ความทรงจำ...สะท้อนใจคน บทพิเศษ
1) บทพิเศษ
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความความทรงจำ....สะท้อนใจคน
บทพิเศษ
“ผมชื่อ ต้น ครับ ผมอยู่คนเดียวในบ้านหลังนี้มานานแล้ว อ้อ ...ใช่สิ มีเจ้าตูบอยู่เป็นเพื่อนผมด้วยอีกตัวหนึ่ง ชีวิตที่แสนเรียบง่ายและเงียบเหงาคือกิจวัตรของผมที่ต้องพบเจอเป็นประจำ จนเกิดเป็นความชินชา คำถามที่ผุดขึ้นมาในใจผมเสมอมา ทำไมผมยังไม่หาใครสักคนมาเป็นคู่ใจ ทั้งๆที่อายุก็เลยเบญจเพสมา 2 ปีแล้ว หัวใจผมก็ยังเปล่าเปลี่ยวเดียวดาย ถ้าไม่มีเหตุการณ์นั้น.....เกิดขึ้น
....อดีตอันแสนหวานห้วงแห่งความสุข กับน้องปาล์มในสมัยเรียน มัธยมปลาย ปาล์มเป็นเด็กผู้หญิงที่ผมแอบปลื้มตั้งแต่สมัยร่วมเรียนและร่วมการแสดงคณะเดียวกันที่โรงเรียน เราผูกพันกันมากแต่ผมไม่เคยปริปากพูดบอกออกไปถึงความในใจที่มีให้เธอเลย
....จนวันสุดท้ายของภาคการศึกษาที่เราทั้งสองต้องห่างไกลกันด้วยความจำเป็นในการไปศึกษาต่อยังสถาบันอื่น วันสุดท้ายผมอยู่กับเธอเพียงลำพังแต่ก็ยังไม่กล้าบอกได้แต่เดินจากไปโดยไม่หันกลับมา ตอนนี้ก็คงเป็นเวลา 3 ปีแล้ว ที่เราไม่ได้เจอกัน ได้แต่เพียงติดต่อกันทางอินเตอร์เน็ต แค่นีก็ทำให้ใจผมชุ่มชื้นและมีความสุขเสียเหลือเกิน แม้จะไม่เห็นหน้าเธอ แต่ผมยังจำใบหน้าเธอได้เสมอ ทั้งๆที่มีคนเข้ามาเรื่อยๆ แต่ผมไม่เคยเปิดใจให้เข้ามาเลยสักคน ผมปิดกั้นและอยู่กับสิ่งที่ผมรัก แม้ไม่เคยบอกเธอเพียงหวังว่าความอบอุ่นที่ผมมีให้จะส่งผ่านข้อความที่เราได้คุยกันให้เธอได้รับรู้.......ได้รู้.....สักวัน
...เวลาช่างรวดเร็วเหลือเกิน วันนี้เป็นวันรับปริญญาของผม ปาล์มได้ตกลงกับผมว่าวันที่ผมรับปรัญญาจะมาร่วมแสดงความยินดี แต่เป็นการติดต่อกันครั้งสุดท้าย กับการรอคอยจนถึงปัจจุบัน ....
ผมอยู่กับเจ้าตูบที่อาศัยอยู่ในบ้านเพียงลำพังกับผม บ้านสไตล์เรียบง่ายที่มีเพียงหนุ่มเทรอ กับเจ้าตูบทีมีแสงไฟสลัวดูแล้วช่างเงียบเหงาเสียเหลือเกิน อาจดูโทรมไปเลยก็ว่าได้ เหมือนกำลังรอใครสักคนมาเติมเต็มให้บ้านดูอบอุ่น แต่เหมือนผมจะรอเธอคนเดียว.....เธอคนเดียวเท่านั้น แต่ไม่มีเลย....เธอไม่มา เราขาดการติดต่อกันไปตั้งแต่นั้น....
วันนี้ก็เหมือนทุกๆวัน กิจวัตรที่ผมต้องตื่นขึ้นมา สิ่งแรกที่ทำคือรับประทานอาหารเช้าพร้อมเพื่อนสี่ขาของผม และต้องรีบไปทำงาน ไม่มีอะไรผิดแผกแตกต่างไปจากทุกวัน แต่สิ่งที่ดูผิดไปคือช่วงเวลายามเย็น ที่มีแผ่นป้ายชื่อร้านกาแฟแห่งหนึ่งที่ทำให้ผมย้อนนึกถึงความทรงจำในวัยเด็กของผม
“ ต้นปาล์ม คอฟฟี่” เป็นร้านที่ดูทั่วไปก็ไม่มีอะไรที่สะดุดตาเป็นพิเศษ ร้านที่แต่งในสไตล์ตะวันตก แสงไฟที่ดูอบอุ่น มีกลุ่มคนทั้งเด็กๆ วัยทำงาน หนุ่มสาว มานั่งอยู่ตามมุมต่างๆของร้าน บ้างก็นั่งคุยกันตามประสาวัยกระเตาะ บ้างก็คุยเรื่องธุรกิจการงานส่วนตัว บ้างก็นั่งปล่อยรักโรแมนติค ที่ทำเอาผมแอบมีความสุขไปกับคู่รักคู่นั้นด้วย
ผมนั่งจิบกาแฟไปตามประสาคนโสต อดไม่ได้ที่จะแอบนึกถึงความทรงจำที่แสนประทับใจในวัยเด็ก อยากกลับไปทำอะไรบางอย่างที่ผมไม่เคยบอกเธอเสียเหลือเกิน ผมต้องเตือนตัวเองให้หยุดความคิดเพ้อเจ้อลงเพราะมันไม่มีทางเป็นไปได้อีกแล้ว....ไม่มีทาง
....เสียงหนึ่งที่ทำให้ผมได้ยินถึงเสียงเต้นของหัวใจตัวเอง เป็นเสียงที่ผมคุ้นเคยเสียเหลือเกิน...
“พี่อาร์ต เป็นไงบ้าง ที่ร้านโอเคนะพี่”
“ดีครับ คุณปาล์ม เรียบร้อยดีครับ วันนี้จะไปไหนหรือครับ แต่งตัวซะสวยเชียว”
“ไม่หรอกพี่ ก็มาเยี่ยมร้านหน่อยสิ “
...เสียงสนทนาทำให้ผมคล้อยตามน้ำเสียงอันคุ้นเคย ใช่จริงๆด้วย...เป็นคนที่ผมคิดถึงมาตลอดบัดนี้เธอมายืนอยู่ตรงหน้า ฟ้าเหมือนเป็นใจให้ผมได้พบเธออีกครั้ง แต่เพราะอะไรผมถึงยังเป็นเหมือนเดิมอีกแล้ว ผมไม่กล้าพบเธอแสดงให้เธอรู้ว่าผม อยู่ตรงนี้ครับ....
....ผมยังคงแอบซ่อนตัวตนไม่บอกให้เธอรู้ พร้อมกับสืบทราบว่าเธอเป็นเจ้าของร้านกาแฟที่นี่ และยังเป็นดีเจจัดรายการวิทยุอยู่แถวย่านนี้ เป็นสองสิ่งที่ผมต้องทำเป็นประจำคือ มานั่งที่ร้านกาแฟและฟังเพลงรายการวิทยุในช่วงที่เธอจัด
“สวัสดีครับ”
“สวัสดีค่ะ ไม่ทราบว่าชือ่คุณอะไรคะ”
“ต้นครับ”
“ขอเพลงไรดีคะ”
“ขอเพลง “เจ้าหญิงมงกุฎดอกไม้ กับเจ้าชายรองเท้าแตะครับ”
“ได้ค่ะ เดี๋ยวทางรายการจัดให้ค่ะ ค่ะ คุณต้น ช่วงนี้เป็นช่วง ...ประสบการณ์จริงที่อยากบอก... คุณต้นจะนำเรื่องไรมาเล่าให้เพื่อนๆฟังดีคะ”
“คือ.... ผมเคยแอบชอบผู้หญิงคนหนึ่ง สมัยยังเรียนมัธยมปลาย ผมแอบปลื้มเธอ เรารู้จักกันยิ่งนานวันก็ยิ่งทำให้ผมมีความรู้สึกเปลี่ยนไปจากเพื่อน แต่ผมไม่เคยบอกเธอเลยสักครั้ง..
“ว้า ...แย่จัง แบบนี้เค้าเรียกว่า รักนะ แต่ไม่แสดงออกนะคะเนี่ย ดีเจก็เคยมีความรู้สึกแบบนี้นะคะแต่มันนานมาแล้ว เข้าเรื่องกันดีกว่า คุณต้นทำไงต่อคะ”
“ผมเคยเขียนข้อความจะบอกว่ามันเชยไปหน่อยแต่ผมรู้สึกมันจริงใจดีนะครับ ผมเขียนทุกๆวันคิดอยากเอาไปแนบไว้ใต้โต๊ะเรียนที่เธอนั่ง แต่ใจผมไม่เคยกล้าเลยสักครั้ง จนผมไปเรียนต่อที่อื่น เราได้แต่ติดต่อกันทางอินเตอร์เน็ต เธอเป็นคนอัธยาศัยดีไม่เคยทิ้งห่างหายกันไปเลย ผมมีความสุขมากครับ แต่เธอไม่เคยรู้เลยว่าผมอยากเจอเธอเหลือเกิน อยากเดินเข้าไปบอกเธอว่า ผมยังรอเธอเสมอมา”
“เอ่อ...ฟังดูเศร้าจัง แต่ไม่เป็นไรนะคะ ดีเจเป็นกำลังใจเสมอค่ะ เอาเป็นว่าขอตัดเข้าสู่รายการเพลงก่อนนะคะเดี๋ยวคุณต้นอย่าเพิ่งวางสายนะคะ ทางรายการจะติดต่อหลังไมค์กับคุณอีกที”
สิ้นสุดเสียงพูดเพลงก็บรรเลงขึ้น พร้อมกับเสียงปลายสายที่เรียกตอบกลับมา
“เอ่อ...คุณต้น ไม่ทราบว่า จะเป็นการเสียมารยาทหรือเปล่าถ้าฉันจะขอถามชื่อจริงคุณเสียหน่อยค่ะ”
“ไม่เจอกันนานนะครับ คุณดีเจน้องปาล์ม”
“พี่ต้น ที่ปาล์มรู้จักรึป่าว”
ความรู้สึกดีใจของปาล์มทำให้ผมรู้สึก เหมือนล่องลอยอยู่บนอากาศ โลกนี้ช่างนี้สวยงามเหลือเกิน แน่นอนว่าไม่ใช่ผมที่รู้สึกคิดถึงเธอคนเดียว ตอนนี้ผมรู้แล้วว่าเธอก็คิดถึงผม
“ที่พี่ต้นบอก......เอ่อ....”
“ยังจำสมุดสีขาวเล่มนั้นได้ไหม พี่ยังไม่รู้เลยว่าจะเขียนอะไรต่อไปดี เพราะพี่ไม่รู้ว่าอนาคตที่พี่เขียนไปมันจะเป็นจริงหรือเปล่า”
“แล้ว...พี่ต้นอยากเขียนว่าอะไรล่ะ”
“พี่แอบชอบน้องคนหนึ่งมานานมากแล้ว พี่อยากบอกเธอเหลือเกินว่าพี่รักเธอ พี่อยากอยู่ข้างๆเธอ ไม่รู้ว่าตอนนี้เธอกำลังคิดอะไรแต่พี่ดีใจที่ครั้งหนึ่งพี่ได้กลับมาแก้ไขในสิ่งที่พี่ไม่ได้ทำ เพราะความกลัวที่จะเสียเธอไป แต่มาคิดอีกทีบางครั้งพูดไปแล้ว ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นก็ได้พูดในสิ่งที่อัดอั้นตันใจมานาน จุดจบจะออกมาเป็นอย่างไร พี่ยอมรับในสิ่งที่ตัดสินใจ ขอแค่เธอคนนั้นมีความสุขพี่ก็สุขใจ แม้จะเจ็บปวดนิดๆแต่เห็นเขาคนนั้นมีความสุขพี่ก็พอใจแล้ว...
“ปาล์มขอโทษ”
ความรู้สึกผมตกไปถึงตาตุ่มเลย คำขอโทษที่ยังไม่รู้เหตุผลครั้งนี้ทำผมเจ็บเหลือเกิน...
“ที่หายหน้าไปโดยไม่บอกสาเหตุ ทางบ้านปาล์มมีปัญหาเรื่องธุรกิจ ทำให้ปาล์มต้องย้ายบ้าน จนสุดท้ายปาล์มเรียนจบก็เข้ามาเปิดธุรกิจส่วนตัวที่นี่ค่ะ แต่....
“แต่...??? อะไรหรือ”
“ปาล์ม....ก็....คิดถึงพี่เสมอนะคะ อย่างน้อยวันนี้แม้ผลมันออกมาเป็นอย่างไรอยากให้พี่ทำใจไว้สักนิดนะคะในสิ่งที่ปาล์มจะบอกออกไป
...ผมทำใจไว้แล้ว นึกแล้วว่าต้องเจอเรื่องแบบนี้ไว้ก่อนล่วงหน้าแล้ว
“ปาล์ม ยังไม่มีแฟนค่ะ และปาล์มก็รอพี่คนเดียวเหมือนกัน พี่ได้ใจปาล์มไปตั้งแต่สมัยยังเรียน ม ปลายที่เราร่วมแสดงคณะเดียวกัน พี่ให้เกียรติ์ปาล์มเสมอ คงเส้นคงวาตลอด ปาล์มรู้สึกอบอุ่นที่มีพี่ใกล้ๆ แต่ปาล์มก็ไม่กล้าบอกพี่เหมือนกัน ขอแค่อยูใกล้ๆพี่ปาล์มก็มีความสุขแล้วค่ะ
“ยิ่งวันที่รู้ว่าพี่ต้นต้องไปเรียนต่อ ปาล์มเห็นพี่เดินจากไปทีละนิด ทั้งๆที่อยากจะเรียกให้พี่หันกลับมาบอกความในใจ แต่ปาล์มก็ไม่กล้าอีกนั่นแหละ “
“พี่ต้น ......พี่ต้นคะ ยังอยู่ในสายรึป่าว”
“............”
“พี่รักปาล์มนะ”
“............”
“ปาล์มก็รักพี่ค่ะ”
ชีวิตจริงมันคงไม่ราบเรียบเสมอไป ยังมีเส้นทางอีกมากมายหลังจากนี้ที่ทั้งสองต้องเผชิญกันอีก เส้นทางจะเป็นไปตามที่ทั้งคู่ลิขิตมัน ความรักจะยั่งยืนหากทุกคนเคารพในความรัก ให้คุณค่ากับมัน...สักวันความฝันจะกลายเป็นความจริง...
คำยืนยันของเจ้าของเรื่องสั้น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ