ทากันแดดแล้วแสบตา เกิดจากอะไร ? มีวิธีป้องกันอย่างไรบ้าง ?

ทากันแดดแล้วแสบตา

ทากันแดดแล้วแสบตา เป็นปัญหาที่หลายคนเคยประสบและสร้างความไม่สบายใจ โดยเฉพาะในวันที่ต้องเผชิญกับแสงแดดจัด ๆ ที่ทำให้เหงื่อออกเยอะจนครีมกันแดดไหลเข้าตา โดยการทากันแดดแล้วรู้สึกแสบตานั้น อาจเกิดขึ้นจากส่วนผสมในครีมกันแดดที่ไม่เหมาะสมหรือใช้งานผิดวิธี แต่ไม่ต้องกังวล เพราะปัญหานี้สามารถป้องกันและแก้ไขได้ หากรู้จักเลือกใช้ผลิตภัณฑ์และดูแลดวงตาอย่างถูกวิธี

สาเหตุที่ทำให้ทากันแดดแล้วแสบตา

การทากันแดดแล้วแสบตา เกิดขึ้นได้จากหลายปัจจัย เช่น สารกันแดดในครีมกันแดด โดยเฉพาะกันแดดแบบ Chemical Sunscreen เมื่อสัมผัสเข้ากับดวงตา จะทำให้รู้สึกแสบตาและระคายเคืองเป็นอย่างมาก และยิ่งมีค่า SPF และ ค่า PA สูง ก็จะยิ่งเสี่ยงต่อการทากันแดดแล้วรู้สึกแสบตา

นอกจากนี้ส่วนผสมอื่น ๆ ในครีมกันแดด เช่น พาราเบน, น้ำหอมและแอลกอฮอล์ หากสัมผัสกับเหงื่อแล้วไหลเข้าตา ก็อาจทำให้รู้สึกแสบตาได้เช่นเดียวกัน ดังนั้นจึงควรหลีกเลี่ยงใช้กันแดดที่มีส่วนผสมเหล่านี้ รวมถึงไม่ทากันแดดบริเวณรอบดวงตา เพราะอาจทำให้ครีมกันแดดซึมเข้าดวงตา จนทำให้รู้สึกแสบตาได้

ทาครีมกันแดดแล้วแสบตา อันตรายไหม ?

ทากันแดดแล้วรู้สึกแสบตา โดยทั่วไปถือว่าไม่อันตรายร้ายแรง ซึ่งจัดอยู่ในระดับปานกลาง เนื่องจากเสี่ยงต่อการระคายเคือง และอาจทำให้ดวงตาอักเสบ

แม้ว่าจะไม่ถึงขั้นตาบอด แต่การระคายเคืองดวงตา ส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวันมากพอสมควร เพราะอาจทำให้รู้สึกคันตา มีน้ำตาไหล ตาพร่ามัวชั่วคราว และอาจทำให้เป็นตาแดงได้

วิธีป้องกันไม่ให้ทากันแดดแล้วแสบตา

หลีกเลี่ยงการทากันแดดรอบดวงตา

เนื่องจากครีมกันแดดบางยี่ห้อไม่สามารถทารอบดวงตาได้ เพราะมีสารกันแดดที่ทำให้เกิดการระคายเคือง เช่น Avobenzone, Octinoxate และ Oxybenzone โดยกันแดดส่วนใหญ่ที่ทาแล้วแสบตามักจะเป็นกันแดดแบบ Chemical Sunscreen ดังนั้นการหลีกเลี่ยงทากันแดดรอบดวงตา จึงเป็นหนึ่งวิธีการป้องกันไม่ให้ทากันแดดแล้วรู้สึกแสบตาได้ดี

ใช้กันแดดให้เหมาะกับบริเวณผิว

การใช้กันแดดที่ไม่เหมาะกับตำแหน่งของผิว สามารถทำให้แสบตาได้ เพราะในกันแดดทาหน้าและกันแดดทาตัว มีความเข้มข้นของสารกันแดดที่แตกต่างกัน

หากต้องการป้องกันการทากันแดดแล้วแสบตา ให้ใช้กันแดดสำหรับทาหน้าเท่านั้น ไม่ควรนำกันแดดทาตัวมาทาหน้า เพราะอาจทำให้เกิดการระคายเคืองผิวหน้าและรอบดวงได้

ใช้กันแดดแบบแท่ง

การใช้กันแดดแบบแท่ง สามารถช่วยป้องกันการทากันแดดแล้วแสบตาได้ดี เพราะกันแดดแบบแท่งมีรูปแบบที่ใช้งานง่าย เนื้อครีมไม่เหลว ทำให้สามารถควบคุมทิศทางการทาได้

แต่การใช้กันแดดแบบแท่งนั้นอาจทาแล้วให้ความรู้สึกว่า ไม่ครอบคลุมทั่วทั้งใบหน้าเหมือนกับกันแดดปกติ จึงนิยมใช้เติมระหว่างวัน เพื่อป้องกันผิวไหม้คล้ำเสียมากกว่า

ใช้กันแดดที่ทารอบดวงตาได้

ในปัจจุบันมีครีมกันแดดสูตรอ่อนโยน ที่สามารถทารอบดวงตาได้ ซึ่งสามารถปกป้องผิวหน้าและรอบดวงตาได้เป็นอย่างดี เป็นกันแดดที่เมื่อเนื้อครีมสัมผัสกับเหงื่อ ก็ไม่ก่อให้เกิดการระคายเคืองผิวหรือรู้สึกแสบตา เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในวิธีการป้องกันตอบโจทย์มาก ๆ

ใช้อายครีมกันแดด

ผลิตภัณฑ์อายครีมกันแดด เป็นผลิตภัณฑ์ที่ออกแบบมาเพื่อปกป้องผิวรอบดวงตาจากรังสี UV โดยเฉพาะ เมื่อมีเหงื่อสัมผัสกับอายครีมกันแดด ก็จะไม่ก่อให้เกิดอาการแสบตา ระคายเคืองหรือเกิดอันตรายใด ๆ ต่อดวงตา แถมยังช่วยปกป้องผิวจากรังสี UV ที่ทำร้ายผิวได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ครีมกันแดดเข้าตา ต้องทำอย่างไร ?

การดูแลอย่างรวดเร็วและเหมาะสม จะช่วยลดความเสี่ยงจากอาการระคายเคืองรุนแรง หากครีมกันแดดเข้าตา ควรปฏิบัติดังนี้

1. ล้างตาด้วยน้ำสะอาดทันที โดยเทน้ำใส่ถ้วยหรือรองใส่มือแล้วลืมตาในน้ำ
2. กะพริบตาถี่ ๆ ติดต่อกันหลาย ๆ ครั้ง เพื่อล้างสารตกค้างออก
3. ห้ามขยี้ดวงตา เพราะอาจทำให้ระคายเคือง จนถึงขั้นตาอักเสบได้
4. หยดน้ำตาเทียมลงบนดวงตา เพื่อช่วยชะล้างสารตกค้าง
5. พักดวงตาด้วยการปิดตา หลีกเลี่ยงแสงจ้า เพื่อลดการระคายเคือง

สรุปเรื่องทากันแดดแล้วแสบตา

การทากันแดดแล้วแสบตา มักเกิดจากส่วนผสมในครีมกันแดดที่ระเหยและเข้าสู่ดวงตา เช่น สารเคมีประเภท Oxybenzone หรือ Avobenzone การทาในปริมาณที่มากเกินไปหรือใกล้ดวงตา รวมถึงเหงื่อที่ทำให้ครีมไหลเข้าสู่ดวงตาก็เป็นสาเหตุที่ทำให้ทากันแดดแล้วรู้สึกแสบตา

แม้ว่าปัญหาทากันแดดแล้วแสบตาจะไม่ได้อันตรายร้ายแรงมากนัก การรู้วิธีการป้องกันและวิธีการแก้ไข จะช่วยลดโอกาสเกิดปัญหาทากันแดดแล้วแสบได้ดีไม่น้อย และสำหรับใครที่ดูแลและเลือกกันแดดที่เหมาะสมแล้ว แต่ยังมีอาการที่รุนแรง ควรรีบปรึกษาแพทย์เพื่อความปลอดภัยทันที

ขอบคุณข้อมูลจาก : https://gangdara.com/