ผีกะที่หมู่บ้านแห่งหนึ่งทางภาคเหนือ
-
เขียนโดย ทอแสงตะวัน
วันที่ 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2568 เวลา 14.17 น.
7 ตอน
0 วิจารณ์
180 อ่าน
แก้ไขเมื่อ 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2568 15.31 น. โดย เจ้าของเรื่องเล่า
2) เจ้าของใหม่ของผีกะ
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความหลังจากยายคำตายได้ไม่นาน ทุกอย่างดูเหมือนจะกลับมาสงบ… แต่เพียงไม่กี่เดือนให้หลัง ชาวบ้านก็เริ่มสังเกตเห็นเหตุการณ์ประหลาด:
ไก่ของ “ป้าสาย” ตายเกลี้ยงทั้งเล้า แต่แมวของหลานสาวเธอกลับอ้วนขึ้นผิดปกติ
“ตาเกียว” ที่ป่วยติดเตียงกลับมายืนเดินได้ในเวลาไม่น่าเชื่อ แต่พวกสุนัขแถวนั้นพากันเห่าหอนตลอดคืน
เด็กน้อยคนหนึ่งบอกว่า “เห็นคนแก่ตัวดำ นั่งยิ้มอยู่ใต้ถุนบ้านกลางคืน”
หนานบัว เริ่มสงสัยว่าผีกะยังไม่จากไปจริง ๆ เขาจึงไปขอคำปรึกษาจาก “ครูบาอินทร์” ที่วัดป่าบนดอยสูง ครูบานิ่งอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดเพียงว่า:
> “ของแบบนี้…มันบ่สูญหาย แต่มันเลือกได้ว่าจะอยู่กับไผ”
หนานบัวจึงย้อนกลับไปสืบหาต้นตอ และพบว่า…ในคืนที่ชาวบ้านล้อมบ้านยายคำ มีหญิงสาวคนหนึ่งยืนมองพิธีอยู่ห่าง ๆ — “อีฝ้าย” หลานสาวของยายคำที่หายตัวไปหลังงานศพ
เขาเริ่มตามหาอีฝ้าย… และในคืนเดือนมืด เขาได้ยินเสียงฝีเท้าเบา ๆ เดินอยู่รอบบ้านของเขา — แต่ไม่มีใครอยู่เลยนอกจากเงาวูบไหวที่ริมหน้าต่าง
วันรุ่งขึ้น หนานบัวตัดสินใจขึ้นดอยอีกครั้ง ขอลี้ภัยอยู่กับครูบาอินทร์ ท่านจึงให้เขานำ “ผ้ายันต์แดง” ไปแขวนไว้หน้าบ้าน พร้อมเอากระจกเงาโบราณตั้งไว้หน้าประตู — เพราะเชื่อว่า “ผีกะไม่อาจทนต่อเงาสะท้อนของตนเองได้”
แต่แล้ว…คืนนั้นเอง หนานบัวฝันเห็นอีฝ้ายยืนอยู่หน้ากระจกเธอยิ้มช้า ๆ แล้วพูดว่า… “อ้าย…ยังจำฝ้ายได้ก่อ?”ก่อนร่างของเธอจะเปลี่ยนเป็นบางสิ่งที่คลานเข้ากระจก... พร้อมเสียงกระซิบสุดท้ายที่หลอนจนหนานสะดุ้งตื่น:
> “ถึงฝ้ายสิเป็นผีกะ... แต่ใจกะยังฮักอ้ายอยู่เด้อ”
---
ไก่ของ “ป้าสาย” ตายเกลี้ยงทั้งเล้า แต่แมวของหลานสาวเธอกลับอ้วนขึ้นผิดปกติ
“ตาเกียว” ที่ป่วยติดเตียงกลับมายืนเดินได้ในเวลาไม่น่าเชื่อ แต่พวกสุนัขแถวนั้นพากันเห่าหอนตลอดคืน
เด็กน้อยคนหนึ่งบอกว่า “เห็นคนแก่ตัวดำ นั่งยิ้มอยู่ใต้ถุนบ้านกลางคืน”
หนานบัว เริ่มสงสัยว่าผีกะยังไม่จากไปจริง ๆ เขาจึงไปขอคำปรึกษาจาก “ครูบาอินทร์” ที่วัดป่าบนดอยสูง ครูบานิ่งอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดเพียงว่า:
> “ของแบบนี้…มันบ่สูญหาย แต่มันเลือกได้ว่าจะอยู่กับไผ”
หนานบัวจึงย้อนกลับไปสืบหาต้นตอ และพบว่า…ในคืนที่ชาวบ้านล้อมบ้านยายคำ มีหญิงสาวคนหนึ่งยืนมองพิธีอยู่ห่าง ๆ — “อีฝ้าย” หลานสาวของยายคำที่หายตัวไปหลังงานศพ
เขาเริ่มตามหาอีฝ้าย… และในคืนเดือนมืด เขาได้ยินเสียงฝีเท้าเบา ๆ เดินอยู่รอบบ้านของเขา — แต่ไม่มีใครอยู่เลยนอกจากเงาวูบไหวที่ริมหน้าต่าง
วันรุ่งขึ้น หนานบัวตัดสินใจขึ้นดอยอีกครั้ง ขอลี้ภัยอยู่กับครูบาอินทร์ ท่านจึงให้เขานำ “ผ้ายันต์แดง” ไปแขวนไว้หน้าบ้าน พร้อมเอากระจกเงาโบราณตั้งไว้หน้าประตู — เพราะเชื่อว่า “ผีกะไม่อาจทนต่อเงาสะท้อนของตนเองได้”
แต่แล้ว…คืนนั้นเอง หนานบัวฝันเห็นอีฝ้ายยืนอยู่หน้ากระจกเธอยิ้มช้า ๆ แล้วพูดว่า… “อ้าย…ยังจำฝ้ายได้ก่อ?”ก่อนร่างของเธอจะเปลี่ยนเป็นบางสิ่งที่คลานเข้ากระจก... พร้อมเสียงกระซิบสุดท้ายที่หลอนจนหนานสะดุ้งตื่น:
> “ถึงฝ้ายสิเป็นผีกะ... แต่ใจกะยังฮักอ้ายอยู่เด้อ”
---
คำยืนยันของเจ้าของเรื่องเล่า
✓ เรื่องนี้นำมาจากแหล่งอื่นและได้รับการอนุญาตจากเจ้าของแล้ว
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้

รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ