สุดทีรัก..
-
1) โหยหา
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ หลังจากที่ผมเลิกเรียน มีความรู้สึกวูบหนึ่ง ที่สัมผัสได้ถึงความโหยหา ผมคิดในใจว่า นี่ผมจะไม่ได้เจอคุณสามวันเลยหรือนี่
แล้วผมจะใช้เวลาที่เหลือมากมายทำอะไรได้บ้างเพื่อไม่ได้ฟุ้งซ่านคิดถึงคุณ ผมคิดพลางเดินออกจากมหาวิทยาลัยมุ่งหน้าตรงดิ่งกลับบ้าน ทุกย่างก้าวนั้นสาวเดินด้วยจังหวะที่เชื่องช้า
ตอนนั้นผมรู้สึกเหมือนราวกับถูกบางสิ่งบางอย่างกลืนกินแรงทั้งหมดที่ผมมี ขาผมล้า มันไม่สามารถขยับเดินต่อได้อีก ภายในใจผมมันพูดอยู่นั่นแหละว่าคิดถึงคุณเหลือเกิน ยิ่งผมคิดถึงใบหน้าคุณมากเท่าไร เรี่ยวแรงทั้งหมดก็ลดน้อยหายไปแทบหมดสิ้น
ผมเดินมาถึงทางลงสะพานลอยที่อยู่ตรงข้ามกับหน้ามหาลัย ใบหน้าคุณหวนกลับมาอีกครั้ง ผมสะอื้นอยู่ภายใน น้ำในตาเจ่อเอ่อล้นท่วมท้นเปียกชุ่มขนตาเป็นเส้นสายลงมาอาบแก้มทั้งสองข้าง บัดนี้ผมได้รู้แล้วว่าแท้จริงผมมันอ่อนแอเกินกว่าจะทนรับสภาพอารมณ์แบบนี้ได้ ผมคิดมาตลอดว่าผมมันเข้มแข็งถ้าคุณไม่มาจางหายไป เวลานี้ทุกสิ่งทุกอย่างกำลังบอกผมอย่างช้าๆถึงสิ่งที่ผมปิดบังมาโดยตลอด ผมอยากให้คุณอยู่เคียงข้างผมเสมอ ผมเดินหน้าเศร้ามาจนถึงป้ายรถเมล์ อาการอ่อนแอยังคงดำเนินต่อไป หัวใจผมมันเต้นรัวยิ่งกว่าเสียงกลองทุกจังหวะที่เคยได้ยินมา
แสงแดดจัดจ้าสาดส่องร่างผมให้ชัดเจนยิ่งขึ้น น้ำในตายังคงเอ่อปลอบประโลมหัวใจตนเองไม่มีทีท่าจะหยุดยั้ง แสงแดดเป็นสิ่งที่ทำให้ทุกอย่างดูชัดเจนมากกว่าเดิม ผมไม่อายผู้คนหรอกใครจะมองว่าผมบ้าผมก็ไม่สนเพียงเพราะสิ่งที่ผมเป็นอยู่นี้มันกลั่นออกมาจากภายในโดยแท้จริงไม่ได้ทำเพียงเพื่อเรียกร้องสายตาใครให้มาสนใจผม อย่างน้อยมันก็ทำให้ผมคลายความอ้างว้างลงได้บ้าง ผมภาวนาในใจขอให้สายลมเป็นตัวแทนส่งความรู้สึกนี้ให้เธอได้รู้สักครั้ง..
แล้วรถเมล์สาย80ก็จอดตรงหน้าโดยมีผู้โดยสารค้างน้ำตาบางๆเป็นคนขึ้น..
แล้วผมจะใช้เวลาที่เหลือมากมายทำอะไรได้บ้างเพื่อไม่ได้ฟุ้งซ่านคิดถึงคุณ ผมคิดพลางเดินออกจากมหาวิทยาลัยมุ่งหน้าตรงดิ่งกลับบ้าน ทุกย่างก้าวนั้นสาวเดินด้วยจังหวะที่เชื่องช้า
ตอนนั้นผมรู้สึกเหมือนราวกับถูกบางสิ่งบางอย่างกลืนกินแรงทั้งหมดที่ผมมี ขาผมล้า มันไม่สามารถขยับเดินต่อได้อีก ภายในใจผมมันพูดอยู่นั่นแหละว่าคิดถึงคุณเหลือเกิน ยิ่งผมคิดถึงใบหน้าคุณมากเท่าไร เรี่ยวแรงทั้งหมดก็ลดน้อยหายไปแทบหมดสิ้น
ผมเดินมาถึงทางลงสะพานลอยที่อยู่ตรงข้ามกับหน้ามหาลัย ใบหน้าคุณหวนกลับมาอีกครั้ง ผมสะอื้นอยู่ภายใน น้ำในตาเจ่อเอ่อล้นท่วมท้นเปียกชุ่มขนตาเป็นเส้นสายลงมาอาบแก้มทั้งสองข้าง บัดนี้ผมได้รู้แล้วว่าแท้จริงผมมันอ่อนแอเกินกว่าจะทนรับสภาพอารมณ์แบบนี้ได้ ผมคิดมาตลอดว่าผมมันเข้มแข็งถ้าคุณไม่มาจางหายไป เวลานี้ทุกสิ่งทุกอย่างกำลังบอกผมอย่างช้าๆถึงสิ่งที่ผมปิดบังมาโดยตลอด ผมอยากให้คุณอยู่เคียงข้างผมเสมอ ผมเดินหน้าเศร้ามาจนถึงป้ายรถเมล์ อาการอ่อนแอยังคงดำเนินต่อไป หัวใจผมมันเต้นรัวยิ่งกว่าเสียงกลองทุกจังหวะที่เคยได้ยินมา
แสงแดดจัดจ้าสาดส่องร่างผมให้ชัดเจนยิ่งขึ้น น้ำในตายังคงเอ่อปลอบประโลมหัวใจตนเองไม่มีทีท่าจะหยุดยั้ง แสงแดดเป็นสิ่งที่ทำให้ทุกอย่างดูชัดเจนมากกว่าเดิม ผมไม่อายผู้คนหรอกใครจะมองว่าผมบ้าผมก็ไม่สนเพียงเพราะสิ่งที่ผมเป็นอยู่นี้มันกลั่นออกมาจากภายในโดยแท้จริงไม่ได้ทำเพียงเพื่อเรียกร้องสายตาใครให้มาสนใจผม อย่างน้อยมันก็ทำให้ผมคลายความอ้างว้างลงได้บ้าง ผมภาวนาในใจขอให้สายลมเป็นตัวแทนส่งความรู้สึกนี้ให้เธอได้รู้สักครั้ง..
แล้วรถเมล์สาย80ก็จอดตรงหน้าโดยมีผู้โดยสารค้างน้ำตาบางๆเป็นคนขึ้น..
คำยืนยันของเจ้าของเรื่องสั้น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ