กว่าจะรู้สึกตัวว่า...รักเธอ
5.8
3) เรื่องเเค่นี้ของคน2คน (2)
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ(ยังอยู่ในโหมดของเมย))
"บี บี อยู่ไหนน่ะ ออกมาสิ บี"ฉันออกวิ่งเเละตะโกนเรียกตาบีอยู่เเถวฟุตบาตของโรงอาหารอย่างกับคนบ้า เเต่ใครจะสน ก็ในเมื่อเพื่อนของฉันสำคัญกว่าเเยะ
"ว้าย อูย ขะ..ขอโทษค่ะ"ฉันพูดขอโทษไป เเต่ว่า โอ๊ย คนกำลังเครียดอยู่นะยะ
"โอ๊ย ยัยเปี๊ยก เจ็บนะยะ หัดมองข้างหน้าซะมั่งสิ"เสียงของคู่กรณีที่ฉันชนบ่นขึ้น
"เอ๊ะ ก็ขอโทษไปเเล้วนี่ เเล้วยัยเปี๊ยกน่ะ หมายถึงใครกัน"ฉันบอกออกไปด้วยน้ำเสียงเรียบๆ เเต่ถ้ายัยนี่บ่นอีกล่ะก็ เเม่จะด่าเป็นชุดๆเลย
"นี่ ฉันเป็นรุ่นพี่เธอนะ พูดน่ะ ให้มีน้ำเสียงหน่อย เเล้วยัยเปี๊ยกน่ะ หมายถึงเธอ รึจะมีปัญหา ยัยเปี๊ยก"เธอพูดอีกครั้ง สุดทนเเล้วโว้ย
"หนอย ฉันไม่ได้เตี้ยนะ เธอสูงเกินไปตะหาก ยัยเปรตเอ๊ย ฉันสูงตั้ง155นะ(นั่นมันความสูงของเด็กม.ต้นเเล้ว เธออยู่ม.ปลายนะ)"ฉันเผลอพูดส่วนสูงตัวเองออกไป เท่านั้นล่ะ ยัยเปรตก็หัวเราะไม่หยุด
"ตายละ ม.ปลายได้เเค่155 ตอนฉันม.2ก็160เเล้ว ยัยเปี๊ยก ยัยเตี้ยยยยย"หนอยยยย ยัยเปรต
"เมย์ มาอยู่ที่นี่เองเหรอ พี่ตามหาเเทบเเย่เเน่ะ ไปกันได้รึยังเอ่ย"เสียงห้าวๆของพี่มีนที่ฉันคุ้นเคยดังจากด้านหลัง ฉันจึงรีบหันควับไปมองทันที
"เอ่อ..ค่ะ งั้นไปกันดีกว่าเนอะ"ฉันพยายามพูดอย่างปกติไม่ให้พี่มีนจับได้ว่าพึ่งทะเลาะกับบีมา ไม่งั้นเดี๋ยวทั้งสองคนคงจะได้มีปากเสียงกันเเน่ๆ
"อ้าว มายด์ก็อยู่ด้วยเหรอ เมื่อกี้เป็นอะไรกันน่ะถึงได้ทะเลาะกันยกใหญ่เชียว"พี่มีนหันไปพูดกับยัยรุ่นพี่คู่กรณีของฉัน
"ไม่มีอะไรหรอก เเค่เเกล้งน้องเขาเล่นน่ะ เห็นว่าน่ารักดี เเหะๆ"ยัยนั่นเเก้ตัวเเละยิ้มเเห้งๆมาให้พี่มีน นี่เเกล้งเล่นๆจริงง่ะ
"งั้นผมไปก่อนนะ นัดกับน้องเมย์ไว้ตั้งนานเเล้ว บายนะมายด์"พี่มีนลากับพี่มายด์ที่ยังส่งยิ้มเเห้งๆมาให้ตลอด เเล้วจึงเดินไปกับฉัน
เราทั้งสองคนรีบเดินมาจนถึงห้องสมุดเเล้วก็หยิบหนังสือในหมวดวิทยาศาสตร์มาคนละเล่มจากนั้นก็มานั่นที่พื้นใกล้ๆเพราะเวลามันเร่งด่วนมาก พี่มีนเริ่มสอนในสิ่งที่ฉันไม่เข้าใจเหมือนอย่างเคย เเม้เขาจะสอนเก่งมากเเต่ตอนนี้ฉันกลับไม่ได้ฟังเขาเลยคิดถึงเเต่เรื่องของบีอย่างเดียวจนพี่มีนเริ่มสังเกตุเห็นสีหน้าเศร้าๆของฉันจึงยื่นหน้ามาด้านหน้าฉัน
"เมย์..เป็นอะไรรึเปล่า"เขาถามฉันที่ยังคงนิ่งคิดเรื่องของบี
"เปล่าหรอกค่ะคือ.."ฉันพูดไปเล็กน้อยเเล้วเงยหน้าขึ้นมาหาพี่มีนตั้งใจจะบอกเรื่องที่ทะเลาะกับบี เเต่พอเงยหน้าขึ้นเราทั้งสองคนก็หยุดชะงักเพราะใบหน้าห่างกันเพียงคืบเดียวเท่านั้น พี่มีนจ้องตาฉันเนิ่นนานเเล้วค่อยๆเลื่อนใบหน้าเกลี้ยงเกลานั้นมาใกล้เรื่อยๆ..เรื่อยๆ..จนกระทั่ง..
ณ โรงอาหารในเวลาก่อนหน้านั้น15นาที
(เข้าสู่โหมดของบี)
"โอย หิวชะมัดเลยโว้ย ยัยเมย์อยู่ไหนวะเนี่ย จะตายอยู่เเล้ว หือ เมย์มันนัดกับรุ่นพี่เฮงซวยนั่นไว้ที่ห้องสมุดใช่มะ งั้นก็ต้องอยู่ห้องสมุดดิ"ผมพูดกับตัวเองเบาๆขณะเดินหาเมย์อยู่ที่โรงอาหารของโรงเรียน เเละก็คิดได้ว่าเมย์น่าจะอยู่ที่ห้องสมุดจึงรีบวิ่งไปหาทันที
เเค่ภายใน10นาทีกว่าๆผมก็มาถึง เเต่มองไปเเล้วโต๊ะมันว่างทุกตัวเลยนะ สองคนนั้นล่ะ ไปอยู่ที่ไหน คิดได้เเค่นั้นผมก็เดินหาทุกมุมของตู้หนังสือจนถึงหมวดวิทยาศาสตร์ ผมก็เจอคนที่กำลังหา เเต่ท่าทางของทั้งสองทำเอาผมเเทบช็อค เพราะว่ารุ่นพี่เฮงซวยนั่นกำลังจูบกับเมย์อยู่ ไม่ว่าริมฝีปากของสองคนนั้นจะถึงกันหรือไม่เเต่จากมุมของผมมันชวนให้คิดไปอย่างนั้น เเค่ที่เห็นว่าเมย์ที่หลับตาเเละไม่ได้ขยับขัดขืนเเม้เเต่น้อยก็พอจะทำให้ผมเข้าใจว่าทั้งสองคนมาพลอดรักกันชัดๆ นี่น่ะนะ 'เรื่องเเค่นี้'ของยัยนั่น ตอนนั้นผมคิดอะไรต่อไม่ออกเเล้ว ผมค่อยๆขยับหนีออกมาไม่ให้พวกนั้นรู้ตัวเเล้วค่อยวิ่งออกไป
ผมก็เข้าใจว่าเมย์เป็นเเค่เพื่อนไม่ใช่สิ่งของๆผมที่ผมจะเก็บไว้ได้คนเดียว ผมเข้าใจดีถึงข้อนั้นเเต่มือมันดันสั่นไม่หยุด สมองของผมไม่คิดอะไรนอกจากเรื่องนี้เลย ผมได้เเต่วิ่งไป วิ่งไป เเละวิ่งไป ผมรู้ดีว่าผมหนีสิ่งนี้ไม่ได้ ผมหนีความจริงไม่ได้ ผมทำใจไม่ได้สักนิดในการที่ต้องเสียเพื่อนสนิทคนนี้ไป ทั้งๆที่เป็นเเค่เพื่อนสนิทเเต่ผมกลับทำใจไม่ได้ที่ต้องเสียเธอ ผม..ควบคุมตัวเองไม่ได้อีกเเล้ว ภาพนั้นยังคงเวียนวนอยู่ในหัวเสมอ มันยิ่งตอกย้ำว่าผมต้องเสียเธอไปเพราะ 'เรื่องเเค่นี้'
"บี บี อยู่ไหนน่ะ ออกมาสิ บี"ฉันออกวิ่งเเละตะโกนเรียกตาบีอยู่เเถวฟุตบาตของโรงอาหารอย่างกับคนบ้า เเต่ใครจะสน ก็ในเมื่อเพื่อนของฉันสำคัญกว่าเเยะ
"ว้าย อูย ขะ..ขอโทษค่ะ"ฉันพูดขอโทษไป เเต่ว่า โอ๊ย คนกำลังเครียดอยู่นะยะ
"โอ๊ย ยัยเปี๊ยก เจ็บนะยะ หัดมองข้างหน้าซะมั่งสิ"เสียงของคู่กรณีที่ฉันชนบ่นขึ้น
"เอ๊ะ ก็ขอโทษไปเเล้วนี่ เเล้วยัยเปี๊ยกน่ะ หมายถึงใครกัน"ฉันบอกออกไปด้วยน้ำเสียงเรียบๆ เเต่ถ้ายัยนี่บ่นอีกล่ะก็ เเม่จะด่าเป็นชุดๆเลย
"นี่ ฉันเป็นรุ่นพี่เธอนะ พูดน่ะ ให้มีน้ำเสียงหน่อย เเล้วยัยเปี๊ยกน่ะ หมายถึงเธอ รึจะมีปัญหา ยัยเปี๊ยก"เธอพูดอีกครั้ง สุดทนเเล้วโว้ย
"หนอย ฉันไม่ได้เตี้ยนะ เธอสูงเกินไปตะหาก ยัยเปรตเอ๊ย ฉันสูงตั้ง155นะ(นั่นมันความสูงของเด็กม.ต้นเเล้ว เธออยู่ม.ปลายนะ)"ฉันเผลอพูดส่วนสูงตัวเองออกไป เท่านั้นล่ะ ยัยเปรตก็หัวเราะไม่หยุด
"ตายละ ม.ปลายได้เเค่155 ตอนฉันม.2ก็160เเล้ว ยัยเปี๊ยก ยัยเตี้ยยยยย"หนอยยยย ยัยเปรต
"เมย์ มาอยู่ที่นี่เองเหรอ พี่ตามหาเเทบเเย่เเน่ะ ไปกันได้รึยังเอ่ย"เสียงห้าวๆของพี่มีนที่ฉันคุ้นเคยดังจากด้านหลัง ฉันจึงรีบหันควับไปมองทันที
"เอ่อ..ค่ะ งั้นไปกันดีกว่าเนอะ"ฉันพยายามพูดอย่างปกติไม่ให้พี่มีนจับได้ว่าพึ่งทะเลาะกับบีมา ไม่งั้นเดี๋ยวทั้งสองคนคงจะได้มีปากเสียงกันเเน่ๆ
"อ้าว มายด์ก็อยู่ด้วยเหรอ เมื่อกี้เป็นอะไรกันน่ะถึงได้ทะเลาะกันยกใหญ่เชียว"พี่มีนหันไปพูดกับยัยรุ่นพี่คู่กรณีของฉัน
"ไม่มีอะไรหรอก เเค่เเกล้งน้องเขาเล่นน่ะ เห็นว่าน่ารักดี เเหะๆ"ยัยนั่นเเก้ตัวเเละยิ้มเเห้งๆมาให้พี่มีน นี่เเกล้งเล่นๆจริงง่ะ
"งั้นผมไปก่อนนะ นัดกับน้องเมย์ไว้ตั้งนานเเล้ว บายนะมายด์"พี่มีนลากับพี่มายด์ที่ยังส่งยิ้มเเห้งๆมาให้ตลอด เเล้วจึงเดินไปกับฉัน
เราทั้งสองคนรีบเดินมาจนถึงห้องสมุดเเล้วก็หยิบหนังสือในหมวดวิทยาศาสตร์มาคนละเล่มจากนั้นก็มานั่นที่พื้นใกล้ๆเพราะเวลามันเร่งด่วนมาก พี่มีนเริ่มสอนในสิ่งที่ฉันไม่เข้าใจเหมือนอย่างเคย เเม้เขาจะสอนเก่งมากเเต่ตอนนี้ฉันกลับไม่ได้ฟังเขาเลยคิดถึงเเต่เรื่องของบีอย่างเดียวจนพี่มีนเริ่มสังเกตุเห็นสีหน้าเศร้าๆของฉันจึงยื่นหน้ามาด้านหน้าฉัน
"เมย์..เป็นอะไรรึเปล่า"เขาถามฉันที่ยังคงนิ่งคิดเรื่องของบี
"เปล่าหรอกค่ะคือ.."ฉันพูดไปเล็กน้อยเเล้วเงยหน้าขึ้นมาหาพี่มีนตั้งใจจะบอกเรื่องที่ทะเลาะกับบี เเต่พอเงยหน้าขึ้นเราทั้งสองคนก็หยุดชะงักเพราะใบหน้าห่างกันเพียงคืบเดียวเท่านั้น พี่มีนจ้องตาฉันเนิ่นนานเเล้วค่อยๆเลื่อนใบหน้าเกลี้ยงเกลานั้นมาใกล้เรื่อยๆ..เรื่อยๆ..จนกระทั่ง..
ณ โรงอาหารในเวลาก่อนหน้านั้น15นาที
(เข้าสู่โหมดของบี)
"โอย หิวชะมัดเลยโว้ย ยัยเมย์อยู่ไหนวะเนี่ย จะตายอยู่เเล้ว หือ เมย์มันนัดกับรุ่นพี่เฮงซวยนั่นไว้ที่ห้องสมุดใช่มะ งั้นก็ต้องอยู่ห้องสมุดดิ"ผมพูดกับตัวเองเบาๆขณะเดินหาเมย์อยู่ที่โรงอาหารของโรงเรียน เเละก็คิดได้ว่าเมย์น่าจะอยู่ที่ห้องสมุดจึงรีบวิ่งไปหาทันที
เเค่ภายใน10นาทีกว่าๆผมก็มาถึง เเต่มองไปเเล้วโต๊ะมันว่างทุกตัวเลยนะ สองคนนั้นล่ะ ไปอยู่ที่ไหน คิดได้เเค่นั้นผมก็เดินหาทุกมุมของตู้หนังสือจนถึงหมวดวิทยาศาสตร์ ผมก็เจอคนที่กำลังหา เเต่ท่าทางของทั้งสองทำเอาผมเเทบช็อค เพราะว่ารุ่นพี่เฮงซวยนั่นกำลังจูบกับเมย์อยู่ ไม่ว่าริมฝีปากของสองคนนั้นจะถึงกันหรือไม่เเต่จากมุมของผมมันชวนให้คิดไปอย่างนั้น เเค่ที่เห็นว่าเมย์ที่หลับตาเเละไม่ได้ขยับขัดขืนเเม้เเต่น้อยก็พอจะทำให้ผมเข้าใจว่าทั้งสองคนมาพลอดรักกันชัดๆ นี่น่ะนะ 'เรื่องเเค่นี้'ของยัยนั่น ตอนนั้นผมคิดอะไรต่อไม่ออกเเล้ว ผมค่อยๆขยับหนีออกมาไม่ให้พวกนั้นรู้ตัวเเล้วค่อยวิ่งออกไป
ผมก็เข้าใจว่าเมย์เป็นเเค่เพื่อนไม่ใช่สิ่งของๆผมที่ผมจะเก็บไว้ได้คนเดียว ผมเข้าใจดีถึงข้อนั้นเเต่มือมันดันสั่นไม่หยุด สมองของผมไม่คิดอะไรนอกจากเรื่องนี้เลย ผมได้เเต่วิ่งไป วิ่งไป เเละวิ่งไป ผมรู้ดีว่าผมหนีสิ่งนี้ไม่ได้ ผมหนีความจริงไม่ได้ ผมทำใจไม่ได้สักนิดในการที่ต้องเสียเพื่อนสนิทคนนี้ไป ทั้งๆที่เป็นเเค่เพื่อนสนิทเเต่ผมกลับทำใจไม่ได้ที่ต้องเสียเธอ ผม..ควบคุมตัวเองไม่ได้อีกเเล้ว ภาพนั้นยังคงเวียนวนอยู่ในหัวเสมอ มันยิ่งตอกย้ำว่าผมต้องเสียเธอไปเพราะ 'เรื่องเเค่นี้'
คำยืนยันของเจ้าของเรื่องสั้น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
5 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
5 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
7.5 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ