ครอบครอง

10.0

เขียนโดย sugarkoi

วันที่ 21 มกราคม พ.ศ. 2554 เวลา 08.41 น.

  1
  12 วิจารณ์
  6,183 อ่าน
แชร์เรื่องสั้น Share Share Share

 

1) ครอบครอง

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก

 
                ตั้งแต่จำความได้ ฉันก็ไม่มีพ่อแม่ เหมือนๆกับเจ้าตัวอื่น ๆ ที่อยู่กรงใกล้เคียงกันนี่แหละ
                วัน ๆ มีมนุษย์มากมายมาเอาตัวพวกเราไป ยกเว้นฉัน
                ทำไมเราต้องให้มนุษย์เอาตัวไปล่ะ?
นั่นเป็นเรื่องที่ฉันสงสัยเสมอ
                “ก็มนุษย์ชอบการครอบครองเป็นเจ้าของพวกเราน่ะสิ”
เสียงเจ้าตัวน่าเกลียด พันธุ์ “บุลด็อก” ท่าทางรู้ดี จากกรงข้าง ๆ เอ่ยขึ้น
“แต่ฉันได้ยินว่า พวกเราบางตัว ก็ได้ครอบครองมนุษย์นะยะ”
เสียงแหลมเล็กของสาวน้อยกรงถัดไปดังขึ้นแทรก
พวกมนุษย์ชอบเรียกเธอว่า “ชิสุ” มันไม่ใช่ชื่อนะ มันเป็นการเรียกสายพันธุ์น่ะ
“หมายความว่ายังไงเหรอ?”
ฉันสงสัย
 

“ก็เวลาอยากได้อะไร อยากกินอะไร อยากทำอะไร พวกมนุษย์ก็จะพยายามทำให้ไงล่ะ...แล้วเวลาเราไม่อยากกิน แล้วเราไม่กิน พวกมนุษย์ก็จะตระหนกตกใจ พยายามสรรหาอย่างอื่นมาให้เราลองชิม เวลาเราไม่สบายแล้วทำท่าซึมเศร้า พวกมนุษย์ก็จะรีบพาเราไปรักษา พวกมนุษย์พวกนี้จะพยายามเอาใจเราสุดๆ ฉันละใฝ่ฝันอยากไปอยู่กับมนุษย์เหล่านี้จริงๆ...คงจะมีความสุขน่าดูเลยล่ะ”
ฉันพยักหน้าหงึกหงักเห็นด้วย อย่างไม่มีข้อโต้แย้ง
                “เอาแค่ ถ้ามะหมาอย่างเรา ๆ ไม่มีมนุษย์มาจับจองเป็นเจ้าของก็ถือว่าเศร้าแล้ว ยังจะใฝ่ฝันไปถึงการครอบครองเป็นเจ้าของมนุษย์อีกเรอะ!!??”
เจ้าตัวน่าเกลียดกรงข้างๆ พูดออกมาด้วยน้ำเสียงกราดเกรี้ยว ฉันนอนฟังอย่างเซ็ง ๆ(แต่ก็เห็นด้วยอีกนั่นแหละ)
                ฉันมองคนขวักไขว่ ที่กำลังจะมาเลือกพวกเรา บางคนก็ควักกระดาษแผ่นเล็กๆสีม่วง สีแดงให้ แล้วเอาพวกเราบางตัวไป ยกเว้นฉัน
                “โดยเฉพาะใครที่ไม่มีชื่อล่ะก็ ยิ่งน่าเศร้ามากกว่า”
 

ซูซู หมาสีขาวขนหยิกหยอง พันธุ์พูเดิ้ล ท่าทางเย่อหยิ่งพูดขึ้นบ้าง ซูซูต่างจากพวกเรา เพราะไม่ต้องอยู่ในกรง แถมมีปลอกคอ เจ้าของของซูซู ก็คือคนที่เอาเรามาไว้ในกรง พาเราออกไปวางอีกกรง คอยรับกระดาษสีๆแผ่นเล็กจากผู้คน แล้วก็ส่งพวกเราเป็นการแลกกับกระดาษแผ่นเล็กๆพวกนั้น
พวกเราต่างก็ทึ่งในทักษะและความเฉลียวฉลาดของซูซูเสมอๆ แต่สำหรับฉันแล้ว ฉันหมั่นไส้ในท่าทีเชิดหยิ่งของเจ้าหล่อนที่ชอบปรายตามามองฉันต่างหาก
 
แต่อีกใจ ฉันก็ชื่นชมและสนใจชื่อของซูซู ฉันคิดว่ามันช่างไพเราะเพราะพริ้งซะจริง ๆ ฉันเองก็อยากมีชื่อบ้าง ทำไงดีละเนี่ย?
                “ยาก”
เจ้าตัวข้าง ๆ ฉันเอ่ยขึ้น
                “เพราะนายหน้าตาน่าเกลียด”
ฉันหันไปมองมันบ้าง นึกในใจว่า
                “นายก็หน้าตาน่าเกลียดเหมือนกัน”
แต่ก็นั่นแหละนะ ในที่สุดก็อยากมีคนเป็นเจ้าของมันจนได้               
ยกเว้นฉัน 
ฉันนอนอย่างซึมเซาต่อไป
 

                จนกระทั่งวันหนึ่ง มีชายผิวขาว รูปร่างท้วม ๆ มาหยุดมองฉันเป็นนาน แล้วคุยอะไรซักอย่างกับคนที่ดูแลแต่ไม่ยอมตั้งชื่อให้ฉัน
                แล้วเขาก็ไป โดยที่ไม่ได้เอาฉันไปด้วย                ฉันทำเป็นไม่สนใจ แต่ก็แอบมองตาม
                พอวันถัดมา เขาก็มาอีกทีนี่อีก คุยกับคนที่ดูแลฉันอยู่นาน ฉันจับใจความได้ว่า
                “งั้นตกลงครับ เก้าพันห้าร้อยบาท อย่าลืมใบ เพ็ด ดีกรี นะครับ”
จากนั้นเขาก็หยิบแผ่นกระดาษสีเหล่านั้นส่งมา คนที่คอยดูเราก็ส่งฉันให้กับชายคนนั้นพร้อมกับอะไรอีกหลายอย่าง เช่นตะกร้า ขวดน้ำ แล้วฉันก็ไปกับชายคนนี้
 

                แรก ๆ เขาก็ดูแลฉันดีอยู่หรอก แต่ไป ๆ ก็มักทิ้งฉันไว้ในบ้านกับ “เจ้านั่น” หมาหน้าตาคล้าย ฉันอีกตัว พวกเราพากันวิ่งเล่นอย่างไม่รู้จะทำอะไรดีไปมากกว่านี้ แต่เล่นได้ไม่นานหรอก เพราะฉันขาสั้น ทำให้เหนื่อยง่าย
 
                “โอ๊ย เหม็น ๆ ฉี่เรี่ยราดไปหมดเลย ดูซิ อึก็กองไปทั่ว หนังสือพิมพ์ก็ปูไว้ให้แล้วนี่นา !?”
เสียงชายคนนั้นบ่นแบบนี้เสมอ ฉันนอนฟังเงียบ ๆ
                แต่ “เจ้านั่น” หายไปไหนนะ? ไม่เห็นมาหลายชั่วโมงแล้ว  ฉันนึกในใจ ซักพักก็มีเสียงดังลั่นมาจากชั้นบนของดาดฟ้า ซึ่งมีสวนเล็ก ๆ ที่เราชอบไปเล่นกันเสมอ
                “มันตายแล้ว”
เสียงชายคนนั้นดังขึ้น จากนั้นฉันก็เห็นร่างของ “เจ้านั่น” เจ้าตัวที่คล้าย ๆ ฉัน มันไม่กระดุกกระดิกเลย
                “ตายได้ยังไงเนี่ย?”
เสียงของผู้หญิงอีกคนดังขึ้น
                “ตกลงไปในโอ่งน้ำเล็กในสวนครับ...”
ชายคนนั้นกล่าวเสียงเศร้า ๆ
                “แม่บอกแล้วว่าอย่าเลี้ยง ตัวเองไม่มีเวลาดูแลมันแท้ ๆ ... เจ้าตัวนี้อีกตัว ...”
มือที่ชี้มาทางฉัน ทำเอาฉันสะดุ้ง
                “เอาไปปล่อยซะ ไปให้ใครก็ได้”
เสียงเฉียบขาดของหญิงคนนั้นแหลมปรี๊ด  ส่วนฉัน คิดในใจอย่างเซ็ง ๆ
“... ดีเหมือนกัน”
                ชายคนนี้คงไม่ใช่เจ้าของที่แท้จริงของฉันแน่ เพราะเขาไม่ตั้งชื่อให้ฉันซักที
                และแล้วฉันก็ออกจากบ้านหลังนั้น ฉันไม่สนใจหรอกว่า เขาจะพาฉันไปไหน ขอแค่ให้ฉันได้มีชื่อก็พอ
                นี่แหละ...ที่ฉันปรารถนา
 
                แล้วฉันก็ไปถึงบ้านของผู้หญิงคนหนึ่ง ฉันตื่นเต้นมาก เพราะที่นี่มีหมาหน้าตาธรรมดางั้น ๆ สามตัว มีเด็กสองคน ผู้ใหญ่สองคน และที่สำคัญ ผู้หญิงคนที่รับดูแลฉัน เขาบอกกับฉันว่า
                “ฉันจะให้เจ้าชื่อ ฟู่ฟ่า ล่ะ”
                “ฟู่ฟ่า”
ฉันทบทวนในใจ
                “ฟู่ฟ่า ฟู่ฟ่า ฟู่ฟ่า ฟู่ฟ่า”
                ฉันท่องชื่อนั้นไปมา กระโดดโลดเต้นไปทั่วบ้าน หมาหน้าตาธรรมดางั้น ๆ สามตัวนอกประตูนั่นมองมาทางฉันอย่างแปลกใจ ในภายหลังฉันก็รู้ว่ามันต่างก็มีชื่อที่ดีกันทั้งนั้น แต่ฉันก็ไม่สนแล้วล่ะ ฉันมีชื่อแล้ว ฉันมีเพื่อนเล่นเป็นเด็ก ชาย-หญิงสองคน และผู้หญิงคนนี้ที่เธอแทนตัวเองว่าแม่กับฉัน แล้วก็ทำกับข้าวอร่อยมาก แล้วผู้ชายคนนั้น เป็นน้องชายของ “คุณแม่”ก็ท่าทางชอบฉันมากกกก ก กเลยละ....
 

                ฉันจะสุภาพ ไม่ขี้บ่น ไม่เอาแต่ใจ ไม่เล่นเลอะเทอะ ไม่วุ่นวาย จะเรียบร้อย กินง่าย ฉี่-อึเป็นที่เป็นทาง ฮ่า ฮ่า ฮ่า...โฮ่ง โฮ่ง โฮ่ง...ฉันคิดในใจอย่างเริงรื่น กระโดดโลดเต้น วิ่งเล่นไปมา กระดิกหาง อย่างดีใจสุดๆ
 
                “ท่าทางมันจะชอบเธอนะ”
เสียงชายคนที่นำฉันมากล่าวขึ้น ตอนที่เขามาเยี่ยมฉันที่บ้านนี้   ฉันกระดิกหาง
                “ใช่ ใช่ ใช่ ฉันชอบที่นี่ โฮ่ง โฮ่ง”
ฉันร้องบอกออกไป โดยหวังว่าเขาจะเข้าใจ
                “อยู่ที่นี่ก็ดีแล้วใช่มั้ยละ”
ชายคนนั้นพูดต่อ โดยหันมาทางฉัน จากนั้นเป็นต้นมา ฉันหรือฟู่ฟ่าก็เป็นมะหมาที่มีชื่อ มีเจ้าของ
                “มีคนมาครอบครองฉันแล้ว!!”
ฉันนึกในใจอย่างยินดี
 
“หน้าตามันน่าเกลียดเนอะ”
เสียง”คุณแม่”ที่รับดูแลฉันเอ่ยขึ้นในวันหนึ่ง ฉันซึมเศร้าทันที   ก็ฉันเศร้านี่...
                “ฉันมันหน้าตาน่าเกลียด!!”
ฉันโวยวายในใจ
                “แต่เพราะน่าเกลียดแบบนี้แหละ ถึงได้น่าร้ากกก”
ประโยคที่คุณแม่พูดต่อนั่นทำเอาฉันหูผึ่ง
                “โอ้ ไม่เป็นไรฉันจะหน้าตาน่าเกลียดก็ช่าง แต่คุณแม่บอกว่าฉันน่าร้ากกกกกก”
ฉันแทบน้ำตาไหล กระดิกหางไม่หยุดเล้ยยยย
                “ใช่ค่ะคุณแม่ หนูรักที่มันหน้าตาน่าเกลียดแบบนี้แหละ”
                เด็ก ๆ อีกสองคนพูดไป หัวเราะคิกคักไป แถมผู้ชายคนนั้น คนที่เด็ก ๆ เรียกว่า “น้า” มักจะมานอนเล่น กับฉันเสมอ              
เฮ้อ ! ดีจังเลยค้าบบบบบบบบบบบบบบบบ ...


 


หวังว่าจะสนุกกับการอ่านนะคะ
จบแล้วค่ะ 

 *ฟู่ฟ่า
ตัวละครในเรื่องนี้ เป็นปักกิ่งสายพันธุ์เดิม ซึ่งตาจะถลน
(สายพันธุ์ใหม่เท่าที่เห็นจะมีตาเหมือนคุณหมาทั่วไปค่ะ)
บางคนที่เห็นก็บอกว่าน่ากลัวบ้าง น่าเกลียดบ้าง เหมือนเอเลี่ยนบ้าง...

 

คำยืนยันของเจ้าของเรื่องสั้น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
10 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา