ilawjapan lawfirm with modern standard
เขียนโดย bepinfo
วันที่ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2568 เวลา 10.27 น.
แก้ไขเมื่อ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2568 10.32 น. โดย เจ้าของเรื่องเล่า
2) การจัดตั้งบริษัทในไทยและการเปิดบัญชี
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความการเปิดบริษัทและการเปิดบัญชีธนาคารในประเทศไทยมีขั้นตอนที่ชัดเจน โดยส่วนใหญ่มักจะเริ่มต้นด้วยการจดทะเบียนบริษัทกับ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า (DBD) ก่อน จากนั้นจึงนำเอกสารที่ได้รับการรับรองไปเปิดบัญชีธนาคารในนามนิติบุคคล
นี่คือภาพรวมของขั้นตอนสำคัญ:
1. การจดทะเบียนบริษัทจำกัด (Limited Company Registration)
บริษัทจำกัดเป็นรูปแบบธุรกิจที่นักลงทุนต่างชาตินิยมใช้มากที่สุดในประเทศไทย โดยมีข้อกำหนดหลัก ๆ ที่ต้องปฏิบัติตาม:
ขั้นตอนการจดทะเบียน
ข้อกำหนดสำคัญสำหรับชาวต่างชาติ
สำหรับบริษัทที่มีชาวต่างชาติถือหุ้น มีข้อกำหนดเพิ่มเติมที่สำคัญ:
-
สัดส่วนการถือหุ้น: โดยปกติชาวต่างชาติสามารถถือหุ้นได้ ไม่เกิน 49% ของทุนจดทะเบียนทั้งหมด หากต้องการถือหุ้นตั้งแต่ 50% ขึ้นไป บริษัทจะต้องยื่นขอ ใบอนุญาตประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว (Foreign Business License - FBL) จาก DBD หรือได้รับสิทธิประโยชน์การลงทุนจาก BOI (คณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน)
-
ทุนจดทะเบียน: หากบริษัทต้องการขอใบอนุญาตทำงาน (Work Permit) ให้กับพนักงานต่างชาติ โดยทั่วไปจะต้องมีทุนจดทะเบียนที่ชำระแล้วอย่างต่ำ 2 ล้านบาทต่อชาวต่างชาติ 1 คน
-
เอกสารของผู้ถือหุ้น/กรรมการไทย: ในกรณีที่บริษัทมีชาวต่างชาติเป็นกรรมการ ผู้ถือหุ้นที่เป็นคนไทยอาจต้องยื่นเอกสารเพิ่มเติมเพื่อแสดง แหล่งที่มาของเงินทุน ที่ใช้ซื้อหุ้น เช่น สำเนาสมุดบัญชีเงินฝากย้อนหลัง 6 เดือน
2. การเปิดบัญชีธนาคารในนามบริษัท (Corporate Bank Account)
เมื่อจดทะเบียนบริษัทสำเร็จและได้รับ หนังสือรับรองบริษัท แล้ว จึงจะสามารถดำเนินการเปิดบัญชีธนาคารในนามนิติบุคคลได้
เอกสารหลักที่ต้องใช้ (อาจแตกต่างกันเล็กน้อยในแต่ละธนาคาร)
โดยทั่วไปกรรมการผู้มีอำนาจลงนามจะต้องไปดำเนินการที่ธนาคารด้วยตนเอง พร้อมเอกสารต่อไปนี้:
-
หนังสือรับรองบริษัท (ฉบับจริงและสำเนา) พร้อมวัตถุที่ประสงค์ (ออกไม่เกิน 1 เดือนหรือ 6 เดือน แล้วแต่ข้อกำหนดของธนาคาร)
-
สำเนาหนังสือบริคณห์สนธิ
-
บัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้น (แบบ บอจ. 5)
-
รายงานการประชุมคณะกรรมการ (หรือหนังสือแสดงความประสงค์ขอเปิดบัญชี) ที่ระบุ เงื่อนไขการสั่งจ่าย และ ผู้มีอำนาจลงนาม
-
สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน หรือ หนังสือเดินทาง (Passport) ของกรรมการผู้มีอำนาจลงนามทุกคน
-
ตราประทับของบริษัท (ถ้ามีกำหนดให้ใช้ในการทำธุรกรรม)
-
แผนที่ตั้งสำนักงานใหญ่ โดยสังเขป
ข้อควรทราบ:
-
กรรมการผู้มีอำนาจ: กรรมการผู้มีอำนาจลงนามสั่งจ่ายตามที่ระบุในหนังสือรับรองบริษัทและรายงานการประชุม ต้องไปแสดงตนและลงนาม ที่สาขาธนาคาร
-
ชาวต่างชาติ: หากกรรมการผู้มีอำนาจลงนามเป็นชาวต่างชาติ จะต้องใช้ หนังสือเดินทาง (Passport) ที่ยังมีอายุ พร้อมเอกสารยืนยันตัวตนอื่นๆ ตามที่ธนาคารกำหนด
-
ติดต่อล่วงหน้า: ควรโทรสอบถามหรือนัดหมายกับธนาคารล่วงหน้าเพื่อตรวจสอบรายการเอกสารล่าสุดและขั้นตอนที่แน่นอน
คำยืนยันของเจ้าของเรื่องเล่า
✓ เรื่องนี้นำมาจากแหล่งอื่นและได้รับการอนุญาตจากเจ้าของแล้ว
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้

รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ