิ่ง ทั้งที่ภายใจลุ้นที่จะให้เขาขอโทษ ถ้าตอนนั้นเขายอมที่จะรับความจริงและขอโทษเธอเรื่องราวต่างๆคงจะไม่แย่ลงแบบนี้
"มีอะไรเหรอครับ"
"พี่มีอะไรจะบอกหนูไหม!" เบลล์ขึ้นเสียงดังขึ้น เมื่อสีหน้าของชายหนุ่มนิ่งเรียบราวกับว่าเขาไม่เคยทำผิดต่อเธอเลย
"มีอะไรหรอครับที่รัก เค้างงไปหมดแล้วนะ"
"พี่กลับไปก่อนเถอะ วันนี้เค้ารู้สึกไม่สบาย" เบลล์พูดด้วยเสียงสะอื้นในลำคอ เธอพยายามที่จะกลั้นความรู้สึกทั้งหลายที่เออล้นเข้ามาในสมองและจิตใจของเธอ แต่แล้วน้ำใสๆที่เธอพยายามกั้นไว้อยู่นานก็ไหลอาบแก้มทั้งสองข้างของเธอ
เมื่อชายหนุ่มเห็นอย่างนั้นยิ่งทำให้เขาไม่อยากก้าวเท้าออกไปจากประตูบานนั้น เขาอยากคุย อยากรู้สาเหตุที่ทำให้ผู้หญิงที่เขารักเป็นแบบนี้ แต่เขารู้ดีว่าถึงเขาอยู่ต่อไปทุกอย่างก็คงไม่ดีขึ้นแน่ๆ ชายหนุ่มจึงเดินจากห้องนั้นที่แสนคุ้นเคย
"ติ๊ดๆๆๆๆๆๆๆๆ......"
"ติ๊ดๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ"
"ติ๊ด......................"
"นี่ เมื่อไหร่แกจะรับโทรศัพท์ซักทีว่ะ ชั้ลรำคานแล้วนะแก"
"อะไรของแก ห๊า ยัยทิตา"
"ฉันรู้ว่าแกเสียใจ แต่แก....ควรจะเอาซักอย่างนะ"
"เอาอะไรของแกวะทิตา" เบลล์ถามด้วยความสงสัยในคำพูดของเพื่อนสาว
ทิตาโอบไหล่เพื่อนของเธอมาไว้ข้างๆ และเปลี่ยนน้ำเสียงที่หยาบกร้านในตอนแรก มาเป็นความอบอุ่นโดยร่างที่ถูกโอบกอดสามารถรับรู้ได้เลย ว่าทิตาห่วงเธอมากแค่ไหน แม้ว่าเธอจะพูดเล่นๆแต่คำพูดเหล่านี้กับเต็มเปี่ยมไปด้วยความเป็นห่วง
"แกควรจะเลือกเอาซักอย่างนะ ถ้าแกรักเขาแกก็รับสายเขาไปเถอะ ฉันไม่โกรธแกหรอก เพราะฉันรำคานว่ะ ^^"
"แล้วอีกตัวเลือกล่ะแก"
"ก็ถ้าแกตัดใจได้ ก็กดวางสายไปเลย ผู้ชายไม่ได้มีแค่คนเดียวในโลกนี่นะ
"ทำไมแกพูดง่ายจัง"
"เพราะรักฉันตัวเองมากกว่าผู้ชายนะ ฉันอยู่มายี่สิบกว่าปีฉันยังไม่เห็นว่าฉันจะตายเพียงเพราะไม่มีผู้ชายมาบอกรัก บอกคิดถึง พาไปเที่ยว ซื้อโน่นซื้อนี่ให้ แต่ถ้าฉันขาดพ่อกัแม่ฉันคงอยู่ไม่ได้ถึงยี่สิบกว่าปีนี่ๆแน่เลย เพราะแกเลือกเอาล่ะกัน"
สิ้นสุดคำพูดของทิตา เบลล์ลุกยืน พรวด! แล้วก็ขว้างโทรศัพท์ทิ้งไปเท่าที่แรงของเธอจะมี
"อะไรของแกวะ เสียของ"
"พอแล้วล่ะทิตา ฉันหลงมานานแล้วล่ะ ตอนนี้ฉันเจอทางออกแล้ว"
"ฉันมัวแต่ปิดหู ปิดตา มองแต่สิ่งดีๆที่ผู้ชายคนหนึ่งทำให้เรื่อยมา และหลงคิดว่าเขารักฉันมาก ถ้าขาดเขาไปฉันคงแย่ แต่ฉันกลับลืมคิดเรื่องสำคัญไป ว่าฉันสำคัญตัวผิดไปจริงๆ ถ้าเขารักฉันจริง เขาคงจะรู้ว่าเขาทำผิดอะไรไป ทั้งที่พ่อ แม่ ไม่เคยลืมเรื่องเกี่ยวกับฉันเลย ท่านจำทุกอย่างที่เกี่ยวกับฉันได้ แล้วฉันจะมามัวเพ้อถึงรักจอมปลอมนี่ทำไมกันล่ะ ฉันควรกับบ้านไปแล้วก็ทำกับข้าว นั่งกินข้าวพร้อมหน้ากับคนที่รักฉันจริงไม่ดีกว่าหรอ"
เราใช้ชีวิตร่วมกันเดินผ่านคืนและวัน จนเหมือนจะเข้าใจกันและกันไปทุกเรื่อง เธอทำหรือคิดอะไรฉันรับรู้ สามารถดักทางเธอได้ตลอดเช่นเดียวกับเธอที่รู้ทันฉันเสมอ ไม่ว่าฉันจะทำอะไรไม่เคยทันเธอเลย
ฉันก็แค่ผู้หญิงธรรมดาๆคนนึง ชีวิตแสนจะราบรื่น ไม่เคยมีอะไรให้ตื่นเต้น ตกใจ หรือมีความสุขอะไรมากมายจนกระทั่งเธอเข้ามาในชีวิตของฉัน เธอทำให้ฉันเหมือนกลายเป็นเจ้าหญิง สิ่งไหนที่ฉันอยากได้เธอสรรหามันมาเพื่อฉัน ไม่ว่าฉันจะทำอะไรก็มีเธออยู่เคียงข้าง ชีวิตฉันมีสีสันขึ้นมาทันทีที่ได้รู้จักเธอ ฉันตื่นเต้น ตกใจ ดีใจ ร้องไห้ ยิ้มกว้าง และหัวใจพองโต
ฉันอยากสวย จากที่ไม่เคยแต่งหน้า ทำผม แต่งตัว เป็นผู้หญิงธรรมดาๆที่ไม่เคยมีผูชายเหลียวมอง แต่พอได้รู้จักเธอ ฉันลุกขึ้นมาเพื่อเปลี่ยนแปลงตัวเอง ผู้ชายหลายต่อหลายคนเหลียวมองฉัน แต่ฉันมองเธอเพียงคนเดียว เธอคือสีสันในชีวิตของฉัน
แต่แล้ว วันนึงทุกอย่างก็พังทลาย ทั้งที่คิดว่าเราต่างเป็นคนๆเดียวกัน แต่ทำไมฉันกับเป็นคนสุดท้ายที่รู้ความจริงที่ไม่จริง จากปากใครๆมันคือเรื่องเดียวกัน แต่จากปากเธอมันคือเรื่องที่เปลี่ยนไป วันเวลาที่เราอยู่ด้วยกัน รักกันมันไม่มีความหมายเลยใช่ไหม เธอมีคนอื่นๆ ที่่แสนจะใกล้ตัวของฉันซะเหลือเกิน ทุกคนรอบข้างฉันกลายเป็นคนที่เธอแบ่งใจ
"เบลล์ เธอว่าพี่แบล็กเขาดีไหม" เพื่อนสาวที่สนิทของเบลล์ถามด้วยน้ำเสียงราบเรียบ
"ทำไม ทำไม และทำไม ทำไมเพื่อนรักของเธอถึงถามเธอแบบนี้ล่ะ คำถามว่าทำไมมันยังวนเวียนอยู่ในสมองของเบลล์" และแล้วเธอก็ไม่อาจปล่อยคำว่า ทำไม มาวนเวียนในสมองของเธอได้อีกแล้ว เบลล์จึงกลั้นใจถามด้วยน้ำเสียงสดใส
"ทำไมพี่แบล็กเขาไปทำอะไรหรอเหรอ"
"สมมตินะ ถ้าพี่แบล็กเขามีคนอื่น เบลล์จะทำยังไง" ทิตาพูดด้วยน้ำเสียงสั่นๆในใจก็นึกกลัวว่าจะทำให้เพื่อนสาวกับแฟนหนุ่มที่คบกันมานานที่สุดแล้วเท่าที่เธอเห็นเบลล์คบกับผู้ชายคนนี้มานานที่สุดเท่าที่เคยมีแฟนมา เธอคิดในใจว่าถ้าเธอพูดขึ้นมาลอยๆเพื่อนสาวคงไม่เชื่อแน่ๆ ทิตาจึงเอื้อมมือหยิบโทรศัพท์ที่มีเรื่องราวอันแสนปวดร้าวให้เพื่อนสาวดู
"พี่รักทิตานะครับ พี่อยากดูแลหัวใจของทิตา พี่จะให้แม่ไปขอทิตาได้หรือเปล่า"
ประโยคเหล่านี้มันชั่งปวดร้าวและทิ่มแทงหัวใจของเบลล์มากที่สุดเท่าที่เธอเคยคบกับผู้ชายคนนี้ ทั้งที่ตลอดเวลาเรื่อยมาที่คบกัน เขาทั้งดูแลเบลล์เป็นอย่างดีตลอดมา ทั้งความซื่อสัตย์ จริงใจที่เบลล์รับรู้ได้ เขาไม่เคยเที่ยวโดยไร้เบลล์ ไม่ว่าไปไหนมาไหนเขาจะต้องพาเธอไปตลอดเหมือนเงาตามตัว เบลล์ไม่เคยต้องโทรหาเขาเลย ทุกๆชั่วโมงเขาจะต้องโทรมาหาเธอเพื่อรายงานว่าตัวเขานั้นอยู่ไหน ทำอะไร และบอกคิดถึงเธอทุกๆชั่วโมง ตลอดเวลาเรื่อยมาเบลล์คิดว่าเธอเป็นผู้หญิงที่โชคดีมากๆ ที่มีแฟนที่รักเธอมากชนาดนี้ แต่แล้วข้อความที่เธอเห็นวันนี้มันชั่งทรมานใจเธอยิ่งนัก
ทั้งที่เขาเพิ่งจะขอเธอแต่งงานไปไม่ถึงเดือน แล้วนี่อะไรกันเล่า เขากำลังขอผู้หญิงอีกคนแต่งงาน แถมยังเป็นเพื่อนสนิทของเธออีกด้วย มันเกิดอะไรขึ้นกับเธออย่างนั้นเหรอ ผู้ชายที่เธอคิดจะฝากชีวิตไว้ด้วยทั้งชีวิต ทำไมกันเขาถึงไปขอผู้หญิงอีกคนแต่งงาน เขาทำกลับเธอแบบนี้ได้อย่างไร ในสมองของเบลล์ตอนนี้มันกำลังไม่ทำงานแล้ว เธอคิดอะไรไม่ออกจริงๆนอกจากนั่งนิ่งเหมือนร่างที่ไร้วิญญาณ
"เบลล์ เบลล์! เป็นอะไรหรือเปล่า" เพื่อนสาวจับไหล่เบลล์เขย่าเพื่อเรียกสติคืนมา
"อืม ไม่เป็นไร" พลางยิ้มหน้าซีดๆ
"ถ้าเขา ไม่รักเราเราจะไปแคร์เขาทำไมล่ะ" ถึงแม้เธอจะพูดด้วยประโยคที่แลเย็นชา แต่ภายในใจเธอกลับตรงกันข้ามโดยสิ้นเชิง
เบลล์วางกระเป๋าลงบนเตียงนอนพร้อมกับเอนร่างบอบบางของเธอลงไปบนเตียงราวกับกระเป๋าเมื่อครู่ที่เธอวางลงไปมันชั่งไร้วิญญาณซะเหลือเกิน แต่ในวิธีนี้เธอจะสนอะไรกันเล่า ใครจะคิดได้ว่าคนที่รักเธอมากและรักเธอตลอดมาจะทรยศเธอโดยการไปขายขนมจีบให้กับคนรอบกายเธอ และที่สำคัญมันไม่ใช่แค่คนๆเดียว เมื่อความจริงจากคนหนึ่งเปิดเผย อีกหลายๆคนรอบกายเธอก็เริ่มเปิดปากออกมามาว่าคนที่รักเธอมากขนาดนี้และเธอก็รักเขามากจะไปจีบพวกเธอเหล่านั้น
"นี่เราเป็นตัวอะไรกันนะ มันน่าขำจังเลยเนอะ ชั่งโง่จริงๆเธออยู่ทุกวันด้วยความจริงใจและความคิดที่บริสุทธื์กับผู้คนเหล่านั้น เธอไม่เคยคิดแม้แต่จะทำร้ายพวกเขาเลย แต่ทำไมพวกเขากับทำร้ายเธอได้ขนาดนี้ ถ้าทุกคนรอบข้างบอกเธอ เธอคงจะเก็บหัวใจไว้กับตัวเองบ้างแล้ว และถ้าเขาคนที่เธอคิดว่าชาตินี้เขาจะไม่มีทางทำร้ายเธอกับเป็นคนที่ทำร้ายเธอได้อย่างร้ายกาจมาก แล้วทีนี้เธอจะสามารถมองหน้าใครได้ ในใจพลางคิดละอายใจ แต่บางส่วนก็คิดน้อยใจว่าทำไมทุกคนถึงทำกับเธอแบบนี้กัน หรือผิดที่เพราะตัวเธอมองโลกในแง่ดีเกินไปนะ"
ก๊อก.....ก๊อก.....ก๊อก
เสียงประตูห้อง 4 บนตึกชั้นสอง ของอาคารๆหนึ่งกลางเขตชุมชน ถูกเคาะอยู่หายที
เบลล์สะดุ้งตกใจกับเสียงประตูที่ถูกเคาะอยู่นานแล้วแต่เธอกลับเพิ่งรู้สึก เธอจึงลุกจากเตียงไปเปิดประตู
และแล้วบุคคลต้นเหตุที่ทำให้เธอต้องปวดหัวทั้งวันก็มาปรากฏต่อหน้าเธอแล้ว
เธออยากถามเขาหลายๆคำถามที่มันวนเวียนอยู่ในสมองของเธอ แต่เธอกับพูดไม่ออกเมื่อเห็นหน้าเขา
"แต่เราก้อยากรู้จากปากเขาเหมือนกัน แม้ในใจเราจะรู้ว่าเรื่องราวมันเป็นอย่างไรแล้วก็ตาม แต่เราอยากฟังคำขอโทษจากปากเขามากกว่า" เบลล์นึกในใจ นิ่งอยู่สักครู่หนึ่งเบลล์ก็พูดขึ้นว่า
"ตัวเองมีไรจะบอกเค้าไหม" เบลล์ทำหน้านิ่ง ทั้งที่ภายใจลุ้นที่จะให้เขาขอโทษ ถ้าตอนนั้นเขายอมที่จะรับความจริงและขอโทษเธอเรื่องราวต่างๆคงจะไม่แย่ลงแบบนี้
"มีอะไรเหรอครับ"
"พี่มีอะไรจะบอกหนูไหม!" เบลล์ขึ้นเสียงดังขึ้น เมื่อสีหน้าของชายหนุ่มนิ่งเรียบราวกับว่าเขาไม่เคยทำผิดต่อเธอเลย
"มีอะไรหรอครับที่รัก เค้างงไปหมดแล้วนะ"
"พี่กลับไปก่อนเถอะ วันนี้เค้ารู้สึกไม่สบาย" เบลล์พูดด้วยเสียงสะอื้นในลำคอ เธอพยายามที่จะกลั้นความรู้สึกทั้งหลายที่เออล้นเข้ามาในสมองและจิตใจของเธอ แต่แล้วน้ำใสๆที่เธอพยายามกั้นไว้อยู่นานก็ไหลอาบแก้มทั้งสองข้างของเธอ
เมื่อชายหนุ่มเห็นอย่างนั้นยิ่งทำให้เขาไม่อยากก้าวเท้าออกไปจากประตูบานนั้น เขาอยากคุย อยากรู้สาเหตุที่ทำให้ผู้หญิงที่เขารักเป็นแบบนี้ แต่เขารู้ดีว่าถึงเขาอยู่ต่อไปทุกอย่างก็คงไม่ดีขึ้นแน่ๆ ชายหนุ่มจึงเดินจากห้องนั้นที่แสนคุ้นเคย
"ติ๊ดๆๆๆๆๆๆๆๆ......"
"ติ๊ดๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ"
"ติ๊ด......................"
"นี่ เมื่อไหร่แกจะรับโทรศัพท์ซักทีว่ะ ชั้ลรำคานแล้วนะแก"
"อะไรของแก ห๊า ยัยทิตา"
"ฉันรู้ว่าแกเสียใจ แต่แก....ควรจะเอาซักอย่างนะ"
"เอาอะไรของแกวะทิตา" เบลล์ถามด้วยความสงสัยในคำพูดของเพื่อนสาว
ทิตาโอบไหล่เพื่อนของเธอมาไว้ข้างๆ และเปลี่ยนน้ำเสียงที่หยาบกร้านในตอนแรก มาเป็นความอบอุ่นโดยร่างที่ถูกโอบกอดสามารถรับรู้ได้เลย ว่าทิตาห่วงเธอมากแค่ไหน แม้ว่าเธอจะพูดเล่นๆแต่คำพูดเหล่านี้กับเต็มเปี่ยมไปด้วยความเป็นห่วง
"แกควรจะเลือกเอาซักอย่างนะ ถ้าแกรักเขาแกก็รับสายเขาไปเถอะ ฉันไม่โกรธแกหรอก เพราะฉันรำคานว่ะ ^^"
"แล้วอีกตัวเลือกล่ะแก"
"ก็ถ้าแกตัดใจได้ ก็กดวางสายไปเลย ผู้ชายไม่ได้มีแค่คนเดียวในโลกนี่นะ
"ทำไมแกพูดง่ายจัง"
"เพราะรักฉันตัวเองมากกว่าผู้ชายนะ ฉันอยู่มายี่สิบกว่าปีฉันยังไม่เห็นว่าฉันจะตายเพียงเพราะไม่มีผู้ชายมาบอกรัก บอกคิดถึง พาไปเที่ยว ซื้อโน่นซื้อนี่ให้ แต่ถ้าฉันขาดพ่อกัแม่ฉันคงอยู่ไม่ได้ถึงยี่สิบกว่าปีนี่ๆแน่เลย เพราะแกเลือกเอาล่ะกัน"
สิ้นสุดคำพูดของทิตา เบลล์ลุกยืน พรวด! แล้วก็ขว้างโทรศัพท์ทิ้งไปเท่าที่แรงของเธอจะมี
"อะไรของแกวะ เสียของ"
"พอแล้วล่ะทิตา ฉันหลงมานานแล้วล่ะ ตอนนี้ฉันเจอทางออกแล้ว"
"ฉันมัวแต่ปิดหู ปิดตา มองแต่สิ่งดีๆที่ผู้ชายคนหนึ่งทำให้เรื่อยมา และหลงคิดว่าเขารักฉันมาก ถ้าขาดเขาไปฉันคงแย่ แต่ฉันกลับลืมคิดเรื่องสำคัญไป ว่าฉันสำคัญตัวผิดไปจริงๆ ถ้าเขารักฉันจริง เขาคงจะรู้ว่าเขาทำผิดอะไรไป ทั้งที่พ่อ แม่ ไม่เคยลืมเรื่องเกี่ยวกับฉันเลย ท่านจำทุกอย่างที่เกี่ยวกับฉันได้ แล้วฉันจะมามัวเพ้อถึงรักจอมปลอมนี่ทำไมกันล่ะ ฉันควรกับบ้านไปแล้วก็ทำกับข้าว นั่งกินข้าวพร้อมหน้ากับคนที่รักฉันจริงไม่ดีกว่าหรอ"
คำยืนยันของเจ้าของเรื่องสั้น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ