ฉีดฟิลเลอร์ปาก เติมเสน่ห์ให้ริมฝีปากสวยอวบอิ่ม ดูละมุนอย่างเป็นธรรมชาติ
เขียนโดย admin_beautypost
วันที่ 8 สิงหาคม พ.ศ. 2568 เวลา 14.58 น.
แก้ไขเมื่อ 8 สิงหาคม พ.ศ. 2568 15.03 น. โดย เจ้าของเรื่องเล่า
1) ฉีดฟิลเลอร์ปาก เติมเสน่ห์ให้ริมฝีปากสวยอวบอิ่ม ดูละมุนอย่างเป็นธรรมชาติ
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความฉีดฟิลเลอร์ปาก เพิ่มเสน่ห์ให้ใบหน้า
การฉีดฟิลเลอร์ปาก กลายเป็นหนึ่งในหัตถการยอดนิยมของสาว ๆ และหนุ่ม ๆ ที่อยากมีริมฝีปากอวบอิ่ม รูปทรงชัดเจน เพื่อเสริมบุคลิกภาพและเพิ่มเสน่ห์ให้กับใบหน้า การเติมฟิลเลอร์ปากไม่เพียงช่วยให้ปากดูมีมิติเท่านั้น แต่ยังช่วยแก้ไขข้อบกพร่องต่าง ๆ เช่น ปากบาง มุมปากตก หรือปากไม่สมดุลได้อย่างเห็นผลทันทีโดยไม่ต้องผ่าตัดค่ะ
คลิกอ่านหัวข้อ ฉีดฟิลเลอร์ปาก
- ฉีดฟิลเลอร์ปาก คืออะไร ?
- ฉีดฟิลเลอร์ปาก เหมาะกับใคร ?
- ทรงปากยอดนิยมในการฉีดฟิลเลอร์ปาก มีอะไรบ้าง ?
- ฉีดฟิลเลอร์ปากทรงกระจับ
- ฉีดฟิลเลอร์ปากทรงเกาหลี
- ฉีดฟิลเลอร์ปากทรงสายฝอ
- ฉีดฟิลเลอร์ปาก ยี่ห้อไหนดี ?
- ฉีดฟิลเลอร์ปาก ต้องใช้กี่ CC ?
- ฉีดฟิลเลอร์ปาก เจ็บไหม ? ต้องพักฟื้นไหม ?
- การดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์ปาก
- ฉีดฟิลเลอร์ปาก ที่ไหนดี ?
- สรุป ฉีดฟิลเลอร์ปาก ดีไหม ? ควรทำหรือเปล่า ?
ฉีดฟิลเลอร์ปาก คืออะไร ?
การฉีดฟิลเลอร์ปาก คือ การเติมสารไฮยาลูโรนิกแอซิด (Hyaluronic Acid หรือ HA) เข้าไปบริเวณริมฝีปาก เพื่อปรับรูปทรง เพิ่มวอลลุ่ม และความชุ่มชื้นให้กับปาก ช่วยให้ปากอวบอิ่ม ขอบชัด ดูสุขภาพดีมากขึ้น โดยไม่ต้องผ่าตัด และไม่ทิ้งรอยแผล การฉีดฟิลเลอร์ปากสามารถทำได้ทั้งปากบน ปากล่าง หรือเฉพาะจุดที่ต้องการปรับแก้ค่ะ
ฉีดฟิลเลอร์ปาก เหมาะกับใคร ?
- ผู้ที่มีริมฝีปากบาง ขาดความอวบอิ่ม
- ผู้ที่มีมุมปากตก ทำให้ใบหน้าดูเศร้า
- ผู้ที่ต้องการปรับทรงปากให้ดูชัดเจนขึ้น
- ผู้ที่อยากเสริมเสน่ห์ให้ใบหน้าดูอ่อนหวานหรือเซ็กซี่ขึ้น
- ผู้ที่มีปัญหาริมฝีปากไม่สมดุล หรือไม่เท่ากัน
ทรงปากยอดนิยมในการฉีดฟิลเลอร์ปาก มีอะไรบ้าง ?
ฉีดฟิลเลอร์ปากทรงกระจับ
ปากกระจับเป็นทรงปากที่ได้รับความนิยมอย่างมากในหมู่สาวไทยค่ะ จุดเด่นคือริมฝีปากบนจะมีส่วนโค้งคล้ายรูปกระจับคว่ำ ส่วนริมฝีปากล่างจะอวบอิ่มเล็กน้อย ทำให้ใบหน้าดูหวานละมุน และมีมิติมากขึ้นค่ะ การฉีดฟิลเลอร์ปากทรงกระจับจะช่วยเน้นความคมชัดของขอบปากและสร้างหยักที่ริมฝีปากบนให้โดดเด่นขึ้นค่ะ
ฉีดฟิลเลอร์ปากทรงเกาหลี
ทรงปากเกาหลีจะเน้นความอวบอิ่มเป็นธรรมชาติ เน้นส่วนกลางของริมฝีปากทั้งบนและล่างให้ดูเต่งตึง คล้ายผลเชอร์รี่เล็กๆ ค่ะ โดยจะคงความโค้งมนของขอบปากไว้ ไม่เน้นความคมชัดมากนัก ทำให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์และน่ารักสดใสค่ะ
ฉีดฟิลเลอร์ปากทรงสายฝอ
สำหรับใครที่ชื่นชอบความเซ็กซี่ ความมั่นใจเต็มเปี่ยม ต้องฉีดฟิลเลอร์ปากทรงสายฝอเลยค่ะ ทรงนี้จะเน้นการเพิ่มวอลลุ่มให้ริมฝีปากดูอวบอิ่ม เต่งตึงอย่างชัดเจน ทั้งริมฝีปากบนและล่าง โดยเฉพาะขอบปากที่มักจะดูคมชัดและยกขึ้นเล็กน้อย ทำให้ใบหน้าดูโฉบเฉี่ยวและน่าค้นหาค่ะ
ฉีดฟิลเลอร์ปาก ยี่ห้อไหนดี ?
การเลือกยี่ห้อฟิลเลอร์สำหรับฉีดปาก ต้องเลือกเนื้อฟิลเลอร์ที่มีความยืดหยุ่นสูง เพื่อให้ริมฝีปากดูเป็นธรรมชาติ ไม่แข็งตึง โดยยี่ห้อยอดนิยม ได้แก่
- Restylane Kysse : อยู่ได้นาน 12 เดือน
- Restylane Vital Light : อยู่ได้นาน 6-12 เดือน
- Restylane Volyme : อยู่ได้นาน 18 เดือน
- Restylane Refyne : อยู่ได้นาน 12 เดือน
- Juvederm Ultra Plus : อยู่ได้นาน 8 เดือน
- Juvederm Voluma : อยู่ได้นาน 18 เดือน
- Juvederm Volift : อยู่ได้นาน 12 เดือน
- Juvederm Volite : อยู่ได้นาน 8-12 เดือน
- Teoxane RHA 2 : อยู่ได้นาน 18 เดือน
- Teoxane RHA 3 : อยู่ได้นาน 18 เดือน
- Belotero Volume : อยู่ได้นาน 12-18 เดือน
- Belotero Revive : อยู่ได้นาน 6-9 เดือน
- Definisse Touch : อยู่ได้นาน 8-12 เดือน
ฉีดฟิลเลอร์ปาก ต้องใช้กี่ CC ?
จำนวน CC ที่ใช้ในการฉีดฟิลเลอร์ปากขึ้นอยู่กับทรงปากเดิม และรูปทรงที่ต้องการ โดยทั่วไปใช้ประมาณ 1 CC สำหรับการปรับรูปทรงปากเล็กน้อย หรือเพิ่มความอวบอิ่มแบบเป็นธรรมชาติ
แต่ในกรณีที่ต้องการปรับรูปทรงปากที่ชัดเจนขึ้น เพิ่มวอลลุ่มให้ปากอวบอิ่มมาก ๆ หรือฉีดปากทรงสายฝอ อาจจะต้องใช้ 2-3 CC ซึ่งแพทย์จะเป็นผู้ประเมินให้ตามความเหมาะสมค่ะ
ฉีดฟิลเลอร์ปาก เจ็บไหม ? ต้องพักฟื้นไหม ?
บริเวณริมฝีปากเป็นจุดที่ผิวบางและค่อนข้างไวต่อความรู้สึกค่ะ เวลาฉีดฟิลเลอร์อาจรู้สึกเจ็บเล็กน้อย แต่ก็ขึ้นอยู่กับแต่ละคนนะคะ บางคนอาจรู้สึกแค่นิดเดียว หรือบางคนก็ไม่รู้สึกเจ็บเลยก็มีค่ะ โดยปกติแพทย์จะทายาชาให้ก่อน หรือเลือกใช้ฟิลเลอร์ที่มียาชาผสมอยู่ด้วย ช่วยลดความเจ็บได้ดีค่ะ
หลังจากฉีด อาจมีอาการบวมเล็กน้อยในวันแรก ๆ ซึ่งเป็นเรื่องปกติค่ะ และจะค่อย ๆ ยุบลงเองภายใน 5-7 วัน โดยทั่วไปแล้ว ไม่จำเป็นต้องพักฟื้นเลยค่ะ สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ แต่อาจจะต้องงดกิจกรรมบางอย่างที่อาจส่งผลกระทบต่อปากค่ะ
การดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์ปาก
หลังฉีดฟิลเลอร์ปากควรดูแลตัวเองอย่างเคร่งครัด เพื่อให้ผลลัพธ์ออกมาสวยและลดโอกาสเกิดผลข้างเคียง ดังนี้ค่ะ
- หลีกเลี่ยงการกด บีบ นวด หรือปั้นทรงปากด้วยตัวเอง เพราะอาจทำให้ฟิลเลอร์เคลื่อนที่และเสียรูปทรง
- งดการใช้หลอดดูด การจูบ หรือกิจกรรมที่ออกแรงรอบริมฝีปาก เช่น การออกกำลังกายหนัก ๆ ในช่วง 1-3 วันแรก
- หลีกเลี่ยงการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และของร้อน เพราะอาจกระตุ้นให้เกิดอาการบวมหรืออักเสบได้ง่าย
- ควรดื่มน้ำให้มาก ๆ เพื่อช่วยให้ฟิลเลอร์ดูดซับน้ำได้ดี ทำให้ปากฟูและฟิลเลอร์อยู่ได้นานขึ้น
- ไม่ควรดึงหรือลอกหนังริมฝีปาก เพราะจะทำให้ผิวบางลง และลดความสามารถในการกักเก็บความชุ่มชื้นค่ะ
ฉีดฟิลเลอร์ปาก ที่ไหนดี ?
การเลือกคลินิกฉีดฟิลเลอร์ปากเป็นสิ่งสำคัญที่ส่งผลต่อทั้งความปลอดภัยและผลลัพธ์ที่ได้ ควรพิจารณาจากปัจจัยเหล่านี้ค่ะ
- คลินิกต้องมีใบอนุญาตถูกต้องตามกฎหมาย : ได้รับการรับรองจากกระทรวงสาธารณสุข และมีเลขที่ใบอนุญาต 11 หลัก รวมถึงป้ายชื่อสถานพยาบาลที่แสดงอย่างชัดเจน
- ใช้ฟิลเลอร์แท้เท่านั้น : สามารถตรวจสอบแหล่งที่มาจากบริษัทนำเข้าได้ ควรตรวจดูกล่องฟิลเลอร์ก่อนฉีดทุกครั้ง
- แพทย์มีประสบการณ์ : ควรเลือกแพทย์ที่มีความชำนาญในการออกแบบทรงปาก และเลือกใช้ฟิลเลอร์ให้เหมาะกับใบหน้าของแต่ละคน เพื่อให้ผลลัพธ์ออกมาสวยและเป็นธรรมชาติ
- มีรีวิวจากผู้ใช้บริการจริง : ควรดูรีวิวจากแหล่งที่น่าเชื่อถือ เช่น เว็บไซต์กลาง หรือแพลตฟอร์มที่ไม่ใช่ของคลินิกโดยตรง เพื่อให้เห็นถึงประสบการณ์จริงของผู้เข้ารับบริการค่ะ
สรุป ฉีดฟิลเลอร์ปาก ดีไหม ? ควรทำหรือเปล่า ?
การฉีดฟิลเลอร์ปาก เป็นทางเลือกที่ปลอดภัย เห็นผลรวดเร็ว ไม่ต้องพักฟื้น ช่วยให้ริมฝีปากดูอวบอิ่ม ทรงชัด และเพิ่มเสน่ห์ให้กับใบหน้าได้อย่างเห็นผล หากเลือกทำกับแพทย์ที่มีประสบการณ์ และใช้ฟิลเลอร์แท้ ก็สามารถมั่นใจได้ในผลลัพธ์ที่สวยและปลอดภัยค่ะ
คำยืนยันของเจ้าของเรื่องเล่า
✓ เรื่องนี้นำมาจากแหล่งอื่นและได้รับการอนุญาตจากเจ้าของแล้ว
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้

รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ