Juvelook ช่วยเรื่องอะไร ฉีดตำแหน่งไหนได้บ้าง มีผลข้างเคียงไหม?

-

เขียนโดย iamborfor

วันที่ 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2568 เวลา 14.49 น.

  1 ตอน
  0 วิจารณ์
  146 อ่าน
แชร์เรื่องเล่า Share Share Share

 

1) Juvelook ช่วยเรื่องอะไร ฉีดตำแหน่งไหนได้บ้าง มีผลข้างเคียงไหม?

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก

Juvelook คืออะไร?
Juvelook เป็นผลิตภัณฑ์สกินบูสเตอร์ที่จัดอยู่ในกลุ่มของ Hybrid Biostimulators ซึ่งมีส่วนประกอบหลักคือ Poly D,L-Lactic Acid (PDLLA) และ Hyaluronic Acid แบบ Non-Crosslinked ซึ่งรวมไว้ในตัวเดียวกัน ความสามารถหลักของ Juvelook คือการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในผิวหนัง เพิ่มความยืดหยุ่นและความกระชับให้กับผิว ช่วยให้ผิวดูอิ่มฟูและฉ่ำวาว พร้อมช่วยลดเลือนริ้วรอยและร่องลึกต่าง ๆ บนผิวหนังให้ดูตื้นขึ้น นอกจากนี้ยังช่วยให้รูขุมขนดูกระชับ และทำให้ผิวเรียบเนียนขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
 
Juvelook ช่วยเรื่องอะไรบ้าง?
Juvelook ไม่เพียงแต่ช่วยฟื้นฟูผิวให้กระจ่างใสเท่านั้น แต่ยังช่วยแก้ปัญหาผิวต่าง ๆ ได้หลายอย่าง เช่น

เพิ่มความชุ่มชื้นและความอิ่มฟู Juvelook ช่วยเติมเต็มผิวให้ดูฉ่ำวาว ผิวดูสุขภาพดีและเต็มไปด้วยความชุ่มชื้น
ลดเลือนริ้วรอย ช่วยลดเลือนริ้วรอยที่เกิดจากการสูญเสียคอลลาเจนและความยืดหยุ่นของผิว
กระชับรูขุมขน ช่วยให้รูขุมขนที่กว้างดูเล็กลง และทำให้ผิวเรียบเนียน
ช่วยแก้ปัญหาหลุมสิว ด้วยการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใต้ผิว จึงสามารถช่วยให้หลุมสิวตื้นขึ้น
ลดจุดด่างดำและรอยแตกลาย ช่วยให้ผิวดูเรียบเนียนและลดรอยด่างดำบนผิวหนัง

 

 
Juvelook ฉีดในตำแหน่งไหนได้บ้าง?
Juvelook เป็นสกินบูสเตอร์ที่สามารถฉีดในหลายบริเวณของร่างกาย โดยส่วนใหญ่จะฉีดที่บริเวณใบหน้าเพื่อให้ผิวดูอิ่มฟูและกระจ่างใสได้อย่างชัดเจน โดยตำแหน่งที่นิยมฉีดมีดังนี้

ใบหน้า ฉีดทั่วใบหน้าเพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน และทำให้ผิวดูอิ่มฟู ฉ่ำวาว
หน้าผาก ช่วยลดริ้วรอยหน้าผากที่เกิดจากการแสดงอารมณ์
หน้าแก้ม ช่วยกระชับรูขุมขนและเพิ่มความกระชับให้กับผิวหน้า
ใต้ตา แก้ปัญหาความหมองคล้ำใต้ตาและช่วยลดริ้วรอยบริเวณรอบดวงตา
หลุมสิว ช่วยเติมเต็มและลดร่องลึกของหลุมสิว
รอยตีนกา ช่วยลดเลือนรอยตีนกาให้ดูจางลง

 
Juvelook เหมาะกับใครบ้าง?
Juvelook เป็นหัตถการที่สามารถทำได้กับทุกคนที่มีปัญหาผิวที่ต้องการฟื้นฟูจากภายใน โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่มีปัญหาผิวตามลักษณะต่าง ๆ ดังนี้

คนที่มีรูขุมขนกว้างและผิวหยาบ หากคุณมีรูขุมขนกว้างหรือผิวที่ดูไม่เรียบเนียน ช่วยทำให้ผิวกระชับขึ้น
คนที่มีหลุมสิว ช่วยฟื้นฟูและทำให้หลุมสิวดูตื้นขึ้น
คนที่ต้องการเพิ่มวอลลุ่มให้ผิว หากคุณต้องการผิวดูอิ่มฟูและฉ่ำวาว ช่วยตอบโจทย์นี้ได้
คนที่มีผิวหมองคล้ำ ช่วยเพิ่มความกระจ่างใสให้กับผิว โดยเฉพาะบริเวณใต้ตาที่มักมีปัญหาหมองคล้ำ
คนที่มีริ้วรอยและรอยยับ ช่วยลดเลือนริ้วรอยที่เกิดจากอายุหรือการแสดงอารมณ์ต่าง ๆ
คนที่มีผิวแห้งและแต่งหน้าไม่ติด ช่วยให้ผิวมีความชุ่มชื้นและทำให้แต่งหน้าได้ง่ายขึ้น

 
Juvelook ราคาเท่าไหร่?
ราคาของการฉีด Juvelook ขึ้นอยู่กับสภาพผิวและปัญหาที่แต่ละคนต้องการรักษา แพทย์จะประเมินและออกแบบแผนการรักษาที่เหมาะสมกับผู้เข้ารับการรักษาแต่ละราย โดยควรเข้าปรึกษากับแพทย์เพื่อให้ได้คำแนะนำที่ตรงกับปัญหาผิวของคุณ ราคาเริ่มต้นจะเริ่มที่ประมาณ 15,000 – 25,000 บาท
 

 
Juvelook ฉีดกี่ครั้งเห็นผล? ผลลัพธ์อยู่ได้นานแค่ไหน?
หลังจากการฉีด Juvelook ครั้งแรก ผลลัพธ์ที่สามารถเห็นได้คือริ้วรอยเล็ก ๆ จะจางลง ผิวเริ่มดูชุ่มชื้นขึ้น สำหรับคนที่มีปัญหาผิวมาก อาจจะต้องทำการฉีดในระยะเวลาที่ต่อเนื่องประมาณ 3 ครั้ง ทุกเดือน และหลังจากนั้นจะสามารถฉีดย้ำทุก ๆ 6 ถึง 12 เดือน เพื่อคงผลลัพธ์ที่ดีไว้ ซึ่งผลลัพธ์โดยทั่วไปจะอยู่ได้ประมาณ 1 ปี

หลังฉีดทันที ผิวจะดูมีวอลลุ่มมากขึ้น ริ้วรอยเล็ก ๆ จะเริ่มจางลง
2-4 สัปดาห์หลังทำ Hyaluronic Acid จะเริ่มสลายและกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ทำให้ผิวมีความยืดหยุ่นและดูเรียบเนียน
6 เดือนหลังทำ คอลลาเจนใต้ชั้นผิวจะเพิ่มขึ้นจนทำให้ผิวดูเด้ง สวย และฉ่ำวาว พร้อมทั้งช่วยให้หลุมสิวตื้นขึ้นและรูขุมขนกระชับ

 
Juvelook และ Sculptra แตกต่างกันอย่างไร?
Juvelook และ Sculptra มีความแตกต่างกันในส่วนของส่วนผสมหลักที่ใช้ในการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน 

Juvelook ใช้ Poly D,L-Lactic Acid (PDLLA) และ Hyaluronic Acid ซึ่งช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว
Sculptra ใช้ Poly-L-Lactic Acid (PLLA) ที่ช่วยกระตุ้นคอลลาเจนและยกกระชับผิว

 
Juvelook กับ Rejuran ต่างกันอย่างไร?
Juvelook และ Rejuran มีความแตกต่างกันในด้านผลลัพธ์ 

Juvelook: ช่วยกระตุ้นคอลลาเจนและอิลาสตินใต้ผิว ช่วยให้ผิวอิ่มฟูและกระชับรูขุมขน
Rejuran: ช่วยซ่อมแซมผิวที่เสียหายและกระตุ้นการสร้างเซลล์ใหม่ เพื่อให้ผิวแข็งแรงขึ้น

 
Juvelook และ Filler แตกต่างกันไหม?
Juvelook และ Filler มีความแตกต่างกันในการใช้งาน 

Juvelook: ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอิลาสตินใต้ผิว
Filler: ใช้เติมเต็มส่วนที่ขาดหายหรือผิวที่แห้งและหย่อนคล้อย

 
การดูแลตัวเองหลังการฉีด Juvelook
การดูแลตัวเองหลังการฉีด Juvelook เป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้ผลลัพธ์ออกมาดีและยั่งยืน ดังนี้

หลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีแอลกอฮอล์หรือน้ำหอม
งดขัดผิวและนวดบริเวณที่ฉีด
ทาครีมกันแดดและมอยเจอร์ไรเซอร์เพื่อรักษาความชุ่มชื้น
ดื่มน้ำให้เพียงพอและหลีกเลี่ยงกิจกรรมที่ทำให้ผิวโดนความร้อน

 
Juvelook เป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการดูแลผิวจากภายในที่ช่วยฟื้นฟูผิวได้อย่างล้ำลึก กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน เติมเต็มหลุมสิวให้ตื้นขึ้น พร้อมทั้งทำให้ผิวอิ่มฟู เปล่งปลั่งและสุขภาพดี เพียงแค่ฉีดก็เห็นผลลัพธ์ที่ดีได้ทันที โดยไม่ต้องผ่าตัดหรือพักฟื้น เหมาะสำหรับคนที่มีเวลาน้อย ดูแลตัวเองไม่เพียงพอ หรือกำลังเผชิญกับปัญหาผิวโทรมและหมองคล้ำ หากคุณต้องการฟื้นฟูผิวอย่างเร่งด่วน สามารถปรึกษากับทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญของ Vincent Clinic เพื่อให้แพทย์ประเมินสภาพผิวและปัญหาของคุณ เพื่อออกแบบการรักษาที่เหมาะสมกับแต่ละบุคคลค่ะ

 

คำยืนยันของเจ้าของเรื่องเล่า

✓ เรื่องนี้นำมาจากแหล่งอื่นและได้รับการอนุญาตจากเจ้าของแล้ว

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

อ่านเรื่องเล่าเรื่องอื่น

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา