ทำไมเธอไม่บอกรักฉันสักที
4.3
1)
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ ฉันชื่อหญิงเรียนอยู่ที่มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งคณะวิทยาศาสตร์ตอนขึ้นปี2ได้ รู้จักกับเพื่อนผู้ชายคนหนึ่งเขาชื่อต้อมต้อมเป็นคนเรียนไม่ค่อยเก่งแต่ไม่ ถึงกับโง่ต้อมขยันและนิสัยดีชอบช่วยเหลือเพื่อนและเป็นคนมีน้ำใจมากเป็นคน อารมณ์ดีและเป็นคนตลกเป็นที่รักใคร่ของเพื่อนฝูงแม้ต้อมจะเป็นคนตลกแต่ก็ให้ เกียรติผู้หญิงเสมอเพราะเหตุที่ต้อมเป็นคนอารมณ์ดีจึงทำให้ฉันสนิทกับต้อ มมากกว่าเพื่อนผู้ชายคนอื่นๆแต่ก็ไม่ได้คิดอะไรเกินเลยไปกว่าความเป็นเพื่อน เพราะฉันเองก็แฟนที่คบกันมาตั้งเเต่มัธยมอยู่แล้วชื่อหนึ่งแต่ว่าหนึ่งเรียน อยู่คนละมหาวิทยาลัยกับฉันแต่พอตอนจะจบปี2ฉันทะเลาะกับหนึ่งย่างรุนแรงเพราะ ว่าฉันจับได้ว่าหนึ่งแอบไปคบกับผู้หญิงที่เป็นรุ่นน้องในคณะของเขาฉันเองก็ รับไม่ได้เพราะนี่ไม่ใช่ครั้งแรกก่อนหน้านี้ก็เคยมีเหตุการณ์ลักษณะนี้มา เเล้วแต่ครั้งนี้รุ่นแรงมากเนื่องจากคืนวันหนึ่งผู้หญิงที่หนึ่งกำลังแอบคบ ด้วยได้โทร.เข้ามาเบอร์ฉันแล้วบอกว่าคบกับหนึ่งมานานแล้วและเขาก็รู้ว่า หนึ่งมีฉันเป็นแฟนอยู่เเล้วแต่จะให้เขายอมเดินไปจากหนึ่งก็ไม่ได้เพราะมี สัมพันธ์ที่ลึกซึ้งกับหนึ่งแล้วพอฉันได้ยินอย่างนี้ก็ทำให้โมโหและเสียใจ อย่างสุดขีดและจึงตัดสินใจบอกเลิกหนึ่งและในคืนวันนั้นเองฉันได้โทร.หา เพื่อนสนิทในกลุ่ม คือ กิฟ กับ ปอ และ โอม โอมกับปอเป็นแฟนกันฉันโทร.ไปร้องให้และโอมกับปอและกิฟก็รีบมาหาฉันที่หอ ฉันเล่าเรื่อง ทั้งหมดให้ทุกคนฟังทั้งน้ำตา เนื่องจากฉันคบกับหนึ่งมานานมากประมาณ4ปีมันจึงยากที่จะทำใจได้เพียงเวลาอัน สั้นฉันถามโอมว่า "โอมปกติแกกินเหล้ากันที่ไหน" โอมรีบสวนขึ้นมาทันทีเลย"แกถามทำไมอะหญิง แกอยากจะกินเหล้าเหรอไง" ใช่กูอยากเมาหวะ" ฉันตอบทั้งน้ำตา ปอยื่นทิชชู่ให้ฉันซับน้ำตาเพิ่มอีกเเละบอกว่า "แกไม่เคยกินนะเว้ยมันจะไหวเหรอ" "ไม่เป็นไรหรอก ฉันอยากจะลืมอะ" ฉันบอกปอเเล้วกิฟก็พูดขึ้นมาว่า "เออเอาเหอะหน่าให้มันซักวันเราก็ช่วยกันดูมันก็เเล้วกัน" โอมก็บอกว่า "งั้นก็โอเค เเต่เดี๋ยวขอชวนคนเพิ่มก่อน" จากนั้นโอก็โทร.ตามพวกที่สนิทกับโอม ซึ่งก็มีแต่คนที่เรียนสาขาเดียวกับพวกเราทั้งนั้น แล้วเราก็ไปที่ร้านเหล้ากัน พอไปถึง โอมก็เป็นคนจัดการทุกอย่างตั้งเเต่สั่งเครื่องดื่มและอาหาร และชงเล้า ฉันไม่เคยกินเหล้ามาก่อนคืนนั้นเป็นครั้งเเรกในชีวิตรู้เเต่ว่ามันเหม็น เหมือนแอลกอฮอลล์และออกขมๆแต่ฉันก็ฝืยกินไป2-3แก้ว จนไอ้โอมบอกว่า "เห้ย เบาๆ ใจเย็นๆ"เดี๋ยวก็เมาตายกันพอดี"พร้อมทั้งคว้าแก้วออกจากมือฉันที่กำลังจะยก เข้าปาก จากนั้นไม่นานพวกที่โอมโทตามก็มา มี ต้อมกับเอ็มต้อมกับเอ็มและโอมเป็นเพื่อนสนิทกันชอบเที่ยวและกินเหล้าด้วยกัน บ่อยๆมาถึงต้อมก็พูดขึ้นเลยว่า "โหฉลองเนื่องในโอกาศไรว้าาา..(ลากเสียงว้า)" กิฟก็พูดขึ้นทันที "อีหญิงมันมาดื่มให้กับความโสดของมัน"ไอ้เอ็มก็พูดขึ้นมาว่า "โหแบบนี้ก็เป็นข่าวที่ดีดิฉลองความโสด" ฉันรีบหันไปมองทำตาฆ้อนใส่ทั้งที่น้ำตายังไหลอยู่เเต่ๆไม่ได้พูดอะไรเพราะ วินาทีนั้นพูดอะไรไม่ได้จริงๆได้เเต่ร้องให้เเละบ่นพึมพำอยู่ตลอดเวลา และไอ้เอ็มก็พูดเชิงกระซิบให้ต้อม "ลักษณะจะเป็นข่าวไม่ดีแล้วหวะ" แล้วทั้งสองคนก็นั่งลง ต้อมก็พูดขึ้นว่า"เออเอาเหอะชีวิตก็แบบนี้แหละเราต้องยอมรับมันและเรียนรู้ จากมัน" ไอ้เอ็มก็ยอไอ้ต้อมทันที"โหคมโคตรๆเลยหวะเพื่อน"แล้วเราก็กินเหล้ากันจนฉัน เมาเต็มที่และอาเจียนเนื่องจากไม่เคยกินมาก่อนและทุกคนก็พาฉันไปส่งที่ห้อง แล้ให้กิฟอยู่เป็นเพื่อนคอยดูเเลจนเช้า หลังจากนั้นฉันก็ใช้ชีวิตตามปกติและไปเที่ยวกับเพื่อนกลุ่มนี้บ่อยๆจนสนิท กันมากขึ้นโอยเฉพาะกับต้อมต้อมเป็นคนคอยห่วงใยฉันตลอดโทร.มาคุยเป็นเพื่อและ ไปกินข้าวดูหนังด้วยกันบางที่ก็ไปกัน2คนบางทีก็ไปทั้งกลุ่มจนขึ้นปีสามเเละ ไม่เป็นเรื่องแปลกที่เกรตฉันจะต่ำลงกว่าเดิมแต่ฉันก็คิดว่ามันคุ้มค่าที่เรา ได้มากับคำว่า "เพื่อน"และมิตรภาพที่ดีโดยเฉพาะกับต้อมเราสนิทกันมากและเมื่อเวลาผ่านไปนาน เข้าต้อมก็ยิ่งจะทำให้ฉันลืมเรื่องเก่าๆได้ทุกทีจนคนอื่นคิดว่าเราทั้งสอง กำลังคบกันเหมือนเป็นแฟน แต่ฉันรู้สึกว่ามันไม่ใช่เพราะที่ต้อมแสดงออกให้ฉันเห็นนั้นฉันรู้สึกเหมือน ว่าเขาคบฉันในฐานะเพื่อนเท่านั้นแต่อาจเป็นเพื่อนที่สนิทกันมากฉันก็ไม่รู้ ว่าทำไมทั้งที่ต้อมก็ไม่มีแฟนและต้อมก็รู้ดีว่าฉันก็ไม่มีใครในตอนนี้แต่ ทำไมต้อมไม่ยอกมคบฉันเป็นแฟนจริงๆสักทีก็ได้แต่ทำพูดทีจริงทีเล่นไปวันๆเท่า นั้นและอยู่มาวันหนึ่งวันนั้นเป็นวันที่14กุมภาพันธ์เเละฉันก็ไม่ได้รับ ดอกไม้จากผู้ชายคนไหนฉันก็ได้เเต่นั่งเหงาอยู่คนเดียวในห้องดูทีวีไปเรื่อยๆ จนมีโทรศัพท์เข้ามาเป็นแม่บ้านที่เฝ้าหอโทมาบอกว่ามีพัสดุฉันก็รีบลงไปรับ ทั้งงงๆพัสดุจ่าหน้าถึงฉันและคนส่งคือต้อมฉันคิดว่าคงเป็นได้ไม้แน่นอนเมื่อ เปิดกล่องดูก็เป็นไปตามคาดเป็นดอกกุหลาบสีแดงช่อใหญ่พร้อมทั้งมีการ์ดฉันรีบ เปิดอ่านเพราะคิดว่าอาจจะเป็นการ์ดบอกรักแต่ในการ์ดก็เขียนว่า"ไม่ได้ดอกไม้ จากใครละสิต้อมซื้อให้เเล้วกัน อิอิ.."ฉันก็รู้สึกผิดหวังนิดๆแต่ก็ดีใจจนเก็บยิ้มไม่อยู่เเล้วไม่นานต้อมก็ โทมาแล้วก็บอกว่า "ได้รับของเเล้วยัง" "ได้เเล้วหละ"ฉันตอบ "Happy Valentine นะ" ต้อมพูดต่อ"จ้าาาเช่นกัน"ฉันตอบแล้วต้อมก็ว่างสายแล้วฉันก็เเห้วตามเคยคิด ว่าต้อมจะโทร.มาบอกรักซะอีกฉันอยากจะบอกรักต้อมใจจะขาดแต่ก็ไม่กล้าเพราะเรา เป็นผู้หญิงต้องไว้ลายกันหน่อย จากเหตุการณ์วันที่14ฉันก็เริ่มรู้เเล้วว่าต้อมคงรักฉันจริงๆแหละฉันก็คิด ทบทวนอยู่นานเพราะถ้าไม่งั้นจะซื้อดอกไม้ให้เเละมาทำดีกับฉันทำไมไปกินข้าว ด้วยกันเกือบทุกวันไปดูหนังทุกอาทิตย์ถ้าไม่รักแล้วจะเอาเวลามาทำอย่างนี้ ทำไมแต่ฉันก็ไม่เข้าใจทำไมต้อมไม่บอกรักฉันสักที จนเมื่อเวลาล่วงเลยไปจนถึงปิดเทอมทุกคนก็แยกย้ายกันกลับบ้านรวมทั้งฉันและ ต้อมแต่เราก็ยังโทร.คุยกันอยู่ทุกวันแต่ก็ไม่มีวันไหนที่จะมีวี่แววว่าต้อ มจะบอกรักฉันเลยแล้วมีอยู่วันหนึ่งที่โทรศัพท์ฉันไม่มีคนโทร.เข้าเลยเพราะ ปกติอย่างน้อยต้องมีต้อมที่โทร.มาแต่ไม่นานก็มีเสียงโทรศัพทเข้าฉันรีบวิ่ง ไปรับเเต่ปรากฎว่าเป้นกิฟโทร.มาถามไถ่เมื่อคุยกับจบฉันก็มานอนรอจนเผลอหลับ ไปจนเช้าฉันก็ดูโทรศัพท์ก็ไม่มีเบอร์ต้อมโทร.เข้ามาเเล้วโทร.กับไปก็ปิด เครื่องเบอร์บ้านต้อมฉันก็ไม่มีจนเวลาผ่านไป2-3วันต้อมก็เงียบหายไปและ โทรศัพท์ก็ติดต่อไม่ได้ MSN หรือ Face Book ก็ไม่ออนจนเวลาล่วงเลยไปเกือบเดือนโอมก็โทร.เข้ามาฉันก็กำลังเล่นกับกระต่าย ที่เลี้ยงไว้อยู่รีบวิ่งไปรับโทรศัพท์แล้วโอมก็บอกว่า "หญิง หญิงรู้ข่าวไอ้ต้อมมันบ้างไหม" ฉันก็งงๆ และถามว่า "ข่าวอะไรเหรอโอม" "หญิงทำใจดีๆนะ ไอ้ต้อมมันเสียเเล้ว"อะไรนะโอม"ไอ้ต้อมมันเสียเเล้วเมื่อคืนนี้ที่บ้านมันโท มาบอกโอม" ฉันก็อึ้งไปพักหนึ่งตัวชาหูอื้อและโทรศักท์ก็ร่วงลงพื้นและก็มานั่งลงและ ร้องให้อยู่พักใหญ่ เเล้วพวกเราก็พากันไปที่บ้านของต้อมและฉันก็ได้รู้ข่าวสาเหตุการเสียชีวิต ของโอมก็คือเป็นมะเม็ดเลือดขาวซึ่งเป็นโรคประจำตัวของเขาและที่บ้านก็รู้มา นานเเล้วก็กำลังช่วยกันรักษาแต่ก็คงจะสุดความสามารถของหมอเเล้วหละพวกเราก็ ได้เเต่งงว่าคนอารมณ์ดีตลอดเวลาเเล้วดูแข็งแรงอย่างต้อมจะมีโรคประตำตัว เมื่อเสร็จจากงานศพต้อมเราก็แยกย้ายกันกลับบ้าน ตอนนี้ก็เปิดเทอมเเล้วเเละฉันก็ขึ้นปี4แต่ดูเหมือนทุกคนเริ่มทำใจจากการจาก ไปของต้อมได้เเล้วแต่ยกเว้นฉันฉันยังคงคิดถึงเขาอยู่ทุกวันเอาดอกไม้และ การ์ดที่เขาส่งให้มาดูทุกวันดูรูปของเราที่ถ่ายด้วยกันเเล้วก็น้ำตาไหล จนมาวันหนึ่งฉันก็ได้เข้าอีเมลเพื่อที่จะเช็คอีเมลที่อาจารย์ส่งงานมาให้ ซึ่งปกติฉันจะไม่ค่อยเป็นคนเช็คเมลเท่าไหร่เเล้วเมื่อเปิดเข้าไปสิ่งที่ทำ ให้ฉันตกใจก็คือมีเมลที่ต้อมส่งมาให้ดูวันที่เเล้วเหมือนก่อนที่เขาจะเสีย ประมาณ1สัปดาห์ในฉันก็เปิดอ่านในเมลมีข้อความว่า ถึงหญิง... "สวัสดีจ้าหญิงเป็นไงบ้างขอโทษนะที่ต้อมไม่ได้โทร.ไปหลายวันพอดีต้อมไม่ค่อย สบายอะ อืม.. หญิงก็คงสบายดีนะปีหน้าเราก็ขึ้นปี4กันเเล้วไกล้จะเรียนจบซะทีเห้อพอพูดถึง เรื่องเรียนก็เหนื่อยใจหญิงต้องตั้งใจเรียนและดูเเลตัวเองให้มากเเล้วก็อย่า กินเหล้าบ่อยนะเดี๋ยวเป็นแอลกอฮลล์ลิซึม 555 ล้อเล่นหนะ หญิงต้อมคิดว่าขึ้นปี4เเล้วต้อมคงไม่ได้ไปกินข้าวดูหนังและคอยดูเเลหญิงอีก เเล้วหละตั้งเเต่ที่ต้อมได้รู้จักญิงต้อมมีความสุขมากและตลอดเวลาที่เราได้ สนิทสนมกันทำให้ต้อมรู้ว่าความรักมันเป็นแบบนี้นี่เองแต่ต้อมรู้นะว่าหญิง รักต้อมแต่ต้อมไม่กล้าที่จะรักหญิงเพราะต้อมรู้ว่าต้อมคงอยู่ได้ไม่นานต้อ มจึงไม่อยากที่จะให้ความสัมพันธ์ของเรามันเกินเลยกว่าคำว่าเพื่อนสนิทเพราะ ต้อมไม่อยากจะเห็นหญิงเสียใจกับเรื่องความรักอีกขอโทษนะหญิงที่ต้อมไม่ยอม บอกรักหญิงแต่ต้อมอยากให้หญิงรู้ว่าหญิงเป็นคนเดียวที่ต้อมจะรักและจะใช้ ชีวิตร่วมกันเพราะต้อมรักหญิงมากต้อมจึงไม่อยากที่ใจให้หญิงเสียใจถ้าหากเรา รักเเละคบกันแบบคนรักเมื่อเวลานี้มาถึงหญิงคงจะเสียใจมากต้อมคงจะไม่ให้อภัย ตัวเองที่ทำให้คนที่ต้อมรักเสียใจแต่ต้อมก็ทนเก็บความรู้สึกนี้ไว้ไม่ได้ แล้ววันนี้ต้อมจึงตัดสินใจที่จะมาบอกหญิง" ต้อมรักหญิงนะ.... โถ่ต้อม.. หญิงก็รักต้อม...
คำยืนยันของเจ้าของเรื่องสั้น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
3 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
1 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ