โลกกลม
8.9
เขียนโดย Mawmeaw
วันที่ 22 สิงหาคม พ.ศ. 2553 เวลา 00.46 น.
1 ตอนเดียวจบ
7 วิจารณ์
5,302 อ่าน
แก้ไขเมื่อ 11 เมษายน พ.ศ. 2562 19.06 น. โดย เจ้าของเรื่องสั้น
1)
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความที่สำนักงานข่าวอิสระแห่งหนึ่ง
วันนี้มีอะไรคึกคักเป็นพิเศษนะ ผู้คนในสำนักงานถึงได้ดูท่าทางตื่นเต้นกันใหญ่เลย นั่นเป็นความคิดของช่างภาพข่าวอิสระอย่างวีระ
ขณะที่เขากำลังสงสัยอยู่นั้น เขาก็ได้รับคำตอบแทบจะทันที เมื่อหัวหน้างานพูดขึ้นว่า
“วันนี้ทางสำนักงานข่าวอิสระของเรา มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่จะขอต้อนรับนักข่าวอิสระคนใหม่ คือ คุณพัชรีหรือคุณแพท ครับ ”
เสียงปรบมือต้อนรับดังกึกก้องไปทั่วทั้งบริเวณสำนักงานแห่งนั้น
วีระรู้สึกคุ้นๆหูกับชื่อนักข่าวคนใหม่มาก เขาอดไม่ได้ที่จะแหวกฝูงชนเข้าไป เพื่อจะดูหน้านักข่าวใหม่คนนี้อย่างชัดๆ
และเขาก็ต้องตกตะลึงและอึ้งไปพร้อมๆกัน ในขณะที่นักข่าวสาวคนใหม่หันหน้ามาเจอเขาเข้าพอดี เธอจึงพูดขึ้นว่า
“สวัสดีค่ะ คุณวีระ ดิฉันพัชรีหรือแพทค่ะ ดิฉันเป็นนักข่าวใหม่ของที่นี่ ยินดีที่ได้รู้จัก และขอฝากเนื้อฝากตัวกับช่างภาพฝีมือดีอย่างคุณด้วยนะคะ คุณวีระ”
“เอ่อ…คือ คุณ… คุณ… แพท จำเราไม่ได้เหรอ เราวี วีระที่เราเคยเรียนอยู่ห้องเดียวกันตอนอยู่ชั้นประถมงัย เรายังจำได้เลยว่าเธอชอบวาดรูปครอบครัวที่สุดเลย”
“เอ่อ ขอโทษนะคะ ดิฉันคิดว่าคุณคงจำผิดคนแล้วล่ะค่ะ ดิฉันไม่เคยรู้จักคุณมาก่อนหน้านี้เลยนะคะ แล้วอีกอย่างดิฉันไม่ชอบวาดรูปมาตั้งแต่เด็กแล้วค่ะ”
เมื่อได้ฟังอย่างนั้น วีระแทบไม่อยากเชื่อหูตัวเอง เขามั่นใจว่าเขาจำเธอได้แม่นยำ ไม่ผิดแน่
เด็กหญิงพัชรีหรือเด็กหญิงแพท สมัยอยู่ชั้นประถมเธอเป็นเด็กผู้หญิงตัวผอมๆสูงๆ ชอบมัดผมแกะสองข้าง เธอมีนิสัยขี้แย มักจะแอบไปนั่งร้องไห้บ่อยๆ เมื่อถูกเพื่อนล้อเลียน
แต่ในวันนี้เธอคือ หญิงสาวสวย รูปร่างบอบบาง สูงโปร่ง มั่นใจในตัวเองสูง และที่แน่ๆดูเหมือนเธอจะจำเพื่อนคนนั้นของเธอไม่ได้เสียด้วย
"เธอจำเพื่อนร่วมชั้นที่ชอบแกล้งเธอบ่อยๆคนนั้นไม่ได้จริงๆเหรอเนี่ย"
ชายหนุ่มเก็บไปครุ่นคิดด้วยความสงสัย
ขณะที่เขานั่งใช้ความคิดอยู่นั้น เขาก็แทบสะดุ้งสุดตัวเมื่อมีเสียงกระแอมดังขึ้นใกล้ๆโต๊ะทำงานของเขาว่า
“คุณวีระคะ หัวหน้าให้คุณลงพื้นที่ทำสารคดีเชิงข่าว พร้อมกับคุณพัชรีนักข่าวคนใหม่ของเราค่ะ”
เขาแปลกใจไม่น้อย ที่จู่ๆหัวหน้าก็ให้เขาไปกับนักข่าวใหม่ ทั้งๆคนที่มีประสบการณ์มากกว่าเขาที่น่าจะสอนงานให้กับนักข่าวใหม่ได้ดีก็มีออกถมเถไป
แต่ถึงอย่างไรก็เถอะ ถือว่าเป็นโชคดีแล้วกันที่เขาต้องการคุยกับเธอให้รู้เรื่องว่าเธอจำเขาไม่ได้จริงๆหรือแกล้งทำเป็นจำไม่ได้กันแน่นะ
............................................................
หลังเสร็จสิ้นการถ่ายทำสารคดีเชิงข่าว ซึ่งเป็นงานแรกสำหรับนักข่าวมือใหม่อย่างพัชรี หญิงสาวได้เอ่ยขึ้นด้วยความไม่พอใจ ว่า
"นี่คุณวีระ วันนี้คุณเป็นอะไรไป รางวัลช่างภาพดีเด่นที่คุณเคยได้รับ 2 ปีซ้อน ดูเหมือนปีนี้คุณจะชวดซะแล้วล่ะค่ะ"
"ทำไมคุณถึงไม่พยายามซูมกล้องให้มองเห็นให้ทั่วบริเวณพื้นที่ที่ดิฉันกำลังบรรยายอยู่ล่ะคะ แต่คุณกลับซูมมาที่เฉพาะใบหน้าของดิฉันเท่านั้น คุณทำแบบนี้หมายความว่าอย่างไรคะ”
ชายหนุ่มมองหน้าพัชรีนิ่ง ก่อนเอ่ยขึ้นว่า
"ผมกำลังจะพิสูจน์ความจริงว่า จริงๆแล้ว คุณคือคนคนๆเดียวกับแพทที่ผมเคยรู้จักหรือเปล่า"
"เพราะแพทที่ผมเคยรู้จัก เธอไม่ใช่คนลืมอะไรได้ง่ายๆ แม้กระทั่งลืมเพื่อนร่วมห้องของตัวเอง"
“อาจจะใช่นะคะที่แพทเพื่อนสมัยประถมของคุณ เขาเป็นคนที่ไม่ลืมอะไรง่ายๆ แต่ก็เพราะว่าดิฉันไม่ใช่เธอนี่คะ เพราะฉะนั้นไม่แปลกหรอกค่ะที่ดิฉันจะไม่เหมือนเธอเลยแม้แต่นิดเดียว ”
ชายหนุ่มมีสีหน้าไม่ค่อยเชื่อถือคำพูดของหญิงสาวสักเท่าไหร่ เขาตัดสินใจโพล่งขึ้นมาว่า
"ผมคิดว่าผมโชคดีที่สุดแล้ว ที่ผมได้มาเจอกับเธอที่นี่"
"พัชรีหรือผมชอบเรียกเธอว่าแพท สมัยที่เราเรียนชั้นประถม เราได้อยู่ห้องเดียวกัน เธอเป็นเพื่อนที่ทำให้ผมแอบยิ้มได้ทุกครั้งที่เธอเอารูปครอบครัวที่เธอวาดมาอวดผม"
"มันน่าหัวเราะยิ่งกว่าอ่านหนังสือขายหัวเราะซะอีก กับกระดูกลอยได้ที่เธอมักจะวาดมาอวดผมทุกครั้ง"
"ผมมีความสุขทุกครั้งที่ได้แกล้งเธอโดยการเอารูปไปซ่อน เพราะผมแอบหวังว่า ถ้าเธอร้องไห้หรือต้องการเพื่อนปรับทุกข์ เธออาจจะมาหาผมเป็นคนแรกก็ได้"
"ตอนนี้ผมอยากขอโทษเธอและผมอยากบอกกับเธอว่า ผมขอโทษจริงๆที่ต้องฉีกรูปครอบครัวที่เธอวาดเป็นครั้งสุดท้ายทิ้งไปต่อหน้าต่อตาเธอ"
"เพราะผมสงสารเธอ ที่เธอต้องนั่งร้องไห้ทุกครั้งที่เธอดูรูปครอบครัวที่อบอุ่นของเธอ และผมมักจะบอกเธอเสมอว่าพ่อของเธออยู่บนสวรรค์ ไม่ได้อยู่กับเธอแล้วในตอนนี้"
"ซึ่งเธอก็มักจะร้องไห้ทุกครั้งเมื่อใครๆมาล้อเลียนเธอว่า เธอเป็นเด็กไม่มีพ่อ และเธอก็มักหยิบรูปที่เธอวาดขึ้นมานั่งกอดและร้องไห้ เธอบอกกับผมว่า พ่อของเธอไม่อยู่กับเธอแล้วจริงๆเหรอ เธอไม่อยากเชื่อ"
"เธอถามผมว่า เธอเป็นเด็กไม่มีพ่อแล้วใช่มั๊ย เธอนั่งดูรูปไปร้องไห้ไป ผมไม่อยากเห็นเธอเป็นแบบนั้น ผมอยากเห็นเธอเป็นเด็กหญิงที่ร่าเริงสดใส อย่างที่เด็กวัยนั้นควรจะเป็นต่างหาก"
"ความจริงผมไม่ได้หงุดหงิด หรือโมโหเธอเลย เพียงแต่ผมไม่อยากให้เธอ มานั่งเศร้าเสียใจและร้องไห้เมื่อมีใครมาตราหน้าว่าเป็น ไอ้ลูกไม่มีพ่อเหมือนกับผม"
เมื่อพูดจบ วีระก็สะพายกระเป๋ากล้องขึ้นบ่า เตรียมตัวจะกลับ แต่เขาก็ต้องหยุดชะงักในทันที เมื่อหญิงสาวพูดขึ้นว่า
"ฉันรู้ว่านายไม่เคยเปลี่ยนเลยนายวี นายเคยเป็นเพื่อนฉันยังงัย เดี๋ยวนี้นายก็ยังเป็นอย่างนั้นอยู่เหมือนเดิม"
"ในวันนี้ฉันรู้ความจริงทั้งหมดอย่างแจ่มแจ้งแล้ว ขอบใจนะที่บอกความจริงกับฉัน ฉันรอฟังเหตุผลที่นายฉีกรูปที่ฉันวาดทิ้งไป มานานมากแล้ว"
"จนกระทั่ง ฉันได้มีโอกาสเข้ามาสมัครงานที่เดียวกับนายและฉันก็แอบรอคอยความหวังว่าจริงๆแล้ว นายอาจจะมีเหตุผลที่ต้องทำอย่างนั้นก็ได้"
"และแล้ววันที่ฉันรอคอยมันก็มาถึงจนได้ ขอบใจนะนายวีที่เป็นเพื่อนที่ดีกับฉันมาตลอดจนกระทั่งเดี๋ยวนี้ ขอบใจนายจริงๆ"
หญิงสาวพูด พร้อมๆกับน้ำใสๆที่ไหลพรั่งพรูออกมาจากดวงตาคู่สวยด้วยความตื้นตันใจ
วีระหยิบกระดาษทิชชูขึ้นมาและส่งให้หญิงสาวเช็ดน้ำตา
ก่อนจะพูดกับหญิงสาวเบาๆ ว่า
“เธอนี่นะ ไม่เคยเปลี่ยนเลย เคยขี้แยยังงัย เดี๋ยวนี้ก็ยังเป็นอย่างนั้นอยู่”
ชายหนุ่มแอบคิดในใจต่อไปอีกว่า
"ก็เหมือนกับเรานั่นแหละ ที่เคยเป็นอย่างไร เดี๋ยวนี้ก็ยังคงเป็นอย่างนั้นอยู่"
"เมื่อก่อนเราเคยแอบชอบเธอสมัยเรียนชั้นประถมยังงัย เดี๋ยวนี้เราก็ยังคงแอบชอบเธออยู่อย่างงั้น ไม่เคยเปลี่ยนเลยเหมือนกัน..."
วันนี้มีอะไรคึกคักเป็นพิเศษนะ ผู้คนในสำนักงานถึงได้ดูท่าทางตื่นเต้นกันใหญ่เลย นั่นเป็นความคิดของช่างภาพข่าวอิสระอย่างวีระ
ขณะที่เขากำลังสงสัยอยู่นั้น เขาก็ได้รับคำตอบแทบจะทันที เมื่อหัวหน้างานพูดขึ้นว่า
“วันนี้ทางสำนักงานข่าวอิสระของเรา มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่จะขอต้อนรับนักข่าวอิสระคนใหม่ คือ คุณพัชรีหรือคุณแพท ครับ ”
เสียงปรบมือต้อนรับดังกึกก้องไปทั่วทั้งบริเวณสำนักงานแห่งนั้น
วีระรู้สึกคุ้นๆหูกับชื่อนักข่าวคนใหม่มาก เขาอดไม่ได้ที่จะแหวกฝูงชนเข้าไป เพื่อจะดูหน้านักข่าวใหม่คนนี้อย่างชัดๆ
และเขาก็ต้องตกตะลึงและอึ้งไปพร้อมๆกัน ในขณะที่นักข่าวสาวคนใหม่หันหน้ามาเจอเขาเข้าพอดี เธอจึงพูดขึ้นว่า
“สวัสดีค่ะ คุณวีระ ดิฉันพัชรีหรือแพทค่ะ ดิฉันเป็นนักข่าวใหม่ของที่นี่ ยินดีที่ได้รู้จัก และขอฝากเนื้อฝากตัวกับช่างภาพฝีมือดีอย่างคุณด้วยนะคะ คุณวีระ”
“เอ่อ…คือ คุณ… คุณ… แพท จำเราไม่ได้เหรอ เราวี วีระที่เราเคยเรียนอยู่ห้องเดียวกันตอนอยู่ชั้นประถมงัย เรายังจำได้เลยว่าเธอชอบวาดรูปครอบครัวที่สุดเลย”
“เอ่อ ขอโทษนะคะ ดิฉันคิดว่าคุณคงจำผิดคนแล้วล่ะค่ะ ดิฉันไม่เคยรู้จักคุณมาก่อนหน้านี้เลยนะคะ แล้วอีกอย่างดิฉันไม่ชอบวาดรูปมาตั้งแต่เด็กแล้วค่ะ”
เมื่อได้ฟังอย่างนั้น วีระแทบไม่อยากเชื่อหูตัวเอง เขามั่นใจว่าเขาจำเธอได้แม่นยำ ไม่ผิดแน่
เด็กหญิงพัชรีหรือเด็กหญิงแพท สมัยอยู่ชั้นประถมเธอเป็นเด็กผู้หญิงตัวผอมๆสูงๆ ชอบมัดผมแกะสองข้าง เธอมีนิสัยขี้แย มักจะแอบไปนั่งร้องไห้บ่อยๆ เมื่อถูกเพื่อนล้อเลียน
แต่ในวันนี้เธอคือ หญิงสาวสวย รูปร่างบอบบาง สูงโปร่ง มั่นใจในตัวเองสูง และที่แน่ๆดูเหมือนเธอจะจำเพื่อนคนนั้นของเธอไม่ได้เสียด้วย
"เธอจำเพื่อนร่วมชั้นที่ชอบแกล้งเธอบ่อยๆคนนั้นไม่ได้จริงๆเหรอเนี่ย"
ชายหนุ่มเก็บไปครุ่นคิดด้วยความสงสัย
ขณะที่เขานั่งใช้ความคิดอยู่นั้น เขาก็แทบสะดุ้งสุดตัวเมื่อมีเสียงกระแอมดังขึ้นใกล้ๆโต๊ะทำงานของเขาว่า
“คุณวีระคะ หัวหน้าให้คุณลงพื้นที่ทำสารคดีเชิงข่าว พร้อมกับคุณพัชรีนักข่าวคนใหม่ของเราค่ะ”
เขาแปลกใจไม่น้อย ที่จู่ๆหัวหน้าก็ให้เขาไปกับนักข่าวใหม่ ทั้งๆคนที่มีประสบการณ์มากกว่าเขาที่น่าจะสอนงานให้กับนักข่าวใหม่ได้ดีก็มีออกถมเถไป
แต่ถึงอย่างไรก็เถอะ ถือว่าเป็นโชคดีแล้วกันที่เขาต้องการคุยกับเธอให้รู้เรื่องว่าเธอจำเขาไม่ได้จริงๆหรือแกล้งทำเป็นจำไม่ได้กันแน่นะ
............................................................
หลังเสร็จสิ้นการถ่ายทำสารคดีเชิงข่าว ซึ่งเป็นงานแรกสำหรับนักข่าวมือใหม่อย่างพัชรี หญิงสาวได้เอ่ยขึ้นด้วยความไม่พอใจ ว่า
"นี่คุณวีระ วันนี้คุณเป็นอะไรไป รางวัลช่างภาพดีเด่นที่คุณเคยได้รับ 2 ปีซ้อน ดูเหมือนปีนี้คุณจะชวดซะแล้วล่ะค่ะ"
"ทำไมคุณถึงไม่พยายามซูมกล้องให้มองเห็นให้ทั่วบริเวณพื้นที่ที่ดิฉันกำลังบรรยายอยู่ล่ะคะ แต่คุณกลับซูมมาที่เฉพาะใบหน้าของดิฉันเท่านั้น คุณทำแบบนี้หมายความว่าอย่างไรคะ”
ชายหนุ่มมองหน้าพัชรีนิ่ง ก่อนเอ่ยขึ้นว่า
"ผมกำลังจะพิสูจน์ความจริงว่า จริงๆแล้ว คุณคือคนคนๆเดียวกับแพทที่ผมเคยรู้จักหรือเปล่า"
"เพราะแพทที่ผมเคยรู้จัก เธอไม่ใช่คนลืมอะไรได้ง่ายๆ แม้กระทั่งลืมเพื่อนร่วมห้องของตัวเอง"
“อาจจะใช่นะคะที่แพทเพื่อนสมัยประถมของคุณ เขาเป็นคนที่ไม่ลืมอะไรง่ายๆ แต่ก็เพราะว่าดิฉันไม่ใช่เธอนี่คะ เพราะฉะนั้นไม่แปลกหรอกค่ะที่ดิฉันจะไม่เหมือนเธอเลยแม้แต่นิดเดียว ”
ชายหนุ่มมีสีหน้าไม่ค่อยเชื่อถือคำพูดของหญิงสาวสักเท่าไหร่ เขาตัดสินใจโพล่งขึ้นมาว่า
"ผมคิดว่าผมโชคดีที่สุดแล้ว ที่ผมได้มาเจอกับเธอที่นี่"
"พัชรีหรือผมชอบเรียกเธอว่าแพท สมัยที่เราเรียนชั้นประถม เราได้อยู่ห้องเดียวกัน เธอเป็นเพื่อนที่ทำให้ผมแอบยิ้มได้ทุกครั้งที่เธอเอารูปครอบครัวที่เธอวาดมาอวดผม"
"มันน่าหัวเราะยิ่งกว่าอ่านหนังสือขายหัวเราะซะอีก กับกระดูกลอยได้ที่เธอมักจะวาดมาอวดผมทุกครั้ง"
"ผมมีความสุขทุกครั้งที่ได้แกล้งเธอโดยการเอารูปไปซ่อน เพราะผมแอบหวังว่า ถ้าเธอร้องไห้หรือต้องการเพื่อนปรับทุกข์ เธออาจจะมาหาผมเป็นคนแรกก็ได้"
"ตอนนี้ผมอยากขอโทษเธอและผมอยากบอกกับเธอว่า ผมขอโทษจริงๆที่ต้องฉีกรูปครอบครัวที่เธอวาดเป็นครั้งสุดท้ายทิ้งไปต่อหน้าต่อตาเธอ"
"เพราะผมสงสารเธอ ที่เธอต้องนั่งร้องไห้ทุกครั้งที่เธอดูรูปครอบครัวที่อบอุ่นของเธอ และผมมักจะบอกเธอเสมอว่าพ่อของเธออยู่บนสวรรค์ ไม่ได้อยู่กับเธอแล้วในตอนนี้"
"ซึ่งเธอก็มักจะร้องไห้ทุกครั้งเมื่อใครๆมาล้อเลียนเธอว่า เธอเป็นเด็กไม่มีพ่อ และเธอก็มักหยิบรูปที่เธอวาดขึ้นมานั่งกอดและร้องไห้ เธอบอกกับผมว่า พ่อของเธอไม่อยู่กับเธอแล้วจริงๆเหรอ เธอไม่อยากเชื่อ"
"เธอถามผมว่า เธอเป็นเด็กไม่มีพ่อแล้วใช่มั๊ย เธอนั่งดูรูปไปร้องไห้ไป ผมไม่อยากเห็นเธอเป็นแบบนั้น ผมอยากเห็นเธอเป็นเด็กหญิงที่ร่าเริงสดใส อย่างที่เด็กวัยนั้นควรจะเป็นต่างหาก"
"ความจริงผมไม่ได้หงุดหงิด หรือโมโหเธอเลย เพียงแต่ผมไม่อยากให้เธอ มานั่งเศร้าเสียใจและร้องไห้เมื่อมีใครมาตราหน้าว่าเป็น ไอ้ลูกไม่มีพ่อเหมือนกับผม"
เมื่อพูดจบ วีระก็สะพายกระเป๋ากล้องขึ้นบ่า เตรียมตัวจะกลับ แต่เขาก็ต้องหยุดชะงักในทันที เมื่อหญิงสาวพูดขึ้นว่า
"ฉันรู้ว่านายไม่เคยเปลี่ยนเลยนายวี นายเคยเป็นเพื่อนฉันยังงัย เดี๋ยวนี้นายก็ยังเป็นอย่างนั้นอยู่เหมือนเดิม"
"ในวันนี้ฉันรู้ความจริงทั้งหมดอย่างแจ่มแจ้งแล้ว ขอบใจนะที่บอกความจริงกับฉัน ฉันรอฟังเหตุผลที่นายฉีกรูปที่ฉันวาดทิ้งไป มานานมากแล้ว"
"จนกระทั่ง ฉันได้มีโอกาสเข้ามาสมัครงานที่เดียวกับนายและฉันก็แอบรอคอยความหวังว่าจริงๆแล้ว นายอาจจะมีเหตุผลที่ต้องทำอย่างนั้นก็ได้"
"และแล้ววันที่ฉันรอคอยมันก็มาถึงจนได้ ขอบใจนะนายวีที่เป็นเพื่อนที่ดีกับฉันมาตลอดจนกระทั่งเดี๋ยวนี้ ขอบใจนายจริงๆ"
หญิงสาวพูด พร้อมๆกับน้ำใสๆที่ไหลพรั่งพรูออกมาจากดวงตาคู่สวยด้วยความตื้นตันใจ
วีระหยิบกระดาษทิชชูขึ้นมาและส่งให้หญิงสาวเช็ดน้ำตา
ก่อนจะพูดกับหญิงสาวเบาๆ ว่า
“เธอนี่นะ ไม่เคยเปลี่ยนเลย เคยขี้แยยังงัย เดี๋ยวนี้ก็ยังเป็นอย่างนั้นอยู่”
ชายหนุ่มแอบคิดในใจต่อไปอีกว่า
"ก็เหมือนกับเรานั่นแหละ ที่เคยเป็นอย่างไร เดี๋ยวนี้ก็ยังคงเป็นอย่างนั้นอยู่"
"เมื่อก่อนเราเคยแอบชอบเธอสมัยเรียนชั้นประถมยังงัย เดี๋ยวนี้เราก็ยังคงแอบชอบเธออยู่อย่างงั้น ไม่เคยเปลี่ยนเลยเหมือนกัน..."
คำยืนยันของเจ้าของเรื่องสั้น
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8.7 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ