ฉีดฟิลเลอร์ปากบวมกี่วัน พร้อมแนะวิธีดูแลตัวเองหลังฉีด เพื่อลดอาการบวม
-
เขียนโดย admin_beautypost
วันที่ เมื่อวาน เวลา 14.45 น.
1 ตอน
1 วิจารณ์
41 อ่าน
แก้ไขเมื่อ เมื่อวาน 14.48 น. โดย เจ้าของเรื่องเล่า
1) ฉีดฟิลเลอร์ปากบวมกี่วัน ต้องดูแลตัวเองอย่างไรเพื่อลดอาการบวม
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความสาเหตุที่ฉีดฟิลเลอร์ปากแล้วบวมเกิดจากอะไร
อาการบวมหลังจากการฉีดฟิลเลอร์ปากถือเป็นปฏิกิริยาที่เกิดขึ้นได้ตามธรรมชาติ สาเหตุหลักเกิดจากกระบวนการทำงานของร่างกาย ที่ตอบสนองต่อการบาดเจ็บจากเข็มจากการฉีดฟิลเลอร์เข้าไป ทำให้เกิดการระคายเคืองในเนื้อเยื่อ
ซึ่งกระตุ้นให้ร่างกายมีการฟื้นฟูซ่อมแซมบริเวณที่ได้รับผลกระทบ จึงทำให้เกิดอาการบวมขึ้นร่วมกับอาการช้ำหรือผิวเปลี่ยนสีไปจากเดิม ซึ่งก็เป็นเรื่องปกติที่จะเกิดขึ้นในระหว่างกระบวนการฟื้นฟู
ลักษณะอาการฉีดฟิลเลอร์ปากบวมกี่วัน
หลังจากที่คุณฉีดฟิลเลอร์ปากแล้ว อาการบวมอาจเกิดขึ้นได้ทันที หรือในช่วงเวลาไม่นานหลังจากนั้น โดยอาการบวมจะมีลักษณะดังนี้
ปวดบริเวณริมฝีปาก : อาจรู้สึกปวดเล็กน้อยหรือมากขึ้นในระหว่างการฟื้นฟู
รู้สึกตึงหรือหน่วงที่ริมฝีปาก : อาการตึงหรือรู้สึกหน่วง ๆ สามารถเกิดขึ้นได้หลังการฉีด
รอยแดงและร้อน : บริเวณริมฝีปากอาจเกิดรอยแดงและมีความร้อน ซึ่งเป็นการตอบสนองปกติของร่างกาย
รอยช้ำ : บริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์อาจเกิดรอยช้ำที่เป็นสีเขียวหรือสีม่วง ซึ่งเป็นผลจากการฉีด
ระยะอาการฉีดฟิลเลอร์ปากบวมกี่วัน
การฉีดฟิลเลอร์ปากเป็นการเติมเต็มให้ได้ทรงปากที่สวยงาม แต่หลังจากการฉีดฟิลเลอร์ อาจมีอาการบวมซึ่งถือเป็นเรื่องปกติ อาการบวมจะค่อย ๆ ดีขึ้น
ฉีดฟิลเลอร์ปากบวมกี่วัน คำตอบคือ แต่ละช่วงเวลาหลังการฉีดอาจมีลักษณะและอาการที่แตกต่างกันไป การเข้าใจระยะเวลาและลักษณะอาการที่อาจเกิดขึ้นในแต่ละช่วงจะช่วยให้คุณสามารถดูแลตัวเองได้อย่างเหมาะสม และมั่นใจได้ว่าอาการบวมจะค่อย ๆ ลดลงจนกลับสู่สภาพปกติ
3-6 ชั่วโมงแรกหลังฉีด
ในช่วง 3-6 ชั่วโมงแรกหลังจากการฉีดฟิลเลอร์ปาก อาจจะมีอาการบวมและรู้สึกเจ็บหรือตึงบริเวณริมฝีปาก ในช่วงนี้ให้ทำความสะอาดริมฝีปากด้วยสบู่อ่อน ๆ แต่ระวังไม่ให้บริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์โดนน้ำมากเกินไป เพราะอาจทำให้เกิดการติดเชื้อได้ง่าย
1-2 วันหลังฉีด
หลังจากฉีดฟิลเลอร์ปากได้ 1-2 วัน ถือเป็นช่วงที่ปากจะมีอาการบวมมากที่สุด ในช่วงนี้จะรู้สึกหน่วงบริเวณริมฝีปาก รวมถึงมีการช้ำหรือแดง ซึ่งเป็นผลข้างเคียงปกติจากการฉีดฟิลเลอร์ แต่คุณสามารถดูแลริมฝีปากได้ด้วยวิธีต่อไปนี้
ทาครีมหรือบำรุงริมฝีปากได้ตามปกติ
หลีกเลี่ยงการทำกิจกรรมที่ทำให้หน้าร้อนหรือมีเหงื่อ เช่น ออกกำลังกายหนัก หรือซาวน่า
หลีกเลี่ยงการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และอาหารร้อนจัด
3 วันขึ้นไป
หลังจากผ่านไป 3 วัน อาการบวมและรอยช้ำจากการฉีดฟิลเลอร์มักจะเริ่มลดลง แต่ยังควรระมัดระวังการใช้ชีวิตประจำวัน เช่น หลีกเลี่ยงการสัมผัสหรือกดทับบริเวณที่ฉีด หากอาการบวมไม่ดีขึ้นหรือริมฝีปากมีลักษณะที่เปลี่ยนไป ดูผิดปกติ เช่น ปวดมากขึ้น หรือมีอาการบวมที่ผิดรูป ควรไปพบแพทย์ทันทีเพื่อขอคำแนะนำและการรักษาเพิ่มเติม
อาการฉีดฟิลเลอร์ปากบวมเกิดจากอะไร
อาการบวมหลังการฉีดฟิลเลอร์ปากเป็นอาการปกติที่พบได้บ่อย และถือเป็นปฏิกิริยาปกติของร่างกายที่ตอบสนองต่อการฉีดสารต่าง ๆ เข้าไปในผิวหนัง แต่ในบางกรณีอาการบวมอาจเกิดจากสาเหตุที่ไม่ปกติ ซึ่งควรได้รับการดูแลและรักษาโดยแพทย์ เพื่อป้องกันผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นได้ ซึ่งเกิดได้จากหลาย ๆ สาเหตุ ดังนี้
ฟิลเลอร์ไม่มีคุณภาพ
หนึ่งในสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดอาการบวมหลังการฉีดฟิลเลอร์ คือ การใช้ฟิลเลอร์ที่ไม่มีคุณภาพ ฟิลเลอร์ที่ไม่ได้มาตรฐานหรือไม่ผ่านการรับรองจากองค์การอาหารและยา อาจทำให้เกิดการระคายเคือง การแพ้ หรือการติดเชื้อได้ง่าย
ซึ่งไม่เพียงแต่ทำให้เกิดอาการบวมที่ผิดปกติ แต่ยังส่งผลให้ผลลัพธ์ที่ได้จากการฉีดฟิลเลอร์ไม่สวยงามและอาจส่งผลเสียต่อสุขภาพได้ ดังนั้นการเลือกคลินิกและแพทย์ที่มีประสบการณ์และใช้ฟิลเลอร์ที่ได้มาตรฐานจึงเป็นสิ่งสำคัญ
แพ้ฟิลเลอร์
อาการบวมที่เกิดขึ้นหลังการฉีดฟิลเลอร์อาจเกิดจากการแพ้สารบางชนิดในฟิลเลอร์ แม้ว่าฟิลเลอร์ส่วนใหญ่จะปลอดภัยและถูกออกแบบมาให้เหมาะสมกับร่างกายของคนเรา แต่บางคนอาจมีอาการแพ้ต่อส่วนผสมบางอย่าง ซึ่งอาการแพ้อาจทำให้เกิดอาการบวมที่รุนแรง หรือมีอาการคัน แดง หรือปวดบริเวณที่ฉีด ในกรณีที่เกิดอาการแพ้ ควรไปพบแพทย์ทันทีเพื่อให้การรักษา
เกิดอาการติดเชื้อ
การติดเชื้อเป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่สามารถทำให้เกิดอาการบวมหลังการฉีดฟิลเลอร์ได้ โดยการติดเชื้อสามารถเกิดขึ้นได้หากมีการทำหัตถการที่ไม่สะอาด หรือระหว่างที่ทำการฉีดมีการสัมผัสที่ไม่ปลอดเชื้อทำให้บริเวณที่ฉีดบวม แดง และอาจมีอาการเจ็บปวดร่วมด้วย ดังนั้น การดูแลรักษาความสะอาดและการเลือกคลินิกที่มีมาตรฐานเป็นสิ่งที่ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดการติดเชื้อ
ลักษณะอาการปากบวมหลังฉีดฟิลเลอร์แบบใดที่ควรพบแพทย์
ในกรณีที่มีอาการบวมหลังการฉีดฟิลเลอร์ปากส่วนใหญ่จะค่อย ๆ ดีขึ้นในไม่กี่วันหลังการรักษา แต่หากอาการบวมไม่ดีขึ้นหรือมีลักษณะบวมที่ผิดปกติ ควรพบแพทย์ทันทีเพื่อประเมินอาการและป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต
อาการบวมที่ควรพบแพทย์ ได้แก่ หากมีอาการบวมที่รุนแรงและไม่ลดลงภายใน 2-3 วัน หรือมีอาการบวมที่กระจายไปทั่วบริเวณปากและใบหน้า หากมีอาการบวมร่วมกับอาการปวดมาก ผิวหนังแดงและร้อน หรือมีหนองจากแผลที่ฉีด สัญญาณเหล่านี้บ่งบอกถึงการติดเชื้อที่ต้องรีบรักษาโดยด่วน
วิธีลดอาการบวมหลังฉีดฟิลเลอร์ปาก
แม้ว่าการบวมจะเป็นอาการปกติหลังจากการฉีดฟิลเลอร์ปาก แต่การดูแลตัวเองในช่วงหลังฉีดสามารถช่วยลดอาการบวมได้เร็วขึ้น โดยมีวิธีการที่แนะนำดังนี้
ประคบเย็น
การประคบเย็นเป็นวิธีช่วยลดอาการบวมหลังการฉีดฟิลเลอร์ โดยความเย็นจะช่วยทำให้หลอดเลือดหดตัวและลดการไหลเวียนของเลือดในบริเวณที่บวม ซึ่งจะช่วยลดอาการบวมได้ การประคบเย็นควรทำครั้งละ 10-15 นาที โดยใช้ผ้าสะอาดหรือเจลประคบที่เย็น หากต้องการให้ได้ผลดี ควรทำการประคบในช่วง 24-48 ชั่วโมงแรกหลังการฉีด เพื่อบรรเทาอาการบวมและลดการเกิดรอยช้ำในระยะยาว
ดื่มน้ำเยอะ ๆ
การดื่มน้ำในปริมาณที่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย จะช่วยให้ร่างกายสามารถฟื้นฟูได้เร็วขึ้น โดยน้ำจะช่วยให้เลือดไหลเวียนได้ดีและไม่หนืดจนเกินไป ซึ่งสามารถลดการเกิดการบวมได้ อีกทั้งยังช่วยในการคงความชุ่มชื้นให้กับเนื้อเยื่อริมฝีปากที่ได้รับการฉีดฟิลเลอร์
ดังนั้น ควรดื่มน้ำตลอดทั้งวัน แต่ควรหลีกเลี่ยงเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์หรือคาเฟอีน เพราะอาจทำให้ร่างกายขาดน้ำและกระตุ้นให้เกิดอาการบวมมากขึ้น
นอนหมอนสูง
การนอนให้ศีรษะสูงกว่าระดับอื่น ๆ ของร่างกาย สามารถช่วยลดอาการบวมหลังฉีดฟิลเลอร์ได้ดี เนื่องจากการยกหัวให้สูงขึ้นจะทำให้เลือดไหลเวียนไปยังส่วนอื่นของร่างกายมากขึ้น โดยไม่ไปคั่งอยู่ที่บริเวณใบหน้าและริมฝีปาก ช่วยให้การบวมยุบลงได้เร็วขึ้น ควรใช้หมอนหลายใบเพื่อหนุนศีรษะในช่วงแรก ๆ หลังการฉีด และหลีกเลี่ยงการนอนตะแคงในช่วง 2-3 คืนแรก
หลีกเลี่ยงอากาศร้อน
ความร้อนสามารถทำให้ฟิลเลอร์สลายตัวเร็วขึ้น และยังเพิ่มการขยายตัวของหลอดเลือด ซึ่งทำให้เกิดอาการบวม ดังนั้นควรหลีกเลี่ยงการอยู่ในที่ที่มีความร้อนสูง เช่น การทำซาวน่า หรือการอยู่ในสถานที่ที่มีอุณหภูมิสูงเกินไป ในช่วง 14 วันแรกหลังการฉีดฟิลเลอร์ ควรอยู่ในบริเวณที่อากาศเย็น หรืออยู่ในห้องแอร์ที่มีอุณหภูมิ 18-23 องศาเซลเซียส จะช่วยให้การฉีดฟิลเลอร์มีประสิทธิภาพมากขึ้น
ใช้ยาบรรเทาอาการบวม
หลังจากฉีดฟิลเลอร์แล้วมีอาการบวมมากเกินไปหรือรู้สึกไม่สบายตัว สามารถใช้ยาบรรเทาอาการบวมที่แพทย์สั่งได้ เพื่อช่วยบรรเทาอาการบวมและปวดในระหว่างที่ร่างกายฟื้นตัว อย่างไรก็ตาม ควรปรึกษาแพทย์ก่อนใช้ยาทุกครั้ง เพราะการใช้ยาผิดประเภทอาจทำให้เกิดผลข้างเคียงหรือปัญหากับฟิลเลอร์ได้
การดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์ปาก
หลีกเลี่ยงการสัมผัสปาก : การจับหรือบีบปากหลังการฉีดฟิลเลอร์ อาจทำให้ฟิลเลอร์เคลื่อนที่และเสียรูปทรงได้
หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายหนัก : การออกกำลังกายหนักในช่วงแรกหลังการฉีด อาจทำให้เลือดสูบฉีดมากเกินไปและทำให้อาการบวมหนักขึ้น
ดื่มน้ำให้เพียงพอ : การดื่มน้ำจะช่วยให้ร่างกายฟื้นตัวเร็วและลดการบวมได้
หลีกเลี่ยงอาหารและเครื่องดื่มที่ร้อนหรือเค็ม : การรับประทานอาหารร้อนจัดและเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ จะทำให้ร่างกายฟื้นตัวได้ช้า อีกทั้งยังอาจทำให้ปากบวมนานขึ้น
คำยืนยันของเจ้าของเรื่องเล่า
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ