อยากฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาต้องรู้! อันตรายไหม ? มีขั้นตอนอย่างไร ?
เขียนโดย beauty_content
วันที่ 13 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567 เวลา 13.44 น.
แก้ไขเมื่อ 13 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567 13.47 น. โดย เจ้าของเรื่องเล่า
1) รู้ให้ชัวร์ก่อนฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา! อยู่ได้กี่เดือน ?อันตรายไหม ? เผยทุกคำตอบที่นี่
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา เป็นหัตถการยอดฮิตที่หลายคนนิยมเลือกใช้ เพื่อแก้ไขปัญหาใต้ตาลึก ใต้ตาคล้ำ ถุงใต้ตา และริ้วรอยใต้ตา ด้วยวิธีการทำที่รวดเร็ว ได้ผลทันใจ แต่ก่อนทำก็อาจจะมีคำถามที่อยากรู้ เช่น ฟิลเลอร์ใต้ตาคืออะไร ? ทำไมถึงช่วยแก้ปัญหาใต้ตาได้ ? อยู่ได้นานแค่ไหน ? อันตรายไหม ? ในบทความนี้เราจะมาเฉลยทุกข้อสงสัย พร้อมเผยความจริงที่ควรรู้ก่อนตัดสินใจทำ
สารบัญ ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
- ฟิลเลอร์ใต้ตาคืออะไร ? ทำไมถึงช่วยแก้ปัญหาใต้ตาได้ ?
- ฟิลเลอร์ใต้ตาอยู่ได้นานกี่เดือน ?
- การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาอันตรายไหม ?
- ขั้นตอนการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
- ผลข้างเคียงที่เกิดขึ้นได้ หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
- สิ่งที่ควรพิจารณาในการเลือกคลินิกฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาคืออะไร ? ทำไมถึงช่วยแก้ปัญหาใต้ตาได้ ?
ฟิลเลอร์ใต้ตา คือการฉีดสารเติมเต็มที่ชื่อว่า ไฮยาลูรอนิก แอซิด (Hyaluronic Acid หรือ HA) ซึ่งมีคุณสมบัติในการอุ้มน้ำได้ดีเยี่ยม ทำให้ผิวชุ่มชื้นและอิ่มน้ำ เมื่อนำมาฉีดเข้าไปเข้าในบริเวณใต้ตา เพื่อทดแทนเนื้อเยื่อหรือกระดูกใต้ตาที่ยุบตัวลงไปเมื่ออายุมากขึ้น จะช่วยให้ผิวใต้ตาดูเต็ม เรียบเนียนขึ้น กระจ่างใสขึ้น นอกจากนี้การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ยังช่วยแก้ไขปัญหาใต้ตาอื่น ๆ ได้อีก ดังนี้
- เติมเต็มร่องลึกใต้ตา แก้เบ้าตาลึก ตาโหล : HA จะเข้าไปเติมเต็มร่องลึกใต้ตาที่เกิดจากการยุบตัวของกระดูกใต้ตา และการสลายตัวของเนื้อเยื่อ ทำให้ผิวดูเรียบเนียนขึ้น
- ลดเลือนริ้วรอยใต้ตา รอยตีนกา : ริ้วรอยรอบดวงตาที่เกิดจากการแสดงออกทางสีหน้า หรืออายุที่มากขึ้น จะถูกเติมเต็มให้ดูจางลง
- แก้ไขปัญหาถุงใต้ตา ใต้ตาหย่อนคล้อย : HA ช่วยเติมเต็มบริเวณที่มีปัญหาถุงใต้ตาแท้ ที่เกิดจากการยุบตัวของกระดูก ทำให้เนื้อเยื่อใต้ผิวหนังใต้ตายืดออกมาก ฟิลเลอร์ใต้ตาจะช่วยทดแทนกระดูกและเนื้อเยื่อที่ยุบตัวลง ทำให้ถุงใต้ตาดูตื้นขึ้น
- เพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว ลดรอยคล้ำใต้ตา : HA จะช่วยอุ้มน้ำให้ผิวใต้ตา ทำให้ผิวชุ่มชื้น อิ่มน้ำ ดูสุขภาพดี กระจ่างใสขึ้น ลดความคล้ำใต้ตา และปัญหาผิวแห้งหรือเหี่ยวย่น
- กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน : HA ช่วยกระตุ้นให้ร่างกายสร้างคอลลาเจนและอิลาสติน ซึ่งเป็นโปรตีนที่สำคัญในการทำให้ผิวแข็งแรงและยืดหยุ่น
ฟิลเลอร์ใต้ตาจึงถือเป็นตัวช่วยที่สามารถแก้ปัญหาใต้ตาได้หลากหลาย มีประสิทธิภาพ เหมาะกับผู้ที่ต้องการให้ใบหน้าดูสดใสและอ่อนเยาว์ขึ้นทันทีหลังฉีด
ฟิลเลอร์ใต้ตาอยู่ได้นานกี่เดือน ?
ฟิลเลอร์ประเภทไฮยาลูรอนิก แอซิด (Hyaluronic Acid หรือ HA) โดยทั่วไปจะอยู่ได้นานประมาณ 6-24 เดือน ขึ้นอยู่กับ ยี่ห้อ/รุ่นของฟิลเลอร์ที่ใช้ การดูแลหลังฉีด รวมถึงลักษณะของผิวและการใช้ชีวิตของแต่ละบุคคล
อายุของฟิลเลอร์ใต้ตาแต่ละยี่ห้อ/รุ่น
- ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาอเมริกา Juvederm Voluma อยู่ได้นาน 18 เดือน
- ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาอเมริกา Juvederm Volite อยู่ได้นาน 8-12 เดือน
- ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาอเมริกา Juvederm Volux อยู่ได้นาน 18-24 เดือน
- ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาสวีเดน Restylane Defyne อยู่ได้นาน 18 เดือน
- ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาสวีเดน Restylane Vital Light อยู่ได้นาน 6-12 เดือน
- ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาสวีเดน Restylane Vital อยู่ได้นาน 12 เดือน
- ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาสวีเดน Restylane Perlane lyft อยู่ได้นาน 12 เดือน
- ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาสวีเดน Restylane Classic อยู่ได้นาน 12 เดือน
- ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาสวิตเซอร์แลนด์ Belotero Volume อยู่ได้นาน 18 เดือน
- ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาสวิตเซอร์แลนด์ Belotero Revive อยู่ได้นาน 6-9 เดือน
- ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาสวิตเซอร์แลนด์ Belotero Soft อยู่ได้นาน 6-12 เดือน
- ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาอิตาลี Definisse Touch อยู่ได้นาน 8-12 เดือน
- ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาเกาหลี Flore AQUA-S อยู่ได้นาน 6 เดือน
- ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาสวิตเซอร์แลนด์ Teoxane RHA 2 อยู่ได้นาน 18 เดือน
- ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาเกาหลี Neuramis Volume อยู่ได้นาน 6-9 เดือน
ทั้งนี้ แพทย์ที่มีประสบการณ์ จะเป็นผู้ประเมินและเลือกยี่ห้อ/รุ่นฟิลเลอร์ที่ใช้ ให้เหมาะสมกับระยะเวลาที่ต้องการ ปัญหาใต้ตา สภาพผิว และงบประมาณของแต่ละเคส
การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาอันตรายไหม ?
การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตามีความปลอดภัยสูง โดยเฉพาะเมื่อใช้ฟิลเลอร์ประเภทไฮยาลูรอนิก แอซิด (Hyaluronic Acid หรือ HA) ซึ่งเป็นสารที่เลียนแบบสารธรรมชาติในร่างกายเรา สามารถสลายตัวได้เองตามธรรมชาติ และในกรณีที่ไม่พอใจกับผลลัพธ์ ก็สามารถฉีดสารไฮยาลูโรนิเดส (Hyaluronidase) เพื่อสลายฟิลเลอร์และแก้ไขได้
ดังนั้น หากทำกับคลินิกที่มีมาตรฐาน โดยแพทย์ประสบการณ์สูง รู้เทคนิคการฉีดถูกต้อง และเลือกใช้ฟิลเลอร์แท้ที่ผ่านการรับรองคุณภาพจาก อย. ก็ไม่ต้องกังวลเรื่องความปลอดภัย
อย่างไรก็ตาม หากฉีดฟิลเลอร์กับผู้ที่ไม่มีประสบการณ์ เช่น หมอกระเป๋า ใช้ฟิลเลอร์ปลอมหรือฟิลเลอร์หิ้ว หรือทำในคลินิกที่ไม่ได้มาตรฐาน อาจเกิดความเสี่ยง เช่น การติดเชื้อ การอักเสบ ฟิลเลอร์ใต้ตาเป็นก้อน หรือฟิลเลอร์ใต้ตาเคลื่อนไปในตำแหน่งที่ไม่ต้องการ
ทั้งนี้ จึงขอเน้นย้ำกันอีกรอบในเรื่องการเลือกแพทย์ เลือกฟิลเลอร์ และคลินิกที่ได้รับมาตรฐานก่อนฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา เพราะเป็นสิ่งสำคัญที่หลายคนพลาดมาแล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเห็นโปรโมชันฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาราคาถูกมาก ๆ ต้องระวังและเช็กให้ดี ๆ ก่อนตัดสินใจค่ะ
ขั้นตอนการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาเป็นขั้นตอนที่ต้องทำโดยแพทย์ที่มีประสบการณ์สูง เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่สวยงามและปลอดภัย โดยขั้นตอนหลัก ๆ มีดังนี้
- การประเมินปัญหาและปริมาณฟิลเลอร์ที่ต้องใช้
แพทย์จะตรวจดูปัญหาของใต้ตา เช่น ร่องลึก ถุงใต้ตา หรือรอยคล้ำ และคำนวณปริมาณฟิลเลอร์ที่ต้องใช้ ซึ่งปกติแล้วในการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาจะใช้จำนวนฟิลเลอร์อยู่ที่ ประมาณ 2-4 CC ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาพปัญหาของแต่ละคน
- การเลือกยี่ห้อ/รุ่นฟิลเลอร์ที่เหมาะสม
การเลือกยี่ห้อและรุ่นฟิลเลอร์ที่เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญอย่างมากสำหรับการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา เนื่องจากผิวบริเวณนี้มีความบอบบางและต้องการฟิลเลอร์ที่มีคุณสมบัติเฉพาะตัว โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการฉีดใต้ตาชั้นตื้น ต้องเลือกใช้ฟิลเลอร์เนื้อละเอียด ฉีดแล้วไม่ฟูมากจนเกินไป เพราะจะทำให้ตาดูบวม ไม่เป็นธรรมชาติ ดังนั้น แพทย์จึงจำเป็นจะต้องเลือกยี่ห้อ/รุ่นฟิลเลอร์ที่เหมาะสมกับสภาพใต้ตาของแต่ละคน เพื่อให้ผลลัพธ์ออกมาดูเป็นธรรมชาติมากที่สุด
- เตรียมผิวและทำความสะอาดบริเวณใต้ตา
ก่อนฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา เจ้าหน้าที่จะทำความสะอาดหรือเช็ดเครื่องสำอางบนผิวบริเวณใต้ตาออกก่อนทำ เพื่อลดความเสี่ยงในการติดเชื้อ จากนั้นจึงจะแปะยาชาก่อนทำประมาณ 30-45 นาที เพื่อลดความเจ็บระหว่างการฉีด
- ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
แพทย์จะค่อย ๆ ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาในจุดที่ประเมินไว้ทีละน้อย ๆ จนครบตามจำนวน CC ที่กำหนดเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ออกมาดูเป็นธรรมชาติ โดยใช้เข็มที่แกะออกมาจากกล่องพร้อมกับตัวยาฟิลเลอร์ที่ใช้ในการฉีด
- ตรวจผลลัพธ์และแนะนำการดูแลหลังฉีด
หลังฉีดเสร็จแพทย์จะแนะนำวิธีดูแลตัวเองหลังการฉีด เช่น ห้ามถูหรือกดใต้ตาแรง ๆ หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายหนัก ๆ และเลี่ยงแสงแดด ในช่วง 1-2 วันแรก
ข้อห้ามหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
ผลข้างเคียงที่เกิดขึ้นได้ หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
หลังการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา อาจมีผลข้างเคียงเล็กน้อย เช่น อาการบวม แดง หรือเขียวช้ำบริเวณที่ฉีด ซึ่งเป็นอาการปกติและจะหายไปเองภายในประมาณ 1 สัปดาห์ โดยผลลัพธ์จะชัดเจนเต็มที่ภายใน 2 สัปดาห์ ทำให้ใต้ตาดูเรียบเนียน ดูเต็มขึ้น ใบหน้าดูสดใสและอ่อนเยาว์ลง
สิ่งที่ควรพิจารณาในการเลือกคลินิกฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
การเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐานและมีแพทย์มากประสบการณ์เป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม เพราะจะส่งผลต่อความปลอดภัยและผลลัพธ์ที่ได้ ดังนั้น ก่อนตัดสินใจฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาที่ไหนควรพิจารณา ดังนี้
- เลือกคลินิกที่น่าเชื่อถือ เปิดอย่างถูกต้อง มีมาตรฐานรับรองจากกระทรวงสาธารณสุข
จะช่วยรับประกันมาตรฐานความปลอดภัย ทั้งด้านอุปกรณ์ที่สะอาด ปลอดเชื้อ การบริการก่อน-หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา และการปฏิบัติงานของแพทย์
- เลือกแพทย์ที่มีประสบการณ์และความชำนาญในการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
จะช่วยลดความเสี่ยงและทำให้ได้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ เนื่องจากบริเวณใต้ตาเป็นจุดที่ต้องใช้ทักษะสูง มีเส้นเลือดและเนื้อเยื่อที่ละเอียดอ่อน ควรตรวจสอบรีวิวจากผู้ที่เคยฉีดจริง และนำชื่อ-นามสกุลของแพทย์ ไปเช็กในเว็บไซต์แพทยสภา เพื่อความมั่นใจก่อนฉีด
- เลือกใช้ฟิลเลอร์แท้ที่ผ่านการรับรองจาก อย. เพื่อความปลอดภัยในการฉีด
ก่อนฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ควรเช็กฟิลเลอร์ที่ฉีดว่าเป็นฟิลเลอร์แท้ โดยสังเกตจาก เลขทะเบียน อย. และเอกสารกำกับภาษาไทยในกล่อง, เลข lot ที่กล่อง ซอง สติกเกอร์ หลอด ที่ต้องตรงกันทั้ง 4 จุด,แสกน QR Code (บางยี่ห้อ) หรือโทรเช็กเลข lot. และคลินิกผู้นำเข้า พร้อมกับขอให้แพทย์แกะกล่องฟิลเลอร์ให้ดูต่อหน้า หรือขอกล่องฟิลเลอร์กลับบ้านไปตรวจสอบ
สรุปเรื่องฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาเป็นวิธีที่สามารถช่วยฟื้นฟูความสดใสให้ใบหน้าอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะในผู้ที่มีปัญหาร่องลึกหรือรอยหมองคล้ำใต้ตา ที่ต้องการเห็นผลลัพธ์เร็ว อย่างไรก็ตาม การตัดสินใจฉีดฟิลเลอร์ควรทำอย่างระมัดระวัง โดยเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน เลือกแพทย์มากประสบการณ์ และใช้ฟิลเลอร์แท้ เพื่อความปลอดภัยสูงสุด รวมถึงควรศึกษาข้อมูลต่าง ๆ อย่างละเอียดหรือปรึกษาแพทย์ก่อนทำเพื่อให้แน่ใจว่าตัวเองเหมาะสมกับการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาหรือไม่NOTE SEO Writer
- Keywords Top of your page มี keywords หลัก รอง ใน 50-100 words แรกของบทความ
- URL มี Keywords สั้น กระชับ ให้ Google เข้าใจได้ทันที ว่าหมายถึงเรื่องอะไร
- Headline <h1> มี Target Keyword ใน h1
- Use keyword in title tag ใช้ Keywords หลัก เริ่มต้น ใน title tag
- Description มี Keywords หลัก รอง
- Use Keywords in H1 ,H2 Subheader มี Keywords หลัก ใน H1 H2
- Image at every scroll depth if possible. Charts, diagrams and faces are ideal มี keywords ใน Title + Alt
- Internal Link ควรมีอย่างน้อย ประมาณ 5 link เห็นชัดๆ น่าสนใจในการคลิ๊ก
- External Link มีโยง Link ไปยังหาเว็บไซต์แหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือ
- Related phrases use these throughout the article มีคำที่เกี่ยวข้องกับ Keywords
- Structured data มีโครงสร้างบทความที่ Google สามารถเข้าใจได้
- Check Search Inter ดูพฤติกรรมการค้นหาของคนก่อนเริ่มต้นทำความ เช่น รีวิว, ที่ไหนดี, ราคา, ความรู้
- Formatting short paragraphs, headers, subheads, bullets and bolding
- Keyphrase usage มีทั่วบทความแต่ไม่สแปม
- Length 1500+ words for search optimized posts
- Call to action for comments, to follow or subscribe
คำยืนยันของเจ้าของเรื่องเล่า
✓ เรื่องนี้นำมาจากแหล่งอื่นและได้รับการอนุญาตจากเจ้าของแล้ว
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ