ขี้ลืม

8.6

เขียนโดย jundee

วันที่ 17 สิงหาคม พ.ศ. 2553 เวลา 19.34 น.

  1 ตอนเดียวจบ
  18 วิจารณ์
  5,831 อ่าน
แชร์เรื่องสั้น Share Share Share

 

1)

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก
 ที่อาพาร์ทเม้นท์แห่งนี้ ถือว่าตั้งอยู่ในส่วนที่เหมาะดีเหมือนกัน   เพราะโตสามารถออกไปสู่ถนนสายหลักต่างๆได้สะดวกดี  ไม่ว่าจะห้วยขวาง,ลาดพร้าวหรือแม้แต่บางกะปิที่เป็นบ้านป้าของโตเอง   ท่านอยู่คนเดียวมานานหลายปีแล้ว  อันที่จริงเขาก็อยากอยู่ใกล้ชิดคุณป้าของเขาอยู่เหมือนกัน     แต่...แต่ตั้งแม่ของโตเสียไป  ก็มีแต่ป้าของเขาที่ดูแลเขามา  พร้อมทั้งส่งเสียให้เขาร่ำเรียนจนจบ  และมีงานทำได้อย่างทุกวันนี้   คุณป้าเป็นผู้ที่มีที่ดินมากมายจากสมบัติของคุณลุงที่ทิ้งไว้ให้ก่อนตาย  และยังออกเงินกู้อีก  เมื่อสองปีก่อนคุณป้าของโตได้ป่วยด้วยอาการหลงลืมขนาดหนัก แต่ไม่เข้าข่ายอัลไซเมอร์   ทำให้เขาต้องจัดการหาพยาบาลมาดูแลป้าแทน  ตัวเองที่ต้องทำงาน  มาพักหลังๆงานเขามากขึ้นจนไม่มีเวลาแม้แต่จะเดินทางไปกลับระหว่างที่ทำงานกับบ้านได้  เลยต้องมาเช่าห้องชุดเล็กๆที่แสนสบายนี้ไว้  อีกส่วนก็เพราะกานดาแฟนสาวที่เขารักเธอหนักหนา   เขาอยากมีเวลาส่วนตัวกับเธอบ้าง  เพราะเขารู้ด้วยสัญชาติญาณว่า  กานดากับคุณป้าของเขา ไม่มีทางเข้ากันได้แน่นอน   แต่กานดาเธอเป็นผู้หญิงฉลาด  และฉลาดพอที่จะไม่โวยวายหรือแสดงกริยาอะไรออกมา
              ซึ่งตรงข้ามกับป้าของเขาอย่างสิ้นเชิง  ป้าจะอารมณ์เสียอย่างมาก  หากเขายกเรื่องกานดาขึ้นมาพูด  และออกอาการเหมือนคนประสาท  จนเขาเองก้อชัก รู้สึกคล้อยตามกานดาที่เธอมักพูดเสมอๆว่า  คุณป้าของเขาเป็นโรคจิตขั้นหนึ่งแล้ว      คงด้วยที่ป้าเขาทำงานมาก และไม่มีลูกดูแลตอนแก่ทำให้หวงเขามากเกินไป เขาจำได้ว่าป้ากับลุงเป็นคนที่คิดเล็กคิดน้อยเสมอ   "มีทำไมลูก  ชั้นต้องทำมาหาเงินนะ  หากท้อง9เดือนชั้นขาดรายได้ไปเท่าไหร่   แกคิดดูซิ   ไหนจะเสียเวลาเลี้ยง  ไหนจะค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น  แล้วลูกน่ะ  มันจะให้เราเลี้ยงแค่ปีสองปีเมื่อไหร่??  อย่างลูกชายเธอก็เหมือนกัน  มิต้องเลี้ยงมันยันแก่เลยเร้อ?"   นี่คือคำพูดที่ป้าเขาเคยพูดกับแม่เอาไว้   แต่ในที่สุดเขาเองกลับต้องมาเป็นญาติเพียงคนเดียวที่ป้ามี   ดูๆแล้วก้อดีนะ  สมบัติป้ามีออกเยอะแยะ  แค่ค่าที่ ที่เขาเช่าแปลงเดียวโตก้อสบายไปตั้งสามเดือนแบบไม่ต้องทำงานอะไรแล้ว
             มีแต่แม่บอกเขาก่อนท่านจากไปว่า"โต  ลูกเป็นลูกแม่  แม่สอนลูกให้เป็นคนดี  อย่านึกทำอะไรที่ไม่ดีนะลูก  ยิ่งกับป้า  ยิ่งห้ามนะ  ดูแลป้าให้ดีๆ  เหมือนป้าเป็นแม่ของลูกนะ"  จากคำสั่งสอนกลายเป็นคำสั่งเสีย  เมื่อแม่เขาได้จากไปในคืนนั้นเอง  
             กานดาเป็นสาวสวยร่าเริงทันสมัย  และชอบโตมากเป็นพิเศษ  นอกจากรูปร่างหน้าของโตพร้อมการศึกษาที่ไม่น้อยหน้าใครแล้ว  เขายังเป็นว่าที่เศรษฐีที่ดินมากมาย  นี่ยังไม่รวมทรัพย์สินเงินทองที่ป้าของเขา  มีสะสมมากมายไม่รู้เท่าต่อเท่าไหร่อีก
   เพื่อนๆของกานดาไม่มีใครรู้ในเรื่องนี้  ถึงแม้จะเจอโตบ้างในบางโอกาส  แต่ก็ดูเหมือนว่ากานดาไม่เคยบอกอะไรมากมายนักเกี่ยวกับแฟนหนุ่มคนนี้ของเธอ    ที่กานดาไม่ยอมปริปากบอกใครในเรื่องนี้เธอมีเหตุผลของเธอ    เรื่องอะไรที่เธอจะบอกว่าแฟนหนุ่มของเธอรวยล่ะ  ในเมื่อเพื่อนๆของเธอแต่ละคนไว้ใจได้ซะที่ไหน  ยิ่งโตพร้อมทั้งรูปทั้งเสียง(การศึกษา)ทั้งกลิ่น(เงิน)  เธอยิ่งต้องหมกแฟนหนุ่มให้รอดจากปากเหยี่ยวราตรีพวกนี้ให้หนักเข้าไว้
             หญิงชราผู้นี้  ร่างกายที่แก่ชราได้สะท้อนภาพว่าเมื่อยังสาวเป็นหญิงที่มีโครงร่างที่แข็งแรง  และวงหน้าที่ออกเหลี่ยม  คิ้วที่หนาดกเป็นปื้น  ฝ่ามือที่ใหญ่กว่ามือผู้หญิงที่ควรเป็นแสดงออกถึงความมีอำนาจ  น้ำเสียงที่ชัดเจนห้วนกระด้างนั้นคือความเฉียบขาดที่เธอมีติดในกมลสันดานนานนับ77ปี   เธออยู่บ้านคนเดียวมาหลายปีแล้ว  มีแต่พยาบาลพิเศษที่หลานชายจ้างมาอยู่เป็นเพื่อนเธอเท่านั้นที่ยังคอยรองรับอารมณ์ที่ออกฉุนเฉียวได้ง่ายๆของเธอ
จะว่าไปแล้วเธอไม่อยากให้ใครมาอยู่ร่วมชายคาเลยแม้แต่น้อย   เธอไม่ชอบให้"คนอื่น"มามีส่วนในบ้านหลังนี้ของเธอกับสามีที่ช่วยกันปลูกสร้างออกแบบ   นานๆเธอจะนึกถึงสามีที่จากไปนานนับสิบปี   แต่พอสักครู่เดียวเธอก็หายจากความเศร้าสร้อย   แต่ในสีหน้าจะมีรอยวิตกกังวลมาแทน    บ้านหลังนี้เธอชอบอยู่จุดเดียวของบ้าน  หากไม่หลับ  เธอจะทิ้งตัวเองนั่งจมที่นี่จนถึงเวลาเข้านอนอีกครั้ง  บ้านที่ยกพื้นสูงเพียงครึ่งของตัวบ้าน   ปลูกสร้างกึ่งบ้านแบบเก่าของอังกฤษ ระหว่างทางบันไดก้าวขึ้นระเบียงนี้  แอบมีห้องใต้ดินซุกซ่อนลงไปข้างล่างอย่างที่ไม่มีใครรู้ได้   แม้แต่หลานชายที่มีอยู่คนเดียวเธอก็ไม่ได้บอก  ที่ห้องนี้มีสิ่งของหลากหลายที่เธอกับสามีได้เก็บสะสมมา  สิ่งที่เธอวิตกคือ  ลูกกุญแจที่เธอคล้องคอเอาไว้เสมอนั้นจะหายไป   ยิ่งมาพักหลังๆเธอมักลืมอะไรๆเสมอ ทำไมต้องเป็นแบบนี้นะเธอคิด  แต่เธอต้องบอกหลานชายของเธอสักวันหนึ่ง  วันที่เธอมั่นใจว่าทุกอย่างเรียบร้อยดีแล้ว  โดยเฉพาะแม่นังนั่น  แค่ที่เธอเห็นครั้งแรกที่หลานชายพามาบ้านเธอก็รู้แล้วว่า  "มันไว้ใจไม่ได้"เธอถึงกับพูดกับหลานชายเธอว่าอย่างนี้   แต่คงไม่มีประโยชน์อะไรที่จะว่ากล่าวตักเตือน  เธอต้องคิดและวางเกมให้หลานชายเธอเชื่อให้ได้ว่า  คนที่หลานชายเธอรักอย่างหัวปักหัวป่ำนั้นคือ  อสรพิษที่มีหน้าตาสวยเท่านั้น
               ยุ  เป็นพยาบาลพิเศษที่นี่มาสองปีแล้ว  เธอชอบที่แบบนี้  มันทำให้เธอรู้สึกปลอดภัยจากสังคมข้างนอก กำแพงบ้านที่ใหญ่โตและรกเรื้อด้วยพุ่มไม้เถาวัลย์นี่ดูเหมือนประตูที่กั้นความเลวร้ายทุกอย่างที่จะเข้ามาทำร้ายเธอ  แม้เจ้าของบ้านจะไม่ค่อยพูดคุยกับเธอเช่นผู้สุงอายุทั่วไป แต่ก็ดีกับเธอด้วยซ้ำที่เธอไม่ต้องนั่งพูดอะไรเจื้อยแจ้วไปอย่างไร้สาระ เหมือนตอนที่ทำงานที่สถานพยาบาลผู้สูงอายุแห่งหนึ่ง ที่รวมเอาแต่พวกขี้ประจบและเจ้ายศเจ้าอย่าง  มาให้เธอปวดหัวพาลอยากกรี๊ดใส่  วันละหลายๆหน  นายจ้างของเธอเป็นชายหนุ่มที่ดูดีทีเดียว  วันหยุดที่มีให้เธอถึงสี่วันต่อเดือนโดยให้หยุดรวมหรือหยุดสัปดาห์ละครั้งก็ได้นั่นบวกค่าจ้างที่เธอได้รับก็มากพอที่ทำให้เธอตัดสินใจลาออกจากเนอส์เซอรีนั้นมาอยู่ประจำที่นี่ทันที  เมื่อเขาเอ่ยปากชวนให้เธอทำประจำ  และทุกเดือนเธอยังมีโอกาสกลับบ้านต่างจังหวัดด้วย  มีเวลาได้อยู่กับพ่อแม่พี่น้องที่บ้านถึงสี่วันเต็มเดือนละครั้งช่างเป็นงานในฝันของสาวบ้านนอกที่จบแค่มัธยมต้นจริงๆ  สิ่งที่ทำให้เธอลำบากใจอย่างเดียวของการทำงานที่นี่คือ หญิงสูงอายุเจ้าอารมณ์ที่มักช่างลืมอะไรๆไปในช่วงเวลาสั้นๆ  คนที่นั่งจมอยู่กับเก้าอี้หวายตัวเก่าแต่จากที่เงาอวดสีหวายชั้นดีทำให้รู้ว่า  มันมีอายุไม่ต่างจากผู้นั่งนัก
              กานดาเกิดเงินขาดมือขึ้นมาอย่างกระทันหัน  เธอรู้ว่าหากเอ่ยปากขอจากแฟนหนุ่มเขามีให้เธออย่างแน่นอน  แต่ในรูปการณ์เช่นนี้  เธอไม่อยากได้เพียงแค่ช่วยให้"รอด"ไปนิดๆหน่อยๆ  สมบัติที่บ้านป้าของเขามีอะไรตั้งเยอะแยะ  จากวันที่แฟนหนุ่มชวนเธอไปไหว้คุณป้านั้น  เธอได้เห็นของมีค่าแปลกตามากมาย  ถึงเธอจะไม่ใช่นักสะสมของเก่า   แต่เธอก็พอรู้ว่าอะไรบ้างที่จะทำให้เธอมีเงินใช้แบบสบายๆโดยที่เธอไม่ต้องเสียหน้าหรือเสียอะไรเลย  ยายแก่นั่นเป็นโรคขี้ลืมนี่  ใครจะไปรู้ว่าเธอเอาอะไรไปบ้าง
               บ่ายแก่วันหนึ่ง  กานดาปรากฏตัวขึ้นมาในบริเวณบ้านหลังใหญ่ทรงยุโรปที่เงียบสงบ  เธอคิดถูกที่ไม่เอารถยนต์มา  หากมีใครเห็นรถ  ต้องรู้ว่าเป็นเธอแน่ๆ  หญิงชรานั่งที่ระเบียงมองจ้องมายังเธอด้วยสายตาที่อ่อนโยนผิดไปจากที่ควรเป็น  หากเช่นนี้คงต้องทักทายซะแล้ว  "สวัสดีค่ะ  คุณป้า"
         "หนูเป็นใครจ๊ะ?"  กานดารู้สึกเหมือนสวรรค์ประทานพรให้แก่เธอ  ยายแก่นี่ เกิดอาการโรคลืมซะแล้วในตอนนี้ เพราะฉะนั้นหากเธอเอาอะไร ทำอะไรระหว่างนี้  ยายแก่นี่ไม่มีทางได้รู้แน่  "ป้าคะ มีเครื่องเพชรให้หนุยืมไม๊คะ?"  เอ...อ๋อๆ  มีสิมี  แต่หนูไปเอาเองนะ"  อะไรจะง่ายขนาดนี้  กานดาแทบตัวลอยด้วยความสุข
          " อยู่ใหนคะ  หนูไปหยิบเองได้ค่ะ  บอกเร็วๆสิคะ"
         " นี่จ้ะ  ลูกกุญแจ  ไปไขเอาเองนะ  ในห้องใต้ดินนี่ล่ะ"หญิงชราบอก  พลางซุกซ่อนรอยยิ้มเยาะในสีหน้า  นังงกเอ๊ย...บางทีคงคิดแบบนี้ด้วยซ้ำ
        กานดาหาทางลงห้องเก็บของที่แสนมืดและเหม็บอับสาบๆจนเจอจากการร้องบอกเป็นระยะของป้าขี้ลืมของแฟนหนุ่ม   ที่มุมห้องมีลังไม้สักอย่างดีอยู่ใบหนึ่ง  เธอรีบเปิดดูสิ่งที่อยู่ข้างใน  เพราะรู้สึกถึงอากาศที่แสนน้อยนิดในห้องทึบๆนี่   เสียงปิดประตูหนักๆ  พร้อมกับแสงสว่างเพียงลางๆหายไป  เสียงกรุกกริ๊กดังเหมือนแม่กุณแจล๊อค
             เป็นเวลา2เดือนแล้ว  ที่โตไม่ได้พบกานดาเลย  เขาถามกับเพื่อนๆเธอก็ไม่มีใครทราบ  แต่คงมีเค้าลางว่าใช่แน่ๆ  ที่เพื่อนของเธอคาดว่าอาจไปกับหนุ่มอีกคนที่เธอแอบคบหาไว้โดยที่เขาไม่รู้    ชายหนุ่มรู้สึกเสียใจแต่ก็โล่งใจที่เขายังไม่ถลำลึกไปมากกว่านี้ 
              ยุยกถาดอาหารเช้ามาให้หญิงสูงวัยที่ระเบียงเช่นเดิม  หญิงชรามองหน้าเธอเหมือนไม่เข้าใจอะไร??..."เฮ้อ!  เอาอีกแล้ว  ลืมอีกแล้ว"  ยุคิดแค่นั้น   หญิงชราแกว่งพวงกุญแจในมือที่มีลูกกุญแจกว่าร้อยดอก  แกช่างชอบเก็บลูกกุญแจเก่าๆพวกนี้ทุกครั้งที่เห็นมันหล่นตามพื้นต่างๆมาสะสมเหลือเกิน  บางลูกเก่าแก่ขนาดที่ไม่เคยมีใครเห็นมาก่อนเลยก็มี  หากแต่ยุจะเสียเวลาดูดีๆอีกหน่อย  เธอจะเห็นว่ามีอยู่ดอกหนึ่งที่ใหม่กว่าทุกอัน   แต่เธอจะดูทำไม  เธอไม่ชอบอยู่ตอนนายหญิงชรา เกิดอาการของโรคนี้นี่
            ลูกกุญแจอันไหนนะ  ที่สามารถเปิดห้องใต้ดินนั้นได้  เธอนึกไม่ออกจริงๆ  แล้วเธอจะบอกหลานชายของเธอได้อย่างไรว่า นอกจากเครื่องเพชรแล้ว  ยังมีอะไรอีกน้า...???...  รอไปอีกหน่อยดีกว่า  คงกินเวลาสักสองปี  ร่างที่เน่าเปื่อยนั่นถึงจะหมดกลิ่น  ขนาดสามีเธอยังกินเวลามาตั้งสิบเจ็ดปี  กว่าจะหมดกลิ่นนั่น. 
                  

 

คำยืนยันของเจ้าของเรื่องสั้น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.8 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
7.8 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา