ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ราคาถูก vs ราคาแพง ต่างกันอย่างไร ? เลือกแบบไหนให้ปลอดภัย คุ้มค่า ?

ฟิลเลอร์ใต้ตา ราคา

ฟิลเลอร์ใต้ตา ราคาเท่าไหร่ ? ถือเป็นอีกหนึ่งคำถามที่ต้องคำนึงถึงก่อนตัดสินใจฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา เพราะราคามีทั้งถูกและแพง ซึ่งราคา Filler ใต้ตาไม่ได้ขึ้นอยู่กับยี่ห้อเท่านั้น แต่ยังมีปัจจัยอื่น ๆ ที่ส่งผลต่อราคาด้วยเช่นกัน

บทความนี้จะพาไปดูว่ามีปัจจัยอะไรบ้างที่ส่งผลต่อราคาฟิลเลอร์ใต้ตา ? ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาราคาถูก - แพง ปลอดภัยจริงไหม ? เลือกฉีดแบบไหนให้ปลอดภัยและคุ้มค่า พร้อมสำรวจราคาฟิลเลอร์ใต้ตาแต่ละยี่ห้อ แต่ละรุ่น

คลิกอ่านหัวข้อ ฟิลเลอร์ใต้ตา ราคา

• ราคา ฟิลเลอร์ใต้ตาต่างกัน ขึ้นอยู่กับอะไร ?
• ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ราคาแต่ละยี่ห้อ / รุ่น เท่าไหร่ ?
  • ฟิลเลอร์ใต้ตา ราคายี่ห้อ Juvederm
  • ฟิลเลอร์ใต้ตา ราคายี่ห้อ Restylane
  • ฟิลเลอร์ใต้ตา ราคายี่ห้อ Belotero
  • ฟิลเลอร์ใต้ตา ราคายี่ห้อ Difinisse
  • ฟิลเลอร์ใต้ตา ราคายี่ห้อ Flore
  • ฟิลเลอร์ใต้ตา ราคายี่ห้อ Teoxane
  • ฟิลเลอร์ใต้ตา ราคายี่ห้อ Neuramis
• ฟิลเลอร์ใต้ตาราคาถูก อันตรายไหม ?​
• เติมฟิลเลอร์ใต้ตา ราคาแพง ปลอดภัยจริงไหม ?
• สรุปเรื่องฟิลเลอร์ใต้ตา ราคาเท่าไหร่ ? เลือกฉีดแบบไหนคุ้มค่า

ราคา ฟิลเลอร์ใต้ตาต่างกัน ขึ้นอยู่กับอะไร ?

การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ราคาไม่ได้ตายตัว แต่จะแตกต่างกันไปตามปัจจัยหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นเทคนิคที่ใช้ ยี่ห้อและรุ่นของฟิลเลอร์ ปริมาณที่ใช้ ค่ามือหมอ และโปรโมชันของคลินิก แต่ละปัจจัยส่งผลโดยตรงต่อราคา มาดูกันว่ามีอะไรบ้าง

• เทคนิคการฉีดมีผลต่อราคาโดยตรง

การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาให้ดูเป็นธรรมชาติ อาจต้องใช้ฟิลเลอร์หลายชนิดร่วมกัน เช่น ใช้ฟิลเลอร์เนื้อแน่นในผิวชั้นลึก ใช้ฟิลเลอร์เนื้อละเอียดในผิวชั้นตื้น ยิ่งเทคนิคซับซ้อน หลายขั้นตอน ราคาก็จะยิ่งสูงขึ้น

• ฟิลเลอร์แต่ละยี่ห้อ ราคาต่างกัน

ราคาฟิลเลอร์ขึ้นอยู่กับยี่ห้อและเทคโนโลยีการผลิต ฟิลเลอร์ที่มีคุณสมบัติพิเศษหรืออายุการใช้งานยาวนาน มักจะมีราคาสูงกว่า และแม้จะเป็นยี่ห้อเดียวกัน แต่ถ้ารุ่นต่างกัน ราคาก็อาจแตกต่างกันได้

• ปริมาณฟิลเลอร์มีผลต่อค่าใช้จ่าย

โดยทั่วไป การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาจะใช้ 1-2 CC ต่อสองข้าง แต่หากมีปัญหาใต้ตาลึกมาก หรือคนไข้มีอายุเยอะ อาจต้องใช้ปริมาณฟิลเลอร์เพิ่มขึ้น ส่งผลให้ราคาสูงขึ้นตามปริมาณที่ใช้

• ค่ามือหมอ ขึ้นอยู่กับประสบการณ์

แพทย์ที่มีประสบการณ์สูงและใช้เทคนิคเฉพาะทาง จะมีค่าบริการสูงขึ้น แต่ก็ช่วยให้ผลลัพธ์ออกมาสวยและปลอดภัย โดยเฉพาะเคสที่ต้องใช้เทคนิคพิเศษ เช่น ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาดอลลี่อาย ซึ่งแพทย์บางคนอาจไม่รับทำ

• โปรโมชันช่วยให้ราคาถูกลง

บางคลินิกมีโปรโมชันลดราคาฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา เช่น ส่วนลดช่วงเทศกาล หรือโปรรีวิว ที่ให้ราคาพิเศษสำหรับผู้ที่ยอมให้ใช้ภาพก่อน-หลังเป็นเคสตัวอย่าง หากฉีดช่วงโปรโมชันอาจช่วยให้ได้ราคาฉีดใต้ตาที่ถูกลง

ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ราคาแต่ละยี่ห้อ / รุ่น เท่าไหร่ ?

อย่างที่ได้กล่าวในข้างต้น การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ราคาแต่ละยี่ห้อจะแตกต่างกันไป ตามเทคโนโลยีการผลิต คุณสมบัติ และอายุการใช้งาน แม้จะเป็นยี่ห้อเดียวกัน แต่หากเป็นคนละรุ่น ราคาก็อาจไม่เท่ากัน

ฟิลเลอร์บางรุ่นมีอายุการใช้งานยาวนานกว่า บางรุ่นถูกออกแบบมาให้มีความยืดหยุ่นสูง หรือให้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติมากขึ้น ซึ่งทั้งหมดนี้ส่งผลต่อราคาโดยตรง

มาดูราคาของ Filler ใต้ตาแต่ละยี่ห้อ เพื่อช่วยให้เลือกยี่ห้อที่เหมาะสมและคุ้มค่าที่สุด

ฟิลเลอร์ใต้ตา ราคายี่ห้อ Juvederm

Juvederm เป็นฟิลเลอร์จากสหรัฐอเมริกา ใช้เทคโนโลยีการผลิต Vycross Technology ช่วยให้เนื้อฟิลเลอร์ยึดเกาะดี ผิวเรียบเนียน ยกกระชับ และ Hylacross Technology ที่เพิ่มความยืดหยุ่นและอุ้มน้ำ ทำให้ผลลัพธ์เป็นธรรมชาติและอยู่ได้นาน

รุ่นที่เหมาะกับการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ราคา และระยะเวลาผลลัพธ์ มีดังนี้

• Juvederm Voluma – ราคาเริ่มต้น 12,500 บาท / 1 CC อยู่ได้นาน 18 เดือน
• Juvederm Volite – ราคาเริ่มต้น 12,900 บาท / 1 CC อยู่ได้นาน 8-12 เดือน
• Juvederm Volux – ราคาเริ่มต้น 18,000 บาท / 1 CC อยู่ได้นาน 18-24 เดือน

ฟิลเลอร์ใต้ตา ราคายี่ห้อ Restylane

Restylane เป็นฟิลเลอร์จากสวีเดน ใช้เทคโนโลยีการผลิต NASHA Technology และ OBT Technology ช่วยให้ฟิลเลอร์มีทั้งเนื้อแน่น เนื้อละเอียด และความยืดหยุ่นสูง เหมาะสำหรับฉีดหลายตำแหน่ง รวมถึงฉีดบริเวณใต้ตา

รุ่นที่เหมาะกับการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ราคา และระยะเวลาผลลัพธ์ มีดังนี้

• Restylane Defyne – ราคาเริ่มต้น 14,000 บาท / 1 CC อยู่ได้นาน 18 เดือน
• Restylane Vital Light – ราคาเริ่มต้น 12,000 บาท / 1 CC อยู่ได้นาน 6-12 เดือน
• Restylane Vital – ราคาเริ่มต้น 16,900 บาท / 1 CC อยู่ได้นาน 12 เดือน
• Restylane Perlane Lyft – ราคาเริ่มต้น 12,500 บาท / 1 CC อยู่ได้นาน 12 เดือน
• Restylane Classic – ราคาเริ่มต้น 9,900 บาท / 1 CC อยู่ได้นาน 12 เดือน

ฟิลเลอร์ใต้ตา ราคายี่ห้อ Belotero

Belotero เป็นฟิลเลอร์จากสวิตเซอร์แลนด์ ผลิตด้วย CPM Technology ทำให้เนื้อฟิลเลอร์มีทั้งความยืดหยุ่น และความคงตัว เหมาะกับทั้งการเติมเต็มใต้ตาและปรับโครงสร้างใบหน้า

รุ่นที่เหมาะกับการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ราคา และระยะเวลาผลลัพธ์ มีดังนี้

• Belotero Volume – ราคาเริ่มต้น 9,900 บาท / 1 CC อยู่ได้นาน 18 เดือน
• Belotero Revive – ราคาเริ่มต้น 14,000 บาท / 1 CC อยู่ได้นาน 6-9 เดือน
• Belotero Soft – ราคาเริ่มต้น 9,900 บาท / 1 CC อยู่ได้นาน 8-12 เดือน

ฟิลเลอร์ใต้ตา ราคายี่ห้อ Difinisse

Definisse เป็นฟิลเลอร์จากอิตาลี พัฒนาด้วย XTR™ Technology ที่ช่วยสร้างโครงสร้างโมเลกุลแบบร่างแห ทำให้ฟิลเลอร์มีความยืดหยุ่นสูง ยกพยุงผิวได้ดี และช่วยปรับรูปหน้าให้ดูมีมิติอย่างเป็นธรรมชาติ

รุ่นที่เหมาะกับการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ราคา และระยะเวลาผลลัพธ์ มีดังนี้

• Definisse Touch – ราคาเริ่มต้น 12,000 บาท / 1 CC อยู่ได้นาน 8-12 เดือน

ฟิลเลอร์ใต้ตา ราคายี่ห้อ Flore

Flore เป็นฟิลเลอร์จากเกาหลี ใช้เทคโนโลยีการผลิต HCCL™ Technology ทำให้ได้ฟิลเลอร์แบบ Biphasic Filler ทำให้ฟิลเลอร์ขึ้นทรงได้ดี คงรูป ผลลัพธ์อยู่ได้นาน และยังใช้ PP-Process ที่ช่วยให้โมเลกุลมีขนาดเท่ากัน ฉีดง่าย ปั้นทรงสวย

รุ่นที่เหมาะกับการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ราคา และระยะเวลาผลลัพธ์ มีดังนี้

• Flore AQUA-S – ราคาเริ่มต้น 9,900 บาท / 1 CC อยู่ได้นาน 6 เดือน

ฟิลเลอร์ใต้ตา ราคายี่ห้อ Teoxane

Teoxane เป็นฟิลเลอร์จากสวิตเซอร์แลนด์ ผลิตด้วย PNT Technology ช่วยให้ฟิลเลอร์มีความยืดหยุ่นสูง ปรับตัวเข้ากับการเคลื่อนไหวของผิวหน้าได้ดี ลดความเสี่ยงในการเกิดก้อน ให้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติและกลมกลืนกับผิว

รุ่นที่เหมาะกับการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ราคา และระยะเวลาผลลัพธ์ มีดังนี้

• Teoxane RHA 2 – ราคาเริ่มต้น 12,900 บาท / 1 CC อยู่ได้นาน 18 เดือน

ฟิลเลอร์ใต้ตา ราคายี่ห้อ Neuramis

Neuramis เป็นฟิลเลอร์จากเกาหลี พัฒนาโดยใช้ SHAPE Technology ที่เป็นกระบวนการ 2-Step Cross-linked ทำให้ฟิลเลอร์มีความยืดหยุ่นสูง คงตัวดี ลดโอกาสการเคลื่อนตัวหรือจับเป็นก้อนหลังฉีด

รุ่นที่เหมาะกับการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ราคา และระยะเวลาผลลัพธ์ มีดังนี้

• Neuramis Volume – ราคาเริ่มต้น 7,500 บาท / 1 CC อยู่ได้นาน 6-9 เดือน

ฟิลเลอร์ใต้ตาราคาถูก อันตรายไหม ?​

ฟิลเลอร์ใต้ตาราคาถูกไม่ได้หมายความว่าไม่มีคุณภาพ แบรนด์จากเกาหลี เช่น Neuramis หรือ Flore แม้จะมีราคาย่อมเยากว่าฟิลเลอร์จากยุโรปและอเมริกา แต่ก็ยังผ่านมาตรฐาน อย. และให้ผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพ เหมาะสำหรับคนที่มีงบจำกัด แม้ว่าอายุการใช้งานอาจสั้นกว่า แต่ก็ยังช่วยเติมเต็มใต้ตาให้ดูสดใสอย่างเป็นธรรมชาติ

แต่หากเจอคลินิกที่โฆษณาฉีด Filler ใต้ตา ราคาถูกมากเกินไป เช่น ลดครึ่งต่อครึ่งจากราคาปกติ ควรระวังว่าอาจเป็นฟิลเลอร์ปลอม หรือฟิลเลอร์หิ้วที่ลักลอบนำเข้าอย่างผิดกฎหมาย ซึ่งไม่ได้มาตรฐานและอาจก่อให้เกิดผลข้างเคียงร้ายแรง เช่น

• ฟิลเลอร์ไหล ย้อย เป็นก้อนแข็ง
• อักเสบ ติดเชื้อ บวมแดง
• อาการแพ้รุนแรง
• เนื้อตาย หรือเสี่ยงตาบอด

เติมฟิลเลอร์ใต้ตา ราคาแพง ปลอดภัยจริงไหม ?

ส่วนใหญ่ฟิลเลอร์ใต้ตาราคาแพงจากแบรนด์ยุโรปและอเมริกา เช่น Juvederm, Restylane หรือ Teoxane ใช้เทคโนโลยีการผลิตขั้นสูง ทำให้ได้ผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพ ผิวใต้ตาดูเรียบเนียนเป็นธรรมชาติ อยู่ได้นาน และมีความปลอดภัยสูง

อย่างไรก็ตาม ราคาที่แพงไม่ได้การันตีความปลอดภัยเสมอไป หากฉีดโดยบุคคลที่ไม่ใช่แพทย์ หมอเถื่อน หรือหมอกระเป๋าที่ไม่มีความรู้ ก็เสี่ยงเกิดผลข้างเคียงร้ายแรง เช่น ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาผิดชั้น หรือฉีดเข้าเส้นเลือด ทำให้เกิดการอุดตัน เป็นผลให้ถึงขั้นตาบอดได้

ดังนั้น การเลือกเติมฟิลเลอร์ใต้ตาให้ปลอดภัย ไม่ได้ขึ้นอยู่กับราคาเพียงอย่างเดียว แต่ต้องเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน และฉีดโดยแพทย์ที่มีประสบการณ์ รวมถึงสังเกตด้วยตนเองอีกครั้งว่าฟิลเลอร์ที่ใช้เป็นของแท้หรือไม่ เพื่อให้มั่นใจว่าทั้งฟิลเลอร์และเทคนิคการฉีดมีคุณภาพจริง ๆ

สรุปเรื่องฟิลเลอร์ใต้ตา ราคาเท่าไหร่ ? เลือกฉีดแบบไหนคุ้มค่า

การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ราคาจะแตกต่างกันไปตามยี่ห้อ รุ่น เทคนิคที่ใช้ และโปรโมชันของแต่ละคลินิก โดยการเลือกฉีด Filler ใต้ตาให้คุ้มค่าและปลอดภัย ต้องเน้นคุณภาพและความเหมาะสมกับปัญหา

ไม่ใช่แค่เลือกเพราะราคาถูก โดยควรเลือกฟิลเลอร์แท้ ฉีดกับแพทย์ที่มีประสบการณ์ และฉีดในคลินิกที่ได้มาตรฐาน เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ปลอดภัยและเป็นธรรมชาติที่สุด